ประวัติศาสตร์บูเช็คเทียน (5): หวู่เหม่ยเหนียงจากวัดกลับเข้าสู่วัง

บูเช็คเทียน (5): หวู่เหม่ยเหนียงจากวัดกลับเข้าสู่วัง

ตอนที่ 1 อยู่ที่นี่

จากตอนที่แล้ว หวู่เหม่ยเหนียงรอแล้วรอเล่า แต่ถังเกาจงยังไม่รับนางกลับเข้าวังเสียที ทำให้นางเศร้าเสียใจอย่างมาก แต่หวู่เหม่ยเหนียงไม่ทราบเลยว่าโชคชะตาอยู่ข้างนาง เหตุการณ์บางอย่างกำลังจะทำให้นางได้กลับเข้าวังในไม่ช้า

จะเป็นเหตุการณ์ใดกันแน่?

เจดีย์ห่านป่าใหญ่ สร้างในปี ค.ศ.652 ปีที่หวู่เหม่ยเหนียงกลับเข้าวัง

หวางหวงโฮ่ว

ย้อนกลับไปตอนที่ถังไท่จงเลือกคู่ครองให้กับหลี่จื้อ (ถังเกาจง) ถังไท่จงเลือกธิดาสาวตระกูลหวางเป็นคู่ครองของหลี่จื้อ พงศาวดารเขียนไว้ว่านางคนนี้สวยและมีมารยาทดี แถมยังเป็นบุตรสาวขุนนางผู้ใหญ่ด้วย ถังไท่จงเห็นเหมาะสมจึงอนุญาตให้นางแต่งงานเป็นชายาเอกของของหลี่จื้อ

หลังจากแต่งงานแล้ว หลี่จื้อกลับไม่โปรดนางเลยสักนิดเดียว สำหรับสาเหตุนั้นเราไม่ทราบ นางอาจจะเรียบร้อยเกินไปสำหรับหลี่จื้อก็เป็นไปได้ หลี่จื้ออาจจะชอบแบบหวู่เหม่ยเหนียงที่สวยแบบยั่วยวนมากกว่า

ดังนั้นหลี่จื้อจึงมีสนมเล็กสนมน้อยอยู่หลายคน จริงๆแล้วก็ไม่ได้แปลกอะไรสำหรับยุคนั้น คนที่หลี่จื้อโปรดที่สุดคือสนมเซียว หลังจากหลี่จื้อได้ครองราชย์เป็นถังเกาจง สนมเซียวได้เป็นเซียวซู่เฟย หรือ พระราชเทวี

ก่อนที่ถังไท่จงจะสวรรคต หลี่จื้อมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับหวู่เหม่ยเหนียงอีกคนหนึ่ง แต่เรื่องนี้เป็นความลับ ยังไม่มีผู้ใดทราบ

เมื่อหลี่จื้อเป็นฮ่องเต้ พระชายาหวางได้เป็นหวางหวงโฮ่ว นางมีทุกอย่างที่ผู้หญิงคนหนึ่งอยากจะได้รับ ยกเว้นอย่างเดียวนั่นก็คือ ความรักจากสามี

ถังเกาจงไม่โปรดปรานหวางหวงโฮ่วสมัยนางยังเป็นชายาเอกอย่างไร เมื่อนางเป็นหวงโฮ่วแล้วยังคงไม่โปรดอย่างนั้น ถังเกาจงปล่อยให้นางอยู่ในตำหนักอย่างเดียวดาย ส่วนตนเองไปคลุกอยู่ที่ตำหนักของเซียวซู่เฟย หรือไม่ก็สาวๆคนใหม่ที่เพิ่งรับเข้ามา

การที่ฮ่องเต้ไม่โปรดไม่ต้องสงสัยว่าทำให้หวางหวงโฮ่วไม่มีโอรสธิดากับถังเกาจงเลยสักคนเดียว โอรสธิดาของถังเกาจงมาจากเซียวซู่เฟย และสนมคนอื่นๆ ทั้งสิ้น

หวางหวงโฮ่วจึงอิจฉาริษยาเซียวซู่เฟยมาก เพราะนางได้รับการโปรดปรานและมีบุตรธิดาหลายคนกับถังเกาจง

ด้วยเหตุนี้หวางหวงโฮ่วจึงต้องการทำให้ถังเกาจงเลิกโปรดเซียวซู่เฟยเสียให้ได้ แต่ยังคิดไม่ออกเสียทีว่าจะทำอย่างไร

จนกระทั่งวันหนึ่ง

พบหน้ากันอีกครั้ง

วันนั้นเป็นวันครบรอบวันสวรรคตของถังไท่จง ถังเกาจงจึงไปวัดก่านเย่สื้อพร้อมกับหวางหวงโฮ่ว เพื่อสักการะดวงวิญญาณ และอุทิศส่วนกุศลให้กับอดีตจักรพรรดิผู้ล่วงลับ

พงศาวดารจือจื่อถงเจี้ยนว่าไว้ว่า เมื่อถังเกาจงกำลังจะปักธูปลงบนกระถางถูป เขาเห็นชีสาวนางหนึ่งที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี นางคือหวู่เหม่ยเหนียงนั่นเอง

เวลาที่ถังเกาจงมองนางเป็นเวลาเดียวกับที่หวู่เหม่ยเหนียงกำลังมองถังเกาจงเช่นเดียวกัน ทั้งสองจึงประสานสายตากัน ถังเกาจงจึงรู้ว่าชีสาวผู้นี้คือ ผู้หญิงที่ตนเองเคยสัญญาว่าจะรับนางเข้าวังมาเป็นหวงโฮ่วนั่นเอง

ในเวลานั้นดวงตาทั้งสองข้างของถังเกาจงกลับมีน้ำตาไหลออกมา ส่วนหวู่เหม่ยเหนียงถึงกับร้องไห้ฟูมฟาย

หวางหวงโฮ่วเห็นเหตุการณ์โดยตลอด นางจึงคิดแผนการที่จะกำจัดเซียวซู่เฟย (พระสนมเซียว) ได้สำเร็จ แผนที่ว่าคือนางจะใช้หวู่เหม่ยเหนียงเป็นอาวุธ!

หวางหวงโฮ่วคิดว่าจะให้ถังเกาจงรับหวู่เหม่ยเหนียงเข้าวัง เซียวซู่เฟยจะได้มีคู่แข่งบ้าง และเป็นการแก้เผ็ดเซียวซู่เฟยอย่างเจ็บแสบด้วย เพราะเซียวซู่เฟยชอบเพ็ดทูลเอาเรื่องร้ายๆของหวางหวงโฮ่วกรอกหูถังเกาจงอยู่ตลอด

เมื่อกลับถึงวัง หวางหวงโฮ่วถามถังเกาจงว่าเพราะเหตุใดถังเกาจงถึงมีท่าทีเช่นนั้นกับแม่ชีคนดังกล่าว ถังเกาจงทนรบเร้าไม่ได้จึงเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้หวางหวงโฮ่วฟัง

หวางหวงโฮ่วกลับเสนอให้ถังเกาจงรับนางเข้ามาในวัง ถังเกาจงเห็นหวงโฮ่วเห็นดีเห็นงามด้วยจึงมีรับสั่งให้หวู่เหม่ยเหนียงหยุดโกนผม และเตรียมไว้ผมยาวเพื่อเข้าวังทันที

นี่จึงเป็นเหตุที่ทำให้หวู่เหม่ยเหนียงกลับไปอยู่ในวังได้อีกครั้งหนึ่ง

เวอร์ชั่นติดเรท

อย่างไรก็ตามมีเวอร์ชั่น “ตำนาน” ติดเรท 18+ ด้วยที่เล่าถึงการกลับเข้าวังของหวู่เหม่ยเหนียง

ตำนานนี้เล่าว่า หวางหวงโฮ่วไม่ได้ไปวัดก่านเย่สื้อด้วย แต่ถังเกาจงและหวู่เหม่ยเหนียงได้พบหน้ากันอีกครั้งที่วัดดังกล่าว เมื่อพบกันแล้วถ่านไฟเก่าจึงลุกขึ้นมาอีกครั้งด้วยความร้อนแรง หลังจากนั้นถังเกาจงจึงแอบมาพบหวู่เหม่ยเหนียงอยู่เนืองๆ

พบกันไปพบกันมา ทั้งสองเลยเถิดจนถึงกับมีอะไรกัน ทำให้หวู่เหม่ยเหนียงตั้งครรภ์ทั้งๆ ที่ยังเป็นแม่ชีอยู่ เหตุการณ์ช่วงนี้อยู่ในช่วงปี ค.ศ.651

หวู่เหม่ยเหนียงร้องไห้อย่างหนักและทูลถังเกาจงว่านางทั้งครรภ์แล้ว นางอ้อนวอนขอให้ถังเกาจงรับผิดชอบ เพราะการตั้งครรภ์ตอนที่เป็นแม่ชีช่างน่าละอายอย่างยิ่ง

ถังเกาจงเบาปัญญาเพียงใดตอนเป็นเจ้าชาย ตอนเป็นฮ่องเต้แล้วก็ยังคงเหมือนเดิม ถังเกาจงไม่รู้จะทำอย่างไรดีกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขากระสับกระส่ายจนหวางหวงโฮ่วผิดสังเกต นางจึงคาดคั้นถังเกาจงให้สารภาพออกมา

ถังเกาจงเห็นว่ายากที่จะปกปิดต่อไปได้จึงเล่าเรื่องให้หวางหวงโฮ่วฟังทั้งหมด หวางหวงโฮ่วเห็นเป็นโอกาสในการกำจัดเซียวซู่เฟย นางเลยเสนอให้ถังเกาจงรับหวู่เหม่ยเหนียงเข้ารมาอยู่ในวังเสียเลย ทุกอย่างจะแฮปปี้เอนดิ้ง หรือพูดง่ายๆ

  • ถังเกาจงได้เสพสุขกับหวู่เหม่ยเหนียง โดยไม่ต้องแอบอีกต่อไป
  • หวู่เหม่ยเหนียงได้กลับเข้ามาอยู่ในวัง
  • หวางหวงโฮ่วได้สกัดเซียวซู่เฟย

หลังจากนั้นพระนางจึงให้หวู่เหม่ยเหนียงไว้ผมยาวแต่งตัวเข้าวัง ต่อมาไม่นาน หวู่เหม่ยเหนียงก็คลอดโอรสออกมาชื่อว่า หลี่หง

พงศาวดารเขียนว่าหลี่หงเกิดในปี ค.ศ 652 (เทียบศักราชแล้ว) มันจึงดูสอดคล้องกับแบบหลังที่ว่าหวู่เหม่ยเหนียงท้องระหว่างที่เป็นนางชีในช่วงหลังในปี ค.ศ 651 และให้กำเนิดหลี่หงในวังในปี ค.ศ 652

ส่วนแบบแรกอาจจะเป็นไปได้น้อยกว่า เพราะถังเกาจงพบหวู่เหม่ยเหนียงปลายปี ค.ศ.651 การรอให้นางผมยาวคงใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 6-8 เดือน แล้วจะมาคลอดหลี่หงในวังในปี ค.ศ.652 ด้วย ถ้าคิดตามดูแล้ว มันกระชั้นเกินกว่าที่จะเป็นไปได้

นักประวัติศาสตร์หลายคนจึงเชื่อว่าหวู่เหม่ยเหนียงท้องก่อนจะเข้าวัง ซึ่งก็เป็นไปได้เพราะทั้งหวู่เหม่ยเหนียงและถังเกาจงเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องศีลธรรมอะไรมากนัก ตั้งแต่คบกันครั้งแรกแล้ว

อย่างไรก็ตามการอ่านความเห็นของนักประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะในยุคร่วมสมัยของหวู่เหม่ยเหนียงนี่ต้องกรองหน่อย เพราะหลายคนมีอคติกับหวู่เหม่ยเหนียงอย่างชัดเจน หรือพูดง่ายๆ พร้อมที่จะเชื่อทุกเรื่องที่แรงกว่า ดูแย่กว่า ถ้ามีหวู่เหม่ยเหนียงไปเกี่ยวข้องด้วย

เมื่อให้กำเนิดลูกชาย หวู่เหม่ยเหนียงจึงได้รับตำแหน่งเป็น จาวหยี หรือ เจ้าคุณพระ ตำแหน่งสูงที่สุดของพระสนมที่ไม่ใช่พระภรรยาเจ้า (กุ้ยเฟย เต๋อเฟย ซู่เฟย และ เซียนเฟย)

หลังจากนั้นความสนใจของถังเกาจงจึงมาอยู่ที่หวู่เหม่ยเหนียงทั้งหมด และไม่โปรดปรานเซียวซู่เฟยเหมือนกับแต่ก่อน ทำให้หวางหวงโฮ่วสะใจมากที่ได้ล้างแค้นเซียวซู่เฟย

หากแต่ว่าในบั้นปลายแล้ว หวางหวงโฮ่วตัดสินใจถูกหรือไม่ที่นำหวู่เหม่ยเหนียงกลับมาอยู่ในวัง? หวางหวงโฮ่วไม่รู้เลยว่าหญิงที่นางนำกลับเข้ามาในวังผู้นี้ เป็นหญิงที่เฉลียวฉลาด และเก่งกาจเรื่องกลอุบายมากกว่าตัวนางและเซียวซู่เฟยหลายเท่า

ติดตามตอนต่อไปได้ที่นี่

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!