โกลเด้นริงแห่งรัสเซีย (Golden Ring of Russia) หรือ Золотое кольцо России เป็นเมืองทั้งแปดที่อยู่ใกล้กันเป็นรูปวงแหวน ทุกเมืองอยู่ห่างจากมอสโก เมืองหลวงในปัจจุบันของรัสเซียไม่ไกลนัก ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถไปเยี่ยมเยือนได้อย่างง่ายดายด้วยรถบัส หรือรถไฟจากมอสโก
เมืองเหล่านี้มีความสำคัญอย่างมากในหน้าประวัติศาสตร์รัสเซีย บางเมืองเคยเป็นเมืองเก่าที่มีอายุนานหลายร้อยปี แต่ละเมืองมีความสวยงามและนำเสนอศิลปะรัสเซียในรูปแบบต่างๆ ได้อย่างดียิ่ง
เรามาดูกันครับว่ามีเมืองอะไรบ้าง
1. Sergiev Posad
Sergiyev Posad หรือ Zagorsk (ซากอร์ส) ในยุคโซเวียต เมืองนี้เป็นเมืองเก่าแก่ของรัสเซียและเป็นหนึ่งในเมืองทางศาสนาที่สำคัญที่สุดด้วย เพราะว่าเป็นสถานที่ตั้งของมหาวิหาร Trinity Lavra of St. Sergius ( Тро́ице-Се́ргиева Ла́вра) ศาสนสถานที่สามารถเรียกได้ว่าศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งในรัสเซีย ในอดีตตัวเมืองได้ขยับขยายมาจากวิหารแห่งนี้นั่นเอง
มหาวิหารแห่งนี้มีความสวยงามด้วยตัวของมันเอง และแสดงให้เห็นถึงศิลปะโบราณของชาวรัสเซีย แม้หลายสิ่งจะเสียหายไปมากในยุคโซเวียต แต่ความงดงามดั้งเดิมบางส่วนยังคงอยู่ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส ในปัจจุบันมหาวิหาร Trinity Lavra of St.Sergius ยังเป็นมรดกโลกขององค์กร UNESCO ด้วย
เรามักจะเห็นศาสนิกจำนวนมากเดินทางมาสถานที่แห่งนี้เพื่อแสวงบุญ ชาวรัสเซียผู้ศรัทธาในพระเจ้าเดินทางมาขอพรในวิหารจากบาทหลวง และรองน้ำที่เชื่อกันว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์กลับไปที่บ้านเพื่อใช้ดื่มและอาบ
สำหรับท่านที่สนใจในประวัติของซาร์ปีเตอร์มหาราช ปีเตอร์เคยใช้สถานที่นี้หลบภัยจากโซเฟีย พี่สาวต่างมารดาก่อนที่ปีเตอร์จะยึดอำนาจคืนจากเธอได้ในที่สุด
2. Vladimir
ครั้งหนึ่งวลาดิเมียร์ (Vladimir, Владимир) เคยเป็นเมืองสำคัญที่สุดในรัสเซีย วลาดิเมียร์ถือกำเนิดในสมัยยุคกลาง (ต้นศตวรรษที่ 12) และเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ จนกระทั่งพวกมองโกลได้รุกรานรัสเซียในศตวรรษที่ 13 ทำให้วลาดิเมียร์เสื่อมลง
ปัจจุบันวลาดิเมียร์เป็นส่วนหนึ่งของโกลเด้นริง ภายในตัวเมืองยังเหลือมหาวิหารและโบสถ์เก่าแก่ที่สวยงามมากมาย เช่น Cathedral of the Assumption, Dormition Cathedral หรือ Cathedral of St. Demetrius ทั้งสองเป็นมหาวิหารที่มีอายุเกือบ 900 ปี และแสดงถึงศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์ของรัสเซีย
สถาปัตยกรรมที่วลาดิเมียร์นี้เองที่เป็นแบบอย่างของมหาวิหารอื่นๆ ในดินแดนที่เคยเป็นจักรวรรดิรัสเซียมาก่อน นั่นรวมถึงมอสโก และเซนต์ปีเตอร์สเปิร์กบ้วย
นอกจากนี้ภายในเมืองยังมีพิพิธภัณฑ์อีกหลายแห่งให้เยี่ยมชมอีกด้วย ด้วยความที่เป็นเมืองขนาดกลาง ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมสถานที่เหล่านี้ได้อย่างสบายๆ โดยไม่ต้องไปเบียดเสียดกับผู้คนในสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ในเซนต์ปีเตอร์สเปิร์ก หรือ มอสโก
3. Suzdal
ซูสดัล (Suzdal, Суздаль) เป็นเมืองโบราณที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของรัสเซีย และเป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญที่สุดในโกลเด้นริง เมืองแห่งนี้สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 10 หรือเก่าแก่กว่ามอสโกนับร้อยปี
เมืองแห่งนี้เป็นเมืองไม่กี่แห่งในรัสเซียที่ไม่มีโรงงานอุตสาหกรรม แม้กระทั่งในสมัยโซเวียตก็ตาม ทำให้ซูสดัลยังรักษาสิ่งก่อสร้างเดิมๆ เอาไว้ได้และมีธรรมชาติที่บริสุทธิ์ด้วย
สถานะของซูสดัลในปัจจุบันจึงเป็นเมืองท่องเที่ยวและพิพิธภัณฑ์ ด้วยความที่มีพิพิธภัณฑ์มากมาย ซูสดัลจึงได้รับการเรียกขานว่า “พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง” รายได้เกือบ 100% ของเมืองมาจากการท่องเที่ยว ชาวบ้านรัสเซียแถบนั้นจึงคุ้นเคยกับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี
สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองหลักๆ คือโบสถ์และมหาวิหารเก่าแก่นับสิบแห่งรวมไปถึงอาคารโบราณที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแท้ๆของรัสเซีย อาจจะกล่าวได้ว่าการได้มาซูสดัลเหมือนได้ย้อนกลับไปรัสเซียเมื่อหลายร้อยปีก่อนก็ไม่ปาน
4. Kostroma
คอสโตรมา (Kostroma, Кострома) เป็นอีกเมืองเก่าแก่ในโกลเด้นริง อายุในเมืองนี้น่าจะอยู่ที่อย่างน้อย 900 ปี หรืออาจจะมากถึง 1,600 ปีด้วยซ้ำไป
เมืองนี้เป็นจุดเริ่มต้นของราชวงศ์โรมานอฟ เพราะอารามอิปาตเยฟ (Ipatiev Monastery) ที่ซาร์มิคาอิล ซาร์พระองค์แรกแห่งราชวงศ์หลบหนีมาพำนักตั้งอยู่ที่นี่
ตั้งแต่บัดนั้นซาร์ในราชวงศ์โรมานอฟมักจะเดินทางมาด้วยตนเองเพื่อเยี่ยมเยียนเมืองนี้สักครั้งหนึ่งในชีวิต รวมไปถึงซาร์นิโคลัสที่ 2 ด้วย
อารามอิปาตเยฟ (Ipatiev Monastery) จึงเป็นสถานที่หลักในคอสโตรมาที่นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชม อารามขนาดนี้มีขนาดใหญ่ไม่แพ้ที่ Sergiev Posad เลยทีเดียว
นอกจากนี้ในเมืองยังรักษาตลาดโบราณเก่าแก่ไว้ให้ชมและซื้อของอีกด้วย นักท่องเที่ยวจึงสามารถดื่มด่ำกับประวัติศาสตร์สมัยที่ราชวงศ์โรมานอฟก่อตั้งขึ้นได้ที่เมืองแห่งนี้
5. Yaroslavl
เยรัสสวัล (Yaroslavl, Ярослáвль) เป็นเมืองเก่าแก่อีกเมืองหนึ่ง ตัวเมืองสร้างนับร้อยปีก่อนที่มอสโกจะถูกสร้างขึ้น ตลอดในหน้าประวัติศาสตร์ เมืองแห่งนี้ได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติและการทำลายโดยมนุษย์อยู่เป็นประจำ โชคดีเมืองยังรักษาสิ่งก่อสร้างเก่าแก่ไว้ได้หลายหลังมาจนถึงปัจจุบัน และเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้
นอกเหนือจากการดูโบสถ์มากมายในตัวเมืองเช่น Church of Elijah the Prophet แล้ว นักท่องเที่ยวมักจะไปล่องแม่น้ำโวลกา แม่น้ำสำคัญของรัสเซียที่ไหลผ่านเมืองแห่งนี้เพื่อชมวิวทิวทัศน์โดยรอบ หรือบางคนอาจจะนั่งเรือขนาดใหญ่มาจากมอสโกโดยตรงและมาแวะที่นี่ก็ได้เช่นเดียวกัน
6. Rostov Veliky
รอสตอฟ วิลิกี (Rostov Veliky, Ростов Великий) จริงๆ แล้วเมืองนี้ชื่อว่า “รอสตอฟ” เฉยๆ ไม่มีคำว่า “วิลิกี” ที่แปลว่ายิ่งใหญ่ต่อท้าย แต่ชาวรัสเซียมักเรียกว่า “รอสตอฟ วิลิกี” หรือรอสตอฟยิ่งใหญ่ เพราะจะได้แยกจากเมืองรอสตอฟอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ที่ลุ่มแม่น้ำดอนทางตอนใต้ของรัสเซีย
รอสตอฟเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดเมืองหนึ่งในโกลเด้นริงก็ว่าได้ เพราะเมืองแห่งนี้ปรากฏในหน้าประวัติศาสตร์รัสเซียตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 9 เลยทีเดียว เรียกว่าร่วมสมัยกับ Kievan Rus เลยก็ว่าได้
ตัวเมืองมี “เครมลิน” เป็นของตัวเองซึ่งเก่าแก่กว่าเครมลินของมอสโกเสียอีก เครมลินของรอสตอฟยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ และได้รับการยกย่องว่าเป็นผลงานอันยิ่งใหญ่ของชาวรัสเซียในยุคกลาง
นอกจากนี้รอสตอฟยังมีโบสถ์สวยๆ อีกหลายหลัง และมีทะเลสาบให้ตกปลาได้อีกด้วย ตัวเมืองค่อนข้างเงียบสงบเพราะมีจำนวนประชากรเพียง 30,000 คนเท่านั้น
บทส่งท้าย
นอกจากเมืองทั้ง 6 นี้แล้ว นักท่องเที่ยวสามารถไปเมืองอื่นๆ ที่มีความสำคัญรองลงไปได้อีก อาทิเช่น Uglich, Pereslavl-Zalessky หรือ Rybinsk
สำหรับบางเมืองที่ผมแนะนำไปด้านบน นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวได้ครบในครึ่งวัน และระยะทางระหว่างแต่ละเมืองก็ไม่มากนัก ทำให้เราสามารถเที่ยวเมืองทั้งสองแห่งภายในวันเดียวได้อย่างสบายๆ