ประวัติศาสตร์มหากาพย์ราชวงศ์หลิวซ่ง ตอนที่ 6: กวาดล้างพวกขุนนาง

มหากาพย์ราชวงศ์หลิวซ่ง ตอนที่ 6: กวาดล้างพวกขุนนาง

หลังจากที่กำจัดหลิวอี้ฝูไปแล้ว บัลลังก์หลิวซ่งจึงว่างลง เหล่าขุนนางที่คิดการก่อรัฐประหารทั้งหลายจึงส่งสาส์นไปให้หลิวอี้หลง โอรสองค์ที่สามของซ่งหวู่ตี้มาเป็นฮ่องเต้ หลิวอี้หลงนั้นแต่ไหนแต่ไรมาก็เป็นปัญญาชนที่มีชื่อเสียงทางด้านสติปัญญา ทำให้นี่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของราชวงศ์อย่างไม่ต้องสงสัย

อย่างไรก็ดีหลิวอี้หลงยังลังเลว่าจะนั่งบัลลังก์ดีหรือไม่ เพราะพวกขุนนางเหล่านี้เพิ่งจะสังหารพี่ชายของตนไปถึงสองคน (หลิวอี้เจินถูกลอบสังหารไปด้วยในเวลาไล่เลี่ยกัน) เหล่าที่ปรึกษาของหลิวอี้หลงเองก็เป็นกังวลว่าเจ้านายของตนอาจจะเป็นเหยื่อรายต่อไปของพวกขุนนางก็เป็นได้ แต่หวางหัวที่ปรึกษาคนหนึ่งเสนอให้รับ เพราะพวกขุนนางไม่ได้มีหัวหน้าที่มีความทะเยอทะยานและอิทธิพลเหนือคนอื่น ดังนั้นพวกเขาจะคานอำนาจกันเองเมื่อหลิวอี้หลงขึ้นนั่งบัลลังก์

ที่ปรึกษาคนอื่นได้ฟังข้อเสนอของหวางหัวก็ไม่มีผู้ใดคัดค้าน หลิวอี้หลงจึงรับเป็นฮ่องเต้ของราชวงศ์หลิวซ่งในนาม ซ่งเหวินตี้

ความแค้นในพระทัย

สิ่งหนึ่งที่ซ่งเหวินตี้ไม่เคยลืมก็คือ พวกขุนนางเหล่านี้ได้สังหารพี่ชายของพระองค์ และยังมีอำนาจมากในราชสำนัก ดังนั้นลึกๆ แล้วซ่งเหวินตี้ทรงต้องการกำจัดพวกขุนนางเหล่านี้ให้สิ้นซากไป

แต่เนื่องด้วยเพิ่งจะครองราชย์ใหม่ๆ แถมขุนนางพวกนี้ก็เอาบัลลังก์มาให้พระองค์ด้วย เพราะฉะนั้นซ่งเหวินตี้จึงต้องตามน้ำด้วยการมอบรางวัลให้กับขุนนางเหล่านี้ไปพลางก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สวีเซี่ยนจือและฟู่เลี่ยง ตัวตั้งตัวตีคนสำคัญที่ให้ช่วยกันบริหารราชการไปพลางก่อนระหว่างที่ฮ่องเต้พระองค์ใหม่กำลังเรียนรู้พระราชกิจ

อย่างไรก็ดีซ๋งเหวินตี้เป็นคนเอางานเอาการ และหาโอกาสตัดสินพระทัยเรื่องต่างๆ ทีละน้อย ทำให้ทั้งสวีเซี่ยนจือและฟู่เลี่ยงไม่ระแวงว่าพระองค์จะยึดอำนาจกลับคืน

ผ่านไปหลายเดือน ซ่งเหวินตี้ก็พร้อมแล้วที่จะบริหารราชการแผ่นดินด้วยตนเอง และต้องการให้ขุนนางใหญ่ทั้งสองลดบทบาทของพวกตนลง เพื่อเป็นการแสดงออกทางสัญลักษณ์ ซ่งเหวินตี้ได้เชิญมารดาและภรรยาของหลิวอี้เจิน พี่ชายของพระองค์ที่ถูกพวกขุนนางสังหารกลับเข้ามาในเมืองหลวง และปฏิบัติต่อพวกนางอย่างดี

เจตนารมณ์ของพระองค์ก็คือพวกขุนนางจะได้ทราบว่าพระองค์ไม่เคยลืมสิ่งที่พวกเขาลงมือไป และแสดงออกว่าพวกองค์พร้อมที่จะคิดบัญชีกับพวกเขา ถ้ายังไม่ยอมละทิ้งอำนาจแต่โดยดี

ด้วยแรงกดดันจากฮ่องเต้ ทำให้สวีเซี่ยนจือและฟู่เลี่ยงขอเกษียณอายุตนเองแต่โดยดี ซึ่งซ่งเหวินตี้ก็อนุญาตให้ตามนั้น แต่เรื่องกลับเป็นว่าหลังจากนั้นไม่นาน ขุนนางตระกูลสวีและฟู่คนอื่นๆ กลับมาทูลให้พระองค์พิจารณาใหม่ ทำนองว่าเป็นการกดดันซ่งเหวินตี้กลายๆ ว่าให้คืนตำแหน่งให้กับทั้งสอง

เราไม่ทราบแน่ชัดว่านี่เป็นแผนของสวีเซี่ยนจือหรือฟู่เลี่ยงหรือไม่ที่แสร้งทำเป็นลาออก แล้วส่งญาติของพวกตนไปกดดันฮ่องเต้ให้คืนตำแหน่งให้ตนเองใหม่ ซึ่งเป็นลูกไม้ตื้นๆ ที่ใช้กันบ่อยในหน้าประวัติศาสตร์จีน แต่ที่แน่ๆ ซ่งเหวินตี้พิโรธอย่างหนัก หลังจากนั้นพระองค์ก็ทรงตั้งพระทัยว่าจะไม่อยู่ร่วมโลกกับพวกขุนนางเหล่านี้

ลงมือก่อน

แม้ว่าซ่งเหวินตี้ปรารถนาจะจัดการกับพวกขุนนาง แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะขุนนางใหญ่ทั้งสองได้ป้องกันเอาไว้ล่วงหน้า กล่าวคือพวกเขาได้ส่งเซี่ยฮุ่ย อีกหนึ่งตัวตั้งตัวตีไปเป็นเจ้าเมืองจิงโจว (เกงจิ๋ว) ที่เป็นหัวเมืองใหญ่ ดังนั้นถ้าฮ่องเต้จะได้ไม่ลงมือกับพวกตนง่ายๆ เพราะว่ามีกำลังเมืองจิงโจวคอยสนับสนุนอยู่

แต่ซ่งเหวินตี้นั้นได้ทรงแก้ทางไว้แล้วเรียบร้อย ดังนั้นในช่วงปี ค.ศ.426 พระองค์ได้มีพระบรมราชโองการให้เตรียมทหารเพื่อที่จะยกไปตีราชวงศ์เป่ยเว่ยทางตอนเหนือ แต่ที่จริงแล้วพระองค์จะโปรดให้นำกองทัพกองนี้ยกไปตีเมืองจิงโจวของเซี่ยฮุ่ย ไปพร้อมๆ กับการสังหารฟู่เลี่ยงและสวีเซี่ยนจือ

อย่างไรก็ดีแผนการของพระองค์กลับรั่วไหลไปถึงหูของเซี่ยฮุ่ย ทำให้เซี่ยฮุ่ยเริ่มเตรียมการรับมือกองทัพหลวง ส่วนสวีเซี่ยนจือและฟู่เลี่ยงพยายามจะหนี ซ่งเหวินตี้ไม่มีทางเลือกอื่นจึงต้องสั่งให้ลงมือทันที

พระองค์ประกาศว่าสวีเซี่ยนจือ ฟู่เลี่ยง และเซี่ยฮุ่ยเป็นกบฏมีโทษประหารชีวิต พวกทหารจึงเร่งบุกไปจับสวีเซี่ยนจือและฟู่เลี่ยง สวีเซี่ยนจือนั้นเห็นว่าหนีไม่รอดจึงปลิดชีพตนเอง ส่วนบุตรสองคนนั้นถูกทหารหลวงสังหาร

ฟู่เลี่ยงนั้นถูกจับกุมมาต่อหน้าพระพักตร์ และทูลว่าสิ่งที่พวกตนทำไปก็เป็นไปเพื่อประโยชน์ต่อราชวงศ์ พวกเขากำจัดฮ่องเต้ที่ไม่ได้เรื่อง และยกบัลลังก์ให้กับฮ่องเด้ที่มีสติปัญญาเท่านั้น และข้อหาที่ตนเองได้รับนั้นล้วนแต่ไม่จริงทั้งสิ้น

ซ่งเหวินตี้ทรงเห็นว่าฟู่เลี่ยงเคยต้อนรับพระองค์เป็นอย่างดีเมื่อในอดีต ดังนั้นพระองค์จึงโปรดให้ไว้ชีวิตครอบครัวของฟู่เลี่ยง ส่วนตัวฟู่เลี่ยงนั้นให้ประหารชีวิต เป็นอันจบสิ้นชีวิตของขุนนางใหญ่ที่กุมอำนาจในราชสำนักไปโดยปริยาย

กำจัดเซี่ยฮุ่ย

หลังจากนั้นซ่งเหวินตี้ก็โปรดให้ถันเต้าจี้เป็นแม่ทัพยกไปตีเมืองจิงโจวของเซี่ยฮุ่ย จริงอยู่ว่าถันเต้าจี้เคยอยู่ร่วมกลุ่มรัฐประหาร แต่ซ่งเหวินตี้กลับเข้าพระทัยว่าเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในครั้งนี้จึงให้ถืออาญาสิทธิ์นำกองทัพไปปราบกบฏ

ถันเต้าจี้กับเซี่ยฮุ่ยนั้นเคยรู้ฝีมือกันมาดี เพราะเคยเป็นแม่ทัพของซ่งหวู่ตี้มาทั้งคู่ ดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากันนั้น เซี่ยฮุ่ยจึงหวาดกลัวมาก กองทัพของถันเต้าจี้จึงตีเมืองจิงโจวแตกอย่างรวดเร็ว เซี่ยฮุ่ยกับน้องชายจึงเร่งหนีออกจากเมืองไป แต่เรื่องกลับเป็นมาน้องชายของเซี่ยฮุ่ยเป็นคนอ้วนใหญ่จนไม่สามารถขี่ม้าได้ ท้ายที่สุดทั้งสองจึงถูกจับกุมได้โดยละม่อม

ซ่งเหวินตี้โปรดให้ลงอาญาเซี่ยฮุ่ยด้วยการให้ประหารชีวิตสมาชิกครอบครัวที่เป็นชายทั้งหมด หลังจากนั้นกลุ่มก้อนขุนนางที่เป็นปฏิปักษ์ต่อพระองค์ก็สิ้นชื่อ อำนาจทุกองคาพยพในราชสำนักอยู่ในกำมือของซ่งเหวินตี้โดยสมบูรณ์

ตอนยาวล่าสุด

แนะนำ:จ้านกว๋อ

บทความอื่นๆ

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!