ประวัติศาสตร์ชะตากรรมของนางเอียนสี (Lady Zhen) ภรรยาของโจผีเป็นอย่างไรกันแน่?

ชะตากรรมของนางเอียนสี (Lady Zhen) ภรรยาของโจผีเป็นอย่างไรกันแน่?

นางเอียนสี (Lady Zhen) เป็นหนึ่งในสาวงามในยุคสามก๊กที่มีตัวตนจริงในหน้าประวัติศาสตร์เช่นเดียวกับนางสองเกี้ยว (สองพี่น้องที่เป็นภรรยาของซุนเซ็กและจิวยี่) อย่างไรก็ดีชะตากรรมสุดท้ายในหน้าประวัติศาสตร์ของนางกลับเป็นเครื่องหมายคำถาม เพราะพงศาวดารหลายเล่มว่าไว้ขัดกันอย่างไม่น่าเชื่อ

เราไปดูกันก่อนดีกว่าครับมีชีวิตของนางเอียนสีเป็นอย่างไร?

นางเอียนสี

ชีวิตของนางเอียนสี

นางเอียนสีเรียกกันในภาษาจีนกลางว่าเจินฟูเหริน หรือท่านหญิงเจิน อย่างไรก็ดีไม่มีพงศาวดารไหนบันทึกชื่อจริงของนางเอาไว้ ชื่อของนางจึงสูญหายไปในหน้าประวัติศาสตร์ อย่างไรก็ดีเรื่องนี้ถือว่าน่าแปลก เพราะว่าบุตรสาวคนอื่นของเจินอี้ บิดาของนางล้วนแต่มีหลักฐานบันทึกเอาไว้ แต่นางซึ่งเป็นคนที่สำคัญและรุ่งโรจน์ที่สุดในบ้านกลับไม่มีบันทึกหลงเหลือไว้เลย

สกุลเจินของนางมีฐานะร่ำรวยเพราะเป็นข้าราชการระดับสูงมาหลายชั่วคนในยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันตกและตะวันออก นางเอียนสีจึงได้รับการเลี้ยงดูเหมือนกับชนชั้นสูงทั่วไปในยุคนั้น แต่สิ่งที่ต่างจากเด็กคนอื่นๆ ก็คือ นางชื่นชอบในการอ่านหนังสืออย่างมาก โดยนางมองว่าการอ่านหนังสือทำให้นางเรียนรู้ความสำเร็จและความผิดพลาดของบุคคลในประวัติศาสตร์ ทำให้นางมีข้อคิดในการใช้ชีวิตที่ดี

พงศาวดารสามก๊กของเฉินโซ่วให้ข้อมูลว่านางเอียนสีเป็นหญิงที่มีคุณธรรมตั้งแต่วัยเด็ก ในช่วงที่แผ่นดินวุ่นวายปลายราชวงศ์ฮั่นตะวันออกนั้น ครอบครัวของนางเคยคิดที่จะฉวยโอกาสขายข้าวที่มีอยู่ในราคาสูง แต่นางเอียนสีในวัยเพียง 10 ขวบได้กล่าวทัดทานว่า

การครอบครองของมีค่าไม่ใช่เรื่องผิด แต่ในช่วงวุ่นวายเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง เพื่อนบ้านเรากำลังอดอยาก ทำไมครอบครัวเราถึงไม่แจกจ่ายข้าวส่วนที่เหลือให้ผู้อื่นเล่า

การทัดทานของนางทำให้บิดาและมารดาเชื่อฟัง และตัดสินใจแจกจ่ายข้าวตามที่นางแนะนำ

อีกสี่ปีต่อมาค ครอบครัวของนางประสบปัญหาของแม่ของนางเอียนสีมักจะปฏิบัติกับลูกสะใภ้ด้วยความเข้มงวดเกินไป ทำให้พวกนางไม่มีความสุข นางเอียนสีจึงเข้ามาไกล่เกลี่ยและเปลี่ยนใจแม่ของนาง จนสุดท้ายเหล่าพี่สะใภ้จึงได้รับการปฏิบัติที่ดียิ่งขึ้น

หลังจากนั้นนางได้แต่งงานกับอ้วนฮี บุตรชายคนหนึ่งของอ้วนเสี้ยว ขุนศึกที่มีอำนาจในยุคนั้น แต่หลังจากแต่งงานอ้วนฮีได้เดินทางไปเป็นเจ้าเมืองโยวโจวตามคำสั่งของบิดา แต่ด้วยสาเหตุที่ไม่มีใครทราบ นางเอียนสีกลับไม่ได้เดินทางไปด้วย โดยนางได้อยู่ปรนนิบัติแม่ของสามีอยู่ที่เมืองเย่เฉิง ดังนั้นนางจึงไม่ค่อยได้อยู่กับสามีเท่าไรนัก

ในปี ค.ศ.204 โจโฉมีชัยเหนืออ้วนซงและตีเมืองเย่เฉิงได้สำเร็จ ซึ่งผู้ที่ได้เข้ามาจัดการเมืองเย่เฉิงคือโจผี บุตรชายของโจโฉ โจผีได้พบกับนางเอียนสี และเห็นนางงดงามมากจึงขอโจโฉให้นางเป็นภรรยาของตน ซึ่งโจโฉก็อนุญาตให้ตามคำขอ

โจยอยเป็นลูกโจผีจริงหรือ?

นางเอียนสีได้แต่งงานเป็นภรรยาเอกของโจผี และมีลูกชายและลูกสาวให้โจผีอย่างละคน โดยบุตรชายของนางคือ โจยอย อย่างไรก็ดีชาติกำเนิดของบุตรคนนี้ของนางกลับเป็นเครื่องหมายคำถามเช่นเดียวกัน เพราะโจยอยเกิดในปี ค.ศ.204 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่โจโฉตีเมืองเย่เฉิงแตก แถมกว่าที่โจโฉจะเข้าเมืองเย่เฉิงได้นั้นก็เข้าเดือนกันยายนแล้ว

ดังนั้นนักประวัติศาสตร์จึงมองว่าโจยอยเกิดปีเดียวกันนั้น โอกาสที่โจยอยจะเป็นลูกโจผีจึงเป็นศูนย์ และโจยอยน่าจะเป็นลูกของอ้วนฮีมากกว่าที่จะเป็นลูกโจผี

อย่างไรก็ดีนักประวัติศาสตร์อีกส่วนหนึ่งรวมถึงเผยซงจือ นักประวัติศาสตร์ที่ชำระพงศาวดารสามก๊กในยุคศตวรรษที่ 5 จึงมองว่าการบันทึกปีเกิดของโจยอยน่าจะผิดพลาด ซึ่งความผิดพลาดนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร พงศาวดารจีนหลายเล่มก็ถูกตรวจพบอยู่บ่อยครั้งว่าคลาดเคลื่อน ดังนั้นเผยซงจือจึงเสนอว่าโจยอยน่าจะเกิดในปีที่สิบในศักราชเจี้ยนอันมากกว่า โดยจะตรงกับปี ค.ศ.206

โดยส่วนตัวแล้วผมเอียงไปทางฝั่งว่าบันทึกน่าจะผิด เพราะถ้าโจยอยเกิดในปี ค.ศ.204 จริง โจผีย่อมรู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่บุตรของตน และไม่น่าจะให้สืบทอดตำแหน่งในเวลาต่อมา นอกจากนี้นางเอียนสีในช่วงนั้นก็น่าจะท้องแก่แล้ว โอกาสที่นางเป็นที่ต้องตาต้องใจของโจผีก็ยิ่งต่ำลงไปอีก

สรุปแล้วผมจึงมองว่าโจยอยน่าจะเป็นลูกโจผี แต่บันทึกทางประวัติศาสตร์น่าจะผิดพลาดครับ

ชะตากรรมของนางเอียนสี

หลังจากที่เป็นภรรยาของโจผีแล้ว นางเอียนสีก็เป็นภรรยาที่ดีอย่างเสมอต้นเสมอปลาย นางเป็นภรรยาเอกที่ดีและคอยดูแลภรรยาคนอื่นของโจผีอย่างเหมาะสม และสนับสนุนให้โจผีมีภรรยาคนใหม่ได้เพื่อที่จะได้มีบุตรหลานสืบสกุลมากขึ้น และยังดูแลแม่ของโจผีเป็นอย่างดีด้วย โจผีจึงยิ่งรักนางมากขึ้นตามลำดับ ตลอดช่วงปี ค.ศ.204-220 นั้นไม่มีบันทึกว่าทั้งสองขัดแย้งกันแต่อย่างใด

อย่างไรก็ดีในปี ค.ศ.220 โจโฉได้เสียชีวิตลงทำให้โจผีได้รับตำแหน่งเป็นเว่ยหวางสืบต่อจากบิดา โจผีกลับไม่ได้สถาปนานางเอียนสีให้ดำรงตำแหน่งสูงขึ้นแต่อย่างใด ส่วนหนึ่งคงเพราะโจผีเริ่มโปรดปรานสนมคนอื่นแล้วในเวลานั้นโดยเฉพาะกัวหนี่ว์หวาง

พงศาวดารสามก๊กของเฉินโซ่วให้ข้อมูลว่าเมื่อได้ทราบว่าโจผีหันไปโปรดปรานกัวหนี่ว์หวาง นางเอียนสีจึงไม่พอใจอย่างรุนแรง และเริ่มต่อว่าโจผี ในปี ค.ศ.221 เขาจึงส่งคนมาสั่งให้นางเอียนสีปลิดชีพตนเอง นางจึงสิ้นชีวิตลงในที่สุด

บันทึกของสีเจ๋าฉื่อและพงศาวดารเว่ยเลวี่ยถึงกับให้ข้อมูลว่าหลังจากนางจากไปแล้ว โจผียังได้สั่งให้เอาผมนางมาปรกหน้า และนำข้าวเปลือกให้เต็มปากตามความเชื่อโบราณเพื่อทำลายดวงวิญญาณของนางในปรโลกอีกด้วย

โดยส่วนตัวแล้วผมมองว่าไม่น่าเป็นไปได้ตั้งแต่นางเอียนสีต่อว่าโจผีตั้งแต่โจผีหันไปโปรดสนมคนใหม่แล้ว เพราะก่อนหน้านี้พงศาวดารบันทึกไว้ว่านางเอียนสีเสนอให้โจผีมีสนมมากขึ้นด้วยซ้ำไป แถมแค่เรื่องต่อว่ากันไม่น่าจะทำให้โจผีโกรธอย่างรุนแรงจนอยากที่สังหารนางเสีย แถมการทำลายร่างนางก็เป็นการกระทำที่ดูเกินเบอร์ไปอย่างมากอีกด้วย

พงศาวดารเว่ยซู ซึ่งเป็นการตีความพงศาวดารสามก๊กได้ให้ข้อมูลตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง โดยให้ข้อมูลว่านางเอียนสีล้มป่วยเสียชีวิตหลังจากที่โจผีได้เป็นเว่ยหวางได้ไม่นานนัก นางจึงไม่ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง และโจผีก็โศกเศร้ามากมายที่นางจากไปอีกด้วย

หลักฐานโบราณหล่านี้จึงให้ข้อมูลที่ต่างกันสุดขั้ว ดังนั้นเราไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกับนางเอียนสีกันแน่ แต่ที่นักประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่สันนิษฐานก็คือ ข้อมูลจากพงศาวดารสามก๊กของเฉินโซ่วที่ไม่ได้ผ่านการตีความน่าจะเป็นเรื่องจริง นั่นก็คือนางเอียนสีน่าจะถูกโจผีบังคับให้ฆ่าตัวตาย เพราะงานของเฉินโซ่วถูกเขียนขึ้นในเวลา 40-50 ปีจากที่เกิดเหตุการณ์

อย่างไรก็ดีสาเหตุที่นางโดนราชภัยเช่นนั้นไม่น่าจะใช่เรื่องการต่อว่า เพราะจะขัดกับนิสัยของนางเกินไป (ยกเว้นเสียว่าที่พงศาวดารบันทึกเรื่องนิสัยของนางจะเป็นเรื่องเท็จทั้งหมด) ที่เป็นไปได้คือนางน่าจะต้องทำความผิดอันใหญ่หลวงในช่วงปี ค.ศ.221 ซึ่งแม้แต่โจยอย บุตรชายแท้ๆ ของนางก็ไม่อาจจะขออภัยโทษให้นางได้ หรือว่านางอาจจะไม่ได้ทำอะไรผิด แต่โดนใส่ความโดยกัวหนี่ว์หวางก็ได้เช่นกัน

เรื่องโดนใส่ความนี้ดูเหมือนจะมีมูล เพราะว่ามีบันทึกไว้ว่าเมื่อโจยอยที่ได้ครองราชย์แล้ว เขาได้ทราบว่ากัวหนี่ว์หวางกลั่นแกล้งมารดาของตนเองจนต้องโทษก็โกรธจัด เขาจึงบังคับให้นางฆ่าตัวตายตามไป หรืออีกฉบับหนึ่งก็ว่าเมื่อโจยอยทราบเรื่อง กัวหนี่ว์หวางได้สิ้นชีวิตไปก่อนหน้านี้แล้ว โจยอยจึงสั่งให้จัดการศพของนางแบบเดียวกับที่่โจผีทำกับมารดาของตน

โดยรวมแล้วผมจึงสันนิษฐานว่า นางเอียนสีน่าจะโดนใส่ความโดยกัวหนี่ว์หวาง สนมคนโปรดคนใหม่ของโจผี ทำให้โจผีโกรธจัดจนบังคับให้นางฆ่าตัวตายครับ

ตอนยาวล่าสุด

แนะนำ:จ้านกว๋อ

บทความอื่นๆ

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!