The Met หรือ The Metropolitan Museum of Art เป็นพิพิธภัณฑ์ระดับโลกที่ตั้งอยู่ใจกลางมหานครนิวยอร์ก (New York) ประเทศสหรัฐอเมริกา โบราณวัตถุที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์มีมากกว่า 2 ล้านชิ้น The Met จึงเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากเป็นอันดับสามของโลกด้วย
ด้วยสิ่งของจัดแสดงจำนวนมากมายเช่นนี้ ทำให้พิพิธภัณฑ์ต้องเลือกจัดแสดงโบราณวัตถุหรืองานศิลปะเป็นบางชิ้นเท่านั้น แต่โดยรวมแล้วมันก็มากเกินไปที่คุณจะดูครบทั้งหมดอยู่ดี
ดังนั้นในโพสนี้ ผมจะมาชี้เป้าให้ทุกคนได้ทราบว่า “ไฮไลท์” ที่ควรดูในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีอะไรบ้าง
ข้อควรทราบ: เนื่องจากสิ่งของจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์จะเปลี่ยนไปมา เพราะฉะนั้นโปรดอย่างุนงงถ้าเดินไปตามที่ผมแนะนำแล้ว สิ่งของที่ว่าไม่ได้อยู่ที่นั่น ขอให้คุณข้ามไปลำดับถัดไปเลยครับ
รู้จัก The Met ก่อนไป
The Met เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีสามแห่งด้วยกันได้แก่ The Met Fifth Avenue, The Met Breuer และ The Met Cloisters แต่พิพิธภัณฑ์หลักคือ The Met Fifth Avenue ครับ
The Met Fifth Avenue จะแบ่งสิ่งจัดแสดงออกเป็น 19 สาขาด้วยกัน ซึ่งจะครอบคลุมวงการประวัติศาสตร์และศิลปะทั้งหมดของมนุษยชาติเลยครับ
ระหว่างที่เดินดูสิ่งของต่างๆ คุณห้ามเข้าไปใกล้สิ่งของจัดแสดงมากเกินไป ถ้าเข้าไปใกล้เกินไป ผู้ดูแลอาจจะเดินเข้ามาตักเตือนได้ครับ นอกจากนี้ระหว่างที่คุณเดินไปมา คุณจะพบบางห้องที่มีเก้าอี้ยาวตั้งอยู่กลางห้อง คุณสามารถนั่งเก้าอี้เหล่านี้ได้นะครับ ถ้าเมื่อยก็นั่งเถอะ 555
ก่อนที่จะเข้าไปในด้านในของพิพิธภัณฑ์ ผมแนะนำให้หยิบแผนที่ gallery ของ The Met จากด้านหน้าไปด้วยครับ หรือไม่ก็เข้าไปที่เว็บ maps.metmuseum.org
เอาละ เราไปเริ่มดู Highlight ของ The Met กันเถอะครับ
งานศิลปะ
1. Van Gogh’s Works
The Met มีภาพวาดของ Van Gogh จิตรกรชื่อดังของโลกชาวดัชต์อยู่หลายภาพ ภาพที่คุณควรจะไปชมมีดังต่อไปนี้ครับ
Self-Portrait with a Straw Hat
พิกัด: The Met Fifth Avenue, European Paintings and Sculpture, 2nd Floor, Gallery 825
Self-Portrait with a Straw Hat เป็นผลงานของ Van Gogh รูปนี้คือรูปตัวเขาเองที่ Van Gogh วาดขึ้นมาในปี ค.ศ.1887 โดยอาศัยการมองตัวเองผ่านกระจกอย่างดีที่ซื้อมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
ช่วงที่ Van Gogh วาดรูปนี้เป็นช่วงที่เขาอยู่ในปารีสและกำลังจนสุดๆ แต่ก็ยังหาเงินมาซื้อกระจกอย่างดีเพื่อสร้างงานศิลปะขึ้นมาจนได้
Wheat Field with Cypresses
พิกัด: The Met Fifth Avenue, European Paintings and Sculpture, 2nd Floor, Gallery 822
Wheat Field with Cypresses เป็นอีกผลงานหนึ่งของ Van Gogh ที่เขาวาดขึ้นระหว่างที่ใช้ชีวิตอยู่ที่เมือง Saint-Rémy ประเทศฝรั่งเศส ภาพนี้เป็นภาพทิวทัศน์ในช่วงฤดูร้อนของเมืองที่เขาพำนักอยู่ Van Gogh ถือว่าผลงานชิ้นนี้เป็นรูปทิวทัศน์ฤดูร้อนที่ดีที่สุดรูปหนึ่งที่เขาเคยวาดขึ้นมาเลยทีเดียว สีสันของภาพฉูดฉาด และมีการตัดกันของสีต่างๆ อย่างสวยงามยิ่ง
2. Picasso’s Works
At the Lapin Agile
พิกัด: The Met Fifth Avenue, European Paintings and Sculpture, 2nd Floor, Gallery 823
At the Lapin Agile เป็นผลงานของ Pablo Picasso ศิลปินชื่อดังชาวสเปน ชายที่อยู่ในภาพคือตัวของ Picasso เองที่แต่งกายเป็นตัวตลกในการแสดง ส่วนผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ คือคนรักของเขา ส่วนผู้ว่าจ้างให้เขาวาดภาพนี้คือคนที่เล่นกีตาร์อยู่ข้างหลัง รูปนี้เป็นการแสดงชีวิตความเป็นอยู่ในกรุงปารีสในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20
เนื่องจากภาพติดลิขสิทธิ์ คุณสามารถดูได้ที่นี่
Gertrude Stein
พิกัด: The Met Fifth Avenue, Robert Lehman Collection, 1nd Floor, Gallery 961
Gertrude Stein เป็นนักเขียนหญิงชาวอเมริกันผู้เป็นเพื่อนและผู้สนับสนุนของ Picasso ถ้าคุณสังเกตที่ใบหน้าของเธอ คุณจะพบว่าเธอเหมือนกับใส่หน้ากากอยู่ และมีเปลือกตาที่หนามาก เชื่อกันว่าที่ Picasso วาดเธออกมาเช่นนี้เพราะได้รับแรงบันดาลใจจากรูปปั้นจากไอบีเรียนที่เขากำลังสนใจอยู่ในช่วงนั้นครับ
เนื่องจากภาพติดลิขสิทธิ์ คุณสามารถดูได้ที่นี่
3. Aristotle with A Bust of Homer
พิกัด: The Met Fifth Avenue, Exhibition Galleries, Floor G, Gallery 964
Aristotle with A Bust of Homer เป็นผลงานของ Rembrandt ศิลปินชาวดัชต์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในช่วงยุคศตวรรษที่ 17 รูปนี้เป็นรูปที่สุดยอดที่สุดรูปหนึ่งที่ The Met มีในคลังเลยก็ว่าได้ครับ
ชายที่อยู่ในรูปภาพคือ อริสโตเติล นักปราชญ์กรีกผู้เป็นอาจารย์ของอเล็กซานเดอร์มหาราช ตัวอริสโตเติลสวมใส่เครื่องประดับทองคำคล้ายสร้อยที่ยาวลงมาถึงหัวไหล่ มือขวาของอริสโตเติลนั้นแตะไปบนรูปปั้นของโฮเมอร์ ผู้แต่งมหากาพย์อิเลียดและโอดิสซีราวกับว่ากำลังประเมินความสำเร็จของตนเองเทียบกับโฮเมอร์อยู่
ตัวภาพจะใช้สีดำเยอะมาก ทำให้ดูมืดๆ ทึมๆ ซึ่งรูปแบบการวาดภาพเช่นนี้เป็นลายเซ็นของ Rembrandt เลยครับ
4. The Death of Socrates
พิกัด: The Met Fifth Avenue, European Paintings 1250-1800 , 2nd Floor, Gallery 631
The Death of Socrates เป็นผลงานของ Jacques Louis David ศิลปินชาวฝรั่งเศส ภาพนี้เล่าเรื่องวาระสุดท้ายของ Socrates นักปรัชญากรีกชื่อดังที่ถูกชาวเอเธนส์ประหารชีวิตด้วยการดื่มยาพิษ สังเกตว่า Socrates กำลังเอ่ยปากอธิบายความเชื่อของตนอยู่ (เห็นได้จากท่าทางมือของเขา) ในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งกำลังจะหยิบแก้วยาพิษ
5. Interior of Saint Peter’s, Rome
พิกัด: ยังไม่จัดแสดงในปี ค.ศ.2020 แต่ผลงานที่คล้ายกันและวาดโดยจิตรกรคนเดียวกันจัดแสดงอยู่ที่ The Met Fifth Avenue, England, France, and Italy in the Eighteenth Century , 2nd Floor, Gallery 629
Interior of Saint Peter’s, Rome เป็นผลงานของจิตรกรของ Giovanni Paolo Panini ที่วาดภาพจำลองด้านในของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในนครวาติกัน ในช่วงศตวรรษที่ 18 ซึ่ง Panini วาดออกมาได้อย่างละเอียดและสวยงามมากครับ
6. The Denial of Saint Peter
พิกัด: The Met Fifth Avenue, Italy in the Seventeenth Century , 2nd Floor, Gallery 637
The Denial of Saint Peter เป็นรูปภาพที่วาดโดย Caravaggio ศิลปินชาวอิตาเลียนที่เล่าถึงเหตุการณ์ที่นักบุญปีเตอร์ถูกทหารโรมันใส่ความถึงสามครั้งว่าเป็นสานุศิษย์ของพระเยซู แต่ปีเตอร์ก็ปฏิเสธทุกครั้ง สังเกตว่าในภาพนี้บรรยากาศจะมืดๆ ทึมๆ เป็นส่วนใหญ่ แต่จะมีจุดสว่างไม่กี่จุดเท่านั้น เชื่อกันว่า Caravaggio ตั้งใจทำให้เกิดการ contrast กันระหว่างความสว่างและความมืดครับ
7. Madonna and Child Enthroned with Saints
พิกัด: The Met Fifth Avenue, Félix Vallotton: Painter of Disquiet, 1st Floor, Gallery 962
Madonna and Child Enthroned with Saints เป็นผลงานของราฟาเอล หนึ่งในสามมหาจิตรกรแห่งยุค Renaissance ราฟาเอลได้วาดรูปนี้ในปี ค.ศ.1504 ในอดีตมันเคยตั้งอยู่ในอารามแม่ชีแห่งหนึ่งในเมือง Perugia ประเทศอิตาลี ก่อนที่มันจะถูกขายในช่วงศตวรรษที่ 17
ถ้าสังเกตดีๆ แล้วรูปนี้มีจุดสำคัญที่ต่างจากภาพ Madonna and Child อื่นๆ อยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือตัวเด็ก (พระเยซู) จะสวมใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย ในขณะที่รูปอื่นๆ ส่วนมากแล้วตัวเด็กจะอยู่ในชุดวันเกิดทั้งสิ้น
โบราณวัตถุ
1. Bodhisattva Avalokiteshvara in Water Moon Form (Shuiyue Guanyin)
พิกัด: The Met Fifth Avenue, Chinese Buddhist Art , 2nd Floor, Gallery 208
Bodhisattva Avalokiteshvara in Water Moon Form เป็นรูปปั้นพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร (หรือกวนอิม) หรือที่คนไทยรู้จักกันดีในนาม “เจ้าแม่กวนอิม” แต่ทว่าร่างขององค์พระโพธิสัตว์กลับไม่ได้เป็นร่างหญิง แต่เป็นร่าง “ชาย” ที่หาชมได้ยาก
ตัวรูปปั้นอยู่ที่ปางที่เรียกว่าปาง “Shuiyue” หรือ พระจันทร์น้ำ ซึ่งสื่อถึงดินแดนสุขาวดี (Pure Land) ดินแดนแห่งนี้เป็นดินแดนที่องค์พระโพธิสัตว์จะนำเหล่าสานุศิษย์ที่เคารพและศรัทธาไปสู่มรรคผลนิพพานในที่สุด ชาวจีนเชื่อว่าสำหรับพระโพธิสัตว์กวนอิมแล้ว ดินแดนดังกล่าวคือเกาะผู่โถวซานนั่นเอง
รูปปั้นนี้สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 11 หรือในสมัยราชวงศ์เหลียวของชาวชี่ตันที่ปกครองภาคเหนือของจีนครับ
รายรอบโบราณวัตถุชิ้นนี้มีรูปปั้นพระโพธิสัตว์อื่นๆจำนวนมาก เช่นเดียวกับเทวรูปในศาสนาพราหมณ์-ฮินดูด้วย ทั้งหมดเก่าแก่มากอย่างน้อย 1,000 ปีขึ้นไปและสวยด้วยครับ ผมจึงแนะนำอย่างยิ่งให้เดินห้องนี้และบริเวณ Asian Art ทั้งหมดเลยครับ
2. The Sphinx of Hatshepsut
พิกัด: The Met Fifth Avenue, The Temple of Dendur in The Sackler Wing , 1st Floor, Gallery 131
The Sphinx of Hatshepsut เป็นโบราณวัตถุที่มีที่มาจากอียิปต์ ตัวสฟิงซ์อายุมากกว่า 3,000 ปีย้อนไปถึงสมัยฟาโรห์หญิง Hatshepsut แห่งอียิปต์โบราณ ใบหน้าของสฟิงซ์นี้ทำขึ้นโดยใช้ใบหน้าของฟาโรห์หญิงผู้โด่งดังเป็นแบบครับ
เดิมทีสฟิงซ์ตัวนี้ และสฟิงซ์อื่นๆ อีก 5 ตัว ตั้งอยู่ที่สุสานของเธอที่ Deir el-Bahri ที่อียิปต์ แต่หลังจาก Hatshepsut สวรรคต ฟาโรห์ Thutmose ที่ 3 ได้สั่งให้ทำลายพวกมันทิ้งทั้งหมด แต่โชคเป็นของมนุษยชาติที่ซากของมันกระจัดกระจายอยู่ในสุสานโดยไม่มีใครไปแตะต้อง ทำให้นักโบราณคดีสามารถประกอบมันขึ้นมาใหม่ได้สำเร็จ จนกลายเป็นสฟิงซ์ตัวนี้อย่างที่เราเห็นที่ The Met นั่นเองครับ
3. The Temple of Dendur
พิกัด: The Met Fifth Avenue, The Temple of Dendur in The Sackler Wing , 1st Floor, Gallery 131
ภายในพิพิธภัณฑ์ The Met แห่งนี้ เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า Temple of Dendur ของอารยธรรมอียิปต์เป็นหนึ่งในสิ่งจัดแสดงที่ทรงคุณค่าที่สุด วัดแห่งนี้เป็นศาสนสถานที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพีไอซิส แต่ด้วยความที่มันสร้างขึ้นในช่วงที่อียิปต์เป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมันไปแล้ว คุณจะเห็น Augustus จักรพรรดิพระองค์แรกแห่งโรมในฐานะ “ฟาโรห์” แห่งอียิปต์ในวัดแห่งนี้ด้วย
ภายในวัดขนาดเล็กแห่งนี้ คุณจะพบเห็นรูปของเทพเจ้าในศาสนาอียิปต์เต็มไปหมด และมีอักษร hieroglyphic จารึกไว้ทั่วทั้งผนังเลยครับ
Temple of Dendur เป็นสิ่งที่รัฐบาลอียิปต์มอบให้กับรัฐบาลสหรัฐในปี ค.ศ.1965 เพราะรัฐบาลสหรัฐได้ช่วยเหลือโบราณสถานในอียิปต์หลายแห่งให้พ้นจากน้ำท่วม ตัววัดจึงถูกแยกส่วนเป็นชิ้นๆ และนำใส่กล่องจำนวน 660 กล่องเพื่อขนขึ้นเรือมายังสหรัฐอเมริกา เมื่อถึงแล้วก็นำมาประกอบใหม่ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้นั่นเองครับ
นอกเหนือจากวัดแห่งนี้แล้ว โซนอียิปต์โบราณของ The Met ยังมีอะไรให้ดูอีกหลายแห่ง รวมไปถึงมัมมี่และโลงศพฟาโรห์ด้วย ดังนั้นผมแนะนำให้เดินดูให้รอบเหมือนกันครับ
4. Iamassu
พิกัด: The Met Fifth Avenue, The Assyrian Royal Court , 2nd Floor, Gallery 401
Iamassu เป็นรูปปั้นสิงโตหน้าคนที่มีปีกแห่งอารยธรรม Assyrian ในเมโสโปเตเมีย ในอดีตกาลมันเคยตั้งอยู่ในพระราชวังของกษัตริย์ Ashurnasirpal ที่เมือง Nimrud และเป็นสิ่งที่แสดงถึงอำนาจและความยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิ รวมไปถึงปกป้องอาณาจักรจากเหล่าศัตรูร้ายด้วย
ถ้าคุณเข้าไปดูใกล้ๆ คุณจะพบว่าจริงๆ แล้ว Iamassu มีห้าขาด้วยกัน การที่มันมี 5 ขาช่วยทำให้คุณจะเห็นมันยืนตัวตรงอย่างแข็งแกร่งเวลาคุณมองจากข้างหน้า และถ้าคุณมองจากด้านข้างจะดูเหมือนว่ามันกำลังวิ่งอยู่ครับ
5. Marble Bust of Caligula
พิกัด: The Met Fifth Avenue, Roman Sculpture Court , 1st Floor, Gallery 162
Marble Bust of Caligula เป็นรูปปั้นส่วนหัวของจักรพรรดิคาลิกูล่า (Caligula) จักรพรรดิบ้าระห่ำแห่งโรม ซึ่งศิลปินได้แสดงถึงความเย่อหยิ่งและความโหดร้ายของคาลิกูล่าไว้ในรูปปั้นนี้ด้วย โปรดสังเกตที่การหันหน้าของเขาที่ดูเหมือนจะมั่นใจสุดๆ และริมฝีปากบางเฉียบที่แสดงถึงความดุร้ายเฉียบขาด
ผมได้ยกรูปปั้นของคาลิกูล่านี้เป็นตัวอย่างเล็กๆ ของ collection รูปปั้นกรีก-โรมันที่เป็นไฮไลท์ของ The Met เท่านั้น ถ้าเป็นไปได้แนะนำให้เดินดูทั้งโซนเลยครับ
ส่งท้าย
นอกเหนือจากไฮไลท์ที่ผมแนะนำไปแล้ว ผมแนะนำให้เดินในโซนต่อไปนี้ครับ
ชั้น 1
- Egyptian Art
- Modern and Contemporary Art
- Greek and Roman Art
ชั้น 2
- European Paintings, 1250-1800
- Modern and Contemporary Art
- 19th- and Early 20th Century European Paintings and Sculpture
- Asian Art
- The American Wing
โดยรวมแล้ว คุณสามารถอยู่ในพิพิธภัณฑ์ได้ทั้งวันเลยครับ ซึ่งในพิพิธภัณฑ์ก็มีอาหารและเครื่องดื่มอย่างง่ายๆ ขาย ครับ