ประวัติศาสตร์พฤติกรรมประหลาดๆ ของซาร์ปีเตอร์ที่ 3 แห่งรัสเซีย

พฤติกรรมประหลาดๆ ของซาร์ปีเตอร์ที่ 3 แห่งรัสเซีย

หลังจากที่เอลิซาเบธได้ยึดอำนาจมาจากซาร์อีวานที่ 6 ผู้เป็นทารก และได้ขึ้นเป็นซารินาแห่งรัสเซียเรียบร้อยแล้ว พระนางได้เรียกตัวชายผู้หนึ่งมาจากแคว้น Holstein ในดินแดนเยอรมนี

เขาผู้นี้มีชื่อว่า ปีเตอร์ เขาเป็นโอรสของแอนนา พี่สาวของเอลิซาเบธ ดังนั้นปีเตอร์จึงเป็นหลานน้าของเอลิซาเบธ และหลานตาและยายของซาร์ปีเตอร์มหาราช และ แคทเทอรีนที่ 1

ถึงแม้จะเป็นคนสวยมาก แต่ด้วยความที่ซารินาเอลิซาเบธไม่ได้แต่งงานอย่างเป็นทางการ (มีแต่คู่รัก) เธอจึงไม่มีลูก เธอคาดหวังว่าจะให้ปีเตอร์ผู้นี้สืบบัลลังก์รัสเซียต่อจากเธอ

หากแต่ว่าปีเตอร์กลับมีพฤติกรรมหลายๆ อย่างที่แสดงให้เห็นว่า เขาเป็นคนประหลาด บ้างว่าวิปริตเลยทีเดียว

ปีเตอร์ที่ 3

คลั่งไคล้เยอรมัน

เมื่อปีเตอร์มาถึงเซนต์ปีเตอร์สเปิร์ก เมืองหลวงของรัสเซียในปี ค.ศ.1742 เขามีอายุเพียง 14 ปี ด้วยความที่อยู่ในดินแดนเยอรมันมาตลอดทั้งชีวิต ปีเตอร์จึงมีความเป็นเยอรมันอย่างเต็มเปี่ยม ปีเตอร์ไม่ใช่รักความเยอรมันแบบธรรมดา แต่เขาคลั่งไคล้เลยก็ว่าได้

ดังนั้นสิ่งแรกที่เอลิซาเบธพยายามทำก็คือ เปลี่ยนปีเตอร์ให้เป็นชาวรัสเซีย ปีเตอร์ถูกบังคับให้เปลี่ยนศาสนาจากลูเธอรันมาเป็นรัสเซียนออโธดอกซ์ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการขึ้นครองบัลลังก์รัสเซีย

ปีเตอร์ไม่ได้สนใจอะไรกับศาสนามากนักอยู่แล้ว น้าให้เปลี่ยนก็ยอมเปลี่ยน แต่สิ่งที่น้าของเขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้คือ ความคลั่งไคล้ในความเป็นเยอรมัน และฮีโร่ของเขา เฟดเดอริกมหาราชแห่งปรัสเซีย

เฟดเดอริกมหาราชแห่งปรัสเซีย

วันๆ ปีเตอร์จะใช้เวลาอยู่กับกองทหารที่เขาสั่งให้แต่งตัวแบบทหารเยอรมัน เขาจะมีคุมการฝึกวินัยและเดินพาเหรดอยู่แทบทั้งวัน ตัวปีเตอร์เองก็จะแต่งกายแบบเยอรมันตั้งแต่หัวจรดเท้า โดยไม่สนใจว่าในเวลานั้นเขามีตำแหน่งเป็นเซซาร์เรวิช (มงกุฎราชกุมาร) แห่งรัสเซีย และรัสเซียกำลังทำสงครามอยู่กับปรัสเซีย

ทั่วทั้งราชสำนักรัสเซียจึงไม่พอใจอย่างยิ่งที่ เซซาร์เรวิชมาแต่งกายชุดทหารของประเทศศัตรู

นอกจากนี้ในเวลานอน ปีเตอร์จะต้องนอนอยู่กับตุ๊กตาทหารเยอรมันของเขา ถ้าปีเตอร์ไม่เห็นมันก่อนนอน เขาจะนอนไม่หลับ เพราะฉะนั้นเขาจะต้องนำตุ๊กตาเหล่านี้ไปด้วยทุกที่

ถึงแม้ว่าเขาจะแต่งงานกับแคทเทอรีนแล้ว ปีเตอร์ก็ยังไม่เลิกติดตุ๊กตาของเขา แคทเทอรีนเล่าว่านี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่เธอกับเขาไม่เคยมีความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาที่ดีเลย

ความคลั่งไคล้เยอรมันและเฟดเดอริกมหาราชของปีเตอร์กลับส่งผลต่อประวัติศาสตร์โลก ในปี ค.ศ.1762 กองทัพรัสเซียได้เปรียบในสงคราม ส่วนปรัสเซียกำลังอ่อนแอเพราะสูญเสียกำลังทหารไปมาก เศรษฐกิจก็ถูกทำลาย เฟดเดอริกเองก็ทำใจไว้แล้วว่าไม่น่าจะรอด แต่ซารินาเอลิซาเบธกลับสวรรคตกะทันหัน ทำให้ปีเตอร์ขึ้นเป็นซาร์แทน สิ่งแรกที่ปีเตอร์ทำคือสงบศึกกับเฟดเดอริกมหาราชและปรัสเซีย ทำให้ปรัสเซียรอดพ้นจากความย่อยยับไปได้

ถ้าปรัสเซียย่อยยับในครั้งนั้น อำนาจของปรัสเซียอาจจะลดลงไปมาก และไม่อาจพัฒนาตนเป็นมหาอำนาจในเวลาต่อมาก็เป็นได้

จับหนูขึ้นศาล

นานวันเข้า ปีเตอร์ก็เริ่มแปลกขึ้นเรื่อยๆ มีเรื่องเล่าว่า ปีเตอร์เคย “จับหนูขึ้นศาล”

เรื่องมีอยู่ว่า

มีอยู่วันหนึ่ง ปีเตอร์พบเห็นหนูหนึ่งตัวอยู่บน “ปราสาทกระดาษ” อันเป็นของเล่นส่วนตัวของเขาที่วางอยู่บนโต๊ะขนาดใหญ่

ปีเตอร์สั่งให้คนจับหนูตัวดังกล่าวมาได้ และนำมันไปขึ้นศาล เพื่อให้ “หนู” ตัวดังกล่าวฟังคำตัดสินจากผู้พิพากษา

ผู้พิพากษาสามคนถูกเรียกมา ทั้งสามต่างงุนงงเป็นอย่างยิ่ง พวกเขาอับอายที่จะต้องมาตัดสินคดีความของหนูตัวหนึ่ง

สุดท้ายแล้วหนูดังกล่าวได้รับโทษประหารชีวิตตามความต้องการของปีเตอร์ และปีเตอร์เป็นผู้ประหารชีวิต “หนู” ด้วยตัวเอง

ปีเตอร์สวมใส่หน้ากากเพชฌฆาตแล้วตัดหัวของหนูตัวนั้นออกมา พวกชาววังที่เห็นเหตุการณ์ต่างส่ายหัวถึงพฤติกรรมประหลาดนี้ ถึงแม้จะไม่ได้แปลกเท่าคาลิกูล่า แต่ก็แปลกเพียงพอที่จะทำให้ผู้คนจำนวนมากไม่ชอบปีเตอร์เลย

ข้อโต้แย้ง

ทั้งนี้เรื่องของปีเตอร์ทั้งหมด เราต้องอ่านแบบฟังหูไว้หู เพราะแทบทุกเรื่องมาจากบันทึกของซารินาแคทเทอรีนมหาราช ผู้ที่ยึดอำนาจจากปีเตอร์ในเวลาต่อมา ดังนั้นเรื่องเล่าเหล่านี้พระนางอาจจะแต่งขึ้นมาเพื่อสร้างความชอบธรรมในการยึดอำนาจก็เป็นได้

แคทเทอรีนมหาราช

แคทเทอรีนเองก็เกลียดปีเตอร์พอๆ กับที่เขาเกลียดชังเธอ ตัวแคทเทอรีนเองก็เป็นคนฉลาดมาก ดังนั้นเธออาจจะต้องการทำลายชื่อเสียงของปีเตอร์ด้วยวิธีการนี้

ในปัจจุบัน นักประวัติศาสตร์รัสเซียต่างมองปีเตอร์ในมุมใหม่ว่า ถึงแม้ปีเตอร์จะมีพฤติกรรมแปลกๆ แต่ปีเตอร์เป็นซาร์ที่ดีพระองค์หนึ่ง ปีเตอร์พยายามปรับปรุงสังคมรัสเซียให้มีความทันสมัย เสริมสร้างสิทธิเสรีภาพในสังคม และคานอำนาจของพวกชนชั้นสูง นั่นเลยทำให้พวกชนชั้นสูงไม่พอใจ และร่วมมือกับแคทเทอรีนในการโค่นบัลลังก์ของปีเตอร์

ปีเตอร์ครองราชย์ได้ 183 วันก็โดนยึดอำนาจ ปีเตอร์ถูกปลงพระชนม์อย่างลึกลับโดยผู้คุมในสถานที่ที่เขาถูกคุมขัง เขามีอายุได้เพียง 34 ปี

Sources:

  • Radzinsky, Alexander II: The Last Great Tsar
  • Massie, Catherine The Great: Portrait of a Woman

บทความประวัติศาสตร์

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!