มหานครนิวยอร์ก (New York City) น่าจะเป็นเมืองที่หลายคนสนใจอยากจะไปเที่ยว แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะไปช่วงไหนดี?
ว่ากันตามตรงด้วยความที่นิวยอร์กเป็น “เมือง” และสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็อยู่ในร่ม ทำให้ คุณสามารถเที่ยวได้ทุกช่วงของปี
อย่างไรก็ดี แต่ละช่วงมีข้อดีข้อเสียที่ต่างกันออกไป มาดูกันดีกว่าครับว่ามีอะไรบ้าง
นิวยอร์กในช่วงฤดูร้อน
ช่วงฤดูร้อนของนิวยอร์กคือ ต้นเดือนมิถุนายนถึงปลายเดือนสิงหาคม อากาศในช่วงนี้จะไม่ต่างกับประเทศไทยเท่าไรนัก นั่นคือ “ร้อน” อุณหภูมิในช่วงนี้อาจจะสูงถึงประมาณ 30-35 องศาได้เลยทีเดียว (บางวัน 40 องศาก็ยังมี)
ข้อดีของช่วงฤดูร้อนมีดังต่อไปนี้
- ฟ้าใสทุกวัน โอกาสที่อากาศจะแย่ต่ำมาก
- ไม่ต้องเตรียมเสื้อหนาวใดๆ สามารถใส่เสื้อยืด กางเกงขาสั้นได้
- กลางวันยาวมาก กว่าจะมืดก็ 2-3 ทุ่มโน่นเลย
- มีคอนเสิร์ตให้ดูฟรีเยอะมาก เช่นเดียวกับเทศกาลดนตรีต่างๆ
- มีเทนนิส US Open ให้ดู
- มี food truck และ street fairs ให้ลองชิมรสชาติอาหารจำนวนมาก
- ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่อากาศร้อนที่สุด ราคาโรงแรมจะถูกกว่าปกติเล็กน้อย
อย่างไรก็ดี ฤดูร้อนก็มีข้อเสียเช่นเดียวกัน
- นักท่องเที่ยวเยอะมาก โรงแรมจึงเต็มอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับตั๋วเข้าชมละคร Broadway
- ความชื้นในอากาศสูง ทำให้เรารู้สึกอึดอัด
- สำหรับบางคน (เช่นตัวผมเอง) อากาศร้อนมากทำให้รู้สึกหงุดหงิด 555
นิวยอร์กในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
ฤดูใบไม้ร่วงของนิวยอร์กจะอยู่ในช่วงเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน ในช่วงนี้อากาศจะเย็นสบาย แต่อุณหภูมิจะลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อเข้าสู่ช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายน ช่วงที่อากาศดีที่สุดคือกลางเดือนกันยายนถึงกลางตุลาคม เพราะอุณหภูมิจะอยู่ประมาณ 10-20 องศาครับ
ข้อดีของช่วงฤดูใบไม้ร่วงมีดังต่อไปนี้
- อากาศเย็นสบาย ไม่ร้อน ใส่เสื้อแจ็กเก็ตตัวเดียวก็เพียงพอแล้ว (แต่ถ้าไปช่วงเดือนพฤศจิกายนต้องเตรียมเสื้อกันหนาวแบบเต็มสูบมาด้วยนะครับ เพราะอากาศอาจจะลงไปเหลือต่ำกว่า 10 องศาได้)
- อากาศไม่ชื้นเหมือนกับช่วงฤดูร้อน ทำให้เดินเที่ยวข้างนอกได้อย่างสบาย
- ต้นไม้ที่ Central Park จะเปลี่ยนสี ถ้าขึ้นไปที่จุดชมวิว Top of the Rock จะสวยมาก
- กลางวันยังค่อนข้างยาวเหมือนฤดูร้อน
- สำหรับสายช็อปปิ้ง ช่วง Black Friday อยู่ที่ช่วงปลายพฤศจิกายน คุณสามารถช็อปอย่างเมามันได้ที่แหล่งช็อปปิ้งทุกแห่งของนิวยอร์กครับ
- ถ้ามาในช่วงเดือนพฤศจิกายน สามารถไปชมต้นคริสต์มาสและเล่น Ice skate ที่ Rockefeller center ได้
- หิมะจะเริ่มโปรยปรายช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง
- มีงานและพาเหรด Halloween ให้ชม
- ตลาด Farmers’ markets มีผลิตภัณฑ์สดๆ ให้คุณได้ลองชิมและซื้อกลับเป็นของฝากได้
- ช่วง Thanksgiving ร้านอาหารอันมากมายในนิวยอร์กจะมีเมนูพิเศษให้คุณได้ลองชิม
เช่นเดียวกับฤดูอื่นๆ ข้อเสียของฤดูใบไม้ร่วงก็มีเช่นเดียวกันได้แก่
- ค่าห้องพักในโรงแรมสูงไม่แพ้ช่วงคริสต์มาส
- ถ้าดวงไม่ดีจริงๆ มีโอกาสเจอพายุเฮอร์ริเคน (ผมเจอมาแล้ว)
- อากาศอาจไม่ดีได้เป็นบางวัน แต่โอกาสน้อย
ด้วยความที่ข้อเสียไม่มากนัก ทำให้ผมมองว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่ดีที่สุดของปีในการมาเที่ยวนิวยอร์กครับ
นิวยอร์กในช่วงฤดูหนาว
นิวยอร์กในช่วงฤดูหนาวอยู่ในช่วงเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ ช่วงนี้เป็นช่วงที่นิวยอร์กหนาวสุดๆ อุณหภูมิส่วนใหญ่จะต่ำกว่า 0 องศา โดยเฉพาะในปีที่มี Polar Vortex อุณหภูมิจะดำดิ่งไปถึง -20 องศาและยังมีลมแรงๆ ด้วย
ข้อดีของช่วงฤดูหนาวมีหลายอย่างด้วยกัน อาทิเช่น
- คริสต์มาสและงานปีใหม่! นิวยอร์กเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีชื่อเสียงมากทั้งเทศกาลคริสต์มาส และการเค้าน์ดาวน์รับวันปีใหม่ ถ้าอยากสัมผัสประสบการณ์ แน่นอนว่าต้องมาช่วงนี้เท่านั้นครับ
- หิมะรายรอบทั่วทั้งบริเวณ อย่างเช่นที่ Central Park จะเต็มไปด้วยหิมะ ซึ่งคุณสามารถเล่นหิมะได้ครับ
- ในช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ ห้างสรรพสินค้า ห้างร้านใหญ่ๆ จะประดับประดาแสงไฟไปทั่วทั้งเมือง
- ถ้ามาในช่วงหลังปีใหม่ (มกราคมและกุมภาพันธ์) ค่าโรงแรมที่พักจะต่ำที่สุดถ้าเทียบกับตลอดทั้งปี
- หลังปีใหม่นักท่องเที่ยวน้อย ชมสถานที่ต่างๆ ได้สบาย
ขณะเดียวกันข้อเสียในช่วงฤดูหนาวก็มีไม่น้อย อย่างเช่น
- หนาวมากกกกกกกกก ต้องเตรียมเสื้อกันหนาวแบบจัดเต็มตั้งแต่หัวจรดเท้า
- มีความเสี่ยงสูงที่จะเจอพายุหิมะ ทำให้เที่ยวบินล่าช้าหรือแม้กระทั่งยกเลิกเที่ยวบิน (ผมโดนมาแล้ว)
- พื้นในเมืองลื่นมากจากหิมะและฝนน้ำแข็งที่ตกลงมา ทางเดินบางจุดถึงกับกลายเป็นโคลนเละๆ
- ถ้ามาก่อนคริสต์มาสและปีใหม่ ค่าตั๋วเครื่องบิน และค่าโรงแรมจะแพงมากกว่าปกติ
นิวยอร์กในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
ฤดูใบไม้ผลิของนิวยอร์กตรงกับช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ในช่วงนี้อากาศจะอุ่นขึ้นเรื่อยๆ แต่ในช่วงต้นเดือนมีนาคม คุณยังมีโอกาสเจออากาศหนาวแบบฤดูหนาวได้อยู่นะครับ
ข้อดีของช่วงฤดูใบไม้ผลิได้แก่
- อากาศเย็นสบายและสดใส โดยเฉพาะถ้ามาในช่วงครึ่งหลังของเดือนเมษายนเป็นต้นไป
- ค่าตั๋วเครื่องบินมักจะต่ำที่สุดในช่วงนี้
- นักท่องเที่ยวยังมีไม่มากนัก
- Central Park เต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิด ภายในเมืองยังมีเทศกาลดอกไม้ด้วยเช่น Sakura Matsuri Cherry Blossom Festival
- เทศกาลมีมากมายหลากหลายเช่น Easter Parade เป็นต้น
เช่นเดียวกับฤดูอื่น ฤดูใบไม้ผลิก็มีข้อเสียเช่นเดียวกันได้แก่
- ฤดูนี้ไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่แพ้เกสรดอกไม้ เกสรเหล่านี้จะปลิวไปทั่วเมืองในช่วงครึ่งหลังของเดือนพฤษภาคม มันจะทำให้คุณจาม น้ำมูกน้ำตาไหล และหมดอารมณ์ในการเที่ยวไปเลย ตัวผมอยู่เมืองนี้มา 4 ปี และมีอาการแบบนี้ทุกปี ดังนั้นใครที่แพ้เกสรดอกไม้ พยายามหลีกเลี่ยงเดือนพฤษภาคมไว้จะดีที่สุดครับ
- แมลงจะเยอะกว่าช่วงฤดูอื่น
- ช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเมษายนจะเป็นช่วงที่เมืองเปียกและสกปรกมากเป็นพิเศษ เพราะหิมะที่กองอยู่ตลอดช่วงฤดูหนาวละลาย ทำให้พื้นลื่นมากๆ คุณต้องระวังให้ดีเวลาก้าวเท้าลง subway ผมเคยลื่นไม่เป็นท่ากลิ้งลงไป 6-7 ขั้นมาแล้ว
ช่วงไหนดีที่สุด
ถ้าผมให้เลือก 1 ช่วง ผมมองว่าช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วงหรือช่วงกันยายน – ตุลาคม เป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับการท่องเที่ยวนิวยอร์ก เพราะว่าอากาศดี ไม่หนาวเกินไป เทศกาลเยอะ แถมยังได้ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ Central Park ด้วย
อย่างไรก็ดี ผมมองว่าเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่เป็นความทรงจำที่ดีมากที่คุณควรสัมผัสสักครั้ง การมาเที่ยวนิวยอร์กในช่วงนั้นจึงน่าสนใจไม่แพ้กันครับ
ส่งท้าย
สำหรับใครที่กำลังคิดจะมาเที่ยวนิวยอร์ก ผมแนะนำให้อ่านบทความซื้อตั๋วเครื่องบินมายังอเมริกาที่ผมเคยเขียนไว้แล้วด้วยนะครับ คุณจะได้ตั๋วดีราคาไม่แพง ทำให้ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวของคุณต่ำลง
[sc name=”travelthai” ][/sc]