ประวัติศาสตร์ราชสำนักรัสเซียในสายตาของซานโดร (5): นิกกี้ อลิซ และโศกนาฏกรรม

ราชสำนักรัสเซียในสายตาของซานโดร (5): นิกกี้ อลิซ และโศกนาฏกรรม

ตอนที่ 1 อยู่ที่นี่

ชีวิตหลังแต่งงานของซานโดรและเซเนียดำเนินไปอย่างมีความสุขยิ่ง จนกระทั่งปลายปีนั้น ซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 3 ป่วยหนักและสวรรคตในอ้อมกอดของซาริซามาเรียที่พระราชวังลิวาเดียในไครเมีย

ในวันที่ซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 3 จากไป ทุกคนในห้องล้วนแต่รู้ดีว่าการจากไปของซาร์ผู้มีร่างกายอันบึกบึนผู้นี้มีความหมายอย่างไร อเล็กซานเดอร์เป็นผู้เดียวที่สามารถปกครองรัสเซียได้ภายใต้กำปั้นเหล็ก และเป็นผู้หยุดยั้งสงครามในยุโรปด้วยการใช้อิทธิพลของเขาต่อชาติศัตรู

แต่จักรวรรดิรัสเซียไม่มีเขาอีกต่อไปแล้ว หลังจากที่ร่างไร้วิญญาณของเขานอนหลับอย่างสงบนิ่งอยู่บนโซฟา

การขึ้นครองราชย์ของซาร์นิโคลัสที่ 2 หรือ นิกกี้

นิกกี้

ซานโดรเล่าว่าไม่มีใครทราบถึงความจริงข้อนี้ดีกว่านิโคลัส หรือ นิกกี้ บุตรชายคนโตของซาร์ผู้จากไป ผู้ที่จะต้องสืบบัลลังก์รัสเซียต่อจากบิดา

ในวันที่บิดาของเขาล่วงลับ ซานโดรเล่าว่าเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นนิกกี้ร้องไห้ ดวงตาสีน้ำเงินของเขาเต็มไปด้วยน้ำตา เมื่อไม่สามารถกลั้นได้อีกต่อไป เขาดึงตัวซานโดรไปสวมกอดและร้องไห้ออกมาอย่างมากมาย

นิกกี้รู้แล้วว่าเขาต้องเป็นซาร์ หรือ จักรพรรดิแห่งรัสเซียองค์ต่อไป เขารู้สึกว่าหน้าที่ของซาร์ที่เขาได้รับมันหนักอึ้งและแสนสาหัส เขารู้สึกกลัวจนต้องร้องไห้ออกมา

ซานโดรเล่าว่านิกกี้กล่าวว่า

ซานโดร ฉันควรทำอย่างไรดี อะไรกำลังจะเกิดขึ้นกับฉัน กับนาย กับเซเนีย กับอลิซ กับแม่ และกับรัสเซียทั้งปวง ฉันไม่ควรเตรียมตัวเป็นซาร์ ฉันไม่เคยต้องการจะเป็น ฉันไม่รู้เรื่องการปกครองเลยสักนิดเดียว ฉันไม่รู้แม้กระทั่งวิธีการจะพูดคุยกับรัฐมนตรี นายจะช่วยฉันหรือไม่ ซานโดร

ซานโดรรำพึงในบันทึกความทรงจำของเขาว่า ตัวเขาจะช่วยนิกกี้ได้อย่างไร เขาเป็นแกรนด์ดยุคที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นทหารเรือ และไม่เคยเรียนรู้เรื่องการปกครองเลย ซานโดรจึงพยายามแนะนำให้นิกกี้ขอคำปรึกษากับคนที่เขาคิดว่าน่าจะไว้ใจได้

ณ เวลานั้น ซานโดรอธิบายว่าในใจของตนมีความรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมา มันบอกเขาว่ารัสเซียกำลังเข้าสู่หายนะในไม่ช้า

ซานโดร นิกกี้ และเซเนีย

อลิซ

สำหรับซานโดรแล้ว เขามองว่าการมาของ “อลิซ” (ซาริซาอเล็กซานดรา) คู่หมั้นของนิโคลัสเหมือนกับเป็นปฐมบทของบทละคร เขาใช้คำเปรียบเปรยว่า

จะมีนักเขียนบทละครคนไหนเขียนบทนำของละครโศกนาฏกรรมของซาร์องค์สุดท้ายแห่งรัสเซียได้ดีกว่านี้อีกหรือ

ซานโดรเล่าว่าการแต่งงานของนิกกี้กับอลิซช่างพิลึกกึกกือสิ้นดี งานแต่งงานถูกจัดขึ้นหลังจากที่ซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 3 สวรรคตไม่นาน ดังนั้นแทนที่คู่บ่าวสาวจะได้รับการแสดงความยินดีในช่วงงานแต่งงานและฮันนีมูน ทั้งสองกลับต้องไปที่ต่างๆ เพื่อรับการแสดงความเสียใจจากผู้คนต่างๆ แทน

ประเด็นสำคัญที่ซานโดรยกมาคือ อลิซพูดภาษารัสเซียได้อย่างยากลำบาก หรือพูดไม่คล่อง

แต่เขาเปรียบเทียบให้เห็นว่า ซาริซามาเรีย มารดาของนิโคลัสได้เวลา 17 ปีในการปรับตัว แต่สำหรับอลิซแล้ว เธอไม่ได้เวลาดังกล่าวเลย เวลาที่เธอได้รับสำหรับการเตรียมตัวทั้งหมดคือ 96

96 เดือน? ไม่ใช่

96 วัน? ไม่ใช่อีกนั่นแหละ

คำตอบคือ 96 ชั่วโมง! นั่นเป็นเวลาที่อลิซได้รับสำหรับการเตรียมตัวทั้งเรียนภาษารัสเซียและเรียนรู้ขนบธรรมเนียมอันซับซ้อนในประเทศใหม่ของเธอ

ซานโดรเล่าว่าด้วยเวลาที่น้อย ทำให้อลิซทำผิดพลาดอย่างไม่ควรจะผิดหลายอย่าง สังคมชนชั้นสูงขี้แซะในเซนต์ปีเตอร์สเปิร์กจึงซุบซิบนินทาเธอกันยกใหญ่ ความผิดพลาดเหล่านั้นทำให้อลิซจำฝังใจ หลังจากนั้นเธอจึงหลีกเลี่ยงที่จะเข้างานสังคม

การไม่เข้าสังคมทำให้อลิซไม่เป็นที่นิยมในสังคมเซนต์ปีเตอร์สเปิร์ก พวกชนชั้นสูงชาวรัสเซียนำอลิซไปเปรียบเทียบกับมาเรีย ซาริซาคนก่อน อลิซจึงรู้สึกแย่เข้าไปใหญ่

อลิซ (ซาริซาอเล็กซานดรา)

หายนะที่ทุ่ง Khodynka

เหตุการณ์แรกที่แสดงให้เห็นว่าหายนะกำลังเกิดขึ้นกับราชวงศ์โรมานอฟและรัสเซียในไม่ช้า คือ โศกนาฏกรรมที่ทุ่ง Khodynka อย่างที่ผมได้เคยเขียนเรื่องนี้ไปแล้ว (ตามลิงค์)

ซานโดรเล่าว่าก่อนที่นิกกี้จะออกเดินทางไปทำพิธีราชาภิเษกที่มอสโก เขาเคยถามนิกกี้ว่าแน่ใจแล้วหรือที่จะให้ “อาเซอร์เกย์” เป็นผู้จัดการฝูงชนนับล้านที่จะเข้ามาชมซาร์และซาริซาองค์ใหม่ของพวกเขาที่ทุ่ง Khodynka และเซอร์เกย์รู้หรือไม่ว่างานนี้มันยาก

เหมือนนิโคลัสจะทราบว่า เซอร์เกย์กับซานโดรและพี่น้องไม่ถูกกัน นิโคลัสจึงตอบว่า

แน่นอน เขาทราบนะซานโดร ได้โปรด เป็นธรรมกับอาเซอร์เกย์หน่อยนะ

ซานโดรตอบว่า

ฉันเป็นธรรม นิกกี้ แต่ฉันจำได้ว่าพ่อของนายเคยเป็นกังวลมากกับเรื่องนี้ เขาจัดการรายละเอียดทุกอย่างด้วยตัวเอง มันไม่ง่ายเลยที่จะแจกของขวัญให้กับผู้คนห้าแสนคนที่อัดตัวเองในทุ่งที่ไม่เคยถูกเตรียมการให้รองรับพวกเขา

นิกกี้ยังยืนกรานคำเดิม ซานโดรจึงได้แต่นำตัวเองออกมา

สุดท้ายเรื่องจบลงด้วยหายนะ ผู้คนนับพันเหยียบกันตายจนเสียชีวิตที่ทุ่ง Khodynka

ซานโดรและพี่น้องของเขา โดยเฉพาะแกรนด์ดยุคนิโคลัส พี่ชายคนโตรู้สึกโกรธมาก ทุกคนพยายามเรียกร้องให้นิกกี้ปลดเซอร์เกย์ออกจากตำแหน่งผู้ว่าราชการเมืองมอสโก และยกเลิกการเฉลิมฉลองทั้งหมดเพื่อปลอบประโลมผู้คนที่กำลังเศร้าเสียใจต่อการสูญเสีย

แกรนด์ดยุคนิโคลัส พี่ชายของซานโดรเป็นคนฉลาดและมีความรู้สูงที่สุดในราชวงศ์ เขากังวลทันทีว่าราชวงศ์โรมานอฟจะซ้ำรอยราชวงศ์ Bourbon ของฝรั่งเศส เขาจึงกล่าวกับนิกกี้ว่า

เลือดของผู้คนห้าพันคนจะเป็นรอยด่างในรัชสมัยของนายตลอดกาล นายชุบชีวิตคนตายไม่ได้แต่นายต้องแสดงความเสียใจกับครอบครัวของพวกเขา อย่าให้พวกศัตรูของราชวงศ์กล่าวได้ว่าซาร์หนุ่มกำลังเต้นรำขณะที่ร่างของผู้ใต้ปกครองถูกนำไปที่สุสานคนไร้ญาติ

แกรนด์ดยุคอเล็กซิส หรือ อเล็กเซย์ อเล็กซานดรอวิช (Алексей Александрович) น้องชายอีกคนหนึ่งของซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 3 เข้าขัดขวางและทะเลาะกับแกรนด์ดยุคนิโคลัสอย่างรุนแรงเพื่อช่วยเหลือเซอร์เกย์ อเล็กซิสถึงกับตวาดด่าซานโดรและพี่น้องของเขาว่าเป็นพวกแกรนด์ดยุคที่เป็นผู้ติดตามของ Robespierre นักการเมืองคนสำคัญในการปฏิวัติฝรั่งเศสที่เรียกร้องให้ประหารชีวิตหลุยส์ที่ 16

ผลที่ตามมาคือนิกกี้เลือกที่เชื่อคำแนะนำของอเล็กซิสที่ให้ไปงานเลี้ยงคืนนั้น ผลสุดท้ายนิกกี้โดนชาวรัสเซียจำนวนมากประณามอย่างที่แกรนด์ดยุคนิโคลัสว่าไว้จริงๆ ภาพพจน์ของนิกกี้พังทลาย สัญญาณร้ายของรัชสมัยใหม่ได้เริ่มต้นแล้ว

ตั้งแต่วันนั้น นิกกี้ตกอยู่ในอิทธิพลของแกรนด์ดยุคอเล็กซิส เซอร์เกย์ และวลาดิเมียร์อย่างเต็มตัว ทั้งสามคนนี้มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมสุดโต่ง ซานโดรพยายามจะชี้ให้นิกกี้ฟังเขาและที่ปรึกษาคนอื่นบ้าง แต่ก็ไม่เป็นผล ในทางกลับกันนิกกี้ต่างหากที่เริ่มจะห่างเหินกับซานโดรไปทีละน้อย

ในใจของซานโดรและพี่น้องต่างรู้สึกว่าทุกอย่างเริ่มจะเลวร้ายไปทุกที แต่จะมีอะไรไปกว่ากองเรือที่เขารักถูกกองทัพญี่ปุ่นทำลายสิ้น

เรื่องจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามได้ในตอนหน้าครับ

เรื่องนี้เป็นส่วนเสริมของเรื่อง วันสุดท้ายของราชวงศ์โรมานอฟ

รายชื่อหนังสืออ้างอิงอยู่ ที่นี่

บทความประวัติศาสตร์

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!