ร้านอาหารที่ได้ 3 ดาวมิชลินเป็นร้านที่มิชลินถือว่าอยู่ในระดับสุดยอดที่สุด หรือควรค่ากับการเดินทางไปกินโดยเฉพาะ อย่างประเทศไทยในปัจจุบัน (ปี ค.ศ.2020) ยังไม่มีร้านอาหารใดที่ได้ดาวมิชลินมากถึง 3 ดวง
แต่ที่นิวยอร์กซิตี้ หรือ มหานครนิวยอร์กมีร้านอาหารที่ได้ดาวมิชลิน 3 ดวงอยู่ถึง 5 ร้านด้วยกัน ซึ่งจัดว่ามากที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา เรามาดูกันครับว่ามีร้านอะไรบ้าง
1. Eleven Madison Park
Eleven Madison Park เริ่มปรากฏในสารบบของมิชลินในปี ค.ศ.2010 ในฐานะร้านอาหารระดับ 1 ดาว แต่สองปีหลังจากนั้น มิชลินก็ได้ปรับให้ Eleven Madison Park กลายเป็นร้านอาหารระดับ 3 ดาวสืบเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ ไม่เพียงเท่านั้นร้านยังได้รับขนานนามว่าเป็นร้านอาหารอันดับหนึ่งของโลกโดยนิตยการ Restaurant อีกด้วย
ที่อยู่: 11 Madison Avenue, East 24th Street, Flatiron, New York City
รูปแบบอาหาร: American
Head Chef: Daniel Humm เชฟชาวสวิสผู้ให้ความสำคัญกับวัตถุดิบท้องถิ่นที่เรียบง่าย สดใหม่ และความโดดเด่นของรสชาติตามฤดูกาล Humm ได้ทำงานเป็นเชฟอยู่ที่ Eleven Madison Park นานถึงห้าปี ก่อนที่เขาและ Will Guidara จะซื้อร้านจากเจ้าของเดิมในปี ค.ศ.2011 ในปัจจุบันร้าน Eleven Madison Park ได้เป็นของ Humm แต่เพียงผู้เดียว เพราะ Humm ได้ตกลงซื้อหุ้นของ Guidara เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ราคาเริ่มต้น: $175 (Bar Tasting 5 คอร์ส), $335 (Dining Room Tasting 8-10 คอร์ส)
เวลาทำการ:
- Lunch: ศุกร์-อาทิตย์ (12pm – 1pm)
- Dinner: จันทร์-พุธ (5.30pm – 10pm), พฤหัส-อาทิตย์ (5.30pm – 10.30pm)
สามารถจองได้ที่ exploretock
2. Chef’s Table at Brooklyn Fare
Chef’s Table at Brooklyn Fare เป็นร้านอาหารที่เปิดตัวในรายชื่อร้านอาหารของมิชลินในปี ค.ศ.2011 ด้วยดาว 2 ดวง แต่เพียงหนึ่งปีหลังจากนั้น ร้านก็ได้ครอบครองดาวที่ 3 สมใจ และสืบสานความเยี่ยมยอดมาถึงทุกวันนี้ ล
ที่อยู่: 431 West 37th St, New York, NY 10018 (ด้านในตลาด Brooklyn Fare)
รูปแบบอาหาร: Western, Seafood, Chef’s Table (เชฟจะทำอาหารและดูแลคุณอย่างใกล้ชิด รวมถึงดูคุณรับประทานอาหารด้วย)
Head Chef: César Ramirez เชฟเชื้อสายเม็กซิกัน ผู้เริ่มการทำงานด้วยวิธีการเรียนรู้ด้วยตนเอง และพัฒนาฝีมือโดยการเดินทางไปทำอาหารที่ฝรั่งเศสและญี่ปุ่น เขาให้ความสำคัญกับวัตถุดิบสดๆ และคาดหวังสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า อย่างไรก็ดี Ramirez กลับเป็นเชฟมิชลินสามดาวที่มีปัญหากับลูกทีมของเขาอยู่บ่อยครั้งจนถึงกับมีการฟ้องร้องกันเลยทีเดียว
ราคาเริ่มต้น: $362.21 (15-20 คอร์ส)
เวลาทำการ: แบ่งเป็นรอบได้แก่
- จันทร์-พฤหัส: (Counter: 6pm, 6.30pm), (Table: 6pm, 7pm, 7.30pm)
- ศุกร์-เสาร์: (Counter: 6pm, 6.30pm, 9.30pm, 10pm), (Table: 5.30pm, 6pm, 7.00pm, 8.30pm, 9pm, 10pm)
หาข้อมูลการจองได้ที่ brooklyn fare
3. Per Se
Per Se เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่เรียกได้ว่าระดับตำนาน เพราะร้านปรากฏในรายชื่อของมิชลินในฐานะร้านอาหารระดับ 3 ดาวตั้งแต่มิชลินจัดทำคู่มือของเมืองนิวยอร์กในปี ค.ศ.2006 และยังรักษาดาวทั้ง 3 ดวงต่อเนื่องได้มาจนถึงทุกวันนี้ ตัวร้านมีชื่อเสียงมากจากเมนู “ผัก” ที่เยี่ยมยอดที่สุดในแผ่นดินเลยก็ว่าได้
ที่อยู่: Time Warner Center, Ten Columbus Circle (at 60th Street), 4th Floor, Manhattan, New York
รูปแบบอาหาร: French, American
Head Chef: Thomas Keller เชฟชาวอเมริกันผู้เปิดร้านอาหารที่มีชื่อเสียงมาแล้วแต่หลายแห่ง และเป็นเจ้าของร้านอาหารที่ได้ 3 ดาวมิชลินถึงสองร้านด้วยกัน ได้แก่ Per Se ที่นิวยอร์กและ The French Laundry ที่ซานฟรานซิสโก
ราคาเริ่มต้น: Salon Tasting 5 คอร์ส – $225, Tasting Menu (มีให้เลือกระหว่างผักและไม่ผัก) – $355
เวลาทำการ:
- Lunch: ศุกร์-อาทิตย์ (12-1pm)
- Dinner: จันทร์-พฤหัส (5.30pm – 9.30pm)
สามารถจองได้ที่ exploretock
4. Le Bernardin
Le Bernardin เป็นร้านอาหารระดับตำนานเช่นเดียวกับ Per Se เนื่องจากสามารถคงตำแหน่ง 3 ดาวตั้งแต่มิชลินเริ่มทำคู่มือมาถึงปัจจุบันนี้โดยไม่เสียดาวเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไฮไลท์ของร้านนี้อยู่ที่เมนูที่ “เกือบดิบ” (almost raw) ครับ
ที่อยู่: 155 W 51st St, New York, NY 10019
รูปแบบอาหาร: French, Seafood
Head Chef: Eric Ripert เชฟชาวฝรั่งเศสผู้เคยทำงานให้กับ David Bouley เชฟระดับตำนาน ก่อนที่เขาจะได้รับการว่าจ้างให้เป็นเชฟให้กับร้าน Le Bernardin ในมหานครนิวยอร์ก หลังจากทำงานที่ Le Bernardin ได้ไม่นาน Ripert ในวัย 29 ปีได้รับการยกย่องว่าเป็นเชฟที่มีฝีมือที่สุดในเมืองนิวยอร์ก ระดับของเขาไม่เคยตกลงเลยนับตั้งแต่บัดนั้น ทำให้ปัจจุบัน Ripert ได้รับการยอมรับว่าเป็นเชฟที่มีฝีมือมากที่สุดในโลกคนหนึ่ง
ราคาเริ่มต้น: Lunch: $93 (3 คอร์ส), Dinner ($165)
เวลาทำการ:
- Lunch: จันทร์-ศุกร์ 12pm – 2.30pm
- Dinner: จันทร์-พฤหัส 5.15pm – 10.30pm, ศุกร์-เสาร์ 5.15pm – 11pm
สามารถจองได้ที่ le-bernardin
5. Masa
Masa เป็นร้านอาหารญี่ปุ่น และร้านซูชิร้านเดียวในนิวยอร์กที่ได้ครอบครองดาวมิชลินทั้งสาม บรรยากาศในร้านจะทำให้คุณเหมือนกับว่าได้นั่งอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วคุณกำลังอยู่ที่ใจกลางเมืองนิวยอร์ก!
ร้านนี้ยังมีชื่อเสียงเรื่องราคาด้วย เพราะว่าได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นร้านอาหารที่แพงที่สุดในโลกอยู่บ่อยครั้ง แม้กระทั่งโต๊ะซูชิของทางร้านก็ยังแพง เพราะใช้ไม้ฮิโนกิที่หายากของญี่ปุ่น ราคาโต๊ะน่าจะอยู่ที่ประมาณ $300,000 หรือประมาณ 10 ล้านบาทครับ
ที่อยู่: 10 Columbus Circle, Time Warner Center, 4th Floor, New York
รูปแบบอาหาร: Sushi, Omakase
Head Chef: Masa Takayama เชฟผู้เกิดและโตในญี่ปุ่น บิดาของเขาเปิดร้านขายปลาสด ทำให้เขาได้เรียนรู้การแล่ปลามาตั้งแต่อายุไม่กี่ขวบ เดิมทีเขาปรารถนาว่าจะเป็นศัลยแพทย์ แต่ก็เลิกล้มความตั้งใจ และหันไปเริ่มฝึกฝนเป็นเชฟซูชิหลังจบชั้นมัธยม
เมื่อเริ่มฝึกงาน Takayama ทำหน้าที่เป็นเด็กล้างห้องน้ำ และล้างจานจนกระทั่งได้รับการฝึกฝนให้เป็นเชฟซูชิในท้ายที่สุด เขาได้ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี ค.ศ.1980 และเปิดร้านอาหารที่ลอสแองเจลิสชื่อร้านว่า Ginza Sushiko ซึ่งร้านดังกล่าวประสบความสำเร็จมาก แต่ Takayama กลับเบื่อบรรยากาศเก่าๆ เขาจึงเดินทางมาที่นิวยอร์กและเปิดร้านอาหารใหม่ นั่นคือ Masa นั่นเอง
ราคาเริ่มต้น: $595 ต่อคน
เวลาทำการ:
- Lunch อังคาร – ศุกร์ (12pm – 1pm)
- Dinner จันทร์ – เสาร์ (6pm – 9pm)
สามารถจองได้ที่ exploretock
ข้อควรทราบ
เนื่องจากคู่มือมิชลินมีการอัพเดตทุกปี ทำให้มีโอกาสที่ร้านอาหารจะถูกปรับขึ้น หรือ ปรับลงได้ อย่างเมื่อ 2-3 ปีก่อน ทั้ง Jean-georges และ Daniel ที่ผมแนะนำไปแล้วในบทความรวมร้าน 2 ดาว ล้วนแต่เป็นร้านระดับ 3 ดาวทั้งคู่ แต่ก็ถูกลดดาวลงมาเหลือเพียง 2 ดาวอย่างที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน