การศึกษา6 คอร์สเรียนทฤษฎีดนตรีออนไลน์น่าเรียนที่สุดแห่งปี 2024

6 คอร์สเรียนทฤษฎีดนตรีออนไลน์น่าเรียนที่สุดแห่งปี 2024

ทฤษฎีดนตรี (Music Theory) เป็นพื้นฐานที่สำคัญมากของทักษะการเรียนดนตรี ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเครื่องดนตรีต่างๆ อย่างเช่นกีตาร์ เปียโน ไวโอลิน หรือว่าการแต่งเพลงต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับสูง

ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นนักดนตรีหรือว่าผู้สนใจในการเล่นดนตรีทั่วไปย่อมจำเป็นต้องมีความรู้ในด้านดังกล่าวไว้ไม่มากก็น้อย อย่างไรก็ดีด้วยความที่เทคโนโลยีทางด้านการศึกษาพัฒนาขึ้น ทำให้คุณสามารถหาคอร์สเรียนออนไลน์ดีๆ เพื่อเรียนได้โดยไม่ต้องพึ่งหนังสืออีกต่อไป

ในโพสนี้ผมจึงจะรวบรวมคอร์สเรียนทฤษฎีดนตรีออนไลน์คุณภาพเยี่ยมที่คุณสามารถเรียนได้จากทุกที่ทุกแห่งมาให้เรียนกัน จะมีคอร์สไหนบ้าง ไปดูกันเลยดีกว่าครับ

Coursera

Coursera คือแพลตฟอร์มชั้นยอดที่รวบรวมคอร์สชั้นเยี่ยมจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกมากมาย ดังนั้นถ้าใครชอบเรียนคอร์สที่มีโครงสร้างที่ดีเหมือนกับในมหาวิทยาลัยแล้ว ผมมองว่า Coursera เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ เลยครับ

เราไปดูกันเลยดีกว่ามีคอร์สไหนน่าเรียนบ้าง

1. Developing Your Musicianship Specialization

คอร์สนี้เป็นหลักสูตรที่ประกอบด้วยคอร์สย่อยๆ หลายคอร์ส ผู้จัดทำหลักสูตรนี้คือ Berklee College of Music วิทยาลัยทางด้านดนตรีที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้าน Jazz และดนตรีสากลทั่วไป ดังนั้นคุณไม่ควรพลาดคอร์สนี้ด้วยประการทั้งปวงครับ

คอร์สเรียนทฤษฎีดนตรีออนไลน์ของ Berklee College of Music บน Coursera

ภายในหลักสูตรประกอบด้วย 4 คอร์สอันประกอบด้วย

1. Developing Your Musicianship – คอร์สนี้จะสอนพื้นฐานของทฤษฎีดนตรีสากลไม่ว่าจะเป็น Scale, Interval, Key, Time Signature (3/4 หรือ 4/4) รวมไปถึงการสร้างคอร์ดเพลงและเนื้อหาเบื้องต้นอีกมากมายครับ

2. Musicianship: Chord Charts, Diatonic Chords, and Minor Keys – คอร์สที่สองจะเจาะลึกลงไปในส่วนของคอร์ดเพลงโดยตรง อย่างเช่นคอร์ด 7 (7th Chords) รวมไปถึง Pentatonic Scale และวิธีการสร้างเมโลดี้ ฯลฯ

3. Tensions, Harmonic Function, and Model Interchange – คอร์สที่ 3 จะเน้นไปที่ Tensions, Harmonic Function และ Model Interchange นอกจากนี้คุณจะได้เรียนการเขียน Chord Progression และวิธีการใช้ Chord Progression ในการแต่งทำนองดนตรี ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างมากในการแต่งเพลงของคุณเอง

4. Final Project – คอร์สสุดท้ายที่จะเป็น Project ที่ให้คุณได้นำความรู้จาก 3 คอร์สก่อนมาใช้แต่งและเรียบเรียง Composition ของคุณเอง และช่วยยกระดับทักษะของคุณในฐานะนักดนตรีครับ

นอกเหนือจาก Lecture ที่คุณจะได้เรียนกับอาจารย์จากทางมหาวิทยาลัยแล้ว คุณยังจะได้ทำแบบฝึกหัดต่างๆ ที่ช่วยพัฒนาโสตทักษะของคุณ ทำให้หูของคุณได้รับการพัฒนาและสามารถแยกแยะเสียงดนตรีต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นผมจึงมองว่าคอร์สนี้เป็นคอร์สหนึ่งที่ต้องเรียน หรือพลาดไม่ได้เลยก็ว่าได้ครับ

การเรียนตลอดทั้งคอร์สสามารถเรียนได้ฟรี (Audit) แต่ถ้าต้องการคอร์สเต็มๆ จะต้องจ่ายค่าเรียน $39 หรือประมาณ 1,170 บาทต่อเดือน แต่คุณจะได้รับประกาศนียบัตรเช่นเดียวกับ Feedback ทั้งการบ้าน และโปรเจคของคุณครับ

ทั้งนี้การเรียนจะใช้เวลาประมาณ 5 เดือน (สำหรับใครที่ใช้เวลาเรียน 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์) แต่คุณสามารถเรียนได้เร็วกว่านั้นเช่นกัน

2. Getting Started With Music Theory

คอร์สนี้เป็นคอร์สเดี่ยวของ Michigan State University ที่จะนำคุณไปเรียนรู้เกี่ยวกับทฤษฎีดนตรีอย่างเจนจบ ในเรื่องเนื้อหาจะเทียบกับหลักสูตรแรกไม่ได้ แต่ถ้าคุณอยากเรียนแค่พื้นฐาน คอร์สนี้ก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ

เรียนทฤษฎีดนตรีกับ Michigan State University

สิ่งที่คุณจะได้เรียนในคอร์สนี้ประกอบด้วย

  • พื้นฐานทฤษฎีดนตรีอย่างเช่นตัวโน้ต ไปจนถึง Tonality และจังหวะ
  • Scales, Keys และ Intervals
  • เจาะลึก Rhythm และ Meter
  • Chords, Triads และ Harmony

โดยรวมแล้วคอร์สนี้จะไม่ได้ลงลึก (ใช้เวลาเรียนทั้งหมดแค่ 13 ชั่วโมง) แต่ก็ครอบคลุมเนื้อหาเบื้องต้นไว้ทั้งหมด ซึ่งจะเหมาะสำหรับผู้ที่อยากจะทดลองเรียนระดับเริ่มต้นดูก่อน เพื่อดูว่าการเขียนเพลง หรือการเล่นดนตรีระดับสูงจะเหมาะกับคุณหรือไม่

การเรียนสามารถเรียนได้ฟรีครับ แต่ถ้าอยากได้การตรวจการบ้านและประกาศนียบัตรแน่นอนว่าต้องซื้อคอร์สในราคา $49 เช่นเดิม

3. Fundamentals of Music Theory

อีกคอร์สที่น่าสนใจสำหรับใครที่ต้องการศึกษาทฤษฎีดนตรีในระดับเบื้องต้น ผู้จัดทำคอร์สนี้คือ University of Edinburgh จากสกอตแลนด์ครับ

พื้นฐาน Music Theory

รายละเอียดของสิ่งที่คุณจะได้เรียนมีดังต่อไปนี้

  • พื้นฐานทฤษฎีดนตรีอย่าง Pitches (ระดับเสียง), Scales, Modes และ Chords
  • Keys, Minor Scales, Intervals และ Clefs
  • Rhythm (จังหวะ) และ Form
  • เจาะลึก Harmony
  • ปิดท้ายด้วยการสอบครับ

เช่นเดียวกับคอร์สที่ 2 นั่นคือเนื้อหาจะไม่ได้ละเอียดมาก (ใช้เวลาเรียนแค่ 7 ชั่วโมง) แต่ให้ความรู้พื้นฐานทฤษฎีดนตรีที่น่าสนใจ ดังนั้นจะเหมาะสำหรับใครที่อยากจะเรียนเนื้อหาเบื้องต้น ยังไม่ได้ลงลึกอะไรนักมากกว่าครับ แต่ถ้าคุณจริงจังกับการเขียนเพลง ผมมองว่าคุณเลือกคอร์สแรกไปเลยดีกว่า เพราะมิฉะนั้นคุณก็ต้องหาคอร์สเรียนเพิ่มเติมอยู่ดีครับ

ค่าเรียนจะฟรีเช่นเดิม แต่ถ้าต้องการคอร์สแบบเต็มและ Certificate จะต้องจ่าย $49 หรือว่า 1,470 บาทครับ

4. Approaching Music Theory: Melodic Forms and Simple Harmony

สำหรับคอร์สที่ 4 นี้จะเจาะลึกไปที่ Melody และ Simple Harmony โดยตรง โดยตัวคอร์สจะเป็นของ CalArts หรือ California Institute of Arts อีกวิทยาลัยชั้นนำทางด้านดนตรีของสหรัฐอเมริกาครับ

เรียนเจาะลึกเมโลดี้กับ Calarts

เราไปดูกันเลยดีกว่าคุณจะได้เรียนอะไรบ้างจากคอร์สนี้

  • โครงสร้างของเมโลดี้อย่าง Lines, Shapes, Simple Modes
  • อธิบาย Simplicity, Repetition และ Change
  • เจาะลึกในส่วนของ Pitches (เรียนรู้คอนเซปต์อย่าง Consonance และ Dissonance)
  • อธิบาย Cadences และ Harmonic Function ระดับพื้นฐาน

จุดแข็งของคอร์สนี้คือ คุณจะได้เรียนผ่านตัวอย่างมากมายที่มาจากดนตรีสากลหลากรูปแบบไม่ว่าจะเป็นดนตรีแนว Classical, Jazz, Pop ฯลฯ ซึ่งคุณสามารถนำไปใช้ในการแต่งเพลงของคุณครับ

ในส่วนของเนื้อหาก็ถือว่าละเอียดทีเดียว เพราะนักเรียนส่วนใหญ่ใช้เวลาเรียนทั้งหมด 22 ชั่วโมงครับ

คุณเรียนคอร์สนี้ได้ฟรีเช่นเดียวกับคอร์สอื่นๆ แต่ถ้าอยากได้คอร์สเต็มจะต้องจ่ายค่าเรียนทั้งหมด $49 หรือประมาณ 1,470 บาทครับ

Coursera Plus

สำหรับใครที่สนใจคอร์สหรือหลักสูตรบน Coursera มากกว่า 1 คอร์ส ผมแนะนำให้สมัคร Coursera Plus ครับ

ในราคา $399 ต่อปี หรือเฉลี่ยแล้ว $33.25 (1000 บาทต่อเดือน) คุณจะเรียนคอร์สแบบเต็มๆ ได้ทุกคอร์สบนแพลตฟอร์ม โดยที่ไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มอีกแล้ว ซึ่งนอกจากทฤษฎีดนตรีแล้ว Coursera มีคอร์สอีกมากมายให้คุณได้เรียนครับ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจดนตรี รวมไปถึงการทำเพลงรูปแบบต่างๆ อีกมากมายด้วย

Udemy

Udemy เป็นแพลตฟอร์มเรียนออนไลน์ที่มีคอร์สชั้นยอดมากมาย แถมยังให้ส่วนลด 90% บ่อยมาก ทำให้คุณสามารถซื้อคอร์สคุณภาพเยี่ยมในราคาเพียง 300-500 บาทเท่านั้นเองครับ ดังนั้นถ้าพูดถึงเรื่องความคุ้มค่าแล้วมาเป็นอันดับต้นๆ เลยครับ

5. Music Theory Comprehensive Complete

สำหรับใครที่อยากเรียนทฤษฎีดนตรีอย่างละเอียดที่สุดแบบจัดเต็ม เจาะลึก ผมมองว่าไม่มีคอร์สหรือหลักสูตรไหนที่จะดีกว่า คอร์สของ Jason Allen นักดนตรีและนักแต่งเพลงประสบการณ์สูงที่จบการศึกษาระดับปริญญาเอกทางด้านการประพันธ์ดนตรี และปัจจุบันเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย Augsburg University ด้วยครับ

ทั้งนี้คอร์สนี้ของ Jason Allen นี้แบ่งออกเป็น 7 ส่วนด้วยกัน โดยคุณจะต้องซื้อแยกทั้ง 7 ส่วนเพื่อที่จะให้เนื้อหาครบถ้วนสมบูรณ์ โดยเนื้อหาจะครอบคลุมตั้งแต่ทฤษฎีดนตรีระดับพื้นฐานไปจนถึงระดับสูง เทียบเท่ากับการเรียนทฤษฎีดนตรีในมหาวิทยาลัย

คอร์สทฤษฎีดนตรีของ Udemy

รายละเอียดของแต่ละคอร์สมีดังต่อไปนี้

  1. Level 1-3 – คอร์สแรกมีความยาว 12 ชั่วโมง โดยจะครอบคลุมเนื้อหาเบื้องต้นอย่างตัวโน้ต, Pitches, Clefs, Intervals, Beats, Tempo, Scale ฯลฯ
  2. Level 4-6 – คอร์สที่สองยาว 10 ชั่วโมง โดยจะอธิบายเนื้อหาอย่าง Modes, Intervals, Counterpoint, Cadences และการประพันธ์เพลงแบบยุคศตวรรษที่ 18
  3. Level 7-9 – คอร์สที่สามจะจัดเต็มในส่วนของ Chords และ Chord Progression รวมไปถึง Harmony โดยเนื้อหาแบบวิดีโอในคอร์สจะยาว 9.5 ชั่วโมงครับ
  4. Level 10-12 – คอร์สนี้จะเจาะลึกเนื้อหาของ Chords เพิ่มเติม และแนะนำในส่วนของเมโลดี้, Secondary Dominants และ Sequences ครับ (ความยาว 8.5 ชั่วโมง)
  5. Level 13-15 – คอร์สที่ 5 จะอธิบายในส่วนของ Modulation, Mode Mixture รวมไปถึงการอธิบายการประพันธ์ดนตรีสไตล์บารอค (ความยาว 8.5 ชั่วโมง)
  6. Level 16-18 – คอร์สที่ 6 จะเจาะลึกในส่วนของ Modulation ระดับสูงอย่าง Chromatic Modulation รวมไปถึง Chromatic Sequences ฯลฯ (ความยาว 7.5 ชั่วโมง)
  7. Level 19-21 – คอร์สสุดท้ายในซีรีส์ที่จะสอนความรู้เกี่ยวกับ Serialism, Set Theory, Integer Notation รวมไปถึงวิธีและเทคนิคการประพันธ์เพลงในสมัยศตวรรษที่ 20 ต่างๆ (ความยาว 8 ชั่วโมง)

โดยรวมแล้วถ้าคุณซื้อหมดทั้งชุด คุณจะได้เรียนทฤษฎีดนตรีแบบเต็มอิ่มเลยทีเดียว ในส่วนของราคาก็ไม่ต้องกังวลครับ เพราะว่า Udemy มีลดราคา ทำให้คุณได้คอร์สทั้งหมดในราคา 350-400 บาท เท่ากับว่าค่าเรียนจะไม่เกิน 2,800 บาท แต่เนื้อหาที่ได้นั้นคุ้มค่าสุดๆ เลยครับ

เสียงของครูผู้สอนฟังง่ายมาก เหมือนกับเจ้าของภาษาทั่วไป ผมมองว่าไม่มีปัญหาอะไรในการเรียนอย่างแน่นอนครับ

คอร์สทั้ง 7 ได้คะแนนรีวิวสูงมาก ตั้งแต่ 4.5/5 ไปถึง 5/5 เลยทีเดียว จากคนรีวิวหลายพันคนครับ

6. การเรียนทฤษฎีดนตรีกับ Skillshare

Skillshare มีคอร์สสอนทฤษฎีดนตรีคุณภาพดีอยู่บนจำนวนมากที่คุณสามารถเรียนได้ทั้งหมดเพียงแค่สมัครสมาชิกสุดถูกในราคา $2.49 (หรือประมาณ 75 บาทต่อเดือน) ดังนั้นถ้าคุณสนใจจะเรียนทฤษฎีดนตรี ผมแนะนำให้คุณเพิ่ม Skillshare เป็นหนึ่งในตัวเลือกของคุณครับ

คอร์สสอนทฤษฎีดนตรีของ Skillshare

คอร์สสอนทฤษฎีที่น่าสนใจบน Skillshare มีมากมาย ยกตัวอย่างเช่น

1. Music Theory For Everyone: Reading Music, Music Education, Music Fundamentals – คอร์สสอนทฤษฎีดนตรีระดับพื้นฐานที่จะเริ่มตั้งแต่ตัวโน้ต จังหวะ ฯลฯ เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ไม่มีพื้นฐานดนตรีใดๆ มาก่อนเลย

2. Music Theory 101 for Guitar – คอร์สเรียนทฤษฎีดนตรีสำหรับใครที่อยากเป็นมือกีตาร์โดยเฉพาะ

หลังจากสมัครแล้ว คุณก็สามารถเรียนได้ทุกคอร์สเลยครับ รวมไปถึงคอร์สสอนดนตรีอื่นๆ ด้วย ดังนั้นเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าอย่างมาก ผมแนะนำให้คุณลองเรียนฟรี 7 วันก่อน โดยการสมัคร account ถ้าไม่ถูกใจก็ไม่ต้องสมัครต่อครับ

เรียนทฤษฎีดนตรีที่ไหนดี?

โดยส่วนตัวแล้วผมมองว่าเริ่มต้นกับคอร์สใดคอร์สหนึ่งของ Coursera จะดีที่สุด เพราะทุกคอร์สจัดทำโดยโรงเรียนสอนดนตรีระดับต้นๆ ของสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ดังนั้นคุณภาพของเนื้อหาจะเป็นทางการมากกว่า และยังเรียนฟรีอีกด้วยครับ

แต่ถ้าจะเอาแบบละเอียดสุดๆ ก็คงต้องเป็นคอร์สของ Udemy (ลำดับที่ 5 ในโพสนี้) เพราะเจาะลึกจริงๆ และครอบคลุมเนื้อหาแบบละเอียดมากครับ กว่าจะเรียนจบก็จะใช้เวลานานพอสมควรเลยทีเดียว แต่ความรู้ที่ได้ก็ต้องบอกว่าคุ้มค่าครับ

Pun Anansakunwat
Pun Anansakunwathttps://victorytale.com/about-victorytale/
ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Victory Tale ผมชื่นชอบในหลากหลายสาขาตั้งแต่ประวัติศาสตร์ การท่องเที่ยว เทคโนโลยี ไปจนถึงการลงทุน หลังจากที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย (Columbia University) ผมก็ได้เป็นนักลงทุนในหุ้น, ติวเตอร์, นักเขียน (ตีพิมพ์ไปแล้ว 3 เล่ม) และในปัจจุบันก็เป็นเจ้าของเว็บไซต์ครับ

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!