ปักกิ่ง (Peking) หรือ เป่ยจิง (Beijing) เป็นเมืองหลวงของประเทศจีน ด้วยความที่ประเทศจีนเป็นมหาอำนาจและมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวในกรุงปักกิ่งมีมากมาย หากแต่ว่าถ้าคิดจะไปเที่ยวปักกิ่งแล้ว ผมแนะนำว่าอย่าได้พลาดสถานที่เหล่านี้ครับ พลาดแล้วจะเสียใจ (จริงๆ)
1. กำแพงเมืองจีน
กำแพงเมืองจีน หรือ กำแพงหมื่นลี้ เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศจีนเลยก็ว่าได้ เดิมทีตัวกำแพงนี้มีอยู่แล้วในภาคเหนือของจีนตั้งแต่สมัยยุคจ้านกว๋อ (แคว้นจ้าวและแคว้นเยียน) แต่มันไม่เชื่อมต่อกัน ฉินสื่อหวงตี้ (จิ๋นซีฮ่องเต้) จักรพรรดิแห่งราชวงศ์ฉินจึงมีคำสั่งให้สร้างกำแพงเหล่านี้เพิ่มเติมและเชื่อมทุกส่วนเข้าด้วยกันเพื่อป้องกันการรุกรานของพวกอนารยชนจากทางภาคเหนือ

อย่างไรก็ตามกำแพงส่วนที่เราเข้าชมได้ในทุกวันนี้เป็นส่วนที่สร้างในสมัยราชวงศ์หมิงเสียเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นมันจะมีอายุประมาณ 600-700 ปี แต่มันก็ยังทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และมีความยิ่งใหญ่ปรากฏให้เห็นอยู่ดี
ในการชมกำแพงเมืองจีน เราสามารถเข้าชมได้หลายจุด แต่ส่วนที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือ ส่วนที่เรียกว่า ปาต้าหลิ่ง ( 八达岭)
ทั้งนี้ไม่ว่าเราจะเลือกชมกำแพงเมืองจีนในจุดใดก็ตาม นักท่องเที่ยวต้องนั่งรถบัสหรือรถไฟออกจากกรุงปักกิ่งออกไปประมาณ 1-2 ชั่วโมงกว่าจะถึงที่หมาย
ในการชมกำแพงเมืองจีน ผมแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเที่ยวชมในช่วงเทศกาลของจีน เช่นช่วงวันชาติ หรือช่วงวันตรุษจีน เพราะว่านักท่องเที่ยวจะล้นหลามจนเที่ยวไม่สนุกได้ โดยเฉพาะปาต้าหลิ่ง และควรสวมใส่รองเท้าที่ใส่สบาย เพราะว่าบางส่วนชันพอสมควรเลยทีเดียว
2. พระราชวังหลวง
พระราชวังหลวงแห่งเป่ยจิง หรือ 北京皇城 เป็นพระราชวังที่ใหญ่โตและอลังการที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตัวพระราชวังแห่งนี้ประกอบด้วยสถานที่สำคัญหลายแห่งเช่น
จัตุรัสเทียนอันเหมิน เป็นประตูทางเข้าสู่พระราชวังหลวงแห่งนี้ จัตุรัสแห่งนี้มีรูปของประธานเหมาเจ๋อตงอยู่ที่ด้านหน้า มันจึงเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของประเทศจีน นอกจากนี้ยังมีความสำคัญในทางการเมืองด้วย เพราะว่าเป็นสถานที่ที่เกิดการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในปี ค.ศ.1989
พระราชวังต้องห้าม หรือ กู้กง (故宫) พระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่ตรงกลางของพระราชวังหลวง สถานที่แห่งนี้เป็นที่ประทับของจักรพรรดิราชวงศ์หมิงและชิง ความยิ่งใหญ่ อลังการ และงดงามของสถาปัตยกรรมในพระราชวังแห่งนี้เป็นสาเหตุที่ทำหน้านักท่องเที่ยวแห่กันมาเที่ยวปักกิ่ง

นอกจากนี้ในพระราชวังยังมีสวนสวยๆ และพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงของมีค่าต่างๆให้เข้าชมด้วย เนื่องจากพระราชวังแห่งนี้ใหญ่มาก การเข้าชมอาจจะใช้เวลามากถึง 6 ชั่วโมงขึ้นไป เตรียมตัวเตรียมใจไว้เลยครับว่า คุณต้อง “เดิน” เยอะแน่ๆ
จากประสบการณ์จริง วันที่ผมไปพระราชวังแห่งนี้ ผมเดินเยอะมากจนเจ็บขาไปหมด วันต่อมาต้องแปะกอเอี๊ยะเลยทีเดียว!
พระราชวังหลวงตั้งอยู่กลางเมืองปักกิ่ง สามารถเดินทางไปได้โดยรถไฟใต้ดิน รถเมล์ หรือแท็กซี่ครับ
3. พระราชวังฤดูร้อน
พระราชวังฤดูร้อน หรือ พระราชวังหยีเหอหยวน (颐和园) เป็นอีกสถานที่ที่พลาดไม่ได้ถ้ามาเที่ยวปักกิ่ง พระราชวังแห่งนี้ไม่ได้ใหญ่มากเท่ากับพระราชวังหลวง (แต่ก็ยังใหญ่อยู่ดี) แต่แฝงความงามในลักษณะที่ต่างออกไป

จุดเด่นของพระราชวังแห่งนี้คือ มีทั้งทะเลสาบและภูเขาอยู่ในพระราชวัง ทะเลสาบที่ว่าเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ชื่อทะเลสาบคุนหมิง (昆明湖) ตัวทะเลสาบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ แต่เป็นผลงานทางวิศวกรรมของชาวจีนในสมัยก่อนเกือบจะ 100% หรือพูดง่ายๆ มันเป็นทะเลสาบที่ใช้แรงงานมนุษย์ขุดขึ้นมานั่นเองครับ
ส่วนภูเขาในพระราชวัง หรือ ว่านโช่วซาน (万寿山) ก็เป็นภูเขาเทียมที่สร้างขึ้นมนุษย์เช่นเดียวกัน มันเกิดจากการที่แรงงานชาวจีนนำดินที่ขุดขึ้นมาจากการสร้างทะเลสาบไปสร้างเป็นภูเขา
การที่พระราชวังแห่งนี้มีทั้งทะเลสาบและภูเขาทำให้พระราชวังแห่งนี้กลายเป็นผลงานชิ้นเอกของที่อยู่อาศัยแบบจีนตามความเชื่อ แต่ถ้าดูแบบไม่คิดเรื่องความเชื่ออะไร พระราชวังแห่งนี้ก็ยังสวยอยู่ดี
สำหรับผมแล้ว ผมว่าบรรยากาศดูผ่อนคลายกว่าพระราชวังหลวงมาก เลยรู้สึกไม่แปลกใจถ้าจักรพรรดิจีนจะปลีกวิเวกมาพักที่นี่
ตัวพระราชวังตั้งอยู่ในเมืองปักกิ่ง สามารถเดินทางไปได้โดยรถไฟใต้ดิน รถเมล์ หรือแท็กซี่ครับ
4. สุสานจักรพรรดิราชวงศ์หมิง
สุสานแห่งนี้เป็นสุสานหลวงที่เก็บพระศพของจักรพรรดิราชวงศ์หมิงจำนวน 13 พระองค์ แต่ไม่ใช่ทุกพระองค์ที่ได้รับการฝังที่นี่ ตัวสุสานห่างจากจากกลางตัวเมืองปักกิ่งประมาณ 42 กิโลเมตร เพราะฉะนั้นถ้าอยากเข้าชม ต้องนั่งรถออกจากเมืองไปครับ

บริเวณนี้ได้ถูกเลือกตามหลักฮวงจุ้ย บริเวณสุสานมีภูเขาเป็นฉากหลัง และใกล้กับบริเวณนั้นมีลำธารอันเงียบสงบ ทำให้บริเวณนี้เยี่ยมยอดสำหรับการที่จักรพรรดิจะประทับอยู่ที่นี่ตลอดกาล
แม้จะมีสุสานถึง 13 แห่ง แต่ที่เปิดให้เข้าชมมีเพียง 3 แห่งเท่านั้น ส่วนที่เป็นไฮไลท์คือบริเวณทางเดินที่เข้าสู่สุสานที่มีรูปปั้นสัตว์ต่างๆ (บางตัวเป็นสัตว์ในเทพนิยายจีน) จำนวนมาก และบริเวณด้านในสุสานที่มีการตบแต่งอย่างประณีตตามสไตล์สุสานจีนทั่วไป

5. วิหารฟ้า
วิหารฟ้า หรือ เทียนถาน (天壇) เป็นวิหารเก่าแก่หลายร้อยปีที่สร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิราชวงศ์หมิง จักรพรรดิจีนจะเดินทางมาวิหารแห่งนี้เพื่อบวงสรวงและบูชาฟ้าเพื่อขอให้ภูมิอากาศในปีนี้เป็นปกติ เหล่าราษฎรจะได้ทำการเก็บเกี่ยวพืชผลได้มากๆ ทุกคนจะได้มีเงินทองและความสุข ธรรมเนียมดังกล่าวสืบต่อมาจนถึงสมัยราชวงศ์ชิงด้วยเช่นกัน
สถาปัตยกรรมของวิหารแห่งนี้ก็ยังวิจิตรงดงามแบบจีนเช่นเดียวกับพระราชวังอื่นๆ แต่ที่พิเศษคือที่นี่จะแฝงสัญลักษณ์หลายอย่างที่มากถึง “สวรรค์”และ”โลก” ที่เกี่ยวเนื่องกันตามความเชื่อดั้งเดิม
บริเวณรอบๆ วิหารยังมีสวนหลายแห่งที่สามารถเดินเล่นได้ พ่อแม่ชาวจีนมักจะพาบุตรหลานมาเดินเล่นอยู่เนืองๆ
วิหารฟ้าตั้งอยู่ในเมืองปักกิ่ง สามารถเดินทางไปได้โดยรถไฟใต้ดิน รถเมล์ หรือแท็กซี่ครับ
ส่งท้าย
นอกจาก 5 สถานที่ท่องเที่ยวที่ผมแนะนำไปแล้วด้านบน ปักกิ่งยังมีสถานที่อีกหลายแห่งที่สนใจ อาทิเช่นวัดลามะ วัดแบบทิเบตอายุหลายร้อยปี สนามกีฬารังนกที่รัฐบาลจีนสร้างขึ้นเพื่อรับงานโอลิมปิกปี ค.ศ.2008 หรือสวนหยวนหมิงหยวนที่เคยเป็นพระราชวังเก่าแก่มาก่อน ทั้งหมดนี้เป็นตัวเลือกให้ทุกท่านไปชมได้ถ้ามีเวลาเหลือครับ
สำหรับแหล่งช็อปปิ้ง ติดตามได้ในตอนหน้าครับ
สนใจหาตั๋วไปปักกิ่ง คลิกที่นี่เลย!!