กรุงโซล (Seoul) เมืองหลวงของเกาหลีใต้เป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีอาหารมากมายให้เลือกสรร โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารเกาหลีหลากหลายรูปแบบตั้งแต่แบบชาววังยุคโชซอน ไปจนถึงไก่ทอดเกาหลี และอาหารเกาหลีสไตล์ฟิวชั่นอื่นๆ
ดังนั้นถ้าคุณเดินทางมาเยี่ยมเยือนโซลแล้ว คุณก็ไม่ควรที่จะพลาดลิ้มลองอาหารเกาหลีแบบแท้ๆ สักครั้งหนึ่งครับ ซึ่งในโพสนี้ผมจะมาแนะนำย่านที่น่าสนใจต่อการไปหาร้านอาหารครับ
ข้อควรทราบเกี่ยวกับการหาร้านอาหาร
หลายคนอาจจะอยากตามรอยรีวิวหรือคลิปวิดีโอของคนไทยที่เคยไปกินที่ร้านนั้นๆ มาแล้วก่อนหน้านี้ ตอนที่เดินทางไปเที่ยวโซล ผมก็พยายามทำแบบนี้เช่นเดียวกัน แต่ผมต้องขอเตือนไว้ล่วงหน้าเลยว่าอาจจะไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะสาเหตุดังต่อไปนี้
- ร้านปิดกิจการไปแล้วจากสถานการณ์โรคระบาด, หมดสัญญาเช่า, และสาเหตุอื่นๆ
- ร้านย้ายไปอีกที่หนึ่ง ทำให้หาไม่เจอ
- กรุงโซลมีตรอกซอกซอยมาก ทำให้การเดินทางไปที่ร้านซับซ้อนเกินไป
- ร้านอยู่ไกลจากโรงแรมของคุณในโซลเกินไป
- เวลาเปิดปิดเปลี่ยนไปจากที่รีวิว
ดังนั้นการตามรีวิวไปอาจจะทำให้คุณเสียเวลาไปนับชั่วโมงเลยทีเดียว แถมบางครั้งไปตามรอยก็พบว่ารสชาติอาหารของร้านนั้นไม่ได้ดีอย่างที่คิดอีกด้วย
ผมจึงมองว่าถ้าจะแนะนำ ผมขอเลือกเป็นย่านๆ ไปเลยดีกว่า เมื่อคุณไปถึงย่านนั้นๆ แล้ว คุณถึงค่อยใช้ Search Engine อย่าง Google/ Naver หรือใช้ Tripadvisor เปิดดูว่าร้านไหนน่าลิ้มลอง ถ้าพออ่าน/พิมพ์ภาษาเกาหลีได้หรือว่าที่หน้าร้านมีภาษาอังกฤษก็ลอง search ชื่อร้านดูก็จะมีรีวิวขึ้นมาครับ
อย่างไรก็ดี สมมติว่าถ้าคุณขี้เกียจจริงๆ ก็ใช้สัญชาตญาณดูว่าร้านไหนคนแน่นหรือว่าคนรอเยอะก็ได้ครับ (ผมก็ทำบ่อย 555)
1. คาโรซูกิล (Garosu-gil)
คาโรซูกิล (Garosu-gil) เป็นย่านย่อยที่เป็นส่วนหนึ่งของเขตกังนัม และยังใกล้กับเขตโรงพยาบาลและคลินิกศัลยกรรมจำนวนมาก ภายในย่านประกอบด้วยร้านอาหารมากมาย จากที่ผมได้เห็นมามีตั้งแต่ร้านเนื้อย่างเกาหลี ร้านอาหารเกาหลีแบบดั้งเดิม อาหารฟิวชั่น ฟาสต์ฟู้ด ของหวาน ร้านอาหารตะวันตก ร้านกาแฟ และอื่นๆ อีกมากมายครับ
สำหรับเรื่องรสชาติอาหารนี่ ผมได้ลองไปประมาณ 10 ร้านด้วยกัน มีตั้งแต่อร่อยมาก อร่อย เฉย ไปจนถึงร้านทั่วไปในไทยอร่อยกว่าเยอะครับ ดังนั้นโปรดอย่าได้คาดหวังว่าจะสุดยอดทุกร้าน ส่วนราคาก็ถือว่าแรงพอสมควร แต่ไม่ได้แรงจนกระเป๋าฉีกเหมือนบางย่านครับ
โดยรวมแล้วผมจึงมองว่าที่นี่เป็นย่านที่คุณสามารถฝากท้องได้สบายๆ ในกรุงโซล ถ้าคุณพักในโรงแรมที่เขตกังนัม แล้วหาอะไรกินไม่ได้ ผมแนะนำให้มาที่นี่เลยครับ เพราะนั่งรถไฟใต้ดินมากี่สถานีเท่านั้นเอง วิธีการเดินทางก็แค่ลงสถานี Sinsa ครับ
อย่างไรก็ดีนอกเหนือจากร้านอาหารแล้ว ย่านคาโรซูกิลถือว่าเป็นถนนคนเดินที่ดี เพราะมีการปลูกต้นไม้ (น่าจะต้นแปะก๊วย) เรียงรายไปเป็นทางยาว หนุ่มสาวชาวเกาหลีเองก็มักจะมาเดินเล่นหรือเดทกันที่นี่ด้วยครับ
2. กังนัม (Gangnam)
กังนัมเป็นย่านที่อยู่ในเขตชื่อเดียวกัน ตัวย่านถือเป็นย่านเศรษฐกิจ ดังนั้นจะมีคนวัยทำงานจำนวนมาก ภายในย่านอัดแน่นไปด้วยร้านอาหาร ร้านค้า ไปตลอดจนผับ บาร์ต่างๆ เพื่อรองรับพวกเขาครับ
จากที่ได้เดินเที่ยวและลิ้มลองไปเรื่อย ผมว่ารสชาติอาหารก็ไม่ได้ต่างกับร้านที่คาโรซูกิลมากนัก นั่นก็คือมีทั้งอร่อย เฉย และแย่ แต่เรื่องราคานี่แรงกว่าชัดเจนครับ
อย่างไรก็ดีสิ่งหนึ่งที่ผมไม่ค่อยชอบตัวย่านนี้เท่าไรคือ กลิ่นบุหรี่แรงมาก แถมตอนที่ผมไปยังเห็นก้นบุหรี่ที่พื้นเต็มไปหมดด้วยครับ ดังนั้นถ้าหาร้านอาหารสำหรับครอบครัวแล้ว ผมมองว่าย่านอื่นน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
สำหรับเรื่องการเดินทางสามารถมาลงสถานีรถไฟกังนัม (Gangnam Station) และเดินไปย่านได้โดยไม่ไกลมากนักครับ
3. อัพกูจอง (Apgujeong)
สมมติว่าถ้าเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาของคุณ ผมแนะนำให้ไปหาของกินอร่อยๆ ที่ย่านอัพกูจองครับ ย่านนี้คือย่าน AAA ของกรุงโซลทั้งในเรื่องความไฮโซและหรูหรา
นอกจากย่านนี้จะมีจุดเด่นอย่าง Galleria Department Store ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าสุดไฮโซแล้ว ย่านนี้ยังเต็มไปด้วยร้านเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายแบบแบรนด์เนมอีกมากมายครับ
ดังนั้นไม่ต้องสงสัยว่าภายในย่านจะมีร้านอาหารที่เปิดโดยเหล่าเชฟดังๆ ของเกาหลีจำนวนมาก แต่ก็มีคาเฟ่และร้านอาหารแบบอื่นๆ ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดีร้านที่โดดเด่นที่สุดเห็นจะเป็นร้านที่ได้ดาวมิชลินอย่างเช่น ร้าน Jungsik, Mingles หรือ Kwansooksoo
ดังนั้นถ้าคุณอยากได้รับสุนทรีย์ภาพทางอาหารอันดับต้นๆ ของประเทศเกาหลีใต้ ย่านอัพกูจองคือตัวเลือกอันดับหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัยเลยครับ
สำหรับการเดินทางก็ไปไม่ยากครับ แค่นั่งรถไฟใต้ดินลงสถานี Apgujeong Station หรือ Apgujeong Rodeo Station เท่านั้นเองครับ หรือถ้าใครเป็นสายเดินแบบผม คุณสามารถเดินจากคาโรซูกิลมายังอัพกูจองได้เช่นกัน
3. เมียงดง (Myeongdong)
เมียงดงเป็นย่านในกรุงโซลที่คนไทยน่าจะคุ้นเคยมากที่สุด ที่นี่มีร้านอาหารอยู่หลายแห่งเช่นเดียวกับร้านขายเสื้อผ้า เครื่องสำอาง และอื่นๆ แต่ก็ซบเซาไปพอสมควร เพราะสถานการณ์โรคระบาดที่กินเวลาสามปีด้วยกัน
เท่าที่ผมจำได้ก็มีตั้งแต่ร้านซีฟู้ดไซส์ยักษ์ ร้านขายจิมดัก (ไก่อบซีอิ้วใส่เส้นแบบเกาหลี) ร้านไก่ทอด ฯลฯ แต่ถ้าเปรียบเทียบกันในเรื่องความหลากหลาย ผมมองว่าย่านอื่นมีตัวเลือกเยอะกว่าครับ
อย่างไรก็ดีย่านเมียงดงก็มี Street Food ของเกาหลีให้ลองชิมด้วย ไม่ว่าจะเป็นของคาวและของหวาน ส่วนรสชาตินั้น โดยส่วนตัวผมมองว่าไม่ได้ว้าวมากถ้าเทียบกับร้านใหญ่ๆ แต่ราคาน่าคบหากว่ามากครับ
การเดินทางไม่ซับซ้อนครับ แค่ลงสถานีรถไฟใต้ดิน Myeongdong เท่านี้ก็ถึงแล้วครับ
4. ฮงแด (Hongdae)
ย่านฮงแด (Hongdae) เป็นย่านที่ผมชอบตัวบรรยากาศ เพราะมีความชิวๆ ของวัยรุ่นอยู่อย่างมาก สาเหตุหลักก็เพราะที่นี่เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยฮงอิก (Hongik University) นั่นเองครับ
สำหรับร้านอาหารก็มีมากมายหลายแบบ ตั้งแต่ร้านอาหารเกาหลีทั่วไป ร้านหมูย่าง/เนื้อย่าง ร้านไก่ทอด คาเฟ่ ร้านขนม ร้านเครื่องดื่ม ไปจนถึงบาร์ต่างๆ ซึ่งที่นี่จะเน้นขายนักศึกษา ดังนั้นค่าอาหารจะไม่แรงเท่ากับย่านอย่างกังนัมครับ ส่วนรสชาติอาหารที่เคยได้ลองก็อร่อยดีสมราคาครับ
ใกล้กับฮงแดมีย่านเล็กๆ ชื่อ Jangchung-Dong ที่นี่มีตรอกที่ขายร้านอาหารเกาหลีที่ขายตีนหมูสูตรดั้งเดิม (เรียกว่า Jokbal) อยู่หลายร้าน บางร้านเปิดมามากกว่า 60 ปีแล้วครับ ใครชอบอาหารสไตล์นี้ก็ไปลองกันได้เลยครับ
จุดเด่นของย่านนี้คือ คุณมีโอกาสที่จะเห็นวัยรุ่นชาวเกาหลีมาแสดงเต้นแบบ K-Pop ให้ชมได้ครับ ซึ่งการแสดงแบบนี้ถือว่าได้รับความนิยมไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะจะมีคนมาจับจองที่นั่งดูดีๆ ตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลยครับ
ส่วนเรื่องการเดินทางก็นั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานี Hongik University Station ครับ
5. อิแทวอน (Itaewon)
อิแทวอน (Itaewon) เป็นย่านที่น่าจะมีความหลากหลายทางอาหารมากที่สุดในโซลก็ว่าได้ เพราะที่นี่เป็นที่ตั้งของชุมชนชาวต่างชาติ ดังนั้นจึงมีร้านอาหารตะวันตกมากมาย เช่นเดียวกับร้านที่ขายอาหารอื่นๆ อย่างเช่นอาหารอินเดีย อาหารฮาลาลเป็นต้นครับ
อย่างไรก็ดีที่นี่ก็ยังมีบาร์และคาเฟ่เช่นเดียวกัน แต่แน่นอนว่าบรรยากาศจะไม่เกาหลีจ๋าเหมือนกับย่านอื่นๆ ในกรุงโซลครับ คุณอาจจะให้ความรู้สึกว่าอยู่อีกประเทศหนึ่ง ดังนั้นอิแทวอนจึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ ถ้าคุณเริ่มเบื่อบรรยากาศแบบเกาหลีหรือว่าอาหารเกาหลีแล้วครับ
6. หมู่บ้านซอแร (Seorae Village)
หมู่บ้านซอแรเป็นหมู่บ้านของชาวฝรั่งเศสที่อาศัยอยู่ในเกาหลีใต้ครับ โดยที่นี่มีประชากรชาวฝรั่งเศสอยู่ประมาณ 600 คน ซึ่งชาวฝรั่งเศสไปที่ใดก็ต้องนำวัฒนธรรมอาหารของตนไปด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย
ดังนั้นที่นี่จึงมีร้านอาหารฝรั่งเศส คาเฟ่ ตลอดจนร้านไวน์คุณภาพดีอยู่หลายร้าน ถ้าคุณจะไปอยู่โซลเป็นเดือน และเริ่มอยากกินอาหารตะวันตกชั้นเยี่ยม โดยที่ราคาไม่แพงเกินไป ที่นี่ก็จัดว่าควรค่าต่อการพิจารณาครับ
7. อินซาดง (Insa-dong)
อินซาดงเป็นย่านที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโซล และมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ อย่างเช่นพระราชวังต่างๆ ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าที่นี่จึงเป็นถิ่นของร้านอาหารเกาหลีดั้งเดิมมากมาย รวมไปถึงร้านชา ร้านอาหารมังสวิรัติ ร้านของหวาน ซึ่งบางร้านจะตั้งอยู่ในบ้านแบบเกาหลีดั้งเดิมที่มีอายุนับร้อยปีครับ
ดังนั้นถ้าคุณอินกับซีรีส์ยุคโบราณสมัยโชซอนอย่างเช่นแดจังกึมแล้ว ย่านอินซาดงเป็นสถานที่ที่คุณควรจะไปหาอาหารเกาหลีแท้ๆ รับประทานสักครั้งหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัยเลยครับ
ส่วนเรื่องการเดินทางนั้น คุณจะลงรถไฟใต้ดินที่สถานี Anguk หรือว่า Jonggak Station ก็ได้ครับ
สำหรับใครที่อยากได้บรรยากาศแบบโชซอนจริงๆ ใกล้กับอินซาดงคือย่านเล็กๆ ชื่อ Ikseon-dong ซึ่งมีหมู่บ้านแบบโบราณของเกาหลีตั้งอยู่ ที่นี่จะขายชาและของหวานแบบดั้งเดิมที่มีรสชาติดี ควรค่าต่อการไปชิม และคุณยังสามารถเช่าชุดฮันบกมาถ่ายรูปกับตัวอาคารให้ดูเหมือนว่าคุณได้เข้าไปอยู่ในซีรีส์ได้อีกด้วย
7. ทงแดมุน (Dongdaemun)
ทงแดมุนเป็นย่านที่มีตลาดไซส์ใหญ่ชื่อเดียวกันตั้งอยู่ ตัวตลาดเป็นตลาดกลางคืน แต่บางร้านก็เปิดแทบจะเรียกได้ว่า 24 ชั่วโมงเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ใกล้ๆ ยังมีห้างสรรพสินค้าอยู่อีกเป็นสิบแห่ง ทำให้ทงแดมุนเป็นย่านช็อปปิ้งอันดับต้นๆ ของกรุงโซลอย่างไม่ต้องสงสัย
สำหรับร้านอาหารในย่านนี้ถือว่าหลากหลายมาก มีตั้งแต่อาหารเกาหลีแบบคลาสสิคอย่างเช่นไก่ตุ๋นโสม เนื้อย่าง ปลาย่าง เนื้อตุ๋นสไตล์เกาหลี ปูดอง ไก่ทอด และอื่นๆ อีกมากมายครับ นอกจากแบบเป็นร้านแล้ว ทงแดมุนยังมีตลาดอาหารช่วงกลางคืนที่ขาย Street Food ของเกาหลีอีกมากมายด้วย
ดังนั้นถ้าอยากลิ้มลองอาหารเกาหลีแท้ๆ ในราคาสบายกระเป๋า ผมมองว่าที่นี่เหมาะต่อการมาฝากกระเพาะไว้สักมื้อสองมื้อครับ
ในการเดินทางไป คุณสามารถเลือกลงรถไฟใต้ดินที่สถานี Dongdaemun Station หรือว่า Dongdaemun History & Culture Park Station ก็ได้ อย่างไรก็ดีย่านนี้ถือว่าใหญ่มาก และมีสิ่งน่าสนใจเยอะมาก ดังนั้นตรวจสอบให้ดีล่วงหน้าว่าสถานีไหนใกล้กับจุดที่คุณอยากไปมากกว่าจะช่วยให้คุณต้องเดินน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญครับ
8. ตลาดกวางจัง (Gwangjang Market)
ห่างจากทงแดมุนออกไปไม่ไกลนักคือตลาดกวางจัง ตลาดแบบถาวรแห่งแรกของเกาหลี โดยมีประวัติย้อนไปได้ถึงปี ค.ศ. 1905 สมัยปลายยุคราชวงศ์โชซอน หรือว่าก่อนที่เกาหลีจะตกเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่นเลยทีเดียว
ตัวตลาดจะเน้นขายเครื่องแต่งกายและเสื้อผ้า แต่อาหารก็มีให้ลิ้มลองด้วยเช่นกัน โดยมากแล้วจะเป็นอาหารเกาหลีแบบ Street Food ทั่วไปครับ เมนูที่น่าสนใจก็มีตั้งแต่ไส้กรอกเลือด คิมบับ ต๊กบกกี แพนเค้กเกาหลีและอื่นๆ อีกมากมาย
แต่จุดเด่นเลยก็คือราคาจะเป็นมิตรกับเงินในกระเป๋ามากๆ ดังนั้นนักท่องเที่ยวหลายคนจึงเลือกมาฝากท้องที่นี่ครับ
การเดินทางก็ไม่ยากอะไร คุณแค่ลงรถไฟใต้ดินที่สถานี Jongno-5 Station และออกทางออก 8-9 ก็จะถึงหน้าตลาดเลยครับ
9. นัมแดมุน (Namdaemun)
นัมแดมุนเป็นอีกตลาดขนาดใหญ่ของกรุงโซล สินค้าของที่นี่มีหลากหลายตั้งแต่เครื่องหนัง เสื้อผ้า สมุนไพร อิเล็กทรอนิกส์และอีกมากมายเลยครับ
ใกล้กับตลาดนั้นขาย Street Food อยู่หลายอย่าง เช่นสตู ปลาย่าง ปลาตุ๋น ฯลฯ แต่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดเห็นจะเป็นก๋วยเตี๋ยวเกาหลีอย่าง Kalguksu ครับ เพราะตัวตลาดมีร้านที่ขายเมนูนี้อยู่อย่างมากมาย
ถ้ามาเที่ยวตลาดนัมแดมุนก็ไม่ควรพลาดที่จะไปลองชิมสักครั้งครับ แต่ช่วงเช้าและช่วงกลางวัน คนจะเยอะมากเลยครับ ดังนั้นมีโอกาสที่จะต้องรอนานเหมือนกัน
วิธีการไปก็ไม่ลำบากอะไร สถานีรถไฟใต้ดินที่ใกล้ที่สุดคือ Hoehyeon Station ครับ
10. จายังดอง (Jayang-dong)
จายังดองเป็นย่านเล็กๆ ใกล้กับมหาวิทยาลัย Konkuk ที่นี่เป็นย่านที่มีร้านอาหารจีนหลายรูปแบบ แต่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดก็คือลูกแกะย่างเสียบไม้สไตล์ซินเจียงครับ
จริงๆ แล้วที่นี่ได้สถานะเป็นย่านก็เพราะมีร้านลูกแกะย่างเสียบไม้ที่ดังมากในช่วงปี ค.ศ.2008 หลังจากนั้นก็ได้มีผู้ประกอบการคนอื่นแห่มาเปิดร้านในลักษณะเดียวกัน เช่นเดียวกับร้านอาหารจีนสไตล์อื่นๆ ด้วยอย่างเช่นหม้อไฟเป็นต้น ทำให้ที่นี่เป็นย่านอาหารจีนที่คนเกาหลีนิยมมากครับ
ถ้าคุณอยากจะไปลิ้มลองลูกแกะย่างเสียบไม้ก็ไปไม่ยากครับ นั่งรถไฟใต้ดินลงสถานี Konkuk Station แล้วออกทางออก 6 ครับ เวลาเดินออกมาแล้วถ้าเจอป้ายภาษาจีนเยอะกว่าภาษาเกาหลี นั่นแปลว่าคุณมาถูกที่แล้วครับ