ท่องเที่ยว8 สวนน้ำ (Water Park) ระดับโลกน่าพาเด็กๆ ไปเล่นสักครั้ง

8 สวนน้ำ (Water Park) ระดับโลกน่าพาเด็กๆ ไปเล่นสักครั้ง

สวนน้ำ (Water Park) คือสวนสนุกที่มีเครื่องเล่นมากมายที่มี “น้ำ” เป็นองค์ประกอบ แม้ว่าเครื่องเล่นเหล่านี้จะทำให้ตัวของคุณเปียกไปทั้งตัว แต่ก็สนุกสนานตื่นเต้นเป็นที่ชื่นชอบของผู้เล่น โดยเฉพาะเด็กๆ ทั้งหลาย

ในโพสนี้เราจะมาดูกันครับ สวนน้ำระดับโลกมีที่ไหนบ้างที่คุณควรจะพาลูกๆ หลานๆ ไปเล่นสักครั้ง

1. Ramayana Water Park

Ramayana Water Park หรือ “สวนน้ำรามายณะ” เป็นสวนน้ำที่ตั้งอยู่ทางใต้ของเมืองพัทยา ประเทศไทย ในปี ค.ศ.2019 สวนน้ำแห่งนี้ได้ก้าวขึ้นสู่ความเป็นระดับโลกจากการจัดอันดับของ Tripadvisor โดยได้เป็นที่ 1 ในเอเชีย และเป็นอันดับ 10 ของโลกครับ นอกจากนี้ยังเป็นสวนน้ำที่ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยด้วยครับ

ภายในสวนน้ำรามายณะมีพื้นที่มากกว่า 100 ไร่ และตบแต่งเป็น theme สีเขียวราวกับว่าอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ คุณสามารถสนุกสนานกับการเล่นน้ำในสระน้ำ เล่นเครื่องเล่นมันส์ๆ อย่างเช่น Freefall, Aqualoop หรือ Aqua coaster ซึ่งเป็นเครื่องเล่นสไลเดอร์ที่ยาวที่สุดในโลก ถ้าเหนื่อยแล้วก็สามารถไปเดินเล่นที่ตลาดลอยน้ำที่สร้างขึ้นบนทะเลสาบ (เกิดขึ้นตามธรรมชาติ) ก็ได้ครับ

การที่มีสิ่งที่น่าสนใจในสวนน้ำมากถึง 50 ชนิด ทำให้สวนน้ำรามายณะเหมาะกับทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าใครก็สามารถสนุกสนานกับสวนน้ำแห่งนี้ได้ครับ

สวนน้ำรามายณะ สวนน้ำอันดับ 1 ของไทย
Ramayana Water Park By Ramayana Water Park – Chronograph, CC BY-SA 3.0

เรื่องความปลอดภัย ทางสวนน้ำได้จัดการอย่างเข้มงวดที่สุด ทำให้คุณวางใจได้เลยว่าจะได้ประสบการณ์ที่ดีและสนุกสนานถ้ามาเล่นน้ำที่นี่ครับ

ราคาค่าเข้าสวนน้ำรามายณะสำหรับผู้ใหญ่จะอยู่ที่ 599 บาท (ซื้อผ่าน Klook จากลิงค์ด้านล่าง) แต่ราคานี้จะไม่รวมตู้ล็อกเกอร์แต่อย่างใด สมมติว่าถ้าไปเป็นครอบครัว ผมแนะนำให้ซื้อแพคเกจ 1,699 บาทจะคุ้มค่ากว่า เพราะจะได้ตั๋วค่าเข้า 2 ใบสำหรับผู้ใหญ่ อีก 1 ใบสำหรับเด็ก และยังรวมค่าใช้ล็อกเกอร์แล้วอีกด้วย

ถ้าเปรียบกับสวนน้ำในต่างประเทศแล้ว Ramayana Water Park เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก เพราะราคาย่อมเยา และคุณภาพของเครื่องเล่นก็อยู่ในระดับโลกด้วยครับ

2. Atlantis Aquaventure Waterpark

Atlantis Aquaventure Waterpark เป็นสวนน้ำที่ตั้งอยู่ในบริเวณเกาะ Palm ของเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ เกาะที่สวนสนุกแห่งนี้ตั้งอยู่เป็นเกาะที่มนุษย์สร้างขึ้น 100% ครับ

สวนน้ำแห่งนี้ตบแต่งด้วย theme อาหรับ และมีขนาดใหญ่โตอลังการตามสไตล์ชีคแห่งดูไบ ด้านในมีชายหาดส่วนตัวให้คุณนอนเล่นชมทะเลได้ยาวถึง 500 เมตร และยังมีเครื่องเล่นขนาดใหญ่มากมายถึง 30 ชนิด อาทิเช่น Shark Attack สไลเดอร์ใต้น้ำที่รอบตัวของคุณจะเต็มไปด้วยฉลามเป็นต้น หรือ Aquaconda สไลเดอร์ขนาดยักษ์เป็นอันดับต้นๆของโลกครับ

ที่เด็ดกว่านั้นภายในสวนน้ำยังมี Aquarium ขนาดยักษ์ตั้งอยู่ด้วยชื่อ Lost Chambers Aquarium ซึ่งมีสัตว์น้ำมากถึง 65,000 ตัว และยังมีโชว์การให้อาหารฉลามให้ดูอย่างสดๆด้วยครับ หรือถ้าคุณสนใจจะว่ายน้ำกับโลมาหรือแมวน้ำก็สามารถทำได้เช่นกัน

ค่าเข้าสวนน้ำแห่งนี้ 1 วันของ Aquaventure จะอยู่ที่ 2,787 บาทสำหรับผู้ใหญ่ และ 2,321 บาทสำหรับเด็ก 3-7 ขวบ ขณะที่ Lost Chambers Aquarium จะอยู่ที่ 1,021 บาทสำหรับเด็ก และ 764 บาทสำหรับผู้ใหญ่ครับ

ถ้าคุณจะไปทั้งสองที่แล้วละก็ ผมแนะนำให้ซื้อผ่าน Klook ผ่านลิงค์ด้านล่างเพราะคุณสามารถไปได้ทั้งสองที่ในราคาประหยัดมาก (2,694 บาทสำหรับผู้ใหญ่ และ 2,470 บาทสำหรับเด็ก) ครับ

ทั้งนี้ในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์มีสวนน้ำชั้นยอดหลายแห่งด้วยกัน นอกจาก Atlantis Aquaventure Waterpark แล้วยังมี Wild Wadi Waterpark และ Yas Underworld ให้คุณได้ไปเล่นเพิ่มด้วยครับ

3. Watercube Waterpark

Watercube Waterpark (Shulifang, 水立方) เป็นสวนน้ำที่ตั้งอยู่ที่กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศจีน ตัวสวนน้ำตั้งอยู่ภายในสถานที่จัดกีฬาโอลิมปิกแห่งปี ค.ศ.2008 ดังนั้นสไตล์ของสวนน้ำจึงเป็นแบบ indoor ซึ่งต่างจากสวนน้ำอื่นๆ ทั่วไป คุณรู้สึกว่าอยู่ในโลกใต้ทะเลครับ สวนน้ำแห่งนี้ได้รับความนิยมมากทั้งในหมู่ชาวจีนและต่างประเทศครับ

เครื่องเล่นของที่นี่มีมากมายนับสิบชนิด ตั้งแต่ Deep-water Tornado ซึ่งคุณจะได้ลอยละลิ่วไปตามท่อในมุม 90 องศาลงสู่เบี้องล่าง หรือไหลไปตาม Aqualoop สไลเดอร์ขนาดใหญ่ที่ยาวถึง 76 เมตรครับ

ขึ้นชื่อว่าของจีน หลายคนอาจจะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย แต่ไม่ต้องกังวลไปครับ เพราะเครื่องเล่นทุกชนิดล้วนแต่นำเข้ามาจากต่างประเทศทั้งสิ้น และได้รับการบำรุงรักษาเป็นอย่างดีครับ

ค่าเข้าจะอยู่ที่ 200-260 หยวนสำหรับผู้ใหญ่และเด็กโต และ 180-220 หยวนสำหรับเด็กที่สูง 1.2-1.5 เมตร ถ้าเด็กสูงน้อยกว่า 1.2 เมตรคือเข้าฟรีครับ สาเหตุที่ราคาเป็นช่วงก็เพราะว่าช่วงฤดูหนาวจะถูกกว่าช่วงฤดูร้อนครับ

4. Tokyo Disney Sea

Tokyo Disney Sea เป็นสวนน้ำที่คนไทยน่าจะรู้จักกันดี ซึ่งในปัจจุบันสวนน้ำแห่งนี้มีอายุเกือบ 20 ปีแล้ว แต่ก็ยังเป็นที่นิยมสูงมากในหมู่ชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต่างๆ ครับ ในปี ค.ศ.2018 โตเกียวดิสนีย์ซีเป็นสวนน้ำที่มีผู้เข้ามาเล่นถึง 15 ล้านคน นับเป็นสวนสนุกที่มีนักท่องเที่ยวอันดับ 4 ของโลกเลยทีเดียว

ตัวสวนน้ำใช้ theme การสำรวจทะเล และใช้ตัวละครของดิสนีย์มากมายเข้ามาเป็นองค์ประกอบในสวนสนุก ซึ่งบอกได้เลยว่าทำให้สวนน้ำสวยมากยากที่สวนน้ำแห่งอื่นจะเทียบได้เลยครับ

เครื่องเล่นดังๆ ของดิสนีย์ซีมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Sindbad’s Storybook Voyage หรือว่า Journey to the Center of the Earth บอกได้เลยว่าหนึ่งในวันแห่งความสุขในสวนน้ำแห่งนี้จะผ่านไปอย่างรวดเร็วครับ

ตั๋วค่าเข้าต่อ 1 วันอยู่ที่ 8,200 เยน (2,350 บาท) สำหรับผู้ใหญ่ 6,900 เยนสำหรับเด็กโต (2,000 บาท) และ 4,900 เยนสำหรับเด็กเล็กครับ บัตรนี้ใช้ได้ทั้ง Disneyland หรือ Disney Sea เป็นเวลา 1 วันครับ

5. Siam Park

Siam Park เป็นสวนน้ำที่เมือง Tenerife ใน Canary Islands หมู่เกาะในทวีปแอฟริกาของประเทศสเปน สวนน้ำแห่งนี้ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นอันดับต้นๆ ของโลกมาหลายปีติดต่อกันนับตั้งแต่เปิดกิจการมาครับ

Theme ที่สวนน้ำแห่งนี้ใช้คือประเทศไทย ไม่ว่าจะเปิดอาคารทรงไทยทั้งหลาย ตลอดจนต้นไม้เขตร้อนต่างๆ ทำให้คุณเหมือนกับได้เล่นน้ำในประเทศไทย แม้ว่าจริงๆ แล้วสวนน้ำแห่งนี้จะไม่ได้ตั้งอยู่ในทวีปเอเชียเลยก็ตาม

เครื่องเล่นใน Siam Park มีอยู่มากมาย ซึ่งล้วนแต่สนุกตื่นเต้นทั้งสิ้นครับ โดยเฉพาะ The Wave Palace เครื่องเล่นที่มีคลื่นเสมือนที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังมีตลาดน้ำและร้านอาหารที่สร้างขึ้นคล้ายกับอาคารทรงไทยด้วยครับ

ค่าตั๋วในการเข้าไปเล่นใน Siam Park อยู่ที่ 122 ยูโร (4,330 บาท) ครับ

6. Tropical Islands

Tropical Islands เป็นสวนน้ำที่อยู่ห่างจากกรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของประเทศเยอรมนีไม่ไกลนัก ที่นี่เป็นสวนน้ำอันดับต้นๆ ของยุโรป และมีป่าฝนในร่มที่มีต้นไม้มากกว่า 50,000 ต้น ถ้าเปรียบเทียบในเรื่องขนาดแล้ว ที่นี่จัดเป็นสวนน้ำในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลกครับ

Theme ของสวนน้ำแห่งนี้ใช้เป็นแบบเอเชียเขตร้อน นั่นคือแบบไทย บอร์เนียว บาหลี และซามัว เครื่องเล่นในสวนน้ำแห่งนี้มีหลากหลายและจะทำให้ร่างกายของคุณหลั่งอะดรีนาลินได้ไม่ยาก แต่สำหรับใครที่ไม่อยากเล่น สามารถแช่น้ำสบายๆ หรือว่าไปซาวน่า สปา และนวดก็ได้ครับ

ตั๋วเข้าสวนน้ำอยู่ที่ 45 ยูโรต่อคนต่อวัน โดยราคานี้ยังไม่รวมซาวน่าครับ ถ้าสนใจซาวน่าและสปาจะต้องจ่ายเพิ่มครับ

7. Aquatica

Aquatica เป็นสวนน้ำที่มีชื่อเสียงระดับโลกมาเป็นเวลานานแล้ว และยังคงมีการพัฒนาและต่อเติมอยู่เรื่อยๆ สวนน้ำตั้งอยู่ที่เมือง Orlando รัฐฟลอริดาในประเทศสหรัฐอเมริกาครับ และใช้ theme ใต้ท้องทะเล

สระน้ำและเครื่องเล่นใน Aquatica เรียกได้ว่าพร้อมสุดๆ และสร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือนอย่างมาก คุณสามารถเล่นน้ำในสระ ไปเล่นสไลเดอร์ขนาดใหญ่โตโอฬาร พักผ่อนริมชายหาดภายในสวนน้ำแห่งนี้ ดังนั้นการมาเที่ยวที่นี่จึงสามารถสร้างความสุขให้กับทั้งครอบครัวเลยครับ

ในการซื้อตั๋วนั้น ผมแนะนำให้ซื้อแบบเหมาเลยในราคาจาก 3,227 บาทจาก Klook เลยจะคุ้มค่ากว่า เพราะคุณจะเข้าได้ทั้ง Aquatica, Sea World, Tamba Bush และ Tamba Adventure เลยครับ

8. Volcano Bay

Volcano Bay เป็นสวนน้ำอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ในย่านเมือง Orlando แต่สวนน้ำแห่งนี้อยู่ในเครือของ Universal ครับ จริงๆแล้วสวนน้ำแห่งนี้เพิ่งจะเปิดในปี ค.ศ.2017 นี้เอง แต่ว่าได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว เพราะว่ามีเครื่องเล่นมากมายที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ นักท่องเที่ยวสวนสนุกสายแข็งจึงเดินทางมาเล่นจำนวนมาก

สัญลักษณ์ของสวนน้ำแห่งนี้คือภูเขาไฟขนาดใหญ่ชื่อ Krakatau ภูเขาไฟลูกนี้เป็นแบบจำลองทั้งหมดครับ แต่ก็มีความสูงถึง 61 เมตรเลยทีเดียว theme ของสวนน้ำแห่งนี้ก็คือเจ้าภูเขาไฟนี่เองครับ

ตั๋วของ Volcano Bay จะขายคู่กับสวนสนุกหลักของ Universal 2 แห่ง อย่าง Islands of Adventure หรือ Epic Universe ครับ ซึ่งผมแนะนำว่าควรจะไปสวนสนุกหลักด้วย เพราะว่าเครื่องเล่นดีจริงๆ ครับ

ในส่วนของค่าเข้า ผมแนะนำให้ซื้อเหมาผ่าน Klook โดยเลือก “3 Park Explorer Ticket with Volcano Bay” ราคาจะอยู่ที่ 12,513 บาท โดยจะเข้าได้ทั้ง 3 แห่งด้วยกัน ภายใน 14 วันหลังจะเริ่มใช้วันแรกครับ นอกจากนี้แพคเกจนี้ยังนั่ง Hogwarts Express ได้ไม่จำกัดด้วย ดังนั้นถ้าสนใจแล้ว แพคเกจนี้ดีที่สุดอย่างเป็นเอกฉันท์เลยครับ

ข้อควรทราบ: ใกล้กับเมือง Orlando ยังมีสวนน้ำอีกหลายแห่ง อาทิเช่น Typhoon Lagoon และ Blizzard Beach ของดิสนีย์ และ Island H20 Live! ที่เพิ่งเปิดในปี ค.ศ.2019 ครับ เพราะฉะนั้นคุณสามารถไปเล่นในสวนน้ำเหล่านี้ได้ด้วยเช่นกัน

[sc name=”travelthai” ][/sc]
Pun Anansakunwat
Pun Anansakunwathttps://victorytale.com/about-victorytale/
ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Victory Tale ผมชื่นชอบในหลากหลายสาขาตั้งแต่ประวัติศาสตร์ การท่องเที่ยว เทคโนโลยี ไปจนถึงการลงทุน หลังจากที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย (Columbia University) ผมก็ได้เป็นนักลงทุนในหุ้น, ติวเตอร์, นักเขียน (ตีพิมพ์ไปแล้ว 3 เล่ม) และในปัจจุบันก็เป็นเจ้าของเว็บไซต์ครับ

สถานที่ท่องเที่ยว

โรงแรมที่พัก

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!