ประวัติศาสตร์"ครัวซอง" มีที่มาจากไหน? มาจากฝรั่งเศสจริงหรือไม่?

“ครัวซอง” มีที่มาจากไหน? มาจากฝรั่งเศสจริงหรือไม่?

“ครัวซอง” (Croissant) เป็นขนมปังแบบตะวันตก (โดยเฉพาะขนมปังฝรั่งเศส) ที่คนไทยรู้จักกันดีมากที่สุดก็ว่าได้ ขนมปังรูปพระจันทร์นี้มีความหอม และกรอบ แถมยังมีหลายรสชาติทั้งเค็มและหวาน เหมาะสมที่จะกินเป็นอาหารเช้าเป็นอย่างยิ่ง

ปัจจุบันเราสามารถหาครัวซองกินได้แทบทุกทั่วมุมโลก ขนาดในเซเว่น อีเลเว่น เรายังสามารถหาครัวซองแฮมชีสกินได้เลยครับ แถมยังมีรสชาติที่อร่อยในระดับหนึ่งด้วย

ถ้าถามถึงที่มาของครัวซองแล้วนั้น หลายท่านน่าจะเดาว่ามาจากฝรั่งเศส ประเทศที่มีชื่อเสียงเรื่องอาหารการกินอันดับต้นๆ ของยุโรป

ถือว่าเป็นการเดาที่ใกล้เคียง แต่จริงๆ แล้วครัวซองไม่ได้มาจากฝรั่งเศสเสียทีเดียวครับ

ครัวซอง

Kipferl

ที่มาของครัวซองค่อนข้างชัดเจนว่ามาจากขนม Kipferl ขนมพื้นบ้านของประเทศออสเตรีย ขนม Kipferl นี้มีรูปพระจันทร์เสี้ยวคล้ายครัวซอง ภายในตัวแป้งจะมีเนยที่อบไปด้วยกัน ในเรื่องรสชาติจะออกเค็มหรือหวานก็ได้แล้วแต่พ่อครัวจะทำ ถ้าเป็นแบบหวานจะใส่น้ำตาลและอัลมอนด์ลงบนหน้าของ Kipferl ด้วย

เราไม่ทราบแน่ชัดว่าเจ้าขนม Kipferl นี้มีที่มาอย่างไร แต่บางตำนานเล่าว่าขนมชนิดนี้เกิดขึ้นระหว่างที่กองทัพออตโตมันกำลังเข้าตีกรุงเวียนนา เมืองหลวงของออสเตรีย (บ้างว่าเมือง Buda) ในปี ค.ศ.1683

Kipferl สังเกตว่าจะไม่พองออกมาเหมือนครัวซอง By Petar Milošević , CC BY-SA 3.0,

เรื่องมีอยู่ว่า มีพ่อครัวคนหนึ่งได้ตื่นมาตั้งแต่เช้าเพื่อจะอบขนมปัง แต่เขากลับสังเกตเห็นว่าพวกออตโตมันที่ล้อมเมืองอยู่กำลังขุดอุโมงค์เพื่อเข้าตีเมือง พ่อครัวคนดังกล่าวได้ตะโกนร้องให้ทุกคนทราบ และช่วยกันป้องกันเมืองเอาไว้ได้

หลังจากที่กองทัพออตโตมันถอยไปแล้ว ชาวเมืองจึงทำขนมรูปพระจันทร์เสี้ยวที่เหมือนกับธงของพวกออตโตมันขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะในครั้งนั้น

อย่างไรก็ตาม มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์หลายชิ้นที่แสดงให้เห็นว่า Kipfel มีมาตั้งแต่ก่อนศตวรรษที่ 13 แล้ว ทำให้เรื่องด้านบนน่าจะเป็นตำนานเรื่องหนึ่งเท่านั้น นักประวัติศาสตร์อาหรับบางคนให้ข้อมูลว่าขนมทรงพระจันทร์เสี้ยวนี้อาจจะมีมาตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณด้วยซ้ำไป

ปัจจุบัน Kipferl ยังเป็นที่นิยมอยู่ทั่วไปในออสเตรียและยุโรปตะวันออก หากแต่ว่าชื่อของมันจะต่างออกไปเล็กน้อย เช่นชาวเซิร์บจะเรียกมันว่า kifla ส่วนชาวฮังการีจะเรียกว่า kifli

ครัวซองแห่งฝรั่งเศส

ตำนานหนึ่งเล่าว่า พระนางมารีอังตัวเน็ต ราชินีแห่งฝรั่งเศสรู้สึกคิดถึงเวียนนา บ้านเกิดเมืองนอนของเธอ เธอจึงขอให้พ่อครัวทำขนม Kipfel ขนมแบบออสเตรียให้เธอกิน แต่พ่อครัวของเธอทำออกมาแบบสไตล์ใหม่ ทำให้ครัวซองเกิดขึ้นมาเพราะเหตุนี้

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่มีมูลในหน้าประวัติศาสตร์อาหารเท่าใดนัก เพราะไม่มีหลักฐานใดๆมาสนับสนุน

ต้นกำเนิดของครัวซองจึงน่าจะเกิดขึ้นในศตวรรษที่ 19 กล่าวคือมีนายทหารปืนใหญ่ชาวออสเตรียชื่อ August Zang ได้เปิดร้านขนมแบบออสเตรียชื่อ Boulangerie Viennoise ที่กรุงปารีส หนึ่งในขนมที่เขาขายคือ Kipferl นั่นเอง

ครัวซอง By Daniela Kloth – Own work, GFDL 1.2,

ปรากฏว่าขนมของ Zang ขายดีมากโดยเฉพาะ Kipferl แต่ชาวฝรั่งเศสยังถือว่าขนมดังกล่าวเป็นขนมต่างประเทศที่มีราคาสูง มันจึงยังไม่ได้เป็นที่นิยมทุกหมู่เหล่าเท่าไรนัก และเป็นที่นิยมในหมู่คนรวยที่มีเงินซื้อสินค้าต่างชาติเสียเป็นส่วนใหญ่

ความอร่อยของ Kipferl ที่ทำในร้านของ Zang กลับอยู่ไม่นาน เพราะเขาขายร้านขนมและเดินทางกลับไปพำนักที่ออสเตรีย

การจากไปของร้านขนมของ Zang ทำให้ชาวปารีสต่างโหยหาขนมของเขา มันได้จุดประกายให้พ่อครัวขนมชาวฝรั่งเศสหลายคนเกิดแรงบันดาลใจที่จะทำขนมลักษณะคล้ายกันขึ้นมา แต่วิธีของพ่อครัวฝรั่งเศสต่างไปจากวิธีแบบออสเตรีย นั่นคือพ่อครัวทำฝรั่งเศสทำ Kipferl แบบให้มันพอง หรือ ป่องออกมา เกิดเป็นครัวซองแบบที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบันในที่สุด

ภายในเวลาไม่กี่ทศวรรษต่อมา ร้านขนมที่ขายครัวซองผุดขึ้นมาทุกหนแห่งในฝรั่งเศส ชาวปารีสทุกระดับชั้นเริ่มกินมันเป็นอาหารเช้าตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.1872-1873 และต่อมามันก็ได้แพร่กระจายไปทุกหนแห่งในยุโรป และอาณานิคมทั้งหลายของชาติตะวันตก รวมไปถึงสหรัฐอเมริกาด้วย

ที่สหรัฐอเมริกา พ่อครัวชาวอเมริกันได้ให้กำเนิดครัวซองแบบใหม่หลายรูปแบบด้วยกัน เช่น Cronuts หรือ โดนัทที่ทำจากแป้งครัวซอง หรือ Baissant (Bagel ที่ใช้แป้งครัวซอง)

ปัจจุบันเราสามารถหาครัวซองกินได้ทุกหนแห่ง หรือเรียกได้ว่าทุกมุมโลกเลยก็ว่าได้

ครัวซองให้พลังงานกี่แคลอรี่?

มันเป็นเรื่องยากที่จะบอกว่า ครัวซองแต่ละชิ้นให้พลังงานกี่แคลอรี่ เพราะมันแตกต่างออกไปโดยขึ้นกับขนาดและส่วนผสมของแต่ละร้าน

โดยทั่วไปแล้วครัวซองเนยขนาด 100 กรัม อาจให้พลังงานได้ถึง 400 แคลอรี่ ถ้าใส่ไส้ช็อกโกแลต โรยน้ำตาล ไส่ครีม จัดเต็มชีส ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอาจจะให้พลังงานได้มากถึง 500-600 แคลอรี่

Sources:

Smithsonianmag

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!