ในปัจจุบันทัวร์ของชาติตะวันตกที่พานักท่องเที่ยวไปตามรอยราชวงศ์โรมานอฟ หรือ ครอบครัวของ “ซาร์นิโคลัสที่ 2” และ “ซาริซาอเล็กซานดรา” ตลอดจนบุตรธิดาของทั้งสองเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ หลายปีก่อนแทบไม่มีทัวร์ลักษณะนี้เลย แต่ในปัจจุบันมีให้เห็นมากขึ้นตามลำดับ
อย่างไรก็ดี ผมอยากจะบอกว่า เราไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงๆ เพื่อซื้อทัวร์เหล่านี้ เราสามารถไปเองได้อย่างไม่ยากเย็นอะไรนัก เพราะการคมนาคมรัสเซียก็สะดวกสบายในระดับหนึ่ง
แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า จะไปที่ไหนดี?
ในโพสนี้ผมจะแก้ปัญหาดังกล่าวให้ ด้วยการบอกว่าคุณควรจะไปที่ไหนบ้างครับ
เซนต์ปีเตอร์สเปิร์ก
เรามาเริ่มกันที่เซนต์ปีเตอร์สเปิร์กและบริเวณโดยรอบก่อนครับ
1. Alexander Palace
Alexander Palace หรือพระราชวังอเล็กซานเดอร์ เป็นสถานที่ที่ครอบครัวของซาร์นิโคลัสที่ 2 (ขอเรียกสั้นๆ ว่าครอบครัวซาร์) ทุกคนยึดถือเป็นบ้าน พระราชวังสีเหลืองแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองพุชกิ้นใกล้กับเซนต์ปีเตอร์สเปิร์ก และห่างจากพระราชวังแคทเทอรีนไปไม่ไกลนัก (สามารถเดินถึงกันได้อย่างสบายๆ)

พระราชวังอเล็กซานเดอร์เป็นสถานที่แห่งความทรงจำของทุกคนในครอบครัวซาร์ รูปภาพมากมายที่ครอบครัวซาร์ถ่ายเอาไว้ก็ถ่ายที่นี่ สระน้ำและสวนที่สมาชิกครอบครัวเคยมาทำกิจกรรมก็ยังตั้งอยู่อย่างสมบูรณ์ ไม่เพียงเท่านั้นที่นี่ยังเป็นสถานที่แรกที่ครอบครัวซาร์ทุกคนถูกคุมขังและเผชิญหน้ากับความอัปยศด้วย
ดังนั้นถ้าคุณอยากจะตามรอยครอบครัวซาร์ พระราชวังอเล็กซานเดอร์เป็นสถานที่อันดับ 1 ที่คุณต้องมาเยือนให้ได้ครับ
ปัจจุบัน (ธันวาคม ค.ศ.2019) พระราชวังอเล็กซานเดอร์กำลังอยู่ในการซ่อมแซมครั้งใหญ่เพื่อสร้างบรรยากาศในช่วงเวลานั้นกลับมาอีกครั้ง ทำให้คุณยังไม่สามารถเข้าชมได้ในขณะนี้ ทางพระราชวังคาดว่าจะเปิดให้ชมได้บางส่วนในปี ค.ศ.2020
2. Gatchina Palace
Gatchina Palace หรือพระราชวังกัตชินา เป็นพระราชวังที่ตั้งอยู่ที่เมืองกัตชินา (Gatchina) ซึ่งห่างจากเซนต์ปีเตอร์สเปิร์กไปไม่ไกลนัก ที่นี่เป็นสถานที่ที่ซาร์นิโคลัสที่ 2 ใช้ชีวิตในวัยเด็ก ถ้าคุณเดินเข้าไปในพระราชวัง คุณจะได้เห็นว่าห้องของสมาชิกครอบครัวแต่ละคนเป็นอย่างไร และมีรูปถ่ายหายากมากมายให้ชมด้วยครับ

หลังจากที่ซาร์นิโคลัสที่ 2 ได้ขึ้นเป็นซาร์แล้ว ที่นี่เป็นที่พำนักของแกรนด์ดยุคไมเคิล และเป็นสถานที่ที่โอลกาได้พบกับคูลิคอฟสกี้ซึ่งทำให้เกิดเรื่องฉาวไปทั่วราชสำนักด้วย
ปัจจุบันตัวพระราชวังกัตชินากำลังได้รับการซ่อมแซมเช่นเดียวกัน แต่คุณสามารถเข้าชมได้ครับ
3. Peter and Paul Fortress

Peter and Paul Fortress เป็นสถานที่ที่คุณต้องมาอย่างแน่นอน เพราะภายในมีมหาวิหารที่เก็บรักษาชิ้นส่วนพระศพที่หลงเหลืออยู่ของครอบครัวซาร์ทุกคนได้แก่
- ซาร์นิโคลัสที่ 2
- ซาริซาอเล็กซานดรา
- แกรนด์ดัชเชสโอลกา
- แกรนด์ดัชเชสทาเทียน่า
- แกรนด์ดัชเชสมาเรีย
- แกรนด์ดัชเชสอนาสตาเซีย
- เซซาร์เรวิชอเล็กเซย์
- ข้าราชบริพารอีก 4 ที่สละชีวิตไปด้วยกัน
นอกจากนี้ยังมีที่เก็บพระศพของซาร์และซาริซาในราชวงศ์โรมานอฟอีกหลายคนด้วยครับ
ไครเมีย
4. Livadia Palace
Livadia Palace หรือ พระราชวังลิวาเดียเป็นพระราชวังที่ตั้งใกล้กับเมือง Yalta ในดินแดนไครเมีย

พระราชวังแห่งนี้เป็นสถานที่สุดรักแห่งครอบครัวซาร์ ทุกคนจะรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจมากที่ได้เดินทางมาที่นี่ หลังจากถูกคุมขัง ครอบครัวซาร์ทุกคนหวังว่าจะได้รับอนุญาตให้มาพำนักอยู่ที่นี่ตลอดไป ซึ่งแน่นอนว่าความฝันของทุกคนไม่เป็นจริง
ปัจจุบันพระราชวังลิวาเดียเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ อย่างไรก็ดีมันตั้งอยู่ในดินแดนที่มีกรณีพิพาทระหว่างยูเครนและรัสเซียอย่างไครเมีย ทำให้สิ่งอำนวยความสะดวกของชาติตะวันตกไม่สามารถใช้ได้ในดินแดนแห่งนี้ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องอันตรายแล้วไม่มีอะไรที่ต้องกลัวครับ
มอสโก
4. Moscow Kremlin
Moscow Kremlin หรือมอสโกเครมลิน เป็นที่ตั้งของศูนย์กลางการปกครองเมืองมอสโกตั้งแต่ในอดีต ที่นี่มีพระราชวังเครมลิน พระราชวังที่ซาร์นิโคลัสที่ 2 และซาริซาอเล็กซานดราประทับระหว่างที่มาทำพิธีราชาภิเษกที่มอสโก มหาวิหาร Assumption ที่ทั้งสองเข้าไปทำพิธีราชาภิเษก

ไม่เพียงเท่านั้นภายในมอสโกเครมลินยังมี Armoury Chamber ซึ่งเก็บรักษามหามงกุฎและชุดต่างๆ ที่ทั้งสองเคยสวมใส่ในงานราชาภิเษกด้วย
5. The State Central Museum of Contemporary History of Russia
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เคยมีชื่อเก่าว่าพิพิธภัณฑ์แห่งการปฏิวัติ หรือ Museum of Revolution แต่ได้ถูกเปลี่ยนชื่อในเวลาต่อมาเป็นชื่อยาวๆ ด้านบน
ตัวพิพิธภัณฑ์จัดแสดงสิ่งของมากมายที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์การเมืองช่วง 150 ปีล่าสุดของรัสเซียเอาไว้ โดยหนึ่งในของชิ้นสำคัญที่สุดคือ ปืนที่ยูรอฟสกี้และเมดเวเดฟใช้ยิงสังหารทุกคนที่บ้านอิปาตเยฟครับ
อย่างไรก็ดีถ้าคุณเดินทางไป คุณอาจจะไม่เจอปืนกระบอกนี้ก็ได้ เพราะสิ่งของจัดแสดงเปลี่ยนไปได้ตลอดครับ
ทาบอสค์
ทาบอสค์เป็นเมืองเล็กๆ ในไซบีเรีย ครอบครัวซาร์ถูกคุมขังที่บ้านพักของผู้ว่าราชการเมืองเป็นเวลานานหลายเดือน จนกระทั่งถูกพวกบอลเชวิคส่งตัวไปยังเยกาเตรินเบิร์กครับ ที่นี่เป็นสถานที่ที่ข้าราชบริพารเก่าแก่หลายคน อาทิเช่นปิแอร์ กิลเลียต (Pierre Gilliard) ได้เห็นครอบครัวซาร์เป็นครั้งสุดท้ายครับ
6. Governor’s Mansion
ในปัจจุบันบ้านพักของผู้ว่าราชการเมืองที่ครอบครัวซาร์เคยพักอาศัยก็ยังคงสภาพอยู่เหมือนเดิม รัฐบาลรัสเซียได้บูรณะซ่อมแซม ฟื้นคืนบรรยากาศในช่วงปี ค.ศ.1917 ให้กลับมาและเปลี่ยนมันเป็นพิพิธภัณฑ์ของครอบครัวซาร์ไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย ดังนั้นคุณสามารถเข้าชมสถานที่แห่งนี้ได้ครับ

เยกาเตรินเบิร์ก
7. Church of All Saints
Church of All Saints เป็นมหาวิหารที่สร้างขึ้นบนสถานที่ที่เคยเป็นที่ตั้งของบ้านอิปาตเยฟ บ้านที่ทุกคนถูกสังหารในคืนวันที่ 16-17 กรกฎาคม ค.ศ.1918

ปัจจุบันที่นี่เป็นสถานที่แสวงบุญของผู้ที่ศรัทธาในครอบครัวซาร์ทุกคนที่ได้รับสถานะเป็นนักบุญในคริสตจักรออโธดอกซ์ไปแล้ว ในคืนวันที่ 16-17 กรกฎาคม ของทุกปี งานระลึกถึงครอบครัวซาร์จะถูกจัดขึ้น ณ ที่แห่งนี้ และมีผู้เข้าร่วมหลายหมื่นคนเลยทีเดียว
8. Ganina Yama
Ganina Yama เป็นสถานที่ที่พวกบอลเชวิคนำร่างไร้วิญญาณของครอบครัวซาร์มาฝังเอาไว้อย่างลับๆ ร่างของทุกคนอยู่ที่นี่เป็นเวลานานหลายทศวรรษ จนกระทั่งมีการค้นพบและย้ายพระศพที่เหลืออยู่กลับไปยังเซนต์ปีเตอร์สเปิร์ก

ปัจจุบันได้มีการสร้างโบสถ์ขนาดเล็กจำนวน 7 หลังตลอดจนพิพิธภัณฑ์ขึ้นที่นี่ และเปิดให้ผู้แสวงบุญและบุคคลทั่วไปเข้าชมได้ ในคืนวันที่ 16-17 กรกฎาคมของทุกปี มวลชนที่ทำพิธีที่ Church of All Saints เสร็จแล้วจะร่วมเดินเท้าเป็นเวลา 4 ชั่วโมงเพื่อมาทำพิธีระลึกถึงครอบครัวซาร์ที่ Ganina Yama ครับ
ส่งท้าย
สำหรับใครที่อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม ผมได้เขียนบทความ “วันสุดท้ายของราชวงศ์โรมานอฟ” ไว้แล้ว สามารถไปติดตามต่อกันได้ครับ
[sc name=”travelthai” ][/sc]