ประวัติศาสตร์ตระกูลเกาแห่งเป่ยฉี ตอนที่ 8: วิปริตอย่างฉับพลัน

ตระกูลเกาแห่งเป่ยฉี ตอนที่ 8: วิปริตอย่างฉับพลัน

การเปลี่ยนแปลงของฮ่องเต้ในยุคราชวงศ์เหนือใต้นั้นเป็นหนึ่งใน signature ของยุคเลยก็ว่าได้ จู่ๆ ฮ่องเต้ที่เคยมีความสามารถและเอางานเอาการกลับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นคนละคน และไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะอธิบายได้เลยทั้งสิ้น

เกาหยาง หรือจักรพรรดิเหวินซวนก็เป็นหนึ่งในนั้น ราวกับว่าการกวาดล้างชนเผ่าซานหูได้ทำให้ปีศาจอันโหดร้ายมาสิงร่างเกาหยางเลยทีเดียว

เริ่มวิปริต

เรื่องแรกที่แสดงให้เห็นว่าเกาหยางเริ่มมีพฤติกรรมแปลกๆ ก็คือ มีอยู่วันหนึ่งเกาหยางได้ม้าตัวหนึ่งจากแม่ทัพเฮ่อป๋าเหริน แต่กลับมองว่าม้าตัวนี้ไม่เหมาะกับตน เพราะคุณสมบัติแย่เกินไป เกาหยางจึงให้ถอดเฮ่อป๋าเหรินลงเป็นสามัญชนแล้วส่งไปเป็นแรงงานในเหมือง พร้อมกับถอนผมบนศีรษะจนหมดสิ้น หลังจากนั้นไม่นานก็สั่งให้ประหารชีวิตคู่กรณีเก่าที่เคยดูหมิ่นตนพร้อมกับครอบครัวจนหมดสิ้นด้วยวิธีการอันสุดแสนจะโหดร้าย

หลังจากนั้นไม่ว่าใครก็ตามที่ทำอะไรขัดใจ หรือแม้กระทั่งเรื่องเก่าๆ เดิมๆ เกาหยางก็ให้นำตัวมาสังหารเรียบด้วยวิธีการที่ผิดมนุษย์มนา มิหนำซ้ำยังเสพสุราตลอดวันจนมีอาการวิกลจริต เกาหยางสยายผม แต่งหน้าตนเอง พร้อมกับร้องเพลงและเต้นรำในยามค่ำคืน บางวันก็จะออกไปนอกวัง และนอนหลับที่ข้างถนนด้วยสภาพที่ไม่สวมใส่เครื่องแต่งกายใดๆ เหล่าชาววังทั้งหลายล้วนแต่เบือนหน้าหนีทั้งสิ้น แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดทัดทานหรือคัดค้าน เพราะทุกคนรู้ดีว่าถ้าพูดอะไรออกไปแล้วเกาหยางขัดเคือง ผู้นั้นจะต้องสิ้นชีวิตอย่างทรมาน

โหลวไท่โฮ่ว มารดาของเกาหยางเห็นเกาหยางวิปริตเช่นนั้นจึงพยายามจะโต้แย้ง เกาหยางได้ฟังเช่นนั้นจึงโกรธจัด เขาขู่มารดาว่าจะให้นางไปแต่งงานกับพวกคนเถื่อน แต่ต่อมาก็รู้สึกผิดจึงไปขอโทษ แต่พอคลานเข่าเข้าไป เกาหยางกลับผลักเก้าอี้ของนางจนล้มลงมาอย่างดื้อๆ ทำให้โหลวไท่โฮ่วต่อว่าเกาหยางเป็นการใหญ่ ด้วยความรู้สึกผิดอีกครั้ง เกาหยางสั่งให้จุดไฟและเตรียมจะกระโดดเข้ากองไฟ โหลวไท่โฮ่วต้องรีบสั่งให้คนไปสกัดเกาหยางเอาไว้ เขาจึงรอดตายมาได้

อย่างไรก็ดีสิ่งที่น่าแปลกคือ เวลาพวกขุนนางให้ตัดสินใจเรื่องสำคัญๆ เกาหยางกลับยังทำได้ดีในระดับหนึ่ง และใช้ขุนนางที่มีความสามารถในการบริหารราชการ ทำให้เป็นข้อถกเถียงที่น่าสนใจว่าเกาหยางป่วยเป็นอาการทางจิตแบบใดกันแน่ โรคจิตเภท (Psychosis)? โรคไบโพลาร์ (Bipolar Disorder)? หรือผสมกัน? คำถามนี้ไม่น่าจะมีใครตอบได้แบบ 100% ณ ปัจจุบัน

หลังจากนั้นจนถึงสิ้นสุดรัชกาล ราชสำนักเป่ยฉีมีแต่การลงทัณฑ์อันโหดร้ายจากพฤติกรรมของเกาหยาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อพระวงศ์เป่ยเว่ยที่เกาหยางให้สังหารจนหมดสิ้น หนึ่งในนั้นคือหยวนหวงโถวที่โดนลงทัณฑ์ด้วยการจับผูกไปกับว่าวขนาดใหญ๋ลงมาจากหอคอย ซึ่งทำไปทำมากลายเป็นเหตุการณ์สำคัญของมนุษยชาติ เพราะกลายเป็นการบินบนเวหาครั้งแรกของมนุษย์ในหน้าประวัติศาสตร์ครับ ทว่าหยวนหวงโถวกลับรอดจากการบินที่ว่ามาได้อย่างไม่น่าเชื่อเช่นเดียวกัน

สิ้นชีวิตอย่างกะทันหัน

ในปี ค.ศ.559 เกาหยางอายุได้ประมาณ 32 ปี ซึ่งในทางวิทยาศาสตร์แล้วยังหนุ่มแน่น แต่เขากลับล้มป่วยหนัก นักประวัติศาสตร์มองว่าน่าจะเกิดจากการดื่มสุราอย่างหนักในช่วง 4-5 ปีนั้น (ช่วงเดียวกับที่มีอาการวิกลจริต) ทำให้เกิดปัญหาเรื่องการสืบสันตติวงศ์ขึ้นมาทันที

สาเหตุก็เป็นเพราะเกายิน บุตรของเกาหยางนั้นอายุได้เพียง 15 ปี เรื่องความสามารถและบารมีย่อมเทียบไม่ได้กับเกาเหยี่ยนผู้เป็นอา เกาเหยี่ยนผู้นี้เป็นบุคคลเพียงคนเดียวที่พอจะยับยั้งพฤติกรรมอันบ้าคลั่งของเกาหยางได้ ซึ่งเกาหยางก็หวั่นเกรงบารมีของน้องชายผู้นี้อยู่พอสมควร แต่สำหรับเกาเหยี่ยนนั้น เขาน่าจะเก็บความแค้นอยู่ในใจ เพราะเคยถูกเกาหยางใส่ความว่าเป็นชู้กับนางใน ทั้งๆที่เกาหยางเป็นผู้มอบให้กับตนเอง แล้วยังใช้สันดาบฟาดจนเกาเหยี่ยนบาดเจ็บสาหัสอีกด้วย

ก่อนที่จะล่วงลับไปนั้น เกาหยางได้เรียกเกาเหยี่ยนเข้าไปพบ และบอกเป็นการลับว่าถ้าเกาเหยี่ยนต้องการบัลลังก์ก็ชิงเอาเสียเถิด แต่ขอให้ไว้ชีวิตเกายินไว้ด้วย ทว่าก็ไม่ได้เปลี่ยนรัชทายาทแต่อย่างใด ทำให้หลังจากเกาหยางสิ้นชีพแล้ว เกายินจึงขึ้นครองบัลลังก์เป็นฮ่องเต้คนที่สองของแผ่นดินเป่ยฉี

กำจัดเกายิน

เกายิน โอรสของเกาหยางนั้นไม่ใช่คนโง่ เขาเป็นบัณฑิตผู้คงแก่เรียนและมีความรู้ดี ทว่าเขาไม่ใช่นักรบ ซึ่งเป็นคุณสมบัติของผู้ที่สมควรเป็นฮ่องเต้แห่งราชวงศ์เหนือใต้ ดังนั้นไม่วายจะต้องถูกกำจัดให้พ้นทางไป

เหล่าที่ปรึกษาของเกาหยางที่สนับสนุนเกายินนั้นพยายามจะสกัดการชิงบัลลังก์ของเกาเหยี่ยน ด้วยการใช้การดำเนินการทางการเมืองถอดเกาเหยี่ยนออกจากตำแหน่งสำคัญๆ ไปพร้อมๆกับปฏิรูปขุนนางในราชสำนักเพื่อรวมอำนาจทั้งหมดมาให้เกายิน พวกขุนนางที่ถูกถอดสถานการณ์ดังกล่าวล้วนแต่แห่ไปหาเกาเหยี่ยนและยุยงให้ชิงอำนาจเสีย แต่เกาเหยี่ยนก็ยังไม่ได้ลงมือแต่อย่างใด

เรื่องราวเลยเถิดไปถึงพวกขุนนางฝั่งเกายินจะลวงเกาเหยี่ยนมาสังหารเพราะพวกเขาคิดว่าถ้าเกาเหยี่ยนยังมีชีวิตอยู่ บัลลังก์ของเกายินนั้นไม่มีทางจะปลอดภัย แต่แผนการรั่วไหลไปถึงโหลวไท่โฮ่วเสียก่อน พระนางตัดสินพระทัยเข้าข้างบุตรชายแทนที่หลานชายและแพร่พรายความลับให้เกาเหยี่ยนทราบ (อนึ่งเพราะขุนนางฝั่งเกายินวางแผนจะคุมขังนางไว้ในวัง และบีบให้มอบอำนาจให้กับหลี่ไท่โฮ่วซึ่งเป็นแม่ของเกายิน)

ด้วยเหตุนี้เกาเหยี่ยนจึงชิงลงมือก่อนด้วยการส่งทหารบุกเข้าวัง และนำขุนนางที่ต่อต้านตนไปสังหารเสีย หลังจากนั้นก็ถอดเกายินออกจากตำแหน่งภายใต้การสนับสนุนของโหลวไท่โฮ่ว เกาเหยี่ยนจึงได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้นามว่าจักรพรรดิเสี้ยวเจา โดยเขาได้ให้คำสัตย์ไว้กับมารดาว่าจะไว้ชีวิตเกายิน แต่เอาเข้าจริง เขาจะทำได้รึเปล่า อ่านเพิ่มเติมได้ในตอนหน้าครับ

ตอนยาวล่าสุด

แนะนำ:จ้านกว๋อ

บทความอื่นๆ

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!