สติ๊กเกอร์ (Sticker) เป็นเครื่องมือทางการตลาดที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสติ๊กเกอร์ฉลากสินค้า สติ๊กเกอร์ติดรถยนต์ ซึ่งประโยชน์ทางการตลาดอย่างมากมาย
การออกแบบสติ๊กเกอร์ที่ดีจึงจำเป็นมากไปด้วย ไม่แพ้การออกแบบใบปลิวหรือโปสเตอร์เลยทีเดียว หรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำไป
ในปัจจุบันมีหลากหลายทางเลือกในการออกแบบสติ๊กเกอร์ให้สวยงามและดึงดูดลูกค้า อย่างเช่นการจ้าง Freelance เป็นต้น แต่ถึงกระนั้นการใช้บริการฟรีแลนซ์อาจจะได้สติ๊กเกอร์ที่ไม่ถูกใจอยู่บ้าง ถ้าเป็นไปได้การออกแบบด้วยตัวเองอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
ทุกวันนี้มีหลายโปรแกรมออนไลน์ให้ช่วยให้คุณออกแบบด้วยตัวเอง แก้ไขได้ไม่จำกัด และยังมีการใช้งานที่ง่ายดายอีกด้วย ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีที่ไม่แพ้กับฟรีแลนซ์เลยทีเดียว เราไปดูกันดีกว่าครับว่ามีโปรแกรมไหนบ้าง
ข้อควรทราบในการใช้งาน
จุดแข็งของโปรแกรมออกแบบสติ๊กเกอร์เหล่านี้มีอยู่อีกอย่างหนึ่งคือ คุณไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดตัวโปรแกรมเพื่อมา install แล้วเรียนรู้การใช้งานแต่อย่างใด คุณสามารถจัดการทุกอย่างให้เสร็จได้บนเว็บครับ ซึ่งจะทำให้สะดวกสบาย และประหยัดเวลาไปได้อย่างมากเลยทีเดียว
1. Canva
Canva เป็นโปรแกรมกราฟิกดีไซน์สารพัดประโยชน์เป็นที่ชื่นชอบของผู้ใช้งานทั่วโลก สาเหตุสำคัญก็คือ Canva ใช้งานง่ายมาก และสามารถใช้สร้างกราฟิกให้กับร้านค้าและบริษัทของคุณได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโลโก้, นามบัตรธุรกิจ หรือแม้กระทั่งใบปลิวและ infographic ครับ
วิธีการใช้ไม่ได้ยากอะไรเลย หลังจากสมัครและ login เรียบร้อยแล้ว คุณจะต้องเริ่มต้นด้วยการเลือก template ที่เหมาะสมก่อน ซึ่งสำหรับสติ๊กเกอร์นั้นมีให้เลือกมากมาย อาทิเช่น
- สติ๊กเกอร์ติดรถยนต์ทั้งแบบทรงวงกลม ทรงวงรี ทรงสี่เหลี่ยม
- สติ๊กเกอร์ฉลากสินค้าเพื่อแสดงถึงแบรนด์หรือสินค้าที่วางขายของเรา
ในขั้นตอนนี้จะมี template ให้เลือกบนแพลตฟอร์มมากมายมหาศาล ซึ่งคุณสามารถเลือกได้ตามใจชอบ หรือว่าใครที่เก่งการออกแบบก็สามารถเนรมิตทุกอย่างขึ้นมาจากศูนย์ได้เช่นกัน
ถ้าสมมติว่าคุณยังเลือกไม่ได้ในส่วนนี้ก็ไม่เป็นปัญหาครับ เพราะคุณสามารถเลือกทีหลังได้ในขั้นตอนการแก้ไขนั่นเอง
หลังจากที่คุณเลือก template ได้แล้ว คุณก็จำเป็นต้องปรับแก้ตัวสติ๊กเกอร์ให้เหมาะสมกับแบรนด์และสินค้าของคุณ วิธีการแก้ก็แค่ลากวางลบครับ คุณอยากได้องค์ประกอบส่วนไหนเพิ่มเติมมา คุณก็แค่ลากมาจากด้านซ้าย (Resource Library) ที่มีแบบกราฟิกให้เลือกอย่างมากมายนั่นเอง
นอกจากนี้คุณยังสามารถแก้สี Font และพิมพ์ภาษาไทยลงในสติ๊กเกอร์เพื่อให้สติ๊กเกอร์นี้เป็นของคุณจริงๆ นั่นเองครับ
เมื่อคุณออกแบบเสร็จสิ้นเรียบร้อยก็เป็นขั้นตอนของการ export ซึ่ง Canva มีให้สองทางเลือกครับระหว่าง
- ดาวน์โหลดตัวสติ๊กเกอร์เป็นไฟล์ PDF Print, PNG หรือ JPG แล้วคุณนำไปปริ๊นเองที่ร้านออกแบบทั่วไป
- ให้ Canva ส่งตัวสติ๊กเกอร์ที่คุณออกแบบมาถึงบ้านของคุณ
สำหรับตัวเลือกแรกนั้น ค่าใช้จ่ายจะฟรีทั้งหมด 100% ตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงการดาวน์โหลด คุณจะไม่ต้องเสียเงินสักบาทเดียวให้กับ Canva ครับ
ส่วนทางเลือกที่สอง คุณจะต้องจ่ายเงินค่าพิมพ์สติ๊กเกอร์ให้กับทาง Canva โดยจะเริ่มต้นที่ 10.5 บาทต่อชิ้น ถ้าสั่งมาก ราคาต่อชิ้นจะถูกลงครับ
ข้อดีของทางเลือกที่สองคือ คุณสามารถเลือกได้ว่าขนาดสติ๊กเกอร์จะใหญ่ขนาดไหน รวมไปถึงคุณภาพของตัวกระดาษด้วย ซึ่งจะทำให้ราคาของสติ๊กเกอร์ถูกแพงต่างกันไปครับ
แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือ Canva จะมีระบบ Happiness Guarantee นั่นคือถ้าสติ๊กเกอร์ที่ส่งไปนั้นไม่ถูกใจคุณ Canva จะแก้ไขให้ฟรีโดยที่คุณไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม เหมือนกับว่าคุณมีประกันไว้อีกชั้นหนึ่งนั่นเอง
Canva Pro
Canva Pro คือสมาชิกระดับพรีเมียมของ Canva ซึ่งจะช่วยให้คุณมีตัวเลือกมากขึ้นในการออกแบบ ทั้งนี้การใช้ Canva แบบเดิมไม่ใช่ว่าไม่ฟรี แต่ template นั้นมีให้เลือกน้อย ซึ่งอาจจะทำให้สติ๊กเกอร์สินค้าของคุณไม่โดดเด่น เพราะซ้ำซากกับของธุรกิจอื่น การใช้ Canva Pro จึงเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีเยี่ยมในการแก้ปัญหานี้ครับ
สิ่งที่คุณจะได้จาก Canva Pro ได้แก่
- เพิ่มจำนวน template จาก 250,000 เป็น 610,000 ชิ้นเพื่อให้คุณมีตัวเลือกมากขึ้นในการออกแบบกราฟิกสำหรับสินค้า
- รูปภาพ. วิดีโอ, ไฟล์เสียง หรือกราฟิกอื่นๆ กว่า 100 ล้านชิ้นด้วยกัน ซึ่งคุณสามารถใช้ในการออกแบบสารพัดอย่าง ตั้งแต่การออกแบบโลโก้ สติ๊กเกอร์ หรืองานกราฟิกสำหรับการตลาดอีกมากมาย ทำให้คุณไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อรูปภาพกับแพลตฟอร์มขายรูปอย่าง Shutterstock
- Background Remover – คุณสามารถลบพื้นหลังของงานของคุณได้ในคลิกเดียว
- คุณสามารถอัพโหลด Font, สี รวมไปถึงองค์ประกอบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ของคุณลงไปในแพลตฟอร์มได้
- คุณสามารถ download งานของคุณเป็นไฟล์ประเภทต่างๆ โดยไม่มีข้อจำกัด
- Cloud Storage ขนาด 100GB
- และอื่นๆ อีกมากมาย
ทั้งหมดนี้คุณจะได้เมื่อคุณสมัครสมาชิก โดยราคาจะอยู่ที่ 229 บาทต่อเดือน หรือถ้าจ่ายรายปีจะอยู่ที่ 1,850 บาทต่อปี (เฉลี่ยแล้ว 154 บาทต่อเดือน) ในราคานี้ทีมของคุณสามารถใช้งานโปรแกรมได้สูงสุดถึง 5 คนด้วยกัน ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับบริษัทขนาดเล็กหรือ Startup ครับ
โดยส่วนตัวแล้วผมชอบ Canva มาก เพราะว่ามีความยืดหยุ่นในการจัดการสูงมาก หรือเรียกได้ว่าคุณใช้โปรแกรมไปออกแบบงานกราฟิกอะไรก็ได้ ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายทางด้าน graphic design ไปมากโขเลยครับ
Canva Pro เปิดให้คุณลองใช้ฟรี 30 วันโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
2. Envato Placeit
Envato Placeit เป็นเครื่องมืออีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจมาก เพราะใช้ง่ายไม่แพ้ Canva และยังมี option การใช้งานที่หลากหลาย เครื่องมือตัวนี้จึงครองใจผู้ใช้งานจำนวนมากครับ
วิธีการออกแบบสติ๊กเกอร์ของ Envato Placeit ไม่ค่อยต่างกับ Canva เท่าไรนัก ขั้นตอนแรกก็คือการเลือก template ที่เหมาะสมนั่นเอง แต่จุดแข็งของโปรแกรมนี้ก็คือมีการจัดเรียง template ตามการใช้งาน ซึ่งจะทำให้คุณหาตัว template ที่เหมาะสมได้อย่างรวดเร็ว
กลุ่ม template ที่มีให้เลือกสรรมีดังต่อไปนี้
- สติ๊กเกอร์ติดรถ
- สติ๊กเกอร์ติดแก้วกาแฟ
- สติ๊กเกอร์ติด iPhone
- สติ๊กเกอร์ติดสินค้าทั่วไป
- สติ๊กเกอร์ตัวการ์ตูน
- และอื่นๆ อีกมากมาย
หลังจากที่คุณเลือกได้แล้ว คุณก็ปรับแก้ได้ตามความต้องการของคุณ เช่นเดียวกับ Canva เลยครับ วิธีการแก้ก็เหมือนกันนั่นก็คือ ลาก-วาง-ลบ เพียงเท่านี้คุณก็ได้สติ๊กเกอร์ที่แตกต่างและดูมีระดับออกมาได้แล้วครับ
สำหรับ Envato Placeit นั้นไม่มีบริการพิมพ์สติ๊กเกอร์เหมือนกับ Canva คุณจะต้องดาวน์โหลดแบบร่างออกมา และนำไปพิมพ์ด้วยตัวเองเท่านั้นครับ อย่างไรก็ดีตัวเลือกในการดาวน์โหลดก็มีอีกสองแบบด้วยกันได้แก่
- Single Design Purchase – ซื้อขาดแบบร่างนี้ในราคา $2.95 หรือประมาณ 90 บาท
- Unlimited Subscription – คุณสมัครสมาชิกแบบพรีเมียมของ Envato Placeit (เริ่มต้นที่ $3.67 หรือประมาณเดือนละ 120 บาท) หลังจากนั้นคุณจะดาวน์โหลดได้ตามใจชอบ รวมไปถึงเข้าถึง template ที่มากขึ้น และทรัพยากรในการสร้างงานกราฟิกอีกมากมายครับ
โดยส่วนตัวแล้ว ผมมองว่าแบบหลังจะคุ้มค่ากว่า ถ้าคุณยังจำเป็นต้องใช้โปรแกรมในการออกแบบกราฟิกอื่นๆ ต่อไป เช่นสติ๊กเกอร์แบบใหม่ๆ ในอนาคต หรือว่างานกราฟิกรูปแบบอื่นอย่างเช่น ใบปลิว แผ่นพับ หรือแม้กระทั่ง Facebook Cover เป็นต้นครับ
3. Adobe Spark
Adobe Spark เป็นแพลตฟอร์มออกแบบกราฟิกออนไลน์ของ Adobe ดังนั้นไม่ต้องเป็นห่วงเลยในเรื่องของคุณภาพ เพราะน่าจะรับประกันได้อยู่แล้วครับ
การออกแบบสติ๊กเกอร์บนแพลตฟอร์มของ Adobe Spark นั้นไม่แตกต่างกับ Canva และ Envato Placeit เท่าไรนัก นั่นก็คือคุณจะเลือก template หลังจากนั้นก็จะใช้วิธีการลาก-วาง-ลบ ในการปรับแก้และออกแบบให้สติ๊กเกอร์ของคุณออกมาสวยงามครับ
อย่างไรก็ดีสิ่งที่ผมชอบก็คือ ตัว editor นั้นดูไม่แออัด ทำให้เวลาออกแบบรู้สึกโล่งๆ สบายๆ มากกว่าใช้งานเครื่องมือตัวอื่น แต่ในส่วนนี้ก็แล้วแต่ผู้ใช้งานครับ
หลังจากที่คุณออกแบบเสร็จเรียบร้อยก็ถึงเวลาของการดาวน์โหลดนั่นเอง (Adobe Spark ไม่ให้บริการส่งสติ๊กเกอร์ถึงบ้านเหมือน Canva) โดยรูปแบบไฟล์ที่คุณจะโหลดฟรีได้ก็จะมี PDF, JPG และ PNG ครับ แต่จะติดลายน้ำ (watermark) ของ Adobe Spark ไปด้วย
เช่นเดียวกับ Canva และ Envato Placeit นั่นคือ Adobe Spark ก็มีแพลนแบบพรีเมียมเช่นกัน แต่ราคาสูงกว่ามาก เริ่มต้นที่ 3,813 บาทต่อปี (หรือ 317 บาทต่อเดือนโดยเฉลี่ย) ซึ่งคุณจะได้ template แบบพรีเมียมของ Adobe จำนวน 47,000 ชิ้น, รูปภาพและทรัพยากรกราฟิกมากมาย (ไม่บอกจำนวน), และลบลายน้ำทั้งหมด
โดยส่วนตัวผมก็มองว่าน่าสนใจไม่น้อย แต่ด้วยราคาที่แพงกว่า Canva อย่างมีนัยสำคัญ ผมจึงมองว่า Canva ยังเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าครับ
ออกแบบสติ๊กเกอร์ฉลากสินค้าจะใช้โปรแกรมไหนดี
หลายคนอาจจะสงสัยว่าจะใช้ตัวไหนดี ถ้าคุณคิดไม่ออก ผมแนะนำไปที่ Canva ก่อนเลยครับ เพราะว่าคุณสามารถออกแบบสติ๊กเกอร์ฉลากสินค้าได้ฟรี โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เลย แถมคุณยังมีความยืดหยุ่นในการดาวน์โหลดไฟล์ด้วย ทำให้ Canva เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับสายฟรีครับ
สำหรับใครที่อยากจะเสียเงินเพื่อเพิ่ม template ผมแนะนำให้ลองเปรียบเทียบประกอบกัน แต่ถ้าวัดกันตัวต่อตัวในเรื่องทรัพยากรที่คุณจะได้รับแล้ว ผมก็ยังมองว่า Canva ยอดเยี่ยมที่สุดครับ เพราะ template รูปภาพ และทรัพยากรกราฟิกอื่นๆ ที่มีให้ใช้งานนั้นมากเหลือล้นจริงๆ