แกรนด์ดัชเชสทาเทียน่า นิคลาเยฟนา (Grand Duchess Tatiana Nikolaevna) เป็นพระธิดาองค์ที่สองของซาร์นิโคลัสที่ 2 และซารินาอเล็กซานดรา ทาเทียน่ามีผมสีน้ำตาลแดงอันสวยงาม ดวงตาของเธอเป็นสีเทาเข้ม ทาเทียน่านั้นมีรูปร่างสูงโปร่ง เธอจึงเป็นสตรีที่มีรูปร่างดีคนหนึ่ง ผิวของเธอยังขาวราวกับหิมะ ผู้คนในราชสำนักรัสเซียมองว่าเธอมีหน้าตาสะสวย คล้ายคลึงกับพระมารดาของเธอ
สิ่งหนึ่งที่เธอแตกต่างออกไปจากพี่น้องคนอื่นคือ เธอสนิทกับมารดามากที่สุด เธอมีความมั่นใจและมีกิริยามารยาทเรียบร้อยได้มาตรฐานตามแบบกุลสตรียุโรปในเวลาเข้าสังคม
ด้วยความมั่นใจนี้เอง ทำให้ทาเทียน่ากลายเป็น “บอส” (Boss) หรือ “เจ้านาย” สำหรับบรรดาพี่น้องทั้งห้า ถ้าพี่น้องของเธอตัดสินใจอะไรไม่ได้ ทาเทียน่าจะเป็นคนตัดสินใจทุกครั้ง จนพี่น้องของเธอ (รวมไปถึงโอลกาด้วย)เรียกเธอว่า “ท่านผู้ว่าราชการ” นอกจากนี้ถ้าพี่น้องของเธอต้องการอะไรจากนิโคลัส ทาเทียน่าก็จะเป็นคนไปพูดคุยกับบิดาของเธอให้กับทุกคน
เรื่องราวด้านล่างจะเป็นเรื่องราวของ “บอส” ที่หายไปในหน้าประวัติศาสตร์ จนกระทั่งสหภาพโซเวียตล่มสลาย เราถึงได้เห็นเรื่องราวเหล่านี้อีกครั้งหนึ่ง
เจ้าหญิงผู้ติดดิน
ตั้งแต่วัยเด็ก ทาเทียน่าไม่ชื่นชอบในการถูกเรียกด้วยยศถาบรรดาศักดิ์ของเธอ ทาเทียน่าไม่ชอบเลยที่มีผู้เรียกเธอว่า “Your Imperial Highness” ถ้าแปลเป็นไทยก็น่าจะแปลได้ว่า ใต้ฝ่าละอองพระบาท เธอจะหงุดหงิดอย่างมากทุกครั้งที่มีคนเรียกเธอด้วยคำนี้ เธอชื่นชอบที่จะได้ยินผู้อื่นเรียกว่า ทาเทียน่า นิคลาเยฟนา อย่างสามัญชนทั่วไปมากกว่า
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ทาเทียน่าได้เป็นประธานในมูลนิธิหลายแห่ง เมื่อเธอนั่งเป็นประธานในการประชุม ทุกคนจะเรียกเธอว่าทาเทียน่า นิคลาเยฟนาทุกครั้ง มีอยู่ครั้งหนึ่งนางสนองพระโอษฐ์ที่ใกล้ชิดกับเธอ เรียกเธอว่าใต้ฝ่าละอองพระบาท เธอใช้เท้าเตะนางสนองพระโอษฐ์ผู้นั้นใต้โต๊ะประชุม และพูดเบาๆ กับเธอว่า
เธอเป็นบ้าไปแล้วหรือที่พูดกับฉันแบบนั้น!
สิ่งที่ทาเทียน่าโปรดปรานคือ การได้รับโอกาสให้ทำงานเยี่ยงสามัญชนทั่วไป ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เธอทำหน้าที่เป็นพยาบาลให้กับทหารที่ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากมาย เธอไม่เคยบ่นว่าเหนื่อยยากลำบากเลย สิ่งที่เธอหงุดหงิดที่สุดคือ การที่พวกข้าราชบริพารชอบอ้างว่า เธอยังเด็กบ้าง เป็นเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์ไม่ควรต้องมาทำเองบ้าง
มีอยู่วันหนึ่ง นางพยาบาลที่ทำงานร่วมกับเธอชื่อ วาเลนตินา เชโบทาเรวา พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ทาเทียน่าช่วยเหลือเธอในการต้มไหม แต่ทาเทียน่ามองตาเชโบทาเรวาก็รู้ทันทีว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไร เธอจึงพูดขึ้นมาว่า
เธอสูดกรดคาร์บอลิกได้ แล้วทำไมฉันจะทำไม่ได้
ความสัมพันธ์ของเธอกับนางพยาบาลผู้นี้เป็นไปในลักษณะเหมือนลูกกับแม่ เชโบทาเรวาทำหน้าที่เป็นแม่ของทาเทียน่าเมื่อเวลาที่เธอตื่นเต้นหรือกังวล หรือประสบปัญหาใดๆ ก็ตามระหว่างการทำงาน
อย่างในเวลาที่ทาเทียน่าต้องเดินนำกลุ่มพยาบาล ทาเทียน่ามักจะกังวลและรู้สึกอับอายอยู่เสมอ เพราะเธอไม่รู้ว่าผู้ใดที่เธอควรจะทักทาย ดังนั้นแทบทุกครั้งเธอจะจับมือของเชโบทาเรวาไว้โดยตลอดเพื่อทำให้เธอมีความมั่นใจมากขึ้น ตัวเธอเองก็ไม่เคยเจ้ายศเจ้าอย่างใส่ใครเลย เหล่าทหารและญาติพี่น้องของผู้คนที่อยู่ในโรงพยาบาลต่างตะลึงว่านี่เธอเป็นเจ้าหญิงจริงๆ หรือนี่
มีอยู่วันหนึ่ง ทาเทียน่าได้โทรศัพท์ไปยังที่บ้านของเชโบทาเรวา เกรกอรีบุตรชายวัย 16 ปีของเชโบทาเรวาเป็นผู้รับสาย เขาพูดกับเธออยู่สักพักหนึ่ง เธอบอกแค่ว่าตัวเธอคือ “ทาเทียน่า นิคลาเยฟนา” หรือ “ซิสเตอร์โรมานอฟนาคนที่สอง” ที่ทำงานอยู่กับแม่ของเขาเพียงเท่านั้น
ทาเทียน่ามีความกันเองกับเหล่าทหารมาก อย่างเวลาที่เธอท่องเที่ยวกับครอบครัวในเรือยอร์ชหลวง Standart เธอมักจะพูดคุยกับเหล่าทหารราวกับว่าเป็นเพื่อนสนิท ทำให้บางครั้งพวกทหารเหมือนกับว่าลืมว่าเธอเป็นแกรนด์ดัชเชสแห่งจักรวรรดิรัสเซีย และเริ่มลามปาม
ในวันหนึ่ง พวกทหารได้นำรูปเปลือยของเดวิดที่ปั้นโดยไมเคิลแองเจโลมาให้โอลกา และทาเทียน่าดู โอลกาหัวเราะดังลั่น ส่วนทาเทียน่าก็ไม่ได้ถือสาอะไร เธอนำพฤติกรรมของพวกทหารไปเม้าท์กับแกรนด์ดัชเชสโอลกา น้าของเธอที่มีความสัมพันธ์กับคูลิคอฟสกี้ว่า
ไม่มีใครสักคนยอมรับสารภาพเลยว่าเป็นผู้ทำ ไอ้พวกนี้เป็นพวกหมู! จริงมั้ยคะ
ไปช้อปปิ้ง
ระหว่างสงคราม มีอยู่วันหนึ่งนางสนองพระโอษฐ์ของเธอและโอลกาเกิดโดนทหารจับไปตรวจสอบ ดังนั้นเธอจึงอยู่ตามลำพังในรถม้ากับพี่สาวของเธอ ทั้งสองเกิดความคิดว่าไหนๆ พี่เลี้ยงก็ไม่อยู่แล้ว ลองไปช้อปปิ้งกันเสียหน่อยดีกว่า
ทั้งสองแกรนด์ดัชเชสให้คนขับรถม้าจอดที่ย่านช็อปปิ้งของกรุงเปโตรกราด (ปัจจุบันคือเซนต์ปีเตอร์สเปิร์ก) ไม่มีใครจำเธอได้เลยสักคนเดียว เพราะว่าทั้งสองกำลังใส่ชุดพยาบาลอยู่ โอลกาและทาเทียน่าเดินเข้าไปในร้านต่างๆ หลายร้าน แต่ว่าทั้งสองกลับไม่ได้สิ่งของมาเลยสักชิ้นเดียว
สาเหตุคือ ทั้งโอลกาและทาเทียน่าไม่รู้วิธีใช้เงินว่าทำอย่างไร เพราะตั้งแต่เกิดมา เธอไม่เคยต้องข้องเกี่ยวกับธนบัตรเช่นนี้เลย บิดามารดาและเหล่าข้าราชบริพารจัดหาทุกสิ่งมาให้เธอตลอด เธอจึงไม่เคยได้ใช้ธนบัตรเลย และไม่เคยเห็นมันด้วย ตัวเธอและพี่สาวก็ไม่มีเงินติดตัวเลยสักแดงเดียว เธอจึงต้องกลับวังอย่างเซ็งๆ ที่ไม่ได้ของกลับมา
หลังจากนั้นเธอจึงขอให้เชโบทาเรวาสอนให้เธอใช้เงิน!
เชโบทาเรวายังคงแลกเปลี่ยนจดหมายกับทาเทียน่าหลังจากที่เธอคุมขังโดยพวกบอลเชวิค หลังจากที่ทาเทียน่าถูกคุมขังแล้ว
ความรักของทาเทียน่า
ซารินาอเล็กซานดราเป็นผู้ที่มีปัญหากับการเข้าสังคม ดังนั้นทาเทียน่าจึงไม่ค่อยมีโอกาสได้ออกงานสังคมสักเท่าใดนัก ถึงกระนั้นเธอก็ออกงานมากที่สุดในหมู่พี่น้องแล้ว การที่เธอเป็นประธานในมูลนิธิต่างๆ ทำให้เธอเป็นที่รู้จักในหมู่ชาวรัสเซียมากยิ่งขึ้น
โดยธรรมชาติแล้ว ทาเทียน่าปรารถนาที่จะออกงานสังคม และต้องการมีเพื่อนสนิทที่อยู่รุ่นราวคราวเดียวกันบ้าง หากแต่ว่าเธอไม่มีโอกาสได้ทำเช่นนั้นเลย ชีวิตของเธอจึงว้าเหว่ไม่น้อย
ทาเทียน่าก็เหมือนหญิงสาวทั่วไปที่เริ่มจะมีความรัก ระหว่างที่เธอรักษาเหล่าทหาร เธอได้ตกหลุมรักนายทหารม้าคนหนึ่งชื่อ ดมิทรี มาลามา ตัวเขาก็มีไมตรีตอบสนองให้กับเธอเช่นเดียวกัน ความรักของทั้งสองก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ แต่ไหนเลยจะหลีกหนีสายตาของนิโคลัสและอเล็กซานดรา บิดามารดาของเธอไปได้ อเล็กซานดราเคยเขียนถึงนิโคลัสเรื่องของ มาลามาว่า
ตอนนี้เขาเป็นผู้ชายที่ดูดีมากขึ้น แต่ก็ยังเป็นเด็กชายที่น่ารักอยู่ดี ฉันต้องบอกว่าเขาจะเป็นลูกเขยที่ดีทีเดียว ทำไมเจ้าชายต่างชาติไม่น่ารักแบบนี้บ้างนะ
มาลามามอบสุนัขตัวหนึ่งให้กับทาเทียน่า เธอนำมันไปด้วยทุกที่ทุกแห่ง
ในช่วงการปฏิวัติรัสเซีย ทาเทียน่าล้มป่วยหนักด้วยโรคหัดจนต้องโดนโกนศีรษะทั้งหมด เมื่อเธอหายดี โลกที่เธออยู่กลับไม่เหมือนเดิมเสียแล้ว
แกรนด์ดัชเชสทาเทียน่าถูกคุมขังร่วมกับครอบครัวที่พระราชวังอเล็กซานเดอร์ เช่นเดียวกับครอบครัวของเธอ ชะตาชีวิตของเธอจะเป็นไปอย่างไร ติดตามได้ที่ วันสุดท้ายของราชวงศ์โรมานอฟ
หนังสืออ้างอิงอยู่ ที่นี่