ประวัติศาสตร์จีนจ้านกว๋อซีเหมินเป้าแห่งแคว้นเว่ยต่อสู้กับความงมงายในแผ่นดินจีน

ซีเหมินเป้าแห่งแคว้นเว่ยต่อสู้กับความงมงายในแผ่นดินจีน

หลังจากที่แคว้นสามจิ้น (หาน จ้าว เว่ย) แบ่งดินแดนจิ้นออกเป็นสามส่วนแล้ว แคว้นเว่ยเป็นแคว้นแรกที่เริ่มขยายเขตแดนของตนเอง กองทัพเว่ยเข้มแข็งพิชิตแคว้นจงซานได้สำเร็จให้สมัยของเว่ยเหวินโหว เจ้าผู้ครองแคว้นคนแรก

หากแต่ว่าเมืองเย่ที่ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างแคว้นสามจิ้นกลับยังไม่มีผู้ใดไปรักษา ทั้งๆ ที่เป็นเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญและคอหอยของแคว้นเว่ย พวกขุนนางไม่มีใครอยากไป พวกเขาจึงสนับสนุนให้เว่ยเหวินโหวส่งซีเหมินเป้า (西门豹) ผู้มีชื่อเสียงด้านสติปัญญาและความสามารถไปรักษาเมือง

ซีเหมินเป้าสั่งให้โยนหมอผีลงแม่น้ำ

ซีเหมินเป้าจึงไปประจำที่เมืองเย่ตามคำสั่งของเว่ยเหวินโหว

เมื่อซีเหมินเป้าไปถึงเมืองเย่ เขารู้สึกแปลกประหลาด เพราะเมืองเย่เงียบเหงามาก ผู้คนอาศัยอยู่อย่างเงียบเชียบ ไม่ออกมาจากบ้านสักเท่าใดนัก การค้าขายก็ซบเซา ซีเหมินเป้าเห็นว่าผิดสังเกต เขาจึงไปถามกับชาวบ้านว่าเกิดอะไรขึ้น

ชาวบ้านตอบว่า

ชาวบ้านในเมืองนี้หนีไปหมด เพราะเทพเจ้าแห่งแม่น้ำต้องการแต่งงานกับหญิงสาวพรหมจรรย์  เพราะฉะนั้นทุกๆปีเมืองเราจึงต้องถวายหญิงงามหนึ่งคน ถ้าชาวบ้านเลือกสาวงามไปให้ ฟ้าฝนก็จะตกต้องตามฤดูกาล ถ้าไม่ให้ก็จะมีภัยพิบัติน้ำท่วม ทำให้ผู้คนล้มตายเป็นอันมาก

ซีเหมินเป้ารู้สึกสงสัย เขาจึงถามว่าใครเป็นคนเริ่มเรื่องนี้ขึ้นมา

พวกชาวบ้านอธิบายต่อไปว่า

พวกเราได้ฟังจากหมอผีประจำเมืองแห่งนี้เอง ทุกๆปีพวกเศรษฐี ขุนนาง และหมอผี จะต้องเก็บภาษีชาวบ้านไปในใช้ในพิธีงานแต่งงานของเทพเจ้าแห่งแม่น้ำ หมอผีจะไล่หาสาวงามตามหมู่บ้าน ถ้าพบเจอใครหน้าตาดี ก็จะมาบอกเธอว่าสมควรเป็นภรรยาเทพเจ้าแม่น้ำ ถ้าบ้านไหนมีเงินทองมอบให้หมอผี หมอผีก็จะพาไปบ้านอื่น เมื่อได้หญิงสาวแล้ว พวกเขาจะเอาไปแต่งองค์ทรงเครื่องให้สวยงาม แล้วพอถึงวันพิธีก็ให้ลงเรือไปในแม่น้ำที่เชี่ยวกราก พอคลื่นซัดนางหายไป ก็เป็นอันเสร็จพิธี

ซีเหมินเป้าจึงถามต่อไปว่าเมืองนี้เคยเจอปัญหาเรื่องน้ำท่วมหรือไม่ ชาวบ้านกลับตอบว่าไม่พบเพราะว่าได้ส่งสาวงามให้เทพเจ้าแห่งแม่น้ำทุกปี

สำหรับซีเหมินเป้าแล้ว เขาเป็นนักปราชญ์คนหนึ่ง และมีความรู้ในทางวิศวกรรมและเรื่องน้ำอันดับต้นๆ ของแคว้นเว่ย ตัวเขาเคยผันแม่น้ำจางเหอเพื่อพัฒนาที่ราบลุ่มแม่น้ำ รวมไปถึงเป็นวิศวกรคนแรกที่ทำชลประทานแบบคูคลองในประวัติศาสตร์จีนด้วย เขาจึงไม่เชื่อเรื่องงมงานพรรค์นี้เด็ดขาด

ซีเหมินเป้าค่อนข้างแน่ใจแล้วว่าพวกชาวบ้านถูกพวกขุนนางกังฉินกับหมอผีหลอกลวง เขาจึงบอกกับชาวบ้านว่า พรุ่งนี้ตนเองจะไปร่วมส่งสาวงามด้วย

ในวันรุ่งขึ้น ซีเหมินเป้าก็มาถึงบริเวณพิธี เขาเห็นหมอผีที่ว่าเป็นหญิงแก่คนหนึ่ง เธอมีลูกศิษย์ยี่สิบกว่าคน ทุกคนกำลังนำหญิงสาวคนหนึ่งเดินมายังบริเวณบวงสรวง หญิงสาวผู้นั้นร้องไห้อย่างน่าสงสารจนเปรอะเปี้อนเสื้อผ้าไปทั้งหมด

ซีเหมินเป้าเดินมาขวางแล้วตวาดว่า

หญิงสาวคนนี้สวยไม่พอ ไม่เหมาะสมกับเทพเจ้าแห่งแม่น้ำ ขอให้หาคนใหม่ และเพื่อไม่ให้เทพเจ้าแห่งแม่น้ำต้องรอเก้อ ขอให้ท่านหมอผีลงไปบอกเทพเจ้าแห่งแม่น้ำเสียก่อน ว่าวันมะรืนจะส่งตัวคนใหม่ไปให้”

ทหารของซีเหมินเป้าบุกเข้าจับตัวหมอผีอย่างทันควัน และโยนลงไปในแม่น้ำทันทีตามคำสั่งของซีเหมินเป้า ร่างของหมอผีกระเสือกกระสนในน้ำได้ไม่นาน หมอผีเฒ่าก็โดนกระแสน้ำซัดจมหายไป

ผ่านไปสักพัก ซีเหมินเป้าจึงกล่าวอีกว่า

หมอผียังไม่เห็นกลับขึ้นมาเลย เธอคงแก่แล้ว เลยพูดกับเทพเจ้าไม่รู้เรื่อง ขอให้พวกเจ้าที่เป็นลูกศิษย์เอกลงไปช่วยอาจารย์พูดก็แล้วกัน

พวกทหารจึงนำลูกศิษย์เอกสองคนโยนแม่น้ำไปอีก ทั้งสองพยายามว่ายได้ไม่นานก็ถูกกระแสน้ำพัดหายไป

เมื่อโยนลูกศิษย์หมอผีลงน้ำไปทั้งหมดแล้ว ซีเหมินเป้าจึงปรายตามาที่พวกขุนนางกังฉิน เขาพูดขึ้นว่า

พวกผู้หญิงคงพูดได้ไม่ดีเท่าพวกผู้ชาย ขอให้ท่านผู้อาวุโสสามท่านลงไปเรียนเทพเจ้าแห่งแม่น้ำตามหมอผีและลูกศิษย์ด้วยก็แล้วกัน

พวกขุนนางฉ้อฉลก็ประสบเคราะห์กรรมเดียวกับหมอผีและลูกศิษย์

ซีเหมินเป้าจึงกล่าวว่า

พวกขุนนาง กับหมอผีได้ลงไปหาเทพเจ้าแห่งแม่น้ำกันหมดแล้ว พวกเศรษฐีอยากจะตามไปด้วยหรือไม่เล่า

ทุกคนในที่นั้นจึงหน้าซีดขาวกันทั้งหมด พวกเศรษฐีต่างคุกเข่าลงขอให้ซีเหมินเป้าไว้ชีวิต

ซีเหมินเป้าจึงกล่าวกับเหล่าชาวบ้านทั้งปวงว่า

เทพเจ้าแห่งแม่น้ำอยู่ที่ใด พวกเจ้าแต่ไหนแต่ไรมาถูกเจ้าพวกนี้มันหลอกลวง ใครสังหารผู้หญิงอย่างไม่ยุติธรรมจะต้องได้รับโทษชดใช้ชีวิต ต่อไปนี้ใครคิดจะรื้อฟิ้นประเพณีนี้ขึ้นมาจะต้องลงไปบอกเทพเจ้าแห่งแม่น้ำด้วยตนเองก่อน

บรรดาเศรษฐีจึงนำเงินมาคืนชาวบ้านทั้งหมดตามคำสั่งของซีเหมินเป้า ประเพณีเซ่นสรวงสาวงามของเมืองเย่จึงสิ้นสุดลง ราษฎรจึงกลับมาอยู่ที่เมืองเย่เหมือนเดิม การค้าขายก็กลับมาคับคั่งอีกครั้งหนึ่ง

หลังจากนั้นซีเหมินเป้าใช้ความรู้ของตนปรับปรุงการชลประทานในเมืองเย่ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ทำไร่ทำนาได้ผลผลิตมากขึ้น เหล่าราษฎรจึงอยู่ด้วยความสุขสำราญสืบต่อมา ความงมงายที่อยู่คู่กับเมืองมาตลอดจึงหมดสิ้นไปอย่างไม่มีวันกลับ

บทความประวัติศาสตร์

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!