ใบปลิว (Flyer) หรือแผ่นพับเป็นหนึ่งในช่องทางการทำการตลาดและโฆษณาแบบดั้งเดิมที่ใช้กันมาทุกยุคทุกสมัย แม้กระทั่งยุคนี้ที่การโฆษณาผ่านทางดิจิตอลอย่างเช่น โซเชียลมีเดียเฟื่องฟูแล้ว เราก็ยังปฏิเสธไม่ได้ว่าใบปลิวยังมีประสิทธิภาพมากในการสร้าง awareness ของแบรนด์ รวมไปถึงดึงดูดผู้คนให้มาสนใจสินค้าและบริการของคุณ
อย่างไรก็ดีผมเชื่อว่าทุกคนน่าจะเคยมีประสบการณ์ที่รับใบปลิวมาชำเลืองมอง 3 วินาทีแล้วโยนทิ้งถังขยะบ้าง โดยเฉพาะถ้ายิ่งใบปลิวที่ไม่สวย ไม่น่าสนใจด้วยแล้ว แทบไม่มีผู้อ่านคนไหนต้องการที่จะเก็บมันไว้ในมือเลยแหละครับ
ดังนั้นการออกแบบใบปลิวให้ดูสวยงาม ดูน่าสนใจ ดูดึงดูดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่ถ้าคุณไม่มีทักษะทางด้านการดีไซน์อย่างเช่น การใช้ Illustrator เลยจะทำอย่างไรดี?
บางคนอาจจะตัดสินใจใช้บริการฟรีแลนซ์เพื่อตัดปัญหา แต่จากประสบการณ์ที่ผมพบพานมาก็คือ งานออกแบบของฟรีแลนซ์จะดีไม่ดีนั้นขึ้นอยู่กับแต่บุคคล แถมบางคนยังจำกัดการแก้ไขงานแค่ 2-3 ครั้งเท่านั้น ถ้าคุณไม่ถูกใจหรือมีความต้องการจะแก้ไขมากกว่านั้นก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
ผมจึงมองว่าถ้าคุณใช้งานเครื่องมือกราฟิกออนไลน์ที่ช่วยให้คุณออกแบบใบปลิวสวยๆ และดูเป็นมืออาชีพได้อย่างง่ายๆ ด้วยตนเอง น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า นอกจากใบปลิวแล้วเครื่องมือเหล่านี้ยังทำงานกราฟิกอื่นๆ ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น infographics, โปสเตอร์ ฯลฯ
ดังนั้นถ้าคุณต้องทำการตลาดอยู่เนืองๆ (โดยเฉพาะการตลาดในรูปแบบของ Content Marketing) การใช้เครื่องมือเหล่านี้จะเป็นตัวเลือกที่ยั่งยืนกว่าการจ้างฟรีแลนซ์อย่างมากเลยครับ
เราไปดูกันดีกว่าเครื่องมือที่น่าสนใจมีตัวไหนบ้าง?
ข้อควรทราบ: ราคา เงื่อนไข และฟีเจอร์ของเครื่องมือแต่ละตัวอาจเปลี่ยนแปลงไปได้ โปรดตรวจสอบอีกครั้งกับทางเว็บไซต์ผู้ให้บริการเพื่อความชัดเจนครับ
1. Canva
Canva เป็นเครื่องมือทำกราฟิกที่ผมนิยมชมชอบมากที่สุดครับ และใช้งานมาหลายปีแล้ว ผมเองไม่มีทักษะทางด้านดีไซน์เลยแม้แต่น้อย แต่กลับใช้โปรแกรมนี้ได้อย่างสบายๆ ดังนั้นผมเชื่อว่าไม่ว่าใครก็สามารถใช้ Canva ออกแบบใบปลิวธุรกิจได้อย่างแน่นอนครับ
การใช้งาน Canva จะอยู่บน Web Browser ทั้งหมด ดังนั้นคุณไม่ต้องลงโปรแกรมอะไรลง Laptop ของคุณให้ยุ่งยากและเสียเวลาอะไรเลยทั้งสิ้นครับ เมื่อคุณทำงานเสร็จแล้วก็แค่ download ออกมาเท่านั้นเองครับ
วิธีการใช้ Canva สร้างและออกแบบใบปลิวนั้นง่ายถึงง่ายมาก เพราะทุกอย่างจะใช้ระบบ template + Drag & Drop ครับ เราลองมาดูกันเลยดีกว่า
ขั้นตอนแรกก็คือ Login เว็บไซต์ Canva.com หลังจากนั้นก็เลือก “Flyer” ครับ คุณจะได้แม่แบบ (template) ต่างๆ ของใบปลิวจำนวนมากให้คุณเลือกสรร
ในส่วนนี้คุณก็เลือกแบบที่คุณถูกใจครับ โครงสร้างแผ่นไหนที่คุณรู้สึกว่าน่าจะเข้าท่าก็เลือกๆ ไปก่อนได้เลย ทั้งนี้รูปแบบใบปลิวที่มีอยู่ในแพลตฟอร์มค่อนข้างหลากหลายมาก อาทิเช่น Advertising Flyers (ใบปลิวโฆษณา), Christmas Flyers (ใบปลิวสำหรับวันคริสต์มาส ซึ่งเหมาะกับเทศกาลต่างๆ) และอื่นๆ อีกมากมายครับ
จริงๆ ในขั้นตอนนี้สุ่มเลือกสักอันหนึ่งไปก่อนก็ได้เพื่อใช้เป็นไอเดีย เพราะเข้าไปในตัว editor คุณก็เลือกใหม่ได้หมดอยู่ดีครับ
อย่างด้านล่าง ผมเลือกเป็น template ใบปลิวของร้านอาหารที่กำลังจะเปิดร้าน (Grand Opening) ตัว template จะมีสองหน้าครับ แต่ถ้าคุณไม่ต้องการหน้าหลังในส่วนนี้ก็ลบได้ทันทีครับ
ถัดไปก็จะเป็นในส่วนของการแก้ไข คุณสามารถแก้ไขทุกองค์ประกอบตามที่คุณต้องการเลยครับ สำหรับตัวอักษร คุณก็ลบทิ้งและใส่รายละเอียดและข้อมูลของคุณลงไป ขณะที่รูปภาพนั้นคุณจะ upload ของคุณเอง หรือว่าจะใช้คลังรูปภาพต่างๆ ที่อยู่ในแพลตฟอร์มอยู่แล้วก็ได้ครับ
หรือว่าถ้าส่วนไหนมีรายละเอียดที่เยอะจนเกินไป เราจะสามารถลบทิ้งได้เช่นกัน เพื่อให้ใบปลิวอ่านง่าย และมีความเรียบง่ายสบายตา
อย่างด้านล่าง สมมติว่าผมจะออกแบบใบปลิวสำหรับโฆษณาร้านไก่ทอด ผมก็นำรูปจากในคลังของ Canva มาใส่ครับ พร้อมกับแก้ไขข้อมูลให้เป็นของร้านของผม ทุกอย่างคุณสามารถเลื่อนเข้าเลื่อนออกหรือย้ายตำแหน่งได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น text หรือรูปภาพ ทั้งหมดแล้วแต่ที่คุณชอบเลย แต่ถ้าคิดว่าโอเคอยู่แล้วก็ไม่ต้องแก้ครับ
การออกแบบใบปลิวในส่วนนี้ผมต้องบอกเลยว่าง่ายมาก ถ้าไม่ถูกใจก็เปลี่ยน template เลยก็ได้ครับ เพราะมี template ให้คุณเลือกมากมายเลยทีเดียว
หลังจากที่คุณออกแบบเสร็จสิ้นแล้ว คุณก็ต้องทำสิ่งที่คุณออกแบบไปใช้งาน วิธีการนำงานออกไปจากแพลตฟอร์มมี 2 แบบนั่นคือ
Print Flyers – สั่งให้ Canva จัดการในเรื่องการพิมพ์ใบปลิวและแผ่นพับพร้อมกับส่งให้ถึงที่บ้านของคุณ คุณสามารถเลือกคุณภาพของกระดาษได้ เช่นเดียวกับขนาดของใบปลิว การส่งจะส่งฟรีโดยจะใช้เวลาประมาณ 5-8 วัน (ประเทศไทยก็ใช้เวลาเท่านี้ครับ)
นอกจากนี้งานพิมพ์ที่คุณสั่งกับ Canva จะมี Happiness Guarantee หมายความว่าถ้าคุณไม่พอใจ Canva ยินดีจะแก้ไขงานให้จนกว่าคุณจะพอใจครับ คุณจึงมั่นใจได้เลยว่าตัวงานจะพิมพ์อย่างได้คุณภาพ เพื่อให้คุณได้รับความพึงพอใจอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ดีผมไม่เคยใช้บริการในส่วนนี้มาก่อนเลย ผมจึงไม่ทราบว่างานจะออกมาเป็นอย่างไรครับ
Download – ดาวน์โหลดใบปลิวที่คุณออกแบบเสร็จสิ้นแล้วออกไปจากแพลตฟอร์มเพื่อนำไปพิมพ์เป็นใบปลิวเองตามร้านต่างๆ โดยคุณจะดาวน์โหลดได้ในรูปแบบ PNG, JPG, PDF Standard และ PDF Print แต่ผมแนะนำให้ดาวน์โหลดเป็น PDF Print เพราะคุณภาพจะสูงที่สุด เหมาะต่อการนำไปปริ้นต่อไป ค่าบริการในส่วนนี้จะฟรีเลยครับ (ยกเว้นว่าคุณใช้รูปภาพแบบพรีเมียม ในกรณีหลังก็จะมีค่าใช้จ่าย $1 ต่อรูป)
อย่างไรก็ดีถ้าคุณจะดาวน์โหลดไฟล์เป็น JPG และ PNG คุณจะไม่สามารถ resize รูปได้ (ยกเว้นว่าคุณจะสมัคร Canva Pro หรือว่ามีเป้าหมายที่จะนำรูปไปแก้ไขเองที่อื่น)
ขั้นตอนการใช้งาน Canva มีเพียงเท่านี้เองครับ ถ้าคุณเลือก Download แล้ว ทุกอย่างจะออกแบบและดาวน์โหลดใบปลิวของคุณฟรีตั้งแต่ต้นจนจบเลยครับ อย่ารอช้าอยู่เลย ไปลองใช้กันเลยดีกว่าครับ (สำหรับใครที่อยากใช้มือถือ Canva มี app คุณภาพเยี่ยมให้คุณใช้งานด้วยครับ)
Canva Pro
สำหรับใครที่รู้สึกว่า template, รูป และเครื่องมือต่างๆ ที่ให้ใช้ฟรีใน Canva นั้นยังไม่ตอบโจทย์ หรือว่าคุณอยากจะแก้ไขใบปลิวของคุณให้มีลักษณะเฉพาะ โดดเด่นไปกว่า template ที่มีคนใช้กันจนเกร่อ ผมแนะนำให้คุณลองพิจารณา Canva Pro ครับ โดยรายละเอียดของสิ่งที่คุณจะได้เพิ่มเข้ามามีดังต่อไปนี้
- แม่แบบกว่า 420,000 ชิ้นในการสร้างงานกราฟิกต่างๆ อย่างเช่นโลโก้ โบชัวร์ หรือแม้กระทั่ง Facebook Story และ Youtube Thumbnail ในส่วนนี้จะมากกว่าแบบฟรีถึง 52.5 เท่า
- ไม่ต้องเสียค่ารูปภาพแบบ Premium เพิ่มอีกต่อไป คุณจะใช้ทรัพยากรรูปภาพ วีดิโอ กราฟิกต่างๆ กว่า 75 ล้านชิ้นได้ฟรี (แบบฟรีใช้ได้แค่ไม่กี่แสนรูปเท่านั้น)
- ได้ Premium Font อีก 3,000 แบบ รวมไปถึง Upload ฟ้อนต์และโลโก้ของคุณเพื่อมาสร้างงานได้
- ลบ Background ในรูปใดๆ ทิ้งได้
- การดาวน์โหลดจะไม่มีข้อจำกัดใดๆ อีกต่อไป คุณจะดาวน์โหลดงานเป็นแบบไฟล์ SVG ได้ ส่วนไฟล์ PNG และ JPG คุณจะแก้ไขภาพทุกอย่างได้อย่างอิสระ
- Cloud Storage ขนาด 100GB
- และอื่นๆ อีกมากมาย
ราคาค่าบริการจะเริ่มต้นที่ $9.95 หรือประมาณ 300 บาทต่อเดือน ในกรณีที่คุณจ่ายยาวเป็นรายปี แต่ถ้าคุณจ่ายแบบเดือนต่อเดือน ราคาจะอยู่ที่ $12.95 หรือประมาณ 390 บาทครับ ถ้าสนใจลองอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Canva Pricing
โดยส่วนตัวผมมองว่า Canva Pro นั้นคุ้มค่ามาก เพราะว่าเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับการออกแบบงานกราฟิกของคุณอย่างมีนัยสำคัญ ไม่เพียงแค่ใบปลิว แต่คุณจะสร้างงานกราฟิกดีๆ สวยๆ ได้อีกมหาศาล โดยที่ไม่จำเป็นต้องง้อ Freelance หรือว่าไปซื้อรูปในราคาสูงจากเว็บไซต์ microstock อย่างเช่น Shutterstock ครับ
Canva ให้คุณลองใช้ Canva Pro ได้ฟรี 30 วันครับ สมมติว่าใช้แล้วไม่ชอบ อย่าลืม Cancel ก่อนหมดอายุครับ
เนื่องจากเครื่องมืออื่นๆ นอกจาก Canva จะใช้รูปแบบการออกแบบใบปลิวที่เหมือนกัน นั่นคือ Template + Drag & Drop ผมจึงไม่ขออธิบายซ้ำนะครับ แต่จะเน้นไปที่จุดเด่นอย่างเดียวเท่านั้น
2. Envato Placeit
Envato Placeit เป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่น่าสนใจมากในการสร้างใบปลิวอย่างมืออาชีพ ภายในแพลตฟอร์มมี template ที่น่าสนใจให้เลือกมากมาย อาทิเช่น Sale Flyer ใบปลิวที่ใช้สำหรับการโปรโมตเทศกาลลดราคาต่างๆ หรือว่าใบปลิวทั่วไปอื่นๆ ที่ใช้ในการสร้าง awareness อย่างเช่นใบปลิวร้านอาหารเป็นต้นครับ
ส่วนการเรื่องการใช้งานก็เหมือนกับ Canva เลยนั่นคือคุณออกแบบและดาวน์โหลดใบปลิวได้จาก browser คุณไม่จำเป็นต้องลงโปรแกรมใดๆ ทั้งสิ้นเลยครับ
อย่างด้านล่างผมก็เลือก Template ที่ต้องการ แล้วก็เริ่ม edit ทุกอย่างตามที่ผมอยากได้ ไม่ว่าจะเป็น Font, Background, รูปภาพ ฯลฯ ซึ่งในคลังของ Envato Placeit ก็มีรูปภาพมากมายให้คุณเลือกใช้ครับ
สิ่งที่ต่างออกไปจาก Canva คือคุณสามารถ Upload โลโก้ของคุณได้เลย โดยที่ไม่ต้องสมัครสมาชิกอะไรก่อนแต่อย่างใดครับ แต่ในเรื่องหน้าตาแพลตฟอร์มผมชอบ Canva มากกว่า ของ Placeit ผมมองว่ามันเกะกะอย่างไรชอบกล
อย่างไรก็ดี Placeit ไม่มีให้ใช้ฟรีครับ ในการจะดาวน์โหลดโบปลิวที่คุณออกแบบไว้แล้ว คุณจะต้องจ่ายเงินในสองทางเลือกนี้
- Single Design Purchase หรือว่าซื้อขาด Design นี้ – $2.95 หรือประมาณ 90 บาท
- Subscription – เริ่มต้นที่ $7.50 หรือประมาณ 225 บาทต่อเดือน โดยคุณจะได้เครื่องมือออกแบบกราฟิกทุกอย่างในแพลตฟอร์มของ Placeit ไปครอบครองครับ
ถ้าคุณคิดจะสมัคร Subscription ผมมองว่า Canva Pro เป็นทางเลือกที่ดีกว่ามาก เพราะทรัพยากรการออกแบบที่ให้มากกว่ามากมาย ยกตัวอย่างเช่น Canva มี template ให้คุณใช้งานมากถึง 420,000 ชิ้น แต่ Placeit มีแค่ 60,000 ชิ้นเท่านั้นเองครับ ผมมองว่าทรัพยากรที่ได้น้อยเกินไป แม้ว่าราคาจะถูกกว่า Canva ก็ตาม ผมยังมองว่า Canva เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าครับ
ดังนั้นแบบ Subscription จึงไม่น่าดึงดูดเท่าไร แต่แบบ Single Design Purchase เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในกรณีที่คุณต้องการออกแบบใบปลิวและใส่โลโก้ธุรกิจลงไปด้วย แต่ไม่ต้องการสมัครสมาชิกใดๆ ครับ
3. Adobe Spark
Adobe Spark เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งสำหรับการออกแบบใบปลิวที่น่าสนใจ ต่างจาก Adobe Photoshop ที่ต้องมีการ install ลงในเครื่องของคุณ คุณสามารถออกแบบใบปลิวและงานกราฟิกอื่นๆ ได้อย่างสบายๆ ผ่านทางแพลตฟอร์มของ Adobe Spark ครับ
ในการใช้งานจะไม่ต่างกับเครื่องมือตัวอื่นมากนัก คุณจะต้องเลือก template และ Drag & Drop สิ่งที่คุณต้องการลงไป เพียงเท่านี้ก็เสร็จสิ้น
คุณสามารถดาวน์โหลดสิ่งที่คุณสร้างออกไปจากแพลตฟอร์มได้ฟรีเป็นไฟล์สามแบบนั่นคือ PNG, JPG หรือ PDF อย่างไรก็ดีภายในงานของคุณจะมีคำว่า Adobe Spark อยู่ที่มุมขวาครับ (ขนาดไม่ใหญ่ แต่จะเห็นชัดเจนพอสมควร)
Adobe Spark มีแพลนแบบ Premium ให้ใช้เช่นกัน โดยเริ่มต้นที่ 356 บาทต่อเดือน แต่ในส่วนนี้ผมมองว่าไม่ค่อยคุ้มค่าเมื่อเทียบกับ Canva เพราะว่าให้ทรัพยากรที่น้อยกว่า Canva อย่างมีนัยสำคัญ
ยกตัวอย่างเช่นมี Template น้อยกว่ามาก (Adobe Spark มีเพียง 34,000 ชิ้นหรือน้อยกว่า 1 ใน 10 ของ Canva) ส่วนรูปภาพที่ให้ใช้งานในแพลนก็จำกัดแค่ไม่กี่หมื่นรูป ส่วน Canva นั้นคุณจะได้รูปและกราฟิกอื่นๆ กว่า 75 ล้านชิ้น ดังนั้นความคุ้มค่าเทียบกันไม่ได้เลยครับ
4. Visme
ถ้าจะให้เอ่ยถึงเครื่องมือกราฟิกที่มีคุณภาพ และใช้งานได้สารพัดประโยชน์นั้นจะขาด Visme ไปไม่ได้เลย เพราะคุณใช้เครื่องมือออนไลน์ตัวนี้ออกแบบใบปลิวเพื่อการโฆษณา รวมไปถึงผลงานกราฟิกอื่นๆ อย่างไม่จำกัดครับ
การใช้งาน Visme นั้นใช้ระบบเดียวกันกับเครื่องมือตัวอื่นๆ แต่สิ่งที่ผมชอบคือหน้าตาของตัวแพลตฟอร์มครับ เพราะดูว่าดูทันสมัยที่สุด ตามแบบ Web Applications ยุคใหม่ ทั้งนี้ในส่วนของการใช้งานทุกอย่างสะดวกสบายครับ ทรัพยากรอย่าง Icons, Images ฯลฯ ก็มีให้ใช้อย่างพอสมควรสำหรับแบบฟรีครับ
ในการดาวน์โหลด คุณสามารถทำได้หลายรูปแบบ เช่นเป็นไฟล์ภาพจะทำได้เป็น JPG และ PNG, Document อย่าง PDF, Video หรือแม้กระทั่งแบบ PPTX และ HTML 5 อย่างไรก็ดีถ้าคุณใช้แบบฟรี คุณจะดาวน์โหลดเป็น JPG ได้เท่านั้น ซึ่งว่ากันตามตรงแล้วไม่เหมาะต่อการใช้งานเท่าไรนัก เพราะคุณภาพของใบปลิวจะต่ำครับ
ดังนั้นถ้าคุณลองใช้ Visme แล้วชอบ คุณต้องอัพเกรดแพลนของคุณครับ แพลนของ Visme มีสองแบบนั่นคือ
- Standard – เริ่มต้นที่ $15 หรือประมาณ 450 บาทต่อเดือน
- Business – เริ่มต้นที่ $29 หรือประมาณ 870 บาทต่อเดือน
อย่างไรก็ดีถ้าเทียบกับ Canva แล้ว ฟีเจอร์และทรัพยากรจะจำกัดกว่ามาก แม้ว่าจะราคาแพงกว่าก็ตาม อย่างเช่นรูปภาพและทรัพยากรกราฟิกนั้น Visme มีให้ใช้แค่ 2 ล้านกว่าชิ้นเท่านั้น ซึ่งถือว่าด้อยกว่า Canva อย่างมีนัยสำคัญ เช่นเดียวกับ Storage ที่ให้แค่ 10 GB ในแบบ Business
นอกจากนี้ถ้าเป็นแพลน Standard การทำงานจะจำกัดแค่ 15 ชิ้นเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่นถ้าคุณออกแบบใบปลิวหรืองานอื่นๆ เป็นชิ้นที่ 16 คุณจะต้องลบงานเก่าทิ้ง หรือไม่ก็อัพเกรดเป็นแพลน Business ครับ
จุดเด่นของ Visme คือการดาวน์โหลดจากแพลตฟอร์มเป็น PPTX และ HTML5 ได้ (ซึ่ง Canva ทำไม่ได้) รวมไปถึงการจัดการกราฟิกที่มีข้อมูลมากๆ อย่างเช่นกราฟ, แผนผัง ฯลฯ ผมจึงแนะนำว่าคุณควรจะลองพิจารณาว่าคุณจะใช้งานส่วนนี้ นอกเหนือไปจากการออกแบบใบปลิวหรือไม่
ถ้าคุณไม่ได้ใช้ส่วนนี้ ผมมองว่า Canva เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าครับ
การออกแบบใบปลิวจะใช้เครื่องมือพร้อมแม่แบบตัวไหนดี?
สำหรับผู้ที่อยากออกแบบปลิวแบบฟรี Canva คือตัวเลือกที่ดีที่สุดของคุณอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะทั้งทรัพยากรที่ให้สำหรับแบบฟรีมีมากที่สุด ข้อจำกัดน้อยที่สุด คุณสามารถสร้างใบปลิวที่สวยงามออกไปใช้งานได้จริง โดยที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายเลยสักบาทเดียวครับ
แต่ถ้าเป็นแบบเสียเงิน คุณจะมีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น เครื่องมืออย่าง Envato Placeit ก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย โดยเฉพาะถ้าคุณต้องการออกแบบใบปลิวคุณภาพสูงแค่ครั้งเดียว และไม่มีแผนที่จะใช้งานกราฟิกอีกครับ
ในทางตรงกันข้าม ถ้าคุณต้องออกแบบโน่นนี่นอกเหนือจากใบปลิวอยู่บ่อยๆ อย่างเช่น โบชัวร์ หรือแม้กระทั่ง Resume/CV การสมัครสมาชิก Canva Pro เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและน่าสนใจมาก เพราะทำงานกราฟิกได้ทุกอย่าง ทรัพยากรที่ให้มากมายจนใช้ไม่หมด แถมราคาก็ยังน่าคบหามากกว่าตัวอื่นอย่างชัดเจนครับ เรียกได้ว่าหลังจากนี้งานกราฟิกจะเป็นเรื่องกล้วยๆ สำหรับคุณเลยครับ