ซีรีส์เกาหลีเป็นที่นิยมในประเทศไทยมานับสิบปีแล้ว หนึ่งในซีรีส์เกาหลีอย่าง “แดจังกึม” เป็นซีรีส์แนว “พีเรียด” แบบเกาหลีที่นำกระแสเกาหลีฟีเวอร์เข้ามาในประเทศไทย หลังจากนั้นซีรีส์ลักษณะย้อนยุคของเกาหลีเรื่องอื่นๆ ก็เป็นที่นิยมของคนไทยจำนวนหนึ่งตามแดจังกึมไปด้วย
อย่างไรก็ตามมีซีรีส์เกาหลีย้อนยุคบางเรื่องที่อ้างอิงประวัติศาสตร์เกาหลีจริงๆ และทำได้ดีระดับหนึ่งในการเล่าเรื่องเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในมุมมองใหม่ จะมีเรื่องใดบ้าง ไปดูกันเลยดีกว่า
1. Empress Myeongseong (2001)
Empress Myeongseong (명성황후) เป็นซีรีส์เกาหลีที่ลงจอในช่อง KBS2 และเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่มีเรตติ้งสูงมากของปีนั้น ทำให้ทางช่องเพิ่มตอนจาก 81 ตอนเป็น 124 ตอน
ตัวซีรีส์เล่าถึงชีวิตของจักรพรรดินีพระองค์สุดท้ายของเกาหลีก่อนที่โชซอน ราชวงศ์สุดท้ายของเกาหลีจะตกเป็นส่วนหนึ่งของญี่ปุ่น พระนางชื่อว่า Empress Myeongseong หรือเป็นที่เรียกขานกันว่าราชินีมิน
ตลอดชีวิตของพระนางต้องต่อสู้กับความพยายามของญี่ปุ่นที่จะเขมือบโชซอนให้เป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิ พระนางพยายามปฏิรูปประเทศและใช้การทูตต่างๆ นาๆ เพื่อสกัดกั้นญี่ปุ่น ด้วยเหตุนี้พระนางจึงเป็นอุปสรรคสำคัญที่ญี่ปุ่นต้องการจะกำจัดทิ้งเสีย
แม้ซีรีส์เรื่องนี้จะการแต่งเติมหรือสร้างดราม่าตามสไตล์ของเกาหลี แต่แก่นสำคัญของเรื่องที่เป็นประวัติศาสตร์ยังอยู่ครบ และยังเป็นซีรีส์เกาหลีที่สนุกมากๆ ด้วย
ซีรีส์เรื่องนี้นำแสดงโดย Lee Mi-yeon ผู้รับบทเป็น Empress Myeongseong ใน 81 ตอนแรก แต่เปลี่ยนเป็น Choi Myung-gil ในตอนที่ 82-124 เพราะทางผู้จัดไม่สามารถตกลงเรื่องการต่อสัญญากับ Lee Mi-yeon ได้ ทำให้ต้องนำนักแสดงคนใหม่มาสวมบทบาทของเธอ ด้วยเหตุนี้นักแสดงที่แสดงเป็น Empress Myeongseong จึงมีสองคน
2. Immortal Admiral Yi Sun-Sin (2004)
Immortal Admiral Yi Sun-Sin (불멸의 이순신) เป็นซีรีส์เกาหลีจำนวน 104 ตอนของช่อง KBS1 และเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สนุกและเป็นที่นิยมสูงมากในปีนั้น
ซีรีส์เล่าถึงประวัติของอี ซุนซิน แม่ทัพเรือแห่งโชซอนผู้ทำหน้าที่ปกป้องท้องทะเลเกาหลีในช่วงสงครามอิมจิน (Imjin War) กับญี่ปุ่น อี ซุนซินเป็นแม่ทัพผู้แข็งแกร่ง ผู้ไม่เคยพ่ายแพ้ต่อกองทัพญี่ปุ่นเลยสักครั้งเดียวในชีวิตของเขา อี ซุนซินมีส่วนสำคัญยิ่งในการทำให้กองทัพญี่ปุ่นรุกรานเกาหลีไม่สำเร็จ
แม้ว่ารายละเอียดปลีกย่อยในเรื่องจะไม่ตรงกับประวัติศาสตร์ 100% ซึ่งอาจจะเกิดจากการตีความใหม่ แต่แก่นและเหตุการณ์สำคัญยังคงอยู่ครบ ทำให้เรื่องนี้เป็นซีรีส์เกาหลีที่สนุกและเล่าถึงประวัติศาสตร์ช่วงนั้นได้เป็นอย่างดี
3. Jumong (2006)
Jumong (삼한지-주몽편) หรือชื่อภาษาไทยว่า จูมง มหาบุรุษกู้บัลลังก์ เป็นซีรีส์พีเรียดของเกาหลีอีกเรื่องนึงที่สนุกและแฝงไปด้วยเกร็ดต่างๆ ของประวัติศาสตร์เกาหลีในช่วงนั้น
ซีรีส์จำนวน 81 ตอนเรื่องนี้นำเสนอชีวิตของจูมงในรูปแบบประวัติศาสตร์ แทนที่จะนำเสนอในลักษณะตำนานและปาฏิหาริย์แบบที่ปรากฏในตำนานและหลักฐานต่างๆ สิ่งสำคัญในชีวิตของจูมงแบบที่พงศาวดารและตำนานว่าไว้ยังอยู่ครบ แม้ว่าจะมีการแต่งเติมมากพอสมควรก็ตาม
เรื่องมีอยู่ว่า จูมง (นำแสดงโดยซองอิลกุก) เป็นบุตรชายของแฮโมซู แต่เขาถูกนำไปเลี้ยงโดยกษัตริย์กึมวาราวกับว่าเป็นบุตรแท้ๆคนหนึ่ง เดิมทีจูมงเป็นคนที่ไม่มีความสามารถใดๆ เลย แต่จูมงได้เปลี่ยนแปลงตนเองหลังจากที่ได้พบกับพ่อแท้ๆ ของตน ความเก่งกล้าของจูมงทำให้พี่ชายสองคนรู้สึกอิจฉาและต้องการจะทำร้าย จูมงจึงหนีออกจากแคว้น และได้สถาปนาแคว้นใหม่ขึ้นนามว่า “โกคูรยอ” (Goguryeo)
ดังนั้นชื่อในภาษาไทยของจูมงจึงไม่ตรงกับเนื้อเรื่อง เพราะจูมงไม่ได้กู้บัลลังก์อะไร แต่จูมงเป็นปฐมกษัตริย์ ผู้สร้างแคว้นใหม่ต่างหาก
เรื่องนี้เป็นที่นิยมมากไม่ต่างอะไรกับ Empress Myeongseong แต่ที่น่าแปลกคือมันเป็นที่นิยมมากในประเทศในตะวันออกกลางอย่างอิหร่าน ด้วยเรตติ้งระดับ 80%-90% ทำให้ซองอิลกุกกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ในอิหร่านไปโดยปริยาย
4. Dae Jo-Yeong (2006)
Dae Jo-Yeong (대조영) เป็นซีรีส์ที่ผมชอบเป็นพิเศษ (ชอบมากกว่าจูมง) เพราะความสนุกและเล่าถึงเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์เกาหลีได้ดีในระดับหนึ่ง และเป็นหนึ่งในซีรีส์เรื่องที่ดีที่สุดที่เกี่ยวกับการล่มสลายของอาณาจักรโกคูรยอที่จูมงสร้างขึ้น
ซีรีส์เล่าถึงชีวิตของแดโจยอง (แสดงโดย Choi Soo-Jong) แม่ทัพและวีรบุรุษของชาวโกคูรยอที่มีตัวตนจริงในหน้าประวัติศาสตร์เกาหลี แดโจยองรับราชการอยู่ในช่วงวาระสุดท้ายของอาณาจักรโกคูรยอที่เคยยิ่งใหญ่ ตลอดชีวิตของเขา แดโจยองต้องต่อสู้กับการคุกคามของราชวงศ์ถังของจีนที่เข้ารุกรานโกคูรยอหลายต่อหลายครั้ง แต่ทว่าไม่ว่าเขาจะสู้สุดกำลังเพียงใด เขาก็ไม่อาจฝืนชะตากรรมไปได้
เมื่ออาณาจักรของเขาล่มสลาย สิ่งที่แดโจยองต้องการคือการสร้างอาณาจักรใหม่ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งเพื่อแทนที่โกคูรยอที่สูญสิ้นไปแล้ว
เช่นเดียวกับเรื่องอื่นๆ ในเรื่องมีการแต่งเติมเรื่องหลายอย่างให้มีความดราม่ามากขึ้น สนุกมากขึ้น แต่โดยรวมแล้ว เหตุการณ์สำคัญทั้งหลายยังอยู่ครบ ในส่วนที่ประวัติศาสตร์ไม่ได้อธิบายไว้ ผู้เขียนบทก็แต่งเพิ่มเข้าไปในลักษณะที่ผมมองว่า make sense ทำให้เรื่องนี้กลมกล่อมมาก แต่สำหรับท่านที่ชอบเรื่องรักๆใคร่ๆ อาจจะผิดหวังเสียหน่อย เพราะเรื่องนี้ไม่เน้นเท่าไรเลย
ในเกาหลี เรื่องนี้ประสบความสำเร็จมากแม้ว่าจะสู้จูมงในเรื่องเรตติ้งไม่ได้ก็ตาม สถานี KBS1 ได้ขยายจำนวนตอนจาก 100 ตอนเป็น 134 ตอน เพื่อตอบรับกับกระแสที่ดีเยี่ยม
5. Dong Yi (2010)
Dong Yi (동이) หรือ ทงอี จอมนางคู่บัลลังก์ เป็นซีรีส์เกาหลีจำนวน 60 ตอนของช่อง KBS เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ฮิตมากทั่วทั้งทวีปเอเชีย ทำให้เรื่องนี้เป็นซีรีส์แนวพีเรียดอีกเรื่องหนึ่งที่ควรดูแน่นอนครับ
ทงอี (แสดงโดย ฮัน ฮโยจู) เป็นซีรีส์เกาหลีที่สร้างขึ้นโดยอ้างอิงจากชีวิตของ Choi Suk-bin มเหสีคนหนึ่งของกษัตริย์ซุกจอง (Sukjong) แห่งราชวงศ์โชซอน เธอไต่เต้าจากการเป็นนางกำนัลระดับล่างจนได้เป็นมเหสีในเวลาต่อมา ช่วงเวลาที่เธออยู่ในวัง เธออยู่ฝั่งราชินี Inhyeon ในการต่อกรกับพระสนม Jang Hui-bin
เช่นเดียวกับเรื่องอื่นๆ ทงอีไม่ได้เดินเรื่องตามประวัติศาสตร์ทุกกระเบียดนิ้ว แต่เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นกับ Choi Suk-bin ล้วนแต่ถูกแสดงออกมาได้ดีระดับหนึ่งจากซีรีส์เรื่องนี้ สำหรับท่านที่ชอบเรื่องเกี่ยวกับการเมืองฝ่ายในจะชอบเรื่องนี้มากเลยทีเดียว