ภาษาเยอรมันเป็นอีกภาษายอดนิยมที่คนไทยมักจะเรียนเป็นภาษาที่สาม อนึ่งเพราะประเทศเยอรมนีเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของทวีปยุโรป การเรียนภาษาเยอรมันจึงเปิดโอกาสทางการศึกษาต่อ รวมไปถึงโอกาสทางด้านธุรกิจได้อย่างมากมาย
โดยทั่วไปแล้วผู้สนใจมักจะไปเรียนภาษาเยอรมันที่สถาบันต่างๆ แต่หลายคนอาจจะติดงาน มีตารางชีวิตที่ไม่แน่นอน หรือแม้กระทั่งปวดหัวกับรถติด ทำให้ไม่สะดวกที่จะไปเรียนที่สถาบันเท่าไรนัก
ดังนั้นการหาคอร์สสอนภาษาเยอรมันออนไลน์จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย เราไปดูกันดีกว่าครับจะมีคอร์สไหนบ้าง
คอร์สสอนภาษาเยอรมันออนไลน์แบบตัวต่อตัว
การเรียนภาษาเยอรมันทางออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าจะต้องเป็นการเรียนแบบตัวต่อตัวกับครูผู้สอนโดยตรง เพราะครูจะได้ทุ่มเวลาการสอนทั้งหมดให้กับคุณ นอกจากนี้คุณยังสามารถสอบถามสิ่งที่สงสัยได้ หรือแม้กระทั่งขอให้ครูเน้นสอนทักษะที่คุณยังไม่เข้าใจนั่นเอง
ข้อเสียของการเรียนแบบนี้คือ ค่าเรียนจะราคาสูงกว่าเรียนด้วยตัวเองอย่างมีนัยสำคัญ หลายคนอาจจะมองว่าแพงเกินไปนั่นเองครับ
1. Lingoda
Lingoda เป็นแพลตฟอร์มสอนภาษาออนไลน์แบบตัวต่อตัวที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศเยอรมนีโดยตรง ในปัจจุบัน Lingoda เปิดสอน 5 ภาษาได้แก่ ภาษาอังกฤษทั่วไป, ภาษาอังกฤษธุรกิจ ภาษาเยอรมัน ภาษาฝรั่งเศส และภาษาสเปนครับ
หลักสูตรของ Lingoda จะใช้ระบบ CEFR (Common European Framework) ซึ่งจะเรียงตามลำดับตั้งแต่ระดับ A1 ไปจนถึงระดับ C1 ครับ ระบบนี้เป็นระบบการเรียนภาษามาตรฐานที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกครับ
ด้วยความที่ Lingoda ใช้ระบบนี้ คุณสามารถเรียนรู้ภาษาเยอรมันได้ตั้งแต่ระดับเบื้องต้นไปจนถึงระดับสูงเลยครับ
วิธีการเรียนกับ Lingoda
การเรียนภาษาเยอรมันกับ Lingoda จะมีให้เลือกสองแบบ นั่นก็คือเรียนสดแบบตัวต่อตัว กับเรียนสดเป็นกลุ่ม
การเรียนสดแบบตัวต่อตัวนั้นก็คือ คุณจะเรียนแบบตัวต่อตัวกับครูผ่านทางแพลตฟอร์มอย่าง Zoom และ Skype หรือว่าบางแพลตฟอร์มจะให้เรียนโดยตรงผ่านช่องทางของตัวเอง เท่ากับว่าทั้งคลาสเรียนนั้นเป็นของคุณโดยสมบูรณ์ คุณจะสอบถามครูได้อย่างอิสระ
การเรียนสดแบบเป็นกลุ่มนั้นก็ไม่ได้ต่างกัน แต่จะเพิ่มเพื่อนเข้าไปในคลาสเรียนเดียวกันด้วย อย่างไรก็ดีคลาสเรียนจะมีนักเรียนไม่เกิน 5 คน เพราะจะทำให้ครูสอนทุกคนได้อย่างทั่วถึงครับ ทั้งนี้ Lingoda เป็นแพลตฟอร์มเดียวเลยก็ว่าได้ที่คุณสามารถเรียนลักษณะนี้ได้
แบบแรกจะเหมาะกับใครที่อยากเรียนแบบจริงจัง ส่วนแบบหลังจะเหมาะกับใครที่อยากจะเรียนภาษาเยอรมันไปพร้อมๆ กับเพื่อนครับ หรือว่าอยากรู้จักเพื่อนใหม่ครับ
สำหรับครูของ Lingoda นั้นจะเป็นเจ้าของภาษาที่จบครุศาสตร์เน้นการสอนภาษามาโดยตรง และมีวุฒิบัตรครูอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ รวมไปถึงยังมีประสบการณ์การสอนมาแล้วหลายปีด้วย ดังนั้นคุณสบายใจได้เลยว่าคุณจะได้เรียนกับครูที่มีทักษะการสอนเป็นอย่างดีครับ
การเริ่มต้นเรียนกับ Lingoda ไม่ยากอะไรเลย โดยจะมีขั้นตอนต่อไปนี้ครับ
- เลือกระดับภาษาเยอรมันของคุณ ระหว่าง A1 ถึง C1
- เลือก Topic ที่คุณอยากจะเรียนในวันนั้น
- เลือกเวลาเรียนที่ต้องการ
- เริ่มเรียน
ทั้งนี้คุณสามารถเลือกเรียนได้ตลอด 24 ชั่วโมง และ 7 วันต่อสัปดาห์ เพราะครูของ Lingoda จะมีประจำอยู่ตลอด ทำให้เหมาะอย่างยิ่งทำให้ใครที่มีตารางที่ไม่แน่นอน หรือว่าจำเป็นต้องเรียนภาคดึกเป็นต้น
อย่างไรก็ดี Lingoda จะต่างกับหลายแพลตฟอร์มตรงที่จะมีข้อจำกัดในการเลือกครู เพราะตัวครูจะ fix กับตัว Topic นั้นๆ ทำให้คุณเลือกครูไม่ได้ และคุณจะได้เรียนกับครูหลายคนแน่ๆ ในการเรียนให้จบ level ครับ
คุณจะเรียนครั้งละ 1 ชั่วโมง แต่ถ้าคุณอยากเรียนมากกว่านั้น คุณสามารถจองหลาย Topic ในวันเดียวได้ ทำให้คุณสามารถเร่งเรียนได้ถ้าต้องการครับ
ค่าเรียนของ Lingoda
ค่าเรียนของ Lingoda นั้นมีความซับซ้อนอยู่บ้าง โดยค่าเรียนจะแปรตามปัจจัยต่อไปนี้
- เรียนเดี่ยวหรือกลุ่ม – ถ้าเรียนกลุ่มจะถูกกว่าเรียนเดี่ยว
- จ่ายรายเดือนหรือว่าจ่ายเหมา 3-12 เดือน – จ่ายเหมาจะถูกกว่าจ่ายรายเดือน
ยกตัวอย่างเช่นถ้าคุณเรียนกลุ่มแบบเหมา 12 เดือน ค่าเรียนจะอยู่ที่ $8.75 หรือประมาณ 270 บาทต่อชั่วโมง แต่ถ้าเลือกรายเดือนจะอยู่ที่ $11 หรือประมาณ 330 บาทต่อชั่วโมงเป็นต้น ซึ่งถ้าเทียบกับสถาบันทั่วไปในไทยแล้วจะถือว่าถูกมากครับ
อย่างไรก็ดีถ้าคุณต้องการจะเรียนให้จบระดับเพื่อที่จะให้ได้ประกาศนียบัตร ซึ่งแต่ละระดับ คุณจะต้องเรียนทั้งหมด 50 ชั่วโมงครับ ดังนั้นถ้าคุณจะเรียนแบบให้ได้เนื้อได้หนัง คุณจะต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 13,500 บาทขึ้นไป
ค่าเรียนนี้จะรวมหมดทุกอย่างแล้ว ตั้งแต่หนังสือเรียนและเอกสารประกอบการสอนไปจนถึงแบบฝึกหัดประเมินผลในคุณสามารถฝึกฝนได้ในเว็บ ดังนั้นคุณจะไม่ได้จ่ายอะไรเพิ่มอีกแล้วครับ ค่าใช้จ่ายแอบแฝงจึงไม่มีอย่างแน่นอน
หลายคนอาจจะสงสัยว่า Lingoda จะเหมาะกับคุณหรือเปล่า ผมแนะนำให้ทดลองเรียนเลยครับ โดย Lingoda ให้คุณเรียนฟรีได้ 1 คลาสเดี่ยวหรือ 3 คลาสกลุ่มในเวลา 7 วัน ถ้าไม่ชอบก็แค่ยกเลิกเท่านั้นเองครับ
[sc name=”lingodat” ][/sc]2. Preply
สำหรับใครที่อยากเรียนสดแบบเลือกครูได้ รวมไปถึงเลือกเนื้อหาภาษาเยอรมันที่คุณอยากเรียนได้ การใช้บริการของ Preply เป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย เพราะ Preply เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้คุณจับคู่กับครูเจ้าของภาษาจากทั่วโลกครับ นอกจากนี้จุดแข็งของ Preply คือคุณอยากเรียนภาษาอะไรก็เรียนได้ นอกจากภาษายูโรเปียนแล้ว ภาษาอย่างภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น และภาษาเกาหลีก็เรียนได้เช่นเดียวกัน
วิธีการเรียนและค่าเรียนกับ Preply
การเลือกครูที่ดีเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการเรียนออนไลน์กับ Preply เพราะครูของคุณจะกำหนดหลักสูตรเอง ดังนั้นประสบการณ์การเรียนที่คุณได้จะแตกต่างกันไปโดยสมบูรณ์ (ต่างกับ Lingoda ที่จะมีหลักสูตร CEFR เป็นฐาน) แต่ข้อดีที่ชัดเจนก็คือ คุณสามารถขอให้ครูสอนอะไรก็ได้ที่คุณต้องการครับ (อย่างเช่นเน้นการฟังเป็นต้น)
สำหรับการเลือกครูนั้นผมแนะนำให้ใช้ขั้นตอนต่อไปนี้
- ตั้งให้เครื่องมือเลือกครูแสดงผลเฉพาะ Native Speaker หรือเจ้าของภาษาเท่านั้น
- เลือกให้ครูของคุณมาจากประเทศเยอรมนี สวิสเซอร์แลนด์ หรือออสเตรีย (แล้วแต่สำเนียงที่คุณต้องการ) +
- เลือก Specialties ที่ต้องการ (ยกตัวอย่างเช่น ภาษาเยอรมันระดับเบื้องต้น ภาษาเยอรมันในชีวิตประจำวัน ภาษาเยอรมันธุรกิจ หรือว่าภาษาเยอรมันสำหรับเตรียมสอบวัดระดับ TestDAF เป็นต้น)
หลังจากนั้นระบบของ Preply จะแสดงผลครูที่หลากหลาย คุณก็จะเลือกครูจาก profile ของเขา, คลิปแนะนำตัว, รีวิว, ความนิยม และที่สำคัญที่สุดก็คือราคาค่าเรียนต่อชั่วโมงครับ
ค่าเรียนนั้นครูของคุณจะเป็นผู้กำหนด ดังนั้นราคาจะอยู่ที่ชั่วโมงละ 600-1,200 บาท ดังนั้นนี่จึงเป็นปัจจัยสำคัญอย่างมากในการเลือกครูครับ
อย่างไรก็ดีคุณสามารถทดลองเรียนก่อนได้ นั่นคือถ้าคุณจ่ายค่าเรียนชั่วโมงแรกแล้วเกิดไม่ถูกใจ คุณสามารถขอเรียนกับครูคนใหม่ได้ฟรี หรือว่ารับเงินคืนก็ได้เช่นกัน
หลังจากตกลงเรียนแล้ว คุณก็จะเลือกเวลาเรียนที่ต้องการ และจ่ายค่าเรียนครับ หลังจากนั้นคุณก็สามารถเริ่มเรียนได้เลย โดยการเรียนจะเป็นแบบตัวต่อตัวทั้งหมด (เรียนกับเพื่อนไม่ได้) ครั้งละ 1 ชั่วโมงเหมือนกับ Lingoda ครับ
โดยรวมแล้วผมมองว่า Preply เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะถ้าคุณต้องการความยืดหยุ่นในการเรียนที่สูงกว่า Lingoda ครับ
[sc name=”preplythai” ][/sc]3. Live Lingua
Live Lingua เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับใครที่อยากเรียนภาษาเยอรมันออนไลน์ คุณจะได้เรียนกับครูประสบการณ์สูงที่เคยสอนนักเรียนมาแล้วมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าคุณต้องการเรียนภาษาเยอรมันในระดับสูงเพื่อการเรียนต่อ หรือการทำงานครับ
ครูของ Live Lingua จะเหมือนกับ Lingoda นั่นคือเป็นครูประสบการณ์สูงที่มีวุฒิบัตรครู ดังนั้นคุณสามารถสบายใจได้ว่า การเรียนจะมีคุณภาพและเป็นแบบแผนครับ
วิธีการเรียนกับ Live Lingua
สิ่งแรกที่คุณจะต้องทำคือการเลือกครูครับ ซึ่ง Live Lingua มี 2 วิธีด้วยกันได้แก่
- ให้ทีมงานของ Live Lingua เลือกให้ – วิธีนี้ง่ายดี นั่นคือแค่กรอกข้อมูลต่างๆ ให้เสร็จสรรพ ยกตัวอย่างเช่นคุณต้องการการสอนภาษาเยอรมันแบบไหน (พื้นฐาน หรือติวสอบ) หลังจากนั้นทีมงานจะส่งอีเมล์จะแจ้งครูที่เหมาะสมและนัดวันเวลาเรียนให้เรียบร้อย
- เลือกเอง – ใช้วิธีเดียวกันกับ Preply นั่นคือพิจารณาจาก profile และข้อมูลอื่นๆ
หลังจากที่คุณเลือกครูได้แล้ว คุณก็เลือกเวลาเรียนและเริ่มต้นเรียนได้ตามปกติผ่านทาง app อย่าง Zoom หรือ Skype ครับ
อย่างไรก็ดีจุดแข็งในการเรียนกับ Live Lingua นั้นมีอยู่หลายอย่าง อาทิเช่น
- อยากเรียนอะไรก็ได้ รวมถึงเนื้อหาภาษาเยอรมันเกี่ยวกับสาขาต่างๆ อย่างเช่น การแพทย์ ธุรกิจ หรือว่ากฎหมาย ทำให้เหมาะเป็นพิเศษสำหรับใครที่อยากเรียนภาษาเยอรมันเฉพาะทาง
- เลือกเวลาและจำนวนครั้งได้อย่างอิสระ (ตั้งแต่ 30 นาทีถึง 2 ชั่วโมง) โดยไม่มีข้อบังคับใดๆ ทั้งสิ้น
- ค่าใช้จ่ายครอบคลุมทุกอย่าง และเท่ากันทุกครูผู้สอน โดยจะอยู่ที่ $29 หรือประมาณ 870 บาทต่อชั่วโมงสำหรับภาษาเยอรมันทั่วไป และ $39 หรือประมาณ 1,170 บาทสำหรับการเรียนภาษาเยอรมันระดับสูงเพื่อเตรียมสอบ (แต่มีส่วนลดมากถึง 20% ถ้าคุณซื้อชั่วโมงทีละมากๆ)
- เรียนฟรี 30 นาที โดยไม่ต้องเสียเงิน
ถ้ายังสงสัยว่า Live Lingua เหมาะกับคุณหรือไม่ ผมแนะนำให้ทดลองเรียนเลยดูครับ
4. Italki
สำหรับใครที่มีชีวิตการเรียนและการทำงานที่ยุ่งมาก ผมมองว่า Italki เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะคุณจะเรียนออนไลน์แบบตัวต่อตัวผ่านทาง App ของ Italki (iOS/Android) ได้อย่างอิสระนั่นเองครับ
วิธีการเรียนกับ Italki
วิธีการเรียนกับ Italki นั้นจะไม่ต่างกับ Preply เลยก็ว่าได้ นั่นคือจะเริ่มต้นที่การเลือกครูก่อน ซึ่งกระบวนการจะแทบจะเหมือนกันเป๊ะเลยครับ ดังนั้นผมจึงขอไม่อธิบายซ้ำ แต่มีจุดสำคัญที่คุณทราบ 2-3 ข้อได้แก่
1. Italki นั้นเปิดให้คุณเรียนกับเจ้าของภาษาที่ไม่ใช่ครูได้ ดังนั้นการเรียนจะมีความ informal หรือไม่เป็นทางการมากกว่า และอาจจะได้เพื่อนใหม่ๆ เลยก็ว่าได้ ซึ่งหลายคนอาจจะชื่นชอบครับ
อย่างไรก็ดีถ้าคุณต้องการเรียนภาษาเยอรมันประเภทไวยากรณ์ หรือว่าภาษาเยอรมันระดับสูง ผมมองว่าให้คุณเลือกเรียนกับครูผู้เชี่ยวชาญจะดีกว่ามาก ซึ่งคุณจะต้องปรับแก้ในส่วนของ Teacher Types ——-> Professional Teachers ครับ
2. Italki ให้คุณลองเรียนได้ในราคาที่ถูกกว่าปกติ 50%-75% เพราะฉะนั้นก่อนที่คุณจะตัดสินใจจองเวลากับครูคนไหน คุณควรจะทดลองเรียนก่อนครับ
3. คุณจะต้องเรียนผ่าน app เท่านั้น เว็บไซต์ของ Italki มีไว้เพื่อรับจองเวลาเรียนเท่านั้นครับ
สำหรับค่าเรียนของ Italki จะใช้ระบบเดียวกับ Preply นั่นคือจะแปรไปตามราคาต่อชั่วโมงที่ครูตั้งไว้ครับ โดยส่วนมากแล้วจะอยู่ที่ 500-1500 บาทต่อชั่วโมง แต่ราคานี้จะรวมเอกสารทุกอย่างแล้วเช่นกัน
เรียนภาษาเยอรมันออนไลน์ด้วยตัวเอง
ลำดับถัดไปคือคอร์สเรียนภาษาเยอรมันออนไลน์ด้วยตัวเอง ข้อดีของการเรียนแบบนี้คือราคาถูกกว่าแบบเรียนสดตัวต่อตัว และคุณจะเรียนตอนไหนก็ได้ อย่างเช่นเรียนตอนขับรถ เรียนตอนเข้าห้องน้ำ ฯลฯ
แม้ว่าหลายคนจะเรียนภาษาวิธีนี้แล้วประสบความสำเร็จ ผมมองว่าการเรียนจะใช้เวลามากกว่าแบบแรกมาก ถ้าเป็นไปได้ ผมแนะนำให้เรียนทั้งสองแบบประกอบกัน เพื่อผลสัมฤทธิ์สูงสุดครับ
Note: หลายคนอาจจะสงสัยว่าคอร์สลักษณะนี้มีจำนวนมาก แต่ทำไมผมแนะนำเพียงเท่านั้น สาเหตุก็คือผมได้ทดลองเรียนมาเป็นจำนวนมากแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Rosetta Stone, Rocket Languages, Mondly, Busuu ฯลฯ แต่สุดท้ายแล้วผมมองว่าไม่คุ้มค่าราคาและเวลาครับ
5. GermanPod101
GermanPod101 เป็นคอร์สภาษาเยอรมันที่มีเนื้อหาแน่นที่สุดในสากลพิภพ ด้วย content ที่มีมากหลายร้อยชั่วโมง ครบถ้วนทุกทักษะ และยังมีการช่วยเหลือจากครูเจ้าของภาษาด้วย ทำให้ GermanPod101 เป็นหนึ่งในทางเลือกการเรียนภาษาเยอรมันที่ดีที่สุดครับ
การเรียนกับ GermanPod101 นั้นจะใช้ระบบ Podcast เป็นหลัก นั่นคือคุณจะเรียนผ่านการฟังรายการวิทยุ โดยผู้ดำเนินรายการจะมี 2 คน คนแรกจะเป็นเจ้าของภาษาที่มีสำเนียงชัดเป๊ะทุกประการ ส่วนอีกคนจะเป็นนักเรียนต่างชาติ (เสมือนว่าเป็นตัวคุณเอง)
หัวข้อของแต่ละบทเรียนจะต่างกันออกไป แต่จะอ้างอิงจากสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน อย่างเช่นการไปเที่ยวเยอรมนี การสมัครงานเป็นต้น แต่ละบทเรียนจะมีโครงสร้างดังต่อไปนี้
- แนะนำบทสนทนาหลักที่จะเป็น topic หลักของบทเรียนนั้นๆ
- ครูเจ้าของภาษาอธิบายไวยากรณ์และคำศัพท์ต่างๆ
- นักเรียนต่างชาติสอบถามคำถามต่างๆ เพิ่มเติม
- ครูเจ้าของภาษาอธิบายความรู้ทางด้านวัฒนธรรมและรายละเอียดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับบทสนทนา
แต่ละบทจะมีความยาว 10-15 นาทีด้วยกัน ซึ่งเป็นความยาวที่เหมาะสมสำหรับแต่ละ topic ครับ จากที่ผมได้ทดลองเรียนมา ผมชอบการเรียนแบบนี้มาก เพราะว่าได้สาระดีเยี่ยม และยังสนุกสนานอีกด้วย
นอกเหนือจากบทเรียนหลักเหล่านี้แล้ว GermanPod101 ยังให้ทรัพยากรการเรียนอีกจำนวนมาก อาทิเช่น
- เอกสารการเรียนอย่างละเอียดที่จะอธิบายเพิ่มเติมในส่วนที่บทเรียนหลักครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นไวยากรณ์ คำศัพท์ และวัฒนธรรม
- Daily Dose – บทเรียนสั้นๆ ที่ทางครูผู้สอนจะเพิ่มในระบบทุกวัน ดังนั้นคุณจะมี content ใหม่ทันสถานการณ์ให้เรียนอบยู่เสมอ
- Podcast และ Video เสริม เจาะลึกไวยากรณ์ คำศัพท์ และเนื้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาษาเยอรมัน
- แบบฝึกหัดวัดความรู้ความเข้าใจของคุณ
- การอัดเสียงที่คุณสามารถลองพูดภาษาเยอรมันเทียบกับต้นฉบับได้ เพื่อพัฒนา accent ของคุณ
- Word Bank, Flashcards และเครื่องมืออื่นๆ เพื่อช่วยให้คุณจำศัพท์ภาษาเยอรมันได้ง่ายขึ้น
ด้วยทรัพยากรการเรียนที่มากมายขนาดนี้ ทำให้คุณมีทุกอย่างสำหรับการเรียนภาษาเยอรมันด้วยตัวเองครับ
ไม่เพียงเท่านั้นคุณยังสามารถขอรับการช่วยเหลือพิเศษจากครูผู้เชี่ยวชาญด้วย โดยครูจะช่วยเหลือคุณในด้านต่อไปนี้
- ตอบคำถามทุกอย่างที่คุณสงสัย
- เพิ่มแบบทดสอบประเภทการพูดและการฟัง พร้อมกับการตรวจให้เสร็จสรรพ
- จัดบทเรียนให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณ
โดยรวมแล้วการบริการนี้จะเหมือนกับครูส่วนตัวเลยก็ว่าได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณมีที่ปรึกษาภาษาเยอรมันที่ดีอยู่ข้างกายทุกที่ทุกแห่งครับ
ราคาค่าเรียน
ค่าเรียนของ GermanPod101 จะมีด้วยกัน 3 ราคาได้แก่
- Basic – เริ่มต้นที่ $4 หรือประมาณ 120 บาทต่อเดือน
- Premium – เริ่มต้นที่ $10 หรือประมาณ 300 บาทต่อเดือน
- Premium Plus – เริ่มต้นที่ $23 หรือประมาณ 690 บาทต่อเดือน
ผมแนะนำให้ข้าม Basic ไปครับ เพราะคุณจะไม่ได้อะไรเลยนอกจาก Lesson Notes ดังนั้นแพลนที่คุณควรจะสมัครก็คือ Premium เพราะว่าจะให้ทุกอย่างในแพลตฟอร์ม ยกเว้นแต่การเข้าถึงครูส่วนตัวเท่านั้น
ถึงกระนั้นแพลน Premium Plus นี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะถ้าคุณต้องการเรียนภาษาเยอรมันด้วยตัวเองแบบครบทุกทักษะจริงๆ ตั้งแต่ฟัง พูด อ่าน เขียน นอกจากนี้ยังสอบถามคำถามได้ตลอดเวลาด้วย แต่ถ้าถามผมว่าจำเป็นหรือไม่ คำตอบคือไม่ครับ เพราะแค่แพลน Premium ก็ให้ทุกอย่างที่คุณต้องใช้อยู่แล้ว
GermanPod101 ให้คุณทดลองเรียนฟรีได้ หรือว่าจ่าย $1 เพื่อทดลองเรียนแบบพรีเมียม 30 วันครับ
ตัวเลือกอื่นๆ
ตัวเลือกด้านล่างคือคอร์สเรียนภาษาเยอรมันที่น่าสนใจอยู่บ้าง แต่มีปัญหาหลายอย่าง ผมจึงไม่ได้แนะนำด้านบนครับ
Pimsleur – คอร์สเรียนภาษาเยอรมันที่เน้นการพูดแบบสุดโต่ง ดังนั้นถ้าคุณอยากจะสื่อสารเป็นภาษาเยอรมันในชีวิตประจำวันอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ คอร๋สของ Pimsleur เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากครับ
อย่างไรก็ดี Pimsleur มีจุดอ่อนสำคัญมากคือไม่เน้นการเขียน และแกรมม่าเลย ดังนั้นถ้าคุณสนใจทั้งสองด้านนี้ Pimsleur จะไม่ตอบโจทย์ของคุณครับ
Duolingo – App เรียนภาษาฟรีที่มีภาษาให้เลือกมากมาย การเรียนถือว่าสนุกสนานเพราะตัว app ทำออกมาคล้ายเกม แต่ปัญหาก็มีหลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่น ตัวแอพสามารถให้คุณผิดแม้ว่าคุณจะสลับประโยคถูกแล้ว หรือว่าเน้นแกรมม่ามากเกินไป ฯลฯ