ท่องเที่ยวรวม 13 ร้านอาหารใน "นิวยอร์กซิตี้" ที่ได้ดาวมิชลิน 2 ดาว

รวม 13 ร้านอาหารใน “นิวยอร์กซิตี้” ที่ได้ดาวมิชลิน 2 ดาว

ทุกวันนี้คู่มือมิชลินน่าจะเป็นที่รู้จักกันในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น เพราะมิชลินได้เริ่มการทำคู่มือและให้ดาวแค่ร้านอาหารในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อย่างที่ทราบกันดี ร้านอาหารที่ได้ดาวมิชลินจะได้รับการยกย่องว่ายอดเยี่ยม สำหรับร้านที่ได้ 2 ดาวมิชลินจะถือว่าสุดยอดในระดับที่เรียกว่า “สมควรจะไปทางอ้อมเพื่อไปกินโดยเฉพาะ”

แม้ว่าในทางตัวเลข ร้านที่ได้ 2 ดาวมิชลินจะมีระดับต่ำกว่า 3 ดาว แต่ประสบการณ์ที่คุณจะได้รับ (รวมไปถึงราคา) จะใกล้เคียงกันมาก บางคนอาจจะชอบร้าน 2 ดาวมากกว่าร้าน 3 ดาวด้วยซ้ำไป

สำหรับมหานครนิวยอร์กนั้น มิชลินได้ริเริ่มทำคู่มือมาตั้งแต่ปี ค.ศ.2006 แล้ว ในคู่มือปี ค.ศ.2020 ปรากฏว่ามีร้านอาหารในนิวยอร์กมากถึง 13 ร้านที่ได้ดาวมิชลิน 2 ดาว จะมีร้านไหนบ้าง เราไปดูกันเลยดีกว่าครับ

หน้าร้าน Daniel By Jim.henderson – Own work, CC BY-SA 4.0,

1. Aquavit

ร้านอาหารสไตล์ Nordic ที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง นอกจากรสชาติอาหารที่ดีเยี่ยมแล้ว ร้านยังมีชื่อเสียงเรื่องไวน์อีกด้วย ถึงขนาดที่ได้รับรางวัลมากมายจากนิตยสาร The Wine Spectator เลยทีเดียว

ที่ตั้ง: Park Avenue Tower, 65 East 55th Street

รูปแบบของอาหาร: Nordic (อาหารภูมิภาคสแกนดิเนเวีย)

Head Chef: Emma Bengtsson เชฟหญิงชาวสวีดิชคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้รับดาวมิชลิน 2 ดาว เธอชอบให้ครัวของเธอมีลักษณะที่เป็นมิตร เงียบสงบ และทุกคนปฏิบัติต่อกันและกันเหมือนกับเป็นครอบครัว ไม่ใช่ตะโกนกระโชกโฮกฮากสั่งกันไปมา

ราคาเริ่มต้น: Lunch $65 สำหรับ 2 คอร์ส, Dinner $115 สำหรับ 3 คอร์ส

เวลาทำการ:

  • Lunch: จันทร์-ศุกร์ 11:45am-2:30pm
  • Dinner: จันทร์-พฤหัส 5:30pm-10:00pm, ศุกร์-เสาร์ 5:30pm-10:00pm

จองโต๊ะได้ที่: Aquavit

2. Aska

Aska เป็นร้านอาหารสไตล์ Nordic เช่นเดียวกับ Aquavit ในช่วงมื้อค่ำ ร้านจะให้บริการเพียง 10 โต๊ะเท่านั้น ทำให้ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าเชฟอุทิศเวลาทั้งหมดไปกับการทำอาหารให้ดีที่สุด

ที่ตั้ง: 47 South 5th Street, Williamsburg, Brooklyn

รูปแบบของอาหาร: Nordic

Head Chef: Fredrik Berselius เชฟชาวสวีดิชผู้ใช้เวลาส่วนใหญ่ของชีวิตเชฟอยู่ในมหานครนิวยอร์ก เขาให้ความสำคัญกับวัตถุดิบสดใหม่จากภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศสหรัฐอเมริกา

ราคาเริ่มต้น: $265 สำหรับมื้อเย็น จำนวน 12 คอร์ส

เวลาทำการ: ร้านให้บริการเฉพาะมื้อเย็นเท่านั้น และเปิดทำการ 6 โมงเย็น ยกเว้นวันอาทิตย์และจันทร์ที่ปิดทำการ

จองได้ที่: Aska

3. L’Atelier de Joël Robuchon

L’Atelier de Joël Robuchon เป็นร้านอาหารฝรั่งเศสที่มีสาขา 12 แห่ง ซึ่งรวมไปถึงนิวยอร์กและกรุงเทพด้วย การดีไซน์ร้านเป็นลักษณะเปิดกว้างที่คุณจะสามารถมองเห็นเชฟทำอาหารได้

ที่ตั้ง: 85 10th Avenue, New York, NY

รูปแบบของอาหาร: French

Head Chef: ร้านนี้เป็นของเชฟ Joel Robuchon แต่ Head Chef ที่ดูแลสาขานี้คือ เชฟ Christophe Bellanca เชฟชาวฝรั่งเศสผู้คว่ำหวอดในวงการอาหารมานานหลายทศวรรษ

ราคาเริ่มต้น: A La Carte เริ่มต้นที่จานละ $18, Winter Menu เริ่มต้นที่ $145 สำหรับ 4 คอร์ส

เวลาทำการ:

  • จันทร์-พฤหัส 6:00pm – 10:00pm
  • ศุกร์-เสาร์ 5:30pm – 10:00pm
  • อาทิตย์ – ปิด

จองได้ที่: Latelier

4. Atera

Atera ร้านอาหารที่ให้ความสำคัญกับ รูป เสียง กลิ่น รสชาติ และความรู้สึกอย่างเท่าเทียมกัน อาหารของร้านนี้จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ถ้าเป็นฤดูร้อน ร้านจะเสิร์ฟอาหารที่มีสีเขียวที่แสดงถึงความสดชื่น ส่วนในฤดูหนาว แต่ละเมนูอาจจะมีสีที่เข้มขึ้น และชวนให้ครุ่นคิด การรับประทานอาหารที่ร้านนี้จึงไม่ต่างอะไรกับการเสพงานศิลปะชั้นเยี่ยม

รูปแบบของอาหาร: Western

ที่ตั้ง: 77 Worth Street New York, NY

Head Chef: Ronny Emborg เชฟชาวเดนมาร์กผู้มุ่งมั่นในการทำให้ลูกค้าของเขาสัมผัสถึงประสบการณ์อันสุดยอดจากดวงตา จมูก หู และลิ้นระหว่างการรับประทานอาหาร

ราคาเริ่มต้น: $285

เวลาทำการ: เปิดเป็นรอบได้แก่ อังคารถึงศุกร์มีสองรอบ 6pm, 9.30pm เสาร์มีสามรอบได้แก่ 1.30pm, 6pm. 9.30pm

สามารถจองได้ที่ Opentable

5. Atomix

Atomix เป็นร้านอาหารที่กำลังมาแรงอย่างมาก ร้านได้ขยับขึ้นจากไม่มีดาวในปี ค.ศ.2018 กลายเป็น 1 ดาวในปี ค.ศ.2019 และ 2 ดาวในปี ค.ศ.2020

รูปแบบของอาหาร: New Korean (อาหารเกาหลีแบบใหม่ที่เชฟรังสรรค์ขึ้นมา)

ที่ตั้ง: 104 E. 30th St. New York,

Head Chef: Park Junghyun เชฟชาวเกาหลีผู้ปรารถนาจะเผยแพร่รสชาติอาหารเกาหลีให้กับผู้คนทั้งโลกได้รับรู้ถึงความอร่อยของมัน

ราคาเริ่มต้น: $205 สำหรับ 10 คอร์ส

เวลาทำการ: อังคาร-เสาร์ 5.30pm-12am (เที่ยงคืน)

สามารถจองได้ที่ tock

6. Blanca

Blanca เป็นร้านอาหารระดับมิชลินสองดาวที่ไม่เหมือนใคร คุณจะได้ลิ้มลองอาหารหลายสิบชนิดด้วยกันในเวลาไม่กี่ชั่วโมงที่นั่งอยู่ที่ร้าน แนวทางของเชฟคล้ายกับ Omakase นั่นคือลูกค้าไม่เห็นเมนูจนกว่าการเสิร์ฟจะจบสิ้นลง

รูปแบบอาหาร: Western

ที่ตั้ง: 261 Moore Street(Bogart Street), Brooklyn, New York

Head Chef: Carlo Mirarchi เชฟผู้ช่ำชองในการนำวัตถุดิบเพียง 2-3 ชนิดมาเรียงร้อยเป็นอาหารชิ้นเล็กๆ พอดีคำ แต่รสชาติของมันอาจจะทำให้คุณอิ่มเอมไปอีกนานเลยทีเดียว

ราคาเริ่มต้น: $198 ต่อคน (มีประมาณ 30 คอร์ส)

เวลาทำการ: พุธ-ศุกร์ 6pm-9pm เสาร์ 5pm-8pm

สามารถจองได้ที่ Blanca (จองยากมากถึงมากที่สุด ผมแนะนำให้จองล่วงหน้านานๆ เลยครับ)

7. Daniel

Daniel เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของนิวยอร์ก เชฟ Daniel Boulud เป็นเชฟอาหารฝรั่งเศสระดับสตาร์ที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงในวงการอาหาร อย่างก็ดีดาวมิชลินของ Daniel ขึ้นๆ ลงๆ ระหว่าง 2 ดาวกับ 3 ดาว ในปัจจุบัน Daniel อยู่ในระดับ 2 ดาว แต่ก็ยังเป็นร้านอาหารฝรั่งเศสอันดับต้นๆ ของเมืองอยู่ดี

รูปแบบอาหาร: French

ที่ตั้ง: 60 East 65th Street, Upper East Side, Manhattan, New York

Head Chef: Daniel Boulod เชฟมีฝีมือชาวฝรั่งเศสผู้เป็นเจ้าของร้านอาหารหลายแห่ง ตัวเขาเองยังเขียนคู่มือการทำอาหารฝรั่งเศสที่ขายดีมากหลายเล่มอีกด้วย

ราคาเริ่มต้น: $158 สำหรับ 4 คอร์ส

เวลาทำการ: จันทร์-เสาร์ 5.00pm-10.30pm

สามารถจองได้ที่ Danielnyc

8. Gabriel Kreuther

Gabriel Kreuther เป็นร้านอาหารที่ถูกเพิ่มเข้ามาในรายชื่อร้านอาหารติดดาวของมิชลินได้ไม่นานนัก แม้ว่าตัวร้านจะเพิ่งได้เปิดได้ยังไม่ถึง 5 ปีดี แต่ร้านก็กลายเป็นหนึ่งในร้านอาหารตะวันตกที่ดีที่สุดในนิวยอร์กไปแล้ว

รูปแบบอาหาร: Alsatian (ฝรั่งเศสผสมเยอรมัน)

ที่ตั้ง: 41 W. 42nd Street, New York, NY

Head Chef: Gabriel Kreuther เชฟเชื้อสาย Alsatian ผู้มีใจรักในการทำอาหารและภูมิใจอย่างยิ่งที่จะได้นำเสนออาหารที่ได้รับบันดาลใจจากบ้านเกิดเมืองนอนของเขา รางวัลจากสถาบันต่างๆ ถูกมอบให้เขาอย่างมากมายไม่ว่าจะเป็น NY Times, Michelin Stars, Zagat และอื่นๆ อีกมากมาย

ราคาเริ่มต้น: $90 สำหรับ Lunch (3 คอร์ส), $195 สำหรับ Dinner

เวลาทำการ:

  • Lunch: จันทร์-ศุกร์ 12pm – 1.15pm
  • Dinner: จันทร์-พุธ 5.30pm – 9.45pm พฤหัส-เสาร์ 5.30pm – 10pm

จองได้ที่ gknyc

9. Ichimura at Uchu

Ichimura at Uchu หรือ Uchu Sushi Bar เป็นร้านซูชิที่ตบแต่งแบบง่ายๆ โดยใช้สไตล์ minimalist ตามศิลปะแบบเก่าแก่ของญี่ปุ่น เมื่อคุณนั่งลงที่โต๊ะแล้ว เชฟ Elji Ichimura จะใช้ฝีมือของเขาสรรค์สร้างซูชิที่ยอดเยี่ยมให้คุณได้รับประทาน

รูปแบบอาหาร: Sushi (Omakase)

ที่ตั้ง: 217 Eldridge St, New York

Head Chef: Elji Ichimura เชฟซูชิระดับตำนานคนหนึ่งของญี่ปุ่น

ราคาเริ่มต้น: $300 ต่อคน

เวลาทำการ: อังคาร-พฤหัส 6pm-12am ศุกร์-เสาร์ 6pm-1am (แต่ละวันจะรับ 2 รอบเท่านั้น นั่นคือรอบ 6 โมงและรอบ 3 ทุ่ม)

สามารถจองได้ที่ uchu (จองยากมากเพราะ 1 รอบมีเพียง 10 ที่นั่งเท่านั้น)

10. Jean-Georges

Jean-Georges เป็นร้านอาหารฝรั่งเศสที่ได้รับการยอมรับว่ายอดเยี่ยมที่สุดแห่งหนึ่งในนิวยอร์ก และเคยได้รับดาวมิชลิน 3 ดาวมาถึง 12 ปีติดต่อกัน แต่ในปี ค.ศ.2018 Jean Georges กลับถูกลดดาวออกไป 1 ดาว ทำให้ตัวร้านเหลือเพียง 2 ดาวจนกระทั่งถึงทุกวันนี้

รูปแบบอาหาร: French

ที่ตั้ง: 1 Central Park West, NY 10023

Head Chef: Jean-Georges Vongerichten หนึ่งในเชฟที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก เขาเก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำอาหารมาตั้งแต่เด็ก และได้ตระเวนพัฒนาฝีมือไปทั่วทั้งเอเชีย หนึ่งในสถานที่ที่เขาเคยมาฝึกปรือฝีมือคือที่ โรงแรมโอเรียนเต็ลที่กรุงเทพมหานครนี่เอง

การที่เขาฝึกฝนในเอเชียทำให้เขาได้นำเทคนิคของชาวตะวันออกกลับไปประยุกต์ใช้กับอาหารฝรั่งเศสได้อย่างลงตัว เขาได้เปิดร้านที่นิวยอร์กในปี ค.ศ.1997 และภายในเวลาเพียงไม่กี่ปี ร้านของเขาก็ได้ชื่อว่าเป็นร้านอาหารฝรั่งเศสที่ดีที่สุดในเมือง

ราคาเริ่มต้น: Lunch – $68, Dinner – $238

เวลาทำการ: Lunch ทุกวัน 11.45am – 2.30pm, Dinner อาทิตย์-พฤหัส 5.30pm – 10pm ศุกร์-เสาร์ 5pm – 11pm

สามารถจองได้ที่ Jean-georges

11. Jungsik

Jungsik เป็นร้านอาหารเกาหลีอีกร้านหนึ่งที่ได้รับดาวมิชลินถึง 2 ดาว และนำเสนออาหารเกาหลีแบบสมัยใหม่ที่ไม่เหมือนใคร

รูปแบบอาหาร: New Korean

ที่ตั้ง: 2 Harrison Street, New York

Head Chef: Jungsik Yim เชฟชาวเกาหลีผู้มีชื่อเสียงในการทำอาหารตั้งแต่ยังเป็นทหารอยู่ในกองทัพ หลังจากปลดประจำการแล้ว เขาได้ลงเรียนเป็นเชฟเต็มตัว และได้ตระเวนทำงานไปทั่วโลกเพื่อสั่งสมประสบการณ์และค้นหาตัวเอง ในปี ค.ศ.2009 เชฟ Jungsik ได้เปิดร้านอาหารของตนเองที่มหานครนิวยอร์ก รูปแบบการทำอาหารของเขาเป็นการฉีกขนบอาหารเกาหลีแบบเดิมๆ อย่างสิ้นเชิง เชฟ Jungsik ได้เรียกสไตล์ของเขาว่า “New Korean”

ราคาเริ่มต้น: $165 สำหรับ 5 คอร์ส

เวลาทำการ: จันทร์-พฤหัส 5.30pm – 10.30pm ศุกร์-เสาร์ 5pm – 10.30pm อาทิตย์ 5pm – 10pm

สามารถจองได้ที่ Jungsik

12. The Modern

The Modern เป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑ์ MoMA พิพิธภัณฑ์ศิลปะสำคัญของนิวยอร์ก ตัวร้านอยู่ใกล้กับสวนที่ร่มรื่นของพิพิธภัณฑ์ ทำให้บรรยากาศโดยรวมเป็นแบบสบายๆ ซึ่งจะช่วยเสริมประสบการณ์การรับประทานอาหารได้อย่างดียิ่ง

รูปแบบอาหาร: American

Head Chef: Abram Bissell เชฟมากประสบการณ์ที่เคยทำงานในร้านอาหารที่มีดาวมิชลินมาแล้วหลายต่อหลายร้าน อย่างเช่น The NoMad หรือ Eleven Madison Park เป็นต้น

ราคาเริ่มต้น: Lunch $138 สำหรับ 3 คอร์ส, Dinner $188 สำหรับ 6 คอร์ส

ที่ตั้ง: MoMA ชั้น G (เข้าจากประตูที่ 53rd Street)

เวลาทำการ: Lunch 11.30am – 2pm, Dinner 5pm – 10pm (จันทร์-เสาร์)

สามารถจองได้ที่ themodern

13. Momofuku Ko

Momofuku Ko เป็นร้านอาหารอเมริกันที่ได้รับอิทธิพลมาจากอาหารแบบ Kaiseki ของญี่ปุ่น ทำให้คุณจะได้รับประสบการณ์ที่ล้ำค่าและแตกต่างจากที่อื่นๆ อย่างแน่นอน

รูปแบบอาหาร: American

ที่ตั้ง: 8 Extra Place, New York

Head Chef: Sean Alex Gray

ราคาเริ่มต้น: $255 ทั้ง Lunch และ Dinner

เวลาทำการ: Lunch เสาร์-อาทิตย์ 12.30pm – 3.30pm, Dinner อังคาร-อาทิตย์ 5pm – 11.30pm

สามารถจองได้ที่ ko.momofuku

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!