ประวัติศาสตร์อินคา (11): การต่อต้านครั้งใหญ่ที่นำมาซึ่งความปราชัย

อินคา (11): การต่อต้านครั้งใหญ่ที่นำมาซึ่งความปราชัย

ตอนที่ 1 อยู่ที่นี่

การที่พวกสเปนได้กดขี่ข่มเหงชาวอินคาและชาวท้องถิ่นอื่นๆ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พวกเขาก่อกบฏขึ้น กองทัพอินคาจำนวนมหาศาลได้พุ่งตรงมายังคูซโก ทำให้เออร์นันโดต้องเรียกฮวนและทหารม้าเจ็ดสิบนายที่ส่งไปสอดแนมกลับมายังคูซโกโดยเร็วที่สุด

ฮวนและทหารม้าสเปนควบม้าอย่างกับลมพัด ท่ามกลางลูกหินที่พวกอินคาปาเข้าใส่พวกเขาจากด้านหลัง แต่สุดท้ายก็ฝ่าวงล้อมกลับเข้าไปในเมืองในสำเร็จ

ตรงหน้าของพวกสเปนคือทหารอินคาจำนวนอย่างน้อย 100,000-200,000 นาย ส่วนพวกสเปนมีเพียง 196 นาย พร้อมกับกองกำลังพันธมิตรท้องถิ่นที่มาจากเผ่า Chachapoya เพียง 500 นายเท่านั้น

สถานการณ์ดูย่ำแย่อย่างมากสำหรับพวกสเปน ในวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ.1536 แมนโค อินคาจึงมีคำสั่งให้เข้าโจมตีเมือง

ทหารอินคาบุกเข้าตีคูซโก

ยุทธการแห่งคูซโก

กองทัพอินคาจำนวนนับแสนต่างโห่ร้องเข้าโจมตีเมืองคูซโก พวกเขามีกำลังมากกว่าฝ่ายศัตรูถึง 200-400 เท่า เหล่าทหารสเปนเองต่างหวั่นกลัวไม่น้อยกับกองทัพอินคาตรงหน้า พวกสเปนสู้พลางถอยพลางเพราะพวกอินคากระหน่ำยิงพวกเขาด้วยธนูและอาวุธระยะไกลทุกประเภทที่หามาได้

เมื่อเห็นว่าไม่สามารถต้านทานที่หน้ากำแพงเมืองได้ เออร์นันโดจึงถอนกำลังทั้งหมดไปอยู่ที่จัตุรัสกลางเมือง และให้รักษาที่นี่เอาไว้ให้ได้ กองทัพอินคาจึงยึดป้อมที่สำคัญอย่างป้อม Sacsaywaman ได้อย่างง่ายดาย

กองทัพอินคาพยายามจุดไฟเพื่อรมควันทหารสเปนให้ทนไม่ไหวจนต้องออกมา เพลิงได้เผาผลาญส่วนใหญ่ของเมืองให้กลายเป็นเถ้าถ่าน แต่พวกสเปนยังทนอยู่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ

วันรุ่งขึ้นเออร์นันโดที่เหลือทางเลือกไม่มากจึงสั่งให้ทหารม้าสเปนบุกชาร์จออกมาจากที่กำบัง เพื่อที่จะหยุดยั้งการรุกของพวกอินคาบ้าง แต่เมื่อทหารม้าสเปนออกมา พวกอินคากลับโยนอาวุธใหม่เข้าใส่ม้าของพวกสเปน

อาวุธใหม่นี้เรียกว่า Bola มันจะทำให้ม้าของพวกสเปนขาพันกัน และไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วอีกต่อไป การโจมตีของทหารม้าสเปนจึงต้องถูกยกเลิก เออร์นันโดสั่งการว่าต่อไปถ้าทหารม้าสเปนออกไปโจมตี พวกเขาจะต้องเกาะกลุ่มอยู่ด้วยกัน และต้องมีทหารเดินเท้าคอยจัดการกับอาวุธใหม่ด้วย

สำหรับพวกสเปนแล้ว ขวัญกำลังใจของพวกเขาลดลงไปทุกวัน จริงอยู่ว่ายังไม่มีใครตายด้วยน้ำมือของพวกอินคาเลยสักคนเดียว แต่ทุกคนต่างได้รับบาดเจ็บ เสบียงอาหารที่มีอยู่ร่อยหรอลงไปทุกทีแล้ว

เออร์นันโดตัดสินใจว่าหนทางเดียวที่จะรอดคือชิงป้อม Sacsaywaman ที่เต็มไปด้วยน้ำและอาหารกลับคืนมาเท่านั้น ถ้าชิงป้อมนี้กลับมาไม่ได้ โอกาสที่พวกสเปนจะตายหมู่มีสูงมาก

ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้บุกเข้าชิงป้อมดังกล่าวกลับคืนมาคือ ฮวน ปิซาร์โร น้องชายของเออร์นันโดเอง ฮวนเป็นคนกล้าหาญและได้รับการยกย่องจากพวกทหารสเปน ตัวเขาเองพร้อมแล้วที่จะนำกำลังบุกออกไป

แต่ทว่าในวันเดียวกัน ทหารม้าสเปนนายหนึ่งถูกทหารอินคาขว้างด้วยหินเข้าใส่ที่ศีรษะ ฮวนเห็นเข้าจึงรีบเข้าไปช่วย

จังหวะนั้นเองทหารอินคาได้ขว้างหินเข้ามาหาฮวน หินก้อนนั้นกระแทกที่บริเวณกรามของเขาอย่างแรง แต่ฮวนก็ยังสามารถพาเพื่อนทหารของเขาเข้าที่กำบังได้สำเร็จ

เย็นของวันนั้นกรามของฮวนบวมเป่ง มันบวมจนฮวนไม่สามารถใส่หมวกเหล็กได้ ฮวนเองก็มีหน้าที่บุกออกไปในวันรุ่งขึ้นด้วย

แม้ว่าเขามีทางเลือกให้คนอื่นไปแทนได้ แต่ฮวนยืนยันที่จะนำทัพออกไป

เช้าวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ.1536 ฮวนพร้อมกับทหารม้าสเปนหกสิบนายออกมาจากที่กำบังและมุ่งหน้าไปยังป้อมที่เป็นเป้าหมาย พวกอินคาเข้าใจผิดว่าฮวนและทหารม้าสเปนกำลังจะหลบหนีออกจากเมือง พวกเขาจึงทำลายสะพานเชือกที่ใช้ออกจากเมืองจนสิ้น แต่จริงๆแล้วฮวนมุ่งหน้าไปยังป้อม Sacsaywaman ต่างหาก

พวกสเปนพยายามบุกเข้าโจมตีป้อม แต่ทหารอินคานับหมื่นคนอยู่ในนั้น พวกเขาซัดอาวุธที่เขาหาได้ออกมายังพวกสเปน ไม่ว่าฮวนจะทำอย่างไร เขาและพวกทหารสเปนไม่สามารถฝ่าพายุอาวุธของทหารอินคาไปได้ เวลาเริ่มล่วงเลยมาถึงตอนเย็นแล้ว

ฮวนตัดสินใจว่าจะลองบุกเข้าโจมตีเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อใกล้ถึงกำแพงพวกสเปนก็ลงจากม้า และพยายามบุกเข้าไปที่บันไดทางขึ้นป้อมดังกล่าว แต่พวกอินคาที่อยู่ในป้อมมีมหาศาล พวกเขามีมากจนพวกสเปนถูกกดดันจนไม่สามารถรุกต่อไปได้ แม้จะยังไม่มีพวกสเปนสักคนถูกสังหารเลยก็ตาม

ในเวลานั้นเอง ฮวนกลับบ้าคลั่งขึ้นมา เขาเห็นทหารสเปนไม่กล้าบุกขึ้นป้อม ฮวนจึงตัดสินใจนำหน้าทหารด้วยการแกว่งดาบอย่างบ้าคลั่งเข้าหากองกำลังอินคา

ระหว่างที่ฮวนกำลังต่อสู้อย่างบ้าเลือด หินลูกหนึ่งก็พุ่งตรงมายังศีรษะของเขา มันพุ่งมาเร็วมาก มากจนที่เขาไม่สามารถยกโล่ขึ้นได้ทัน

ศีรษะที่ปราศจากหมวกเหล็กของฮวนถูกกระแทกด้วยหินอย่างแรง ฮวนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ยังแข็งใจฟาดฟันกับพวกอินคาจนสุดท้ายสามารถยึดกำแพงส่วนหนึ่งเอาไว้ได้

ความสำเร็จของพวกสเปนกลับอยู่ได้ไม่นานนัก กำแพงเพียงส่วนเดียวไม่สามารถขัดขวางกองกำลังมหาศาลของฝ่ายอินคาในป้อมได้ หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาจึงถูกกดดันให้ทิ้งกำแพงเหล่านั้นอีกครั้งหนึ่ง

ฮวนจำต้องสั่งให้ทหารถอยออกมา เมื่อทหารสเปนถอยกลับมาแล้ว ฮวนกลับล้มลงทันที เขาเสียชีวิตสองสัปดาห์หลังจากนั้น การตายของเขาเป็นการเริ่มต้นชะตากรรมอันโชกเลือดของพี่น้องตระกูลปิซาร์โร

สมรภูมิเพื่อแย่งชิงป้อม Sacsaywaman ดำเนินต่อไป พวกทหารสเปนยังคงพยายามโจมตีป้อมดังกล่าวอยู่เป็นเวลานาน จนกระทั่งสามารถตีป้อมดังกล่าวได้สำเร็จ พวกสเปนเสียกำลังไปเพียง 35 นายเท่านั้น ส่วนพวกอินคาเสียกำลังไปประมาณสี่พันคน

ป้อม Sacsaywaman By Diego Delso, CC BY-SA 4.0,

แต่อะไรบางอย่างกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างช้าๆ

ชัยชนะของอินคา

ขณะที่กองทัพอินคากำลังเข้าตีคูซโก ฟรานซิสโก ปิซาร์โรกำลังคุมกำลังสร้างเมืองใหม่อยู่ที่ลิมา เมื่อได้ทราบข่าวปิซาร์โรจึงสั่งให้ทหารส่วนหนึ่งยกไปช่วยคูซโกทันที

กองกำลังแรกที่ยกไปช่วยคูซโกเป็นกองทหารม้าจำนวน 70 นาย พวกเขาไม่รู้เลยว่าพวกอินคาดักรอไว้อยู่แล้ว

แมนโค อินคาและเสนาธิการของเขาได้ปรึกษากันว่าจะต้องใช้ยุทธศาสตร์ใหม่ในการรับมือกับทหารสเปน ยุทธศาสตร์ที่ว่าก็คือการใช้กับดัก

กองทัพหนุนของพวกสเปนเดินทัพผ่านทุ่งหญ้าและเข้าไปยังหุบเขาเพื่อที่จะไปเมืองคูซโกโดยเร็วที่สุด แม้ว่าทหารสเปนจะขี่ม้า แต่พวกเขาต้องผ่านบริเวณเทือกเขาแอนดีสซึ่งเป็นเทือกเขาอันสูงชัน ทำให้ทหารหลายนายเริ่มหอบเหนื่อยเพราะการขาดออกซิเจน

ระหว่างที่ผ่านช่องเขาแห่งหนึ่ง พวกสเปนก็รู้ว่าพวกตนอยู่ในกับดักแล้ว!

ช่องเขาดังกล่าวเต็มไปด้วยทหารอินคา พวกเขาสาดอาวุธเหลือคณานับมาที่พวกทหารสเปน ทหารม้าสเปนจำต้องถอนกำลังกลับไป แต่พวกเขากลับพบว่าทางเข้าออกถูกปิดไปหมดแล้ว

ทันใดนั้นเสียงอันดังก้องก็เกิดขึ้นทั่วภูเขา พวกอินคากลิ้งหินขนาดมหึมามายังพวกทหารสเปน ไม่ว่าจะสวมใส่เกราะหรือหนาเพียงใด พวกทหารสเปนไม่สามารถต้านทานน้ำหนักอันมหาศาลเช่นนี้ได้ ทหารสเปนจำนวนหนึ่งเสียชีวิตทันที

ทหารม้าสเปนหลายคนพยายามหลบหนี แต่พวกเขาพบว่ากองทหารอินคารออยู่แล้ว ทหารแต่ละนายถูกรุมล้อมและฉุดกระชากลงมาสังหาร ไม้และตะบองนับพันฟาดลงไปที่ศีรษะของพวกทหารสเปน ทำให้ศีรษะของพวกเขาแตกเละจนไม่น่าดู

ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง ทหารม้าสเปนเจ็ดสิบนายเกือบเป็นศพทั้งหมด การซุ่มโจมตีของอินคาได้ผลอย่างไม่น่าเชื่อ

ไม่กี่วันต่อมา พวกอินคาก็ทำอย่างเดียวกันกับทหารที่ปิซาร์โรส่งมาอีกหกสิบคน ทหารเหล่านี้ถูกหินทับและถูกพวกอินคาฟาดด้วยตะบองจนสิ้นชีวิต

หลังจากนั้นกองทัพอินคาก็ได้เข้าสังหารพวกสเปนที่ปิซาร์โรมอบหมายให้เป็นเจ้าที่ดินในหลายแห่ง พวกอินคาสังหารพวกสเปนที่จับได้อย่างไม่ปรานี เพื่อเป็นการล้างแค้นที่พวกสเปนเคยทำกับพวกตนไว้ก่อนหน้านี้

ปิซาร์โรยังคงไม่ทราบเรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นกับทหารที่เขาส่งไปยังคูซโก เขาจึงส่งกำลังออกไปอีกสองกอง ผลที่ได้ก็คือเหมือนเดิม พวกเขาถูกพวกอินคาดักรอและสังหารจนเกือบหมดสิ้น

โดยรวมแล้วอินคาสามารถทำลายกองกำลังสเปนไปได้สี่กอง และสังหารพวกสเปนไปเกือบ 200 คน (บ้างว่ามากถึง 500 คน) อย่างไรก็ตามมีทหารสเปนคนหนึ่งหนีเอาตัวรอดไปได้ เขารายงานทุกอย่างต่อปิซาร์โรว่าเกิดอะไรขึ้น

เมื่อได้ทราบความ ปิซาร์โรไม่สบายใจเป็นอย่างมาก เขาเหลือทหารไม่มากแล้วในลิมา กำลังเสริมที่พอจะส่งไปได้ก็ส่งไปหมดแล้ว ท้ายที่สุดปิซาร์โรจึงต้องขอความช่วยเหลือจากผู้ว่าราชการอาณานิคมอื่นๆ ของสเปนในทวีปอเมริกา

แมนโค อินคาได้ทราบว่ากองทัพอินคาได้รับชัยชนะ เขาจึงสั่งให้กองทหารอินคาขนาดใหญ่กองหนึ่งยกไปตีเมืองลิมาเพื่อจัดการกับปิซาร์โร ส่วนตนเองก็ปะทะกับเออร์นันโดต่อไป

ยุทธศาสตร์ดังกล่าวของแมนโคผิดพลาดอย่างชัดเจน ชัยชนะทำให้เขามั่นใจมากเกินไป

การเข้าโจมตีเมืองทั้งสองทำให้ฝ่ายอินคาสูญเสียหนักมาก ต่างกับการซุ่มโจมตีที่ได้รับชัยชนะก่อนหน้านี้ แมนโคไม่สามารถจัดการกับเออร์นันโดได้ กองทัพอินคาอีกกองหนึ่งก็ไม่สามารถจัดการกับปิซาร์โรได้เช่นกัน การรุกของกองทัพอินคาจึงชะงักงัน

ในฐานะที่เคยศึกษาประวัติศาสตร์เรื่องนี้ สิ่งหนึ่งที่ผมไม่เคยเข้าใจเลยคือ พวกอินคาน่าจะเคยยึดอาวุธพวกสเปนได้ก่อนหน้านี้จากการลอบสังหารกลางป่าเขา แต่ทำไมถึงไม่เคยใช้มันให้เป็นประโยชน์เลย? ถ้าพวกอินคานำอาวุธของพวกสเปนมาใช้ ผลของสงครามอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้

การกบฏล้มเหลว

ความพยายามเข้าตีเมืองลิมาของฝ่ายอินคาจบลงด้วยความพังพินาศ สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะ “ค่านิยม” ของอินคาเองที่แม่ทัพมักเป็นผู้นำหน้าเหล่าทหารทั้งปวง

แม่ทัพ Quizo แม่ทัพฝ่ายอินคาที่ลิมาเป็นแม่ทัพที่มีความสามารถ เขาเป็นผู้คิดวิธีการเอาชนะกองทัพสเปนได้ถึงสี่ครั้งติดๆ กัน แต่ในครั้งนี้เขากับแม่ทัพคนอื่นๆ กลับตัดสินใจเดินนำหน้าเหล่าทหารเพื่อเข้าโจมตีกองทัพสเปน

ปิซาร์โรต่อต้านด้วยการส่งกองทัพม้าเข้าชาร์จกองทัพอินคา ผลที่ตามมาคือกองทัพอินคาแตกกระเจิงเพราะเป็นพื้นราบ แม่ทัพ Quizo และแม่ทัพอินคาจำนวนมากสิ้นชีวิตลงในสมรภูมิ

เมื่อแม่ทัพสิ้นชีวิตแล้ว กองทัพอินคาที่ลิมาต่างแตกกระจัดกระจายไปคนละทางเพราะขาดแม่ทัพ

ช่วงเวลาเดียวกัน แมนโค อินคาก็ได้ทราบว่ากองกำลังสี่ร้อยนายของอัลมาโกรกำลังยกทัพเข้ามาใกล้ถึงคูซโก กองทัพนี้คือกองทัพที่ลงใต้ไปยังดินแดนชิลี แต่เมื่อชิลีไม่มีอาณาจักรใดๆ อยู่ อัลมาโกรที่คว้าน้ำเหลวจึงเร่งกลับมายังดินแดน “เปรู” ที่พวกสเปนพิชิตไว้ได้แล้ว

ในฐานะที่อัลมาโกรเคยเป็นมิตรสหายของแมนโค อินคามาก่อน เขาจึงส่งจดหมายมาให้แมนโค และเสนอให้มีการประนีประนอมกัน เขาสัญญาว่าจะลงโทษพวกปิซาร์โรที่หยาบช้ากับแมนโคให้สาสม

สำหรับอัลมาโกรแล้ว เขาต้องการประนีประนอมกับแมนโค อินคา เพื่อที่จะกำจัดกลุ่มก้อนของปิซาร์โร ผู้ที่เขามองว่าเป็นศัตรูที่แท้จริง

แมนโค อินคารู้ดีว่าตนเองอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบหลังจากที่เสียกองกำลังขนาดใหญ่ไปที่ลิมา เขาเองก็ทราบว่ากองหนุนของพวกสเปนที่พวกปิซาร์โรขอมากำลังยกทัพมาถึง กองทัพนี้มีกำลังอีกห้าร้อยนาย ถ้ารวมๆกันแล้วกองทัพอินคาไม่สามารถจัดการได้แน่ๆ การทำสงครามต่อไปย่อมไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก

หากแต่ว่าแมนโค อินคามั่นใจว่าพวกสเปนอย่างอัลมาโกรไว้ใจไม่ได้ การประนีประนอมจึงไม่ใช่ทางเลือก

แมนโค อินคาเหลือทางเหลือสุดท้ายอยู่ทางเดียว นั่นก็คือการถอนกำลังทั้งหมดและหลบหนีเข้าไปในดินแดนทางตะวันออกที่มีแต่ป่ารกชัฏของอินคา แมนโค อินคาต้องกล้ำกลืนน้ำตาแห่งความเศร้าและมอบบ้านเกิดเมืองนอนของเขาให้พวกสเปนไป

ความพยายามของเขาตลอดเก้าเดือนที่ผ่านมาสูญเปล่า เขาพ่ายแพ้แล้วจริงๆ

แต่ทว่า การที่เขาทิ้งดินแดนเหล่านี้ให้พวกสเปนก็เป็นการทิ้ง “เสือ” ให้อยู่กับ “เสือ” เสือสองตัวจะกัดกันเองในไม่ช้า เรื่องจะเป็นไปอย่างไรต่อไป ติดตามได้ในตอนหน้าครับ

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!