นิวยอร์กซิตี้ (New York City) เป็นเมืองที่ผมเคยอาศัยอยู่เป็นเวลานาน 4 ปี เพราะไปเรียนหนังสือจนจบครับ แต่พูดจริงๆ ถึงแม้จะอยู่นาน แต่ผมไม่ได้รู้จักเมืองนี้ทุกซอกทุกมุมอะไรขนาดนั้น เรียกว่าพอแนะนำได้ดีกว่าครับ
ก่อนอื่นขออธิบายนิดนึงว่า คำ “New York” เฉยๆ โดยไม่มี “City” จริงๆ มันคือชื่อรัฐนะครับ มหานคร New York City อยู่ในรัฐชื่อ New York ครับ
แต่เพื่อความเข้าใจง่าย “New York” ในโพสนี้คือ “New York City” นะครับ
เอาละ เรามาดูกันดีกว่าครับว่านิวยอร์กมีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรที่น่าไปเยี่ยมเยือนบ้าง
1. Statue of Liberty
Statue of Liberty หรือ เทพีเสรีภาพเป็นสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของมหานครนิวยอร์ก ตัวเทพีตั้งอยู่ที่เกาะ Liberty (Liberty Island) และไม่มีเส้นทางบกเชื่อมกับแผ่นดินใหญ่ ดังนั้นเราต้องนั่งเรือไปยังเกาะดังกล่าวครับ หรือบางคนอาจจะต้องการแค่ผ่านชมโดยไม่ขึ้นเกาะก็ได้เหมือนกัน
ตัวเทพีทำมาจากทองแดงครับ และเป็นของขวัญที่รัฐบาลฝรั่งเศสมอบให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ.1886 มือซ้ายของเธอถือแผ่นกระดานที่จารึกคำว่า “JULY IV MDCCLXXVI” ซึ่งตัวอักษรทั้งหมดหลัง JULY คือ เลขโรมัน
ถ้าเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษแล้วจะได้คำว่า “JULY 4 1776” หรือ วันประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกานั่นเองครับ
เกาะและเทพีแห่งนี้ไม่มีค่าเข้าแต่อย่างใด แต่ค่าเรือเฟอร์รีนี่มีแน่นอนครับ
นอกจากนี้ท่านใดที่สนใจจะเดินขึ้นไปบนเทพีจนถึงบริเวณมงกุฎสามารถทำได้ แต่รัฐบาลสหรัฐจำกัดคนขึ้นไปได้เพียง 240 คนต่อวันเท่านั้น ทำให้ต้องมีการจองคิวล่วงหน้าอันยาวเหยียดนานนับปี สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ
2. Empire State Building
Empire State Building หรือ ตึกเอ็มไพร์สเตดเป็นอดีตตึกที่สูงที่สุดในโลกที่สร้างเสร็จตั้งแต่ปี ค.ศ.1931 และรักษาสถิติดังกล่าวได้นานถึงเกือบ 40 ปีจนกระทั่งถูกทำลายโดยตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ในปี ค.ศ.1970 ปัจจุบันตึกแห่งนี้ยังเป็นตึกที่มีชื่อเสียงที่สุดในนิวยอร์กที่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนมากมาย และเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของมหานครนิวยอร์ก
ตึกเอ็มไพร์สเตดสูงถึง 102 ชั้น และมีจุดชมวิว (Observation Deck) ที่ชั้น 86 และชั้น 102 นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปได้ทั้งกลางวันและกลางคืน (เปิด 8 โมงเช้า ปิดตี 2) แต่โดยตัวผมมองว่าตอนกลางคืนสวยกว่าตอนกลางวันมากครับ
ในแต่ละปี มีนักท่องเที่ยวมากกว่าสี่ล้านคนที่มาเยี่ยมเยือนตึกแห่งนี้ เพราะฉะนั้นอย่าได้สงสัยว่าต้องมีการต่อคิว
ปัจจุบันค่าเข้าชมเริ่มต้นที่ 38 ดอลลาร์สำหรับผู้ใหญ่ สำหรับท่านที่ไม่ต้องการต่อคิว หรือชมวิวแบบพิเศษจะต้องจ่ายมากกว่านั้นอีกหลายเท่าครับ ผมแนะนำว่าถ้าจะจ่ายในส่วนนี้จริงๆ การไปพักที่โรงแรมที่สามารถเห็นตึก Empire State ได้อย่างใกล้ชิดอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่ามาก
ซื้อตั๋วและหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ esbnyc
3. Wall Street
Wall Street เป็นถนนที่เป็นสถานที่ตั้งของสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของโลก อาทิเช่น Goldman Sachs, JP Morgan Chase และยังเป็นที่ตั้งของตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (New York Stock Exchange) ที่มีมูลค่าทางการตลาดมากที่สุดในโลกอีกด้วย
บริเวณนี้เองคือบริเวณที่นักลงทุนมาชุมนุมหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ Black Tuesday ที่ตลาดหุ้นถล่มมโหฬารในปี ค.ศ.1929
นอกจากนี้ในบริเวณนั้นยังมีรูปปั้นกระทิงที่กำลังพุ่งเข้าชาร์จอีกด้วย หรือที่เรียกกันว่า Charging Bull กระทิงตัวนี้เป็นสัญลักษณ์ของตลาดขาขึ้นในภาคตลาดการเงินต่างๆ นักท่องเที่ยวมักนิยมมาถ่ายรูปกับมันเป็นที่ระลึกว่าได้มาถึงที่นี่แล้ว
Wall Street ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ในการเข้าชม เพียงแต่นักท่องเที่ยวไม่สามารถเข้าไปในตึกต่างๆ ได้เท่านั้นเอง เพราะตึกเหล่านี้เป็นออฟฟิศของพนักงานในสถาบันการเงินเหล่านั้น แต่โดยส่วนตัว ผมเคยเข้าไปแล้วก็ไม่ได้รู้สึกแตกต่างอะไรกับออฟฟิศทั่วไปในประเทศไทย
สำหรับ New York Stock Exchange ก็ห้ามไม่ให้คนทั่วไปเข้าเช่นกัน และมีการรักษาการณ์อย่างเข้มงวดอยู่ทางด้านหน้าอีกด้วย (มีเจ้าหน้าที่ถือปืนพร้อม)
4. Times Square
ถ้ามาที่ New York แล้วไม่ได้มาที่นี่คงมาไม่ถึง New York สถานที่แห่งนี้คือ Times Square นั่นเอง
Times Square เป็นย่านที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองนิวยอร์ก บริเวณนี้มีร้านค้าและร้านอาหารมากมายให้เดินเที่ยว สถานที่แห่งนี้ยังเป็นจุด count down วันปีใหม่ระดับโลกที่มีผู้เข้าร่วมมากมายอีกด้วย
สำหรับท่านที่สนใจในละครเพลงอย่าง Broadway ท่านสามารถหาชมได้ที่ย่านนี้แทบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Phantom of the Opera , Mamma Mia!, The Lion King, Wicked หรือ Chicago!
5. The Met
“The Met” หรือ The Metropolitan Museum of Art เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอเมริกา และเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ชั้นนำของโลก จำนวนผู้เข้าชมต่อปีนั้นมีมากเป็นอันดับสามของโลก (มากกว่าพิพิธภัณฑ์ Hermitage ในรัสเซียเสียอีก)
จากที่ได้ไปมา จุดแข็งของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คืองานศิลปะที่มีให้ดูเยอะมากจริงๆ ภายในพิพิธภัณฑ์ไม่ได้สวยเท่า Hermitage แต่ถ้าท่านสนใจงานศิลปะโดยเฉพาะงานศิลปะยุคโมเดิร์น The Met มีให้ท่านชมจำนวนมากมาย และมีเก้าอี้ให้นั่งชมยาวๆ ด้วย
งานศิลปะที่นำมาจัดแสดงก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เพราะว่าข้าวของในพิพิธภัณฑ์มีมากเกินว่าพื้นที่จัดแสดง ไฮไลท์ของ The Met มีมากมายเรียกได้ว่าคุณอยู่ได้เป็นวันครับ
ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์อยู่ที่ 25 ดอลลาร์ ถ้าเป็นนักเรียนนักศึกษา ค่าเข้าจะเหลือเพียง 12 ดอลลาร์เท่านั้น แต่ถ้าเป็นนักเรียนในรัฐนิวยอร์ก นิวเจอร์ซีย์ และคอนเนคติคัท ไม่มีการคิดค่าใช้จ่ายใดๆ อยากจ่ายเท่าไรก็ได้ ตอนนั้นผมก็จำได้ว่า ผมไม่ได้จ่ายเลยสักเหรียญเดียวตอนไปทำโปรเจ็คเกี่ยวกับงานศิลปะ
นอกเหนือจาก The Met แล้วนิวยอร์กยังมีพิพิธภัณฑ์ที่น่าไปเข้าชมอีกหลายแห่งด้วยกัน บางแห่งปรากฏอยู่ในภาพยนตร์ฮอลลีวูดหลายต่อหลายเรื่องมาแล้วด้วย เพราะฉะนั้นอย่าได้พลาดที่จะไปเยี่ยมเยือนพิพิธภัณฑ์เหล่านี้สักครั้งครับ
6. Central Park
Central Park คือสวนสาธารณะขนาดยักษ์ที่ตั้งอยู่ตรงใจกลางของกรุงนิวยอร์ก มันใหญ่ขนาดไหนดูได้ตามรูปด้านล่าง
เนื่องจากสวนนี้ใหญ่มากๆ มันจึงเป็นปอดของเมือง และที่เดินเล่นชิวๆ ของชาวนิวยอร์ก ตามทางเดินค่อนข้างร่มรื่นมาก ทำให้สามารถเดินได้เรื่อยๆ เลยครับ แต่อย่าชิวเกินไป โดยเฉพาะในเวลากลางคืน เพราะที่นี่มีอาชญากรรมบ่อยเหมือนกัน
7. Rockefeller Center
Rockefeller Center เป็นย่านสำคัญอีกย่านหนึ่งของเมืองนิวยอร์กที่มีตึกสูงมากมาย นักท่องเที่ยวมักจะมาชมวิวมุมสูงของเมืองจาก Top of the Rock ซึ่งสามารถเห็นวิว Central Park ได้อย่างสมบูรณ์
ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ที่ Rockefeller Center จะมีต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่มาวางไว้ด้วย ทำให้บริเวณนี้เป็นจุดสำคัญอีกแห่งที่ควรมาเยี่ยมเยือนในช่วงวันคริสต์มาสและวันปีใหม่
นอกจากนี้คนอเมริกันยังชอบมาเล่นไอซ์สเก็ตกันที่ Ice Rink ของ Rockefeller อีกด้วย แต่ต้องเป็นช่วงฤดูหนาวเท่านั้นครับ
สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
8. 9/11 Memorial
9/11 Memorial เป็นอนุสรณ์ที่อุทิศให้กับผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บทุกคนในเหตุการณ์ก่อการร้ายที่เกิดที่ตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ในวันที่ 11 กันยายน ค.ศ.2001 ตัวอนุสรณ์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในสถานที่ที่ตึกทั้งสองเคยตั้งอยู่
ตัวอนุสรณ์จะเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ บริเวณข้างๆ จะจารึกรายชื่อของผู้เสียชีวิตอยู่ด้วย
ใกล้กับตัวอนุสรณ์ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวของวันนั้นว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ท่านที่สนใจสามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ จากที่ได้เข้าไปพบว่ามันสะเทือนใจไม่น้อย
9. Brooklyn Bridge
Brooklyn Bridge เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของมหานครนิวยอร์กแห่งนี้ ตัวสะพานเชื่อมย่านแมนฮัตตันกับบรู๊คลินเข้าด้วยกัน สะพานบรู๊คลินเป็นหนึ่งในสะพานสำหรับรถยนต์ที่เก่าแก่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา โดยสร้างเสร็จตั้งแต่ปี ค.ศ.1883
ถ้าสนใจคุณสามารถเดินหรือขี่จักรยานบนสะพานแห่งนี้ได้โดยไม่ต้องกลัวรถจะชน เพราะว่ามีการกั้นพื้นที่อย่างดีให้คนเดินหรือขี่จักรยานข้ามไปได้อย่างสบายครับ
10. Grand Central Terminal
Grand Central Terminal เป็นสถานีรถไฟใหญ่ของเมืองนิวยอร์กซิตี้ สถานีรถไฟแห่งนี้เป็นสถานีรถไฟเก่าแก่แห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกาที่ยังเปิดใช้งานอยู่มาจนถึงปัจจุบัน ตัวสถานีเปิดใช้งานตั้งแต่ปี ค.ศ.1913 โน่นเลย และยังรักษาบรรยากาศแบบเดิมๆ ไว้ได้
ตัวสถานีจัดว่าสวยเลยทีเดียว และเคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดหลายเรื่อง
นักท่องเที่ยวจึงมักมาที่นี่กันเพื่อซึมซับบรรยากาศของอเมริกาในช่วง 70-80 ปีก่อนและตามรอยภาพยนตร์ ทำให้สถานีแห่งนี้มีผู้เดินทางมาเที่ยวชมมากถึง 21.9 ล้านคนในปี ค.ศ.2013 โดยไม่นับผู้ที่ใช้สถานีสัญจรไปมา
นอกจากนี้บริเวณโดยรอบ Grand Central Terminal ยังมีร้านค้าและร้านอาหารมากมายอีกด้วย ดังนั้นถ้ามีโอกาสได้มา New York อย่าพลาดที่จะมาเยี่ยมเยือนที่นี่ครับ
คำแนะนำส่งท้าย
เวลาที่ท่านควรใช้อยู่ในนิวยอร์กควรจะอย่างน้อย 5 วันขึ้นไป เพราะนิวยอร์กมีสิ่งให้ทำมากมาย นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้แล้วยังมีร้านอาหารที่น่าลิ้มลอง และสถานที่ช็อปปิ้งที่น่าไปเดินอีก รวมๆ แล้วผมมองว่า 7 วันเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการท่องเมืองแห่งนี้ครับ
สำหรับท่านที่กำลังใคร่ครวญอยู่เรื่องซื้อตั๋ว อย่าลืมอ่านคู่มือการซื้อตั๋วเครื่องบินไปกลับอเมริกาของผม เพื่อที่จะได้ตั๋วที่ถูกและคุ้มค่าที่สุดครับ
