ท่องเที่ยว8 วิธีหาอะไรกินใน "นิวยอร์กซิตี้" ให้ประหยัดเงินแต่ไม่ลำบาก

8 วิธีหาอะไรกินใน “นิวยอร์กซิตี้” ให้ประหยัดเงินแต่ไม่ลำบาก

นิวยอร์กซิตี้ (New York City) หรือมหานครนิวยอร์กเป็นเมืองที่ค่าใช้จ่ายเรื่องอาหารอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก ถ้าคุณไปกินที่ร้านอาหารทั่วไปทั้งหมด 3 มื้อ คุณสามารถหมดเงินไปได้มากถึง $50 (ประมาณ 1,500 บาท) ต่อวันเลยทีเดียว

ค่าใช้จ่ายจำนวนนี้ถือว่าสูงมากสำหรับ นักเรียนนักศึกษา หรือ นักท่องเที่ยวที่มีทุนทรัพย์จำกัด อย่างไรก็ดีจากประสบการณ์ที่ผมอยู่นิวยอร์กมา 4 ปี ผมเสียเงินไปกับค่าอาหารไปประมาณ $15-$20 ต่อวันเท่านั้น และในช่วงนั้นผมเองก็ไม่ได้ลำบากหรือต้องอดอาหารแต่อย่างใด

ในโพสนี้ ผมจึงขอแชร์เคล็ดลับดังกล่าวให้ทุกท่านได้ทราบครับ

หมายเหตุ: ไม่ว่าคุณจะเป็นนักท่องเที่ยว นักเรียนนักศึกษา หรือ ผู้อยู่อาศัยในนิวยอร์กทั่วไปก็สามารถใช้เคล็ดลับนี้ได้ทั้งสิ้นครับ

ข้อควรทราบ: บทความนี้เขียนครั้งแรกในปี ค.ศ.2019 ดังนั้นเรื่องเรทราคาอาจจะไม่ตรงกับในปัจจุบันอีกต่อไป เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อสูงที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาครับ

Little Italy, New York City

1. แบ่งอาหารไว้กินหลายๆ มื้อ

ถ้าคุณไปซื้ออาหารในร้านอาหารในนิวยอร์ก หรือร้านทั่วไปในสหรัฐอเมริกา คุณจะพบว่าขนาดอาหารแต่ละจานหรือกล่องจะใหญ่เป็น 1-2 เท่าของอาหารทั่วไปในไทย นั่นหมายความว่าถ้าคุณกินอาหารเท่าเดิมแบบตอนที่อยู่ไทย อาหารจำนวนนี้จะเหลืออย่างแน่นอน

แถมในร้านอาหารจีน เพราะเวลาคุณสั่งแต่ละเมนู ร้านจะให้กับข้าวมาเยอะมาก (ขนาดกินได้ 2-3 คน) ในขณะที่ให้ข้าวแค่กล่องเล็กๆ แค่กล่องเดียว ด้วยเหตุนี้ถ้าผมสั่งอาหารมา ไม่ว่าจะแบบผมไปกินที่ร้าน แบบ takeout (ไปที่ร้านแล้วสั่งเอากลับบ้าน) หรือ delivery (สั่งให้มาส่งที่บ้าน) กับข้าวจะเหลือเต็มไปหมด

ร้าน Big Wong ใน Chinatown ของ NYC เป็นร้านอาหารจีนที่อร่อยและราคาไม่แพง By Mobilus In Mobili, Flickr, CC By SA 2.0

วิธีการของผมคือถ้าผมสั่งกินที่ร้าน ผมจะให้ทางร้านห่ออาหารดังกล่าวกลับบ้านให้ผมด้วย ซึ่งร้านส่วนใหญ่จะยินดีห่อให้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ผมจะได้นำกลับมากินต่อในมื้อถัดไป ส่วน takeout และ delivery ก็ชัดเจนอยู่แล้ว นั่นคือผมก็จะเก็บใส่ตู้เย็นแล้วนำมาอุ่นกินในภายหลัง

ส่วนร้านอาหารจีน ถ้าผมไปที่ร้านแล้วเหลือกับข้าวเยอะๆ ผมจะสั่งข้าวสวยกล่องใหญ่กลับมาด้วยเสมอ แต่ถ้าแบบ takeout และ delivery ผมจะสั่งข้าวกล่องพิเศษมาด้วยทุกครั้ง ผมจะได้นำมากินกับอาหารที่เหลือครับ

วิธีนี้ทำให้ผมประหยัดค่าใช้จ่ายเยอะมาก อย่างผมเคยสั่ง Egg Foo Young (ไข่เจียวราดซอส) มาจากร้านอาหารจีน ปรากฏว่าไข่นี่เยอะมากจริงๆ ผมกินคู่กับข้าวสวยได้ถึง 3 มื้อเลยครับ ทำให้ทั้งวันหมดไปแค่ $12 เท่านั้นเอง

2. ไม่นั่งกินที่ร้าน แต่ให้สั่งกลับบ้าน

ถ้าคุณไปนั่งกินอาหารที่ร้าน คุณจะต้องเสียค่าทิปอย่างน้อย 15% ในค่าอาหารของคุณด้วย ซึ่งจำนวนนี้ผมมองว่าสูง และมีส่วนสำคัญทำให้ค่าอาหารของคุณเพิ่มโดยไม่จำเป็น

ดังนั้นวิธีการของผมคือ ผมจะไม่นั่งกินที่ร้าน แต่ผมจะเดินไปร้านและสั่งแบบ takeout หรือสั่งกลับบ้าน ถ้าผมสั่งแบบนี้ ผมไม่มีความจำเป็นต้องเสียค่าทิป นั่นหมายความว่าผมประหยัดค่าอาหารตรงนี้ไปได้ 15%

หลายท่านอาจจะสงสัย อ้าวแล้วทำไมให้ส่งมาที่บ้าน (delivery) เลยละ?

คำตอบคือ ถ้าคุณสั่งแบบ delivery คุณต้องจ่ายทิปให้กับคนส่งด้วยในเรท 15%-20% ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการนั่งในร้านเลยครับ แต่ถ้าหิมะหรือฝนตกหนักๆ ก็สั่ง delivery มาเถอะครับ เดินออกไปนี่ไม่คุ้มเลย

3. ใช้ประโยชน์จาก Lunch Menu

ร้านอาหารทั่วไปในนิวยอร์ก หรือแม้กระทั่งทุกที่ในอเมริกามักจะมี Lunch Menu ขายในช่วงเที่ยง คุณภาพของอาหาร Lunch Menu ผมบอกเลยว่าไม่ได้แตกต่างกับมื้อเย็นที่ราคาแพงกว่า ขนาดของ main course อาจจะเล็กกว่าเพียงเล็กน้อย แต่ร้านจะให้ appetizer แถมมาด้วย (บางร้านถึงกับแถมเครื่องดื่มมาด้วยอีกต่างหาก)

โดยทั่วไปราคา Lunch Menu มักจะอยู่ที่ $8-$12 ซึ่งถูกกว่า Dinner แต่ละเมนูที่มักจะเริ่มต้นที่ $18-$20

ดังนั้นคุณควรจะใช้ประโยชน์จากตรงนี้ มื้อกลางวันเป็นช่วงเวลาที่ผมเข้าร้านอาหารบ่อยที่สุดเพื่อไปหาอะไรกิน โดยเฉพาะถ้าคุณตื่นสาย คุณอาจจะข้ามมื้อเช้าและไปเริ่มกินมื้อกลางวันเลยก็ได้

แต่คุณควรใช้ประโยชน์จาก Lunch Menu ให้มากกว่านั้น!

วิธีการของผมคือ ผมจะซื้อ Lunch Menu กลับบ้าน (เพื่อประหยัดค่าทิป) และซื้อมา 2 ชุด (อีกชุดหนึ่งเผื่อมื้อเย็นด้วย) หลังจากนั้นก็เก็บไว้ในตู้เย็นแล้วเอาออกมาอุ่นกินทีหลัง

ง่ายมั้ยละครับ ผมใช้วิธีนี้บ่อยมาก ทำให้บางวันผมเสียค่าใช้จ่ายเรื่องกินไม่ถึง $20 เลยครับ

4. ซื้ออาหารจาก Food Truck

นิวยอร์กเป็นเมืองที่มี Food Truck เยอะมาก คุณสามารถพบเห็นรถขายอาหารเหล่านี้จอดอยู่ตามหัวถนน Food Truck ในนิวยอร์กมีหลายประเภท แต่ที่เห็นบ่อยสุดๆ คือ Food Truck อาหารฮาลาล แต่ Food Truck อาหารจีนก็มีให้เห็นเช่นกัน

Halal Cart, NYC By Jason Lam , CC By SA 2.0

อาหารที่ Food Truck อาหารฮาลาลขายคือ เมนูที่เรียกว่า “Chicken Over Rice” ซึ่งจริงๆแล้วเมนูนี้มันคือ ไก่ผัดกับเครื่องเทศ หัวหอมและแครอทที่กินคู่กับข้าวหมกสีส้ม เฟรนช์ฟรายส์ และผักสลัด ด้านบนสุดของอาหารคนขายจะราดซอสสีขาว (white sauce) และซอสเผ็ด (hot sauce) ลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติ เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จพิธี

ถ้าคุณไม่ต้องการข้าว คุณสามารถสั่งเป็นแบบ gyro ได้ด้วยเช่นกัน หรือพูดง่ายๆ คุณจะได้แป้ง pita มาแทนข้าวหมกสีส้ม ส่วนที่เหลือคือเหมือนเดิม

ราคาของเมนูนี้ไม่ว่าจะเป็นแบบข้าวหรือ gyro อยู่ที่ $4-$7 ซึ่งก็แล้วแต่ละร้าน ขนาดกล่องก็บอกเลยว่าใหญ่ ผมว่าใหญ่เป็น 2 เท่าของข้าวหมกไก่ไทยทั่วไป

สำหรับเรื่องรสชาติ ผมพูดจริงๆ ว่ามันอร่อยนะ 555 เนื้อไก่นิ่มมากไม่เหนียวเลยครับ มันให้ฟีลเหมือนกินข้าวหมกไก่หอมๆ แต่บางร้านที่มีแบรนด์อย่าง The Halal Guys นี่กินแล้วอร่อยกว่าร้านทั่วไปอย่างชัดเจน แต่ก็แพงกว่าด้วย

Chicken Over Rice กล่องเดียวนี่อิ่มกันยาวๆแบบไม่ต้องเบิ้ล แถมยังรสชาติดีและราคาก็ถูกด้วย

ข้อเสียของอาหารฮาลาลพวกนี้มีอยู่อย่างเดียว นั่นคือแคลอรีสูงมากกกกกกก แคลอรีมาจาก white sauce ที่คนขายราดลงไปอย่างมหาศาลนั่นแหละครับ ถ้าคุณใส่ใจเรื่องน้ำหนักของคุณ ผมแนะนำว่าอย่ากินบ่อย หรือถ้าอยากกินจริงๆ ก็กินแบบใส่ซอสขาวน้อยๆ จะดีที่สุดครับ

ส่วน Food Truck อาหารจีนนี่ผมเห็นประปราย อาหารจะมีหลายแบบ ส่วนใหญ่จะเป็นสไตล์เสฉวนที่เผ็ดๆ ซ่าๆ ราคาแต่ละกล่องจะใกล้เคียงกับอาหารฮาลาล รสชาติจะสู้อาหารจีนที่มีหน้าร้านไม่ได้ แต่ก็ถือว่ารสชาติใช้ได้ในระดับหนึ่งครับ

อย่างไรก็ดีจากที่สังเกตมา Food Truck อาหารฮาลาลจะสะอาดกว่า Food Truck อาหารจีนอยู่มาก ถ้าคุณให้ความสำคัญเรื่องความสะอาด ผมมองว่ากินอาหารฮาลาลดีกว่าครับ

นอกเหนือจากสองประเภทนี้แล้ว Food Truck อื่นๆ ก็มีให้เห็นทั่วเมืองนิวยอร์ก โดยเฉพาะในฤดูร้อน ส่วนใหญ่แล้วก็ราคาไม่แพงและรสชาติดีในระดับหนึ่งครับ

5. หาอะไรกินที่ร้านสไตล์ Deli

ร้านสไตล์ Deli (ย่อมาจาก Delicatessen) ในนิวยอร์กและสหรัฐอเมริกาจะเป็นร้านอาหารผสมกับซูเปอร์มาร์เก็ตเล็กๆ อยู่ในร้านเดียว

ร้านอาหารสไตล์ Deli ใน NYC By 6SN7, Flickr, CC By 2.0

โดยทั่วไปแล้ว deli จะขายอาหารทั้งร้อนและเย็น อาทิเช่น อาหารร้อนอย่างแซนวิช หรือไก่ทอด และอาหารเย็นอย่างสลัดไข่ สลัดทูน่า ซีซาร์สลัด ฯลฯ

ในกรณีที่คุณต้องการเครื่องดื่ม คุณก็ไปหยิบเอาจากโซนซูเปอร์มาร์เก็ตเอาเอง แล้วนำมาจ่ายรวมกันที่เค้าน์เตอร์ครับ

ส่วนมากแล้ว deli จะไม่มีที่นั่ง คุณต้องจ่ายค่าอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมดแล้วออกไปหาที่นั่งกินเอาเอง แต่ก็แลกมาด้วยค่าอาหารที่ต่ำมาก แซนวิชและสลัดที่รสชาติใช้ได้เริ่มต้นที่ $6-$7 เท่านั้นเองครับ ซึ่งขนาดก็เป็นขนาดแบบอเมริกันครับ คนไทยทั่วไปกินแล้วอิ่มแปล้เลยทีเดียว

6. หาของอร่อยในซูเปอร์มาร์เก็ต

ซูเปอร์มาร์เก็ตโดยทั่วไปในนิวยอร์กจะมีขนาดใหญ่ และแน่นอนว่าขายอาหารแบบร้อนๆ ด้วย อาหารและขนมหวานในซูเปอร์มาร์เก็ตบางแห่งรสชาติดี และราคาไม่แพงเลย (เริ่มต้นที่กล่องละ $6)

สิ่งที่คุณควรรู้คือ ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่บางแห่งมีลดราคาอาหารแบบถูกมากถึงมากที่สุด อย่างเช่นไอศกรีม ผมเคยซื้อ Haagen Dazs แบบไซส์ Pint ในราคา $2.50 (75 บาท) น้ำผลไม้ขนาด 2 ลิตรในราคา $2 (60 บาท) หรือบางทีผลไม้อย่างส้มสดๆ สวยๆ ในราคากิโลกรัมละ $2.50 (60 บาท) สตอรเบอรี่ลูกใหญ่มีแบรนด์ในราคากล่องละ $2.50 (75 บาท) เท่านั้นเอง

ดังนั้นถ้าคิดอะไรไม่ออกจริงๆ เดินเข้าซูเปอร์มาร์เก็ตไปเลยครับ

7. ทำอาหารกินเอง

การทำอาหารกินเองเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในการลดค่าใช้จ่าย อุปกรณ์วัตถุดิบต่างๆ นั้นหาไม่ยากเลย เพราะคุณสามารถหาได้จากซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆ

ส่วนตัวผมแล้ว เวลาผมจะทำอาหารกินเอง ผมจะคอยสอดส่องไว้เสมอว่าวัตถุดิบไหนกำลังลดราคา ยกตัวอย่างเช่น ผมเคยซื้อไส้กรอกอิตาเลียนแสนอร่อยในราคา 1 แถม 1 บ่อยมาก เช่นเดียวกับเนื้อปลาแซลมอน กุ้ง และไข่

บางทีก็รู้สึกว่าทำไมร้านมันลดราคา เพราะไม่สดรึเปล่า? แต่พอกินเข้าไปก็รู้สึกว่าสดดีนะ 555

8. ใช้เหยือกกรองน้ำ

สำหรับเรื่องน้ำนั้น คุณสามารถกินน้ำจากก๊อกน้ำได้อยู่แล้ว เพราะน้ำประปาที่อเมริกากินได้ อย่างไรก็ดีถ้าคุณมีประสาทสัมผัสที่ไว คุณอาจจะรู้สึกได้ว่ามันยังไม่สะอาดพอสำหรับคุณ

วิธีที่ผมใช้คือ ผมจะซื้อเหยือกกรองน้ำมาจากซูเปอร์มาร์เก็ต เท่าที่จำได้น่าจะราคาประมาณ $20-$30 หลังจากนั้นก็จะกรอกน้ำใส่เหยือก น้ำก็จะผ่านตัวกรองทำให้มันใสและสะอาดมากขึ้น เพียงเท่านี้คุณจะดื่มน้ำได้อย่างสบายใจแล้วครับ

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!