ประวัติศาสตร์รัสเซียครอบครัวซาร์ปัญหาที่ครอบครัวโรมานอฟสร้างให้รัฐบาลชั่วคราวโดยไม่ได้ตั้งใจ (5)

ปัญหาที่ครอบครัวโรมานอฟสร้างให้รัฐบาลชั่วคราวโดยไม่ได้ตั้งใจ (5)

นานวันเข้า การอาศัยอยู่ของนิโคลัส และอเล็กซานดราที่พระราชวังอเล็กซานเดอร์ หรือซาร์โคเย ซีโลโดยรวมได้สร้างปัญหาให้รัฐบาลชั่วคราวมากยิ่งขึ้นทุกที

ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เรามาดูกันในโพสนี้ครับ

นิโคลัสและอเล็กซานดราในที่คุมขัง

ครอบครัวโรมานอฟในกฎระเบียบที่คุมเข้ม

หลังจากวันนั้น คีเรนสกี้ก็ได้แจ้งว่าขอให้ครอบครัวโรมานอฟให้ความร่วมมือกับรัฐบาลชั่วคราว โดยขอให้นิโคลัสและอเล็กซานดราอย่าได้พบเจอกันบ่อยนัก ยกเว้นแต่เวลาอาหาร เพราะว่ารัฐบาลชั่วคราวเกรงว่าทั้งสองจะมีแผนการอะไรอยู่อย่างลับๆ และเพราะช่วงเวลานั้น กระแสโจมตีนิโคลัสและอเล็กซานดราก็รุนแรงขึ้นจากการที่รัฐบาลชั่วคราวกำลังสอบสวนแอนนา ไวรูโบวาอยู่

นิโคลัสและอเล็กซานดรายอมปฏิบัติตามเป็นอย่างดี เพราะว่ากลัวว่าคีเรนสกี้จะพรากทั้งสองให้แยกจากกันเหมือนกับที่ได้พรากแอนนา ไวรูโบวา ไปแล้วคนหนึ่ง

หากแต่ว่าต่อมาคีเรนสกี้กลับต้องการให้อเล็กซานดราแยกจากลูกๆ ของเธอด้วย

นางกำนัลคนหนึ่งได้ทักท้วงคีเรนสกี้ว่าอย่าได้ห้ามอเล็กซานดราไม่ให้พบเจอลูกเลย เพราะว่าลูกๆ เป็นชีวิตของเธอ ถ้าเธอไม่ได้พบลูกของเธอ เธอคงจะตายเสียก่อน คีเรนสกี้จึงอนุญาตให้ตามคำขอ

ในช่วงเวลานั้น สี่สาวอย่าง โอลกา ทาเทียน่า มาเรีย และอนาสตาเซีย ไม่มีบทบาทอะไรมากนัก เพราะว่าพวกเธอยังป่วยกระเสาะกระแสะจากผลข้างเคียงจากโรคหัดที่เกือบเอาชีวิตพวกเธอไปก่อนหน้านี้ เมื่อพวกเธอมีอาการดีขึ้นบ้าง พวกเธอจะออกมาเดินเล่น และเขียนจดหมายหาเพื่อน อย่างเช่น ทาเทียน่าได้เขียนจดหมายหาเชโบตาเรวา นางพยาบาลที่เคยร่วมงานกัน และเล่าให้เธอฟังว่าชีวิตความเป็นอยู่ของตนเองในที่คุมขังเป็นอย่างไรบ้าง

สี่สาวโรมานอฟถูกโกนผมทั้งหมดเพราะโรคหัด

มีอยู่วันหนึ่งคีเรนสกี้ได้มาเยี่ยมเยือนครอบครัวซาร์ และมีฉากอันน่าจดจำอย่างหนึ่งกับอเล็กเซย์ ด้วยความที่เด็กชายน้อยต้องนอนซมจากบาดแผลที่ถูกกระแทกที่แขนอีกครั้ง คีเรนสกี้จึงถามว่า เขาต้องการอะไรหรือไม่

อเล็กเซย์ตอบว่า เขาเบื่อมาก และเขารักพวกทหารมากๆ เลย

คีเรนสกี้รู้สึกงุนงงที่เด็กชายตอบเช่นนั้น เขาจึงตอบว่า พวกทหารที่รายรอบวังมีจำนวนมากมาย และในสวนก็มีอีกเต็มไปหมด คำกล่าวของคีเรนสกี้เป็นความจริงเพราะที่พระราชวังอเล็กซานเดอร์นั้นมีทหารมากมายจนเรียกได้ว่าเป็นค่ายทหารไปแล้ว

อเล็กเซย์ตอบเขาว่า

ไม่ ไม่ ไม่ใช่พวกนี้ พวกนี้ไม่มีทางไปที่แนวหน้าหรอก พวกนั้นต่างหากเป็นพวกที่ฉันรัก

คำกล่าวของอเล็กเซย์จึงเป็นการแซะพวกทหารการเมืองกลายๆ นั่นเอง

การบังคับให้แยกกันอยู่ระหว่างนิโคลัสและอเล็กซานดราดำเนินไปอยู่ประมาณสามสัปดาห์ หลังจากนั้นชีวิตของครอบครัวก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้งหนึ่ง ทั้งครอบครัวเริ่มปรับตัวกับสถานภาพใหม่ได้

นอกจากสอนหนังสือลูกๆ แล้ว นิโคลัสและลูกสาวรวมไปถึงข้าราชบริพารต่างใช้เวลาทั้งหมดไปกับการทำสวน (อเล็กซานดราปวดหลังเกินกว่าจะทำเช่นนั้นได้) ทุกคนปลูกผักต่างๆ ไว้มากมาย อาทิเช่น แครอท หัวหอม และกะหล่ำปลี ตัวนิโคลัสเองก็ใช้เลื่อยค่อยๆ ตัดตัดไม้ที่ตายแล้วในสวนมาทำเป็นฟืนเพื่อใช้ในฤดูหนาวที่กำลังมาถึง

สำหรับนิโคลัสแล้ว เขามีความสุขกับชีวิตในช่วงนี้ไม่น้อย นิโคลัสเขียนในไดอารี่ของเขาในวันที่ 6 พฤษภาคมว่า

งานอันมีความสุขในสวนผัก พวกเราเริ่มขุดลอกคู หลังจากสวดมนต์ มื้อค่ำ และอ่านหนังสือตอนเย็น ฉันรู้สึกใกล้ชิดกับครอบครัวที่แสนหวานของฉันมากกว่าเมื่อก่อน

หากแต่ว่านิโคลัสและครอบครัวไม่ทราบเลยว่า ข้างนอกกำลังมีอะไรเกิดขึ้น

กระแสต่อต้านครอบครัวโรมานอฟ

ในช่วงกลางปี ค.ศ.1917 รัฐบาลชั่วคราวเสื่อมความนิยมลงทุกที สงครามก็กำลังดำเนินไปอย่างเลวร้าย กระแสฝ่ายซ้ายจัดอย่างพวกบอลเชวิคก็เพิ่มพูนมากขึ้นในสภาโซเวียตและในหมู่ประชาชน กระแสฝ่ายซ้ายนี้ได้สร้างแรงกดดันอย่างมากให้กับรัฐบาลชั่วคราว จนสุดท้ายนายกรัฐมนตรี Georgy Lvov ต้องลาออก ทำให้คีเรนสกี้ได้รับตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีและคุมอำนาจทั้งหมดในรัฐบาลชั่วคราว

พวกฝ่ายซ้ายจัดในเวลานั้นต้องการสร้างกระแสให้จับกุมนิโคลัสและอเล็กซานดรามาลงโทษด้วยการประหารชีวิต หรือน้อยที่สุดก็จับทั้งสองโยนเข้าไปในคุก ไม่ใช่ให้อยู่อย่างสุขสบายในพระราชวังอเล็กซานเดอร์ พวกเขาคิดว่าในเมื่อรัฐบาลชั่วคราวให้ในสิ่งดังกล่าวไม่ได้ พวกเขาก็จะบุกเข้าไปในพระราชวังอเล็กซานเดอร์และจับนิโคลัส และอเล็กซานดราออกมาด้วยตัวเอง

คีเรนสกี้ยืนอยู่บนรถ

คีเรนสกี้พยายามอาศัยอำนาจอิทธิพลที่มีอยู่สกัดกระแสดังกล่าวไว้ เขากล่าวต่อที่ประชุมว่า

อดีตจักรพรรดิและเชื้อพระวงศ์ไม่ใช่ศัตรูทางการเมืองอีกต่อไปแล้ว แต่พวกเขาเป็นเพียงเพื่อนมนุษย์คนหนึ่งที่อยู่ในคุ้มครองของพวกเรา พวกเขาตระหนักว่าการแสดงถึงการแก้แค้นไม่คู่ควรกับแผ่นดินรัสเซียที่มีเสรีภาพ

เพื่อแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลชั่วคราวเอาจริง คีเรนสกี้จึงยกเลิกโทษประหารชีวิตในรัสเซียทั้งหมด เพราะว่าคีเรนสกี้คิดว่าจะทำให้พวกฝ่ายซ้ายไม่อาจอ้างให้รัฐบาลชั่วคราวลงโทษประหารชีวิตนิโคลัสได้ เพราะโทษดังกล่าวไม่มีอยู่แล้ว

หากแต่ว่าตัวนิโคลัสเองกลับไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกโทษดังกล่าวสักเท่าใดนัก นิโคลัสกล่าวว่า

มันเป็นความผิดพลาด การยกเลิกโทษประหารชีวิตจะทำลายระเบียบวินัยของกองทัพ ถ้าเขา (คีเรนสกี้) ยกเลิกมันเพื่อจะช่วยฉันจากอันตราย โปรดบอกเขาว่า ฉันพร้อมแล้วที่จะมอบชีวิตฉันเพื่อประโยชน์ของประเทศของฉัน

คำกล่าวของนิโคลัสถูกต้อง นอกจากมันไม่ได้ช่วยสงบกระแสของพวกฝ่ายซ้ายแล้ว มันกลับทำให้รุนแรงมากขึ้นตามลำดับ กระแสดังกล่าวได้เปลี่ยนเป็นการต่อต้านรัฐบาลชั่วคราว โดยเฉพาะหลังจากความเสียหายในสงครามที่รุนแรงมากขึ้นตามคำสั่งของคีเรนสกี้

ภายในเดือนกรกฎาคม ค.ศ.1917 เลนินและพวกบอลเชวิคได้ “ทดลอง” ยึดอำนาจจากคีเรนสกี้ แต่ไม่สำเร็จ คีเรนสกี้สามารถปราบการลุกฮือได้อย่างเฉียดฉิว ถึงกระนั้นมันได้สร้างความกังวลมากขึ้นในใจของคีเรนสกี้อย่างมาก

เหตุการณ์ July Days หลังจากที่รัฐบาลชั่วคราวได้สั่งให้กองทัพระดมยิงปืนกลใส่พวกบอลเชวิค

ข้อเสนอให้ย้ายไปที่อื่น

คีเรนสกี้เดินทางมายังพระราชวังอเล็กซานเดอร์ หลังจากปราบการลุกฮือของพวกบอลเชวิคได้ไม่นาน เขามาหานิโคลัสและพูดคุยกับเขา ในตอนหนึ่ง คีเรนสกี้พูดขึ้นว่า

พวกบอลเชวิคกำลังไล่ล่าฉัน และหลังจากนั้นพวกเขาจะไล่ล่าคุณ

คีเรนสกี้แจ้งให้นิโคลัสทราบว่าพวกบอลเชวิคกำลังคบคิดที่จะบุกโจมตีพระราชวังอเล็กซานเดอร์เพื่อชิงตัวนิโคลัส และการที่นิโคลัสอยู่ที่พระราชวังอเล็กซานเดอร์ซึ่งอยู่ใกล้กับกรุงเปโตรกราดได้กระตุ้นความโกรธแค้นและบ้าคลั่งให้กับคนเหล่านี้

ดังนั้นเขาจึงขอให้นิโคลัสย้ายไปอยู่ที่อื่นในส่วนอื่นๆ ของรัสเซียที่กระแสฝ่ายซ้ายเบาบางกว่า นิโคลัสและครอบครัวจะปลอดภัยกว่าถ้าอยู่ที่นั่น และรัฐบาลชั่วคราวจะคุมสถานการณ์ได้ง่ายขึ้นด้วย

นิโคลัสเสนอว่าขอให้ย้ายเขาและครอบครัวไปยังพระราชวังลิวาเดีย (Livadia Palace) ในไครเมีย คีเรนสกี้บอกนิโคลัสว่า อาจจะเป็นไปได้ แต่ขอให้เขาไปคิดดูก่อน

พระราชวังลิวาเดีย CC BY-SA 3.0,

ก่อนที่คีเรนสกี้จะกลับไปเขาได้สั่งให้นิโคลัสและครอบครัวเตรียมเก็บกระเป๋าอย่างเงียบๆ โดยไม่ให้พวกทหารที่รักษาวังรู้ เพราะคีเรนสกี้ไม่รู้ว่าพวกทหารเหล่านี้เป็นคนของพวกบอลเชวิคบ้างหรือไม่

สำหรับครอบครัวซาร์แล้ว เมื่อทุกคนได้ทราบว่าอาจจะได้ไปลิวาเดีย ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นมาก ลิวาเดียเป็นสถานที่โปรดของทุกคนอยู่แล้ว เหล่าสี่สาวโรมานอฟพูดคุยถึงลิวาเดียอย่างเปิดเผย จนเหล่านางกำนัลต้องบอกให้ทั้งสี่ระมัดระวังเพราะว่าพวกทหารที่อยู่โดยรอบไม่น่าไว้วางใจเลยสักนิด

อ่านตั้งแต่ตอนแรกและติดตามตอนต่อไป ได้ใน วันสุดท้ายของราชวงศ์โรมานอฟ หรือติดตามตอนที่ 6 ได้ที่นี่

หนังสืออ้างอิงอยู่ ที่นี่

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!