ประวัติศาสตร์ราชวงศ์เหลียงแห่งภาคใต้ (2): ความผิดพลาดที่ไม่อาจให้อภัย

ราชวงศ์เหลียงแห่งภาคใต้ (2): ความผิดพลาดที่ไม่อาจให้อภัย

การที่โหวจิ่งนำดินแดนมายอมจำนนนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เหลียงหวู่ตี้ทรงต้องครุ่นคิดอย่างหนัก ช่วงเวลานั้นไม่ต่างอะไรกับยุคสามก๊กที่มีการแย่งชิงอำนาจกันเพื่อเป็นใหญ่ ดังนั้นการที่แม่ทัพของอีกฝ่ายนำจังหวัดมามอบให้ถึง 9 แห่งนั้นเป็นสิ่งที่มองข้ามไปไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

ขุนนางในราชสำนักเหลียงเองก็เห็นเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเสนอว่าไม่ให้รับ เพราะถ้ารับไปก็เหมือนกับการหาเหาใส่หัว เพราะเว่ยตะวันตกกับเว่ยตะวันออกรบกันก็ทำให้เหลียงนั่งอยู่บนภูดูเสือกัดกัน ถ้ารับไปก็เท่ากับว่ายั่วยุทำลายความสัมพันธ์กับเว่ยตะวันออกไปเสียเปล่าๆ

แต่อีกพวกหนึ่งก็เสนอว่าให้รับ เพราะถ้าไม่รับจังหวัดที่มีค่ามากขนาดนี้จะไปรับตอนไหน ตัวเหลียงหวู่ตี้นั้นก็ปรารถนาที่จะรับเอาไว้ ทำให้ท้ายที่สุดแล้วพระองค์ตัดสินพระทัยรับการยอมจำนนของโหวจิ่ง พระองค์แต่งตั้งให้โหวจิ่งเป็นเหอหนานหวาง ทำหน้าที่ควบคุมดูแลหัวเมืองที่นำมามอบให้ทั้งหมด พร้อมกับส่งกองทัพไปต้านทานกองทัพเว่ยตะวันออกของเกาเฉิงที่ยกมาตีเมืองกลับคืน

สถานการณ์อันวุ่นวาย

โหวจิ่งนั้นได้จับปลาสองมือ กล่าวคือเขาได้มอบ 4 จังหวัดให้เว่ยตะวันตกไปก่อนหน้า ส่วนอีก 9 จังหวัดให้กับเหลียง และรับตำแหน่งจากฝ่ายหลังไปแล้ว ทำไปทำมาคือเขาจะทำตามคำสั่งของราชสำนักไหนกันแน่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอวี่เหวินไท่ได้สั่งให้เขาเดินทางไปยังฉางอาน เมืองหลวงของเว่ยตะวันตก

พอได้รับคำสั่งเช่นนั้น โหวจิ่งรู้ตัวว่าถ้าทำตามคำสั่งของอวี่เหวินไท่ ตนเองคงจะถูกหลงไปสังหารหรือว่าถอดออกจากตำแหน่งเข้ากรุไป เพราะฉะนั้นเขาจึงตัดสินใจทรยศเว่ยตะวันตก ด้วยการทุ่มกำลังที่มีอยู่เพื่อตีจังหวัดทั้ง 4 ที่มอบให้เว่ยตะวันตกกลับคืน แต่ทหารเว่ยตะวันตกต้านทานเอาไว้ได้ ทำให้โหวจิ่งไม่ได้เมืองกลับคืนมาเลยสักเมืองเดียว ด้วยการทรยศดังกล่าวนั้นทำให้โหวจิ่งกลายเป็นคนของราชวงศ์เหลียงอย่างเต็มตัว เพราะสองเว่ยนั้นเขาได้ทรยศไปแล้วเรียบร้อย

ฝ่ายเหลียงหวู่ตี้นั้นโปรดให้ทรงกองทัพไปช่วยโหวจิ่ง โดยให้เซียวหยวนหมิงนำกองทัพใหญ่บุกตีเว่ยตะวันออก ตอนแรกก็ดำเนินไปด้วยดีอยู่ แต่กลับถูกเว่ยตะวันออกตีโต้อย่างหนัก จนสุดท้ายกองทัพเหลียงแตกยับ แม่ทัพและทหารจำนวนตกเป็นเชลย

หลังจากที่กองทัพเหลียงแตกไปแล้ว กองทัพเว่ยตะวันออกก็เข้าตีกระหน่ำเมืองต่างๆ ของโหวจิ่ง แต่โหวจิ่งต้านทานอย่างเข้มแข็ง ทำให้ผ่านไปหลายเดือนเมืองต่างๆ ก็ยังไม่แตก ทว่ากองทัพของโหวจิ่งเริ่มขาดเสบียงอาหาร แถมฝ่ายเหลียงเองก็เสียยุทธปัจจัยไปกับกองทัพที่ถูกตีแตกจนหมดสิ้นแล้ว ดังนั้นสุดกำลังที่จะช่วยเหลือ ท้ายที่สุดกองทัพเว่ยตะวันออกจึงตีชิงจังหวัดทั้ง 9 กลับคืนไปได้สำเร็จ

โหวจิ่งนั้นหนีลงใต้มาเพิ่งราชวงศ์เหลียง แต่ด้วยอุปนิสัยที่เป็นพาล พอเจ้าเมืองโซ่วหยางเดินทางออกมาต้อนรับ โหวจิ่งฉวยโอกาสนั้นเข้ายึดเมือง และใช้เป็นฐานที่มั่นของตน พอเหลียงหวู่ตี้ทราบก็ไม่ว่าอะไร แถมยังแต่งตั้งให้โหวจิ่งเป็นเจ้าเมืองโซ่วหยางเสียอีก แทนที่จะได้รับโทษตามที่ควรจะเป็น ซึ่งเป็นตามพระอุปนิสัยของเหลียงหวู่ตี้ไม่อยากจะทำโทษพวกขุนนางและเชื้อพระวงศ์ระดับสูง

การแสดงความเมตตาอย่างไม่ถูกกาลเทศะของพระองค์นั้นจะนำพามาซึ่งหายนะในเวลาอันใกล้

โหวจิ่งก่อกบฏ

หลังจากนั้นไม่นานราชสำนักเว่ยตะวันออกได้ส่งทูตมาเจรจาขอเป็นไมตรี โดยเสนอว่าจะคืนแม่ทัพที่จับกุมตัวได้ และส่งมอบครอบครัวของโหวจิ่งให้ ซึ่งนี่เป็นข้อเสนอที่ดีที่สุดสำหรับราชสำนักเหลียงที่เพิ่งจะปราชัยมาหมาดๆ แต่ในทางลับนั้นได้มีการติดต่อว่าถ้าฝ่ายเหลียงส่งตัวโหวจิ่งให้ ฝ่ายเว่ยตะวันออกจะส่งตัวเซียวหยวนหมิงกลับคืน

เรื่องราวนี้รู้ไปหูของโหวจิ่ง แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ชัวร์นักว่าราชสำนักเหลียงจะทรยศตน ดังนั้นเขาจึงแสร้งส่งจดหมายปลอมมาจากราชสำนักเว่ยตะวันออกเพื่อดูว่าราชสำนักเหลียงจะตอบว่าอย่างไร ราชสำนักเหลียงตอบไปว่าถ้าส่งตัวเซียวหยวนหมิงให้ตอนเช้า ฝ่ายเหลียงจะส่งตัวโหวจิ่งให้ได้ตอนเย็น

เมื่อได้ทราบเช่นนี้ โหวจิ่งจึงเตรียมการจะเป็นกบฏอีกครั้งหนึ่ง ฝ่ายราชสำนักเหลียงก็มีคนดูออกและเสนอให้เหลียงหวู่ตี้ทรงส่งกองทัพเข้าบดขยี้โหวจิ่งเสียก่อน แต่ท้ายที่สุดกลับไม่ได้นำพา

ปรากฏว่าท้ายที่สุดโหวจิ่งก็เป็นกบฏขึ้นจริงๆ ซึ่งเมื่อเหลียงหวู่ตี้ได้ทราบข่าว พระองค์ก็ไม่รู้สึกทุกข์ร้อนอะไรนัก เพราะคิดว่าพระองค์ทรงมีทหารเหลือเฟือและกำลังเหนือกว่ามากมาย พระองค์ทรงปรารภให้เตรียมกองทัพสี่ทางเพื่อยกไปตีโหวจิ่งที่เมืองโซ่วหยางพร้อมกัน

ทว่าโหวจิ่งกลับทำสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ แทนที่เขาจะตั้งรับทัพราชสำนักอยู่ที่โซ่วหยาง เหมือนกับพวกขุนศึกที่แข็งข้อต่อราชสำนักรายอื่นๆ โหวจิ่งกลับเคลื่อนกองทัพทั้งหมดไปยังเมืองเจี้ยนคัง เมืองหลวงและสถานที่พำนักของเหลียงหวู่ตี้

เมืองเจี้ยนคังนั้นไม่ได้มีการเตรียมการใดๆ ไว้เลย เพราะไม่คาดคิดว่ากองทัพกบฏจะมาถึงหน้าเมือง ฝ่ายเหลียงหวู่ตี้นั้นมีรับสั่งให้เซียวเจาเต๋อเป็นแม่ทัพเข้าต่อสู้กับโหวจิ่ง แต่พระองค์ทรงไม่ทราบเลยว่า โหวจิ่งนั้นแอบติดต่อกับเซียวเจาเต๋อเป็นการลับมานานแล้ว และสัญญากันว่าการกบฏสำเร็จจะสนับสนุนเซียวเจาเต๋อให้เป็นฮ่องเต้

เพราะฉะนั้นทันทีที่เซียวเจาเต๋อได้คุมกองทัพ เขาก็นำกองทัพไปเข้ากับโหวจิ่ง และร่วมกันเข้าตีเมืองเจี้ยนคัง ซึ่งก็เข้าเมืองได้ แต่เข้าพระราชวังไม่ได้ เพราะว่ากองทหารรักษาพระองค์ต้านทานอย่างแข็งแกร่ง

หมดสิ้นความหวัง

เวลาผ่านไปหลายเดือน ทั้งสองฝ่ายเริ่มขาดเสบียง ฝ่ายโหวจิ่งนั้นจึงปล้นสะดมหาเสบียงจากชาวเมืองเจี้ยนคัง แต่ในพระราชวังนั้น ทหารองครักษ์นั้นเสบียงร่อยหรอไปทุกที ทำให้การรักษากำลังอ่อนแอลงมาก เหลียงหวู่ตี้นั้นทรงรอกองทัพสนับสนุนที่ทรงสั่งให้ปราบกบฏ แต่กองทัพกลับล่าช้าและยังไม่เดินทางมาถึงเสียที

ในช่วงปีใหม่ของปี ค.ศ.549 กองทัพสนับสนุนของฝ่ายเหลียงก็ยกมาถึง แต่ไปรบท่าไหนก็มิทราบ กลับไปพ่ายแพ้กับทหารของโหวจิ่งที่ขาดเสบียงอยู่แล้วอย่างยับเยิน สถานการณ์ของราชสำนักเหลียงเลวร้ายลงไปในทันที

ทว่าโหวจิ่งก็ยังเข้าวังไม่ได้ ดังนั้นตัดสินใจขอเจรจาโดยเสนอว่าตนเองพร้อมจะยกทัพกลับไปถ้าเหลียงหวู่ตี้ยินยอมตัดสี่หัวเมืองให้กับตน พร้อมกับส่งตัวประกันไปอยู่กับตนด้วย เหลียงหวู่ตี้ทรงเหลือทางเลือกไม่มากจึงต้องจำยอม

ทว่าโหวจิ่งกลับทรยศอีกครั้งด้วยการไม่รักษาสัญญา (บ้างว่าเป็นกลลวงของโหวจิ่งในการซื้อเวลาเพื่อหาเสบียง) เขากลับส่งกองทัพเข้าตีวังหลวงอีกครั้ง ทหารองครักษ์ต่อสู้อย่างแข็งแกร่งแต่ท้ายที่สุดตัววังก็แตกในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงของปี ค.ศ.549 รวมเวลาที่โดนล้อมไว้เกือบปีหนึ่ง

เมื่อโหวจิ่งเข้าวังได้สำเร็จ เขาก็สั่งให้คุมขังเหลียงหวู่ตี้ไว้ในวัง นับตั้งแต่บัดนั้นเขาก็บีบบังคับให้เหลียงหวู่ตี้ออกพระบรมราชโองการตามที่เขาต้องการ เช่นสั่งให้ถอนกองทัพสนับสนุนให้กลับเมืองไป เหลียงหวู่ตี้นั้นทรงพยายามจะขัดขวางการใช้อำนาจบาตรใหญ่ของโหวจิ่ง แต่ก็ไม่เป็นผล โหวจิ่งโต้ตอบด้วยการลดอาหารที่มอบให้พระองค์ให้แต่ละวัน จนสุดท้ายพระองค์จะแทบไม่มีอะไรเสวยเลย

ด้วยวัย 85 พรรษา เหลียงหวู่ตี้ทรงประชวรเพราะขาดสารอาหาร พระองค์ทรงขอให้ข้ารับใช้นำน้ำผึ้งเข้ามาป้อนที่พระโอษฐ์เพื่อที่พระองค์จะได้รู้สึกชุ่มชิ้นบ้าง แต่ไม่มีใครปฏิบัติตามรับสั่งเลยสักคนเดียว พระองค์สวรรคตด้วยความทรมานหลังจากนั้นไม่นาน

การสวรรคตของเหลียงหวู่ตี้ทำให้แผ่นดินเหลียงอยู่ในความวุ่นวาย เมืองต่างๆ นั้นล้วนแต่ซ่องสุมกันไม่ยอมรับอำนาจของโหวจิ่ง แผ่นดินที่เคยสงบสุขในช่วงต้นรัชกาลนั้นแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ ภายในรัชกาลเดียวกัน ความผิดพลาดทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นคงจะโทษผู้อื่นมิได้ นอกจากตัวของเหลียงหวู่ตี้เอง

ตอนยาวล่าสุด

แนะนำ:จ้านกว๋อ

บทความอื่นๆ

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!