อ่าน “ข่าวเทคโนโลยี” และฝึกภาษาอังกฤษไปด้วยที่เว็บไซต์ไหนดี?

ทุกวันนี้ผมเชื่อว่าหลายคนน่าจะสนใจที่จะติดตามข่าวสารทางด้านเทคโนโลยี เพราะยุคศตวรรษที่ 21 เป็นช่วงที่พัฒนาการทางด้านนี้ก้าวกระโดดอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น Robot (หุ่นยนต์), AI, self-driving car หรือแม้กระทั่งเนื้อในห้องแล็บ (In-vitro meat)

การติดตามข่าวเหล่านี้จากเว็บไซต์ภาษาไทยก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ แต่ข่าวสารบางอย่างในเว็บไทยอาจจะไม่ครบถ้วน และไม่รวดเร็วเท่ากับเว็บไซต์ภาษาอังกฤษซึ่งเป็นแหล่งที่มาของข่าวโดยตรง นอกจากนี้ถ้าคุณอ่านข่าวจากเว็บภาษาอังกฤษ คุณยังจะได้ฝึกภาษาอีกด้วย

อย่างไรก็ดีในเว็บไซต์ภาษาอังกฤษเองก็มีหลายเว็บที่เป็น fake news ดังนั้นในการอ่านข่าวต่างๆ จึงต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง ดังนั้นในโพสนี้ ผมจึงขอแนะนำเว็บไซต์ข่าวสารเทคโนโลยีดีๆ มีมาตรฐานที่จะนำเสนอข่าวเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้ และใช้ภาษาที่เป็นทางการครับ

1. Business Insider

Business Insider เป็นเว็บไซต์ที่นำเสนอข่าวสารธุรกิจเป็นหลัก แต่ก็นำเสนอมีคอลัมน์ทางด้านเทคโนโลยีที่ไม่ได้ด้อยกว่าเว็บไซต์หน้าไหน

จุดเด่นของ Business Insider ที่ผมชอบมากคือ นอกจากเนื้อหาจะแน่นแล้ว ส่วนมากแล้วทุกบทความ ตัวช่วยในการอ่านอย่างเช่น ตาราง รูปภาพ ฯลฯ จะเยอะ นอกจากนี้การเว้นวรรคยังไม่ดูแออัดเหมือนกับบางเว็บ ภาษาที่ใช้ก็ไม่ได้ซับซ้อน (แต่ก็ยังคงเป็นภาษาแบบทางการ) ทำให้อ่านไม่ยากนัก และคุณสามารถเรียนรู้วิธีการเขียนภาษาอังกฤษที่ดีไปด้วยครับ

คุณสามารถอ่านบทความของ Business Insider ส่วนใหญ่ได้ฟรี แต่บทความระดับ premium หรือเชิงเจาะลึกแบบอินไซด์ต่างๆ คุณจะต้องเสียเงินสมัครสมาชิกที่เรียกว่า BI Prime ครับ

สนนราคาอยู่ที่ $99 ต่อปี ถ้าคุณสมัครสมาชิกแล้ว คุณสามารถอ่านได้ทุกบทความของ Business Insider โดยไม่จำกัดเฉพาะข่าวเทคโนโลยีครับ

2. TechCrunch

TechCrunch เป็นเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อรายงานข่าวสารทางด้านเทคโนโลยีและบริษัทสตาร์ทอัพล้วนๆ และเป็นเว็บทางด้านนี้ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เทคโนโลยีที่ครอบคลุมใน TechCrunch มีทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีอวกาศไปจนถึงเทคโนโลยีทางการแพทย์ครับ

ในเรื่องของภาษา ผมมองว่าภาษาในเว็บนี้ไม่ได้ยากอะไร อาจจะมีศัพท์เทคนิคบ้าง แต่ก็ไม่ได้มากจนคนทั่วไปอ่านไม่รู้เรื่อง ทำให้เหมาะอย่างยิ่งกับการติดตามข่าวสารทางด้านเทคโนโลยี และพัฒนาภาษาอังกฤษไปด้วยในคราวเดียวกันครับ

3. TechRadar

TechRadar เป็นอีกเว็บไซต์ทางเทคโนโลยีอีกเว็บหนึ่งที่น่าสนใจ อย่างไรก็ดีตัวเว็บไซต์จะโฟกัสไปที่ข่าวสารด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวเนื่องกับอุปกรณ์ต่างๆ มากกว่า ไม่ว่าจะเป็น smartphone, laptop, smartTV ฯลฯ ใครก็ตามที่อยากซื้อสมาร์ตโฟนเครื่องใหม่ หรืออยากรู้ว่ารุ่นใหม่มี features อะไรบ้าง คุณสามารถติดตามได้ที่เว็บนี้เลยครับ

ในเรื่องของภาษาที่ใช้ TechRadar ใช้ภาษาอังกฤษที่ง่ายๆ และแทบไม่มีศัพท์เฉพาะเลย ทำให้คุณสามารถอ่านได้อย่างสบายๆ ครับ

4. MIT Technology Review

MIT Technology Review เป็นเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกอย่าง MIT (Massachusetts Institute of Technology) เว็บนี้จะนำเสนอข่าวสารเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ในทุกๆ ด้าน ตั้งแต่ Artificial Intelligence (AI) ไปจนถึง Biotechnology

ในเว็บไซต์มักจะนำเสนอภาพใหญ่ของเทคโนโลยีในแต่ละอุตสาหกรรม มากกว่าที่จะนำเสนอข่าวของผลิตภัณฑ์ตัวใดตัวหนึ่งหรือบริษัทใดบริษัทหนึ่ง ซึ่งดีมากสำหรับใครที่ตามที่อยากอ่านข่าวแบบองค์รวมครับ

ส่วนเรื่องภาษา ผมมองว่าอยู่ในระดับเดียวกับ New York Times และไม่ได้ใช้ศัพท์เทคนิคอะไรมากมายนัก เพราะฉะนั้นเว็บนี้มีประโยชน์มากๆ ในการพัฒนาทักษะการอ่านของคุณครับ

5. Wired

Wired เป็นเว็บไซต์ของอดีตนิตยสารชื่อดัง ตัวเว็บนำเสนอข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์ทั่วไป ซึ่งในแขนงที่รวมอยู่ในนั้นด้วยคือ เทคโนโลยีต่างๆ นั่นเองครับ

ข่าวสารของ Wired จึงแน่นอนว่าจะเป็นลักษณะแบบ magazine นั่นคือมีข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ตลอดจนการสัมภาษณ์บุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยที่ไม่ได้ลงลึกแบบเฉพาะทางมากจนคุณอ่านไม่รู้เรื่อง

นอกจากนี้บนเว็บยังมีคลิปจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับข่าวสารนั้นๆ ให้คุณได้ชมด้วย ทำให้เวลาอ่านแล้วรู้สึกเพลินเลยทีเดียวครับ อย่างไรก็ดีถ้าคุณต้องการจะอ่านแบบไม่จำกัด คุณจะต้องเสียเงิน $10 ต่อปีครับ

6. Ars Technica

Ars Technica เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ทางด้านข่าวสารเทคโนโลยีที่เก่าแก่ที่สุด ในปัจจุบันตัวเว็บมีอายุมากกว่า 20 ปีแล้ว โดยตัวเว็บก่อตั้งตั้งแต่ยุคแรกของ internet เลยครับ

ปัจจุบัน Ars Technica ก็ยังนำเสนอข่าวสารทางด้านเทคโนโลยีทุกรูปแบบ ตั้งแต่แบบสเกลใหญ่ๆ อย่างอุตสาหกรรม blockchain ไปจนถึงสเกลเล็กอย่างรีวิว iPhone รุ่นใหม่ล่าสุด นอกจากนี้ตัวเว็บยังมี forum ให้ผู้เข้ามาอ่านได้เข้าไปถกเถียงกันในเรื่องเทคโนโลยีด้วยครับ

ต่างจากเว็บอื่นๆที่ภาษาที่ใช้จะเป็นแบบทางการ การเขียนของเว็บนี้จะออกไปแบบไม่เป็นทางการ และบ่อยครั้งจะใช้สรรพนามบุรุษที่ 1 (“I”) ซึ่งจะให้ความรู้สึกเหมือนเพื่อนมาคุยกันมากกว่าอ่านบทความตึงๆ แน่นๆ ใน textbook ครับ

7. Engadget

Engadget เป็นอีกเว็บหนึ่งที่นำเสนอข่าวสารเทคโนโลยีตั้งแต่ระดับเรือรบไปจนถึงระดับไม้จิ้มฟัน คุณสามารถอ่านข่าวสารเกี่ยวกับวงการอวกาศ วงการ VR วงการแพทย์ ไปจนถึงรีวิวสินค้าอย่างเช่น earbuds รุ่นไหนดี

ตัวเว็บเปิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ.2004 และยังอยู่คงทนมาถึงทุกวันนี้ด้วยคุณภาพ ทีมงานและนักเขียนหลายคนของเว็บดังๆในวงการ ต่างเคยมีประสบการณ์ทำงานที่ Engadget มาก่อน ก่อนจะออกไปสร้างเว็บคุณภาพอื่นๆ ในภายหลังครับ

บทความของ Engadget จะค่อนข้างสั้นเมื่อเทียบกับเว็บอื่นๆ ภาษาที่ใช้ก็เป็นทางการ แต่ก็ค่อนข้างง่าย ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เริ่มต้นและไม่ต้องการเสพข่าวแบบหนักๆ ยาวๆ ครับ

8. Gizmodo

Gizmodo เป็นอีกเว็บไซต์หนึ่งที่มีข่าวสารเทคโนโลยีทุกระดับเช่นเดียวกับ Engadget แต่ที่น่าสนใจคือ Gizmodo จะให้ความสำคัญอย่างมากกับ Social Media อย่างเช่น Twitter

ตัวเว็บจะนำคลิปหรือ feedback ของผู้ใช้ internet มาแปะอยู่บ่อยครั้ง และมี video มากมายให้คุณได้ชมด้วย ดังนั้นคุณจะไม่รู้สึกเบื่อหน่ายกับการอ่านข่าวสารในเว็บแห่งนี้ครับ ในเรื่องภาษาก็ไม่ได้ยากอะไรครับ มีทั้งแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการให้คุณได้ฝึกทักษะการอ่านได้

จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของ Gizmodo คือบนเว็บมีสังคมที่ค่อนข้าง active มาก เมื่อมีบทความใหม่ๆ ขึ้นมาจะมีผู้มาให้ความเห็นตอบไปตอบมาในเรื่องนั้นๆ อยู่เสมอครับ

9. Mashable

Mashable เป็นเว็บไซต์ลักษณะคล้ายกับ BusinessInsider นั่นคือเก็บทุกเรื่องราวในสังคม ภายในเว็บมีให้อ่านตั้งแต่เรื่องวงการบันเทิง วัฒนธรรม และแน่นอนว่าเรื่องวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีครับ ตัวเว็บมีเว็บของ SE Asia โดยเฉพาะอีกด้วย ทำให้คุณสามารถอ่านข่าวสารที่ใกล้ตัวคุณเข้ามาอีกนิดหนึ่ง

บทความของ Mashable มักจะไม่ยาวมากนัก และใช้ภาษาที่ค่อนข้างง่าย ภายในเว็บยังมี video มากมาย ที่จะช่วยฝึกการฟังภาษาอังกฤษด้วย ดังนั้นการมาตามข่าวในเว็บนี้จึงน่าสนใจไม่น้อยเลยครับ

10. The Verge

The Verge เป็นเว็บไซต์ที่เพิ่งจะก่อตั้งในปี ค.ศ.2011 ตัวเว็บไซต์นำเสนอข่าวสารทุกด้านๆ ที่เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะด้านวงการบันเทิง และวิทยาศาสตร์ครับ นอกจากนี้อะไรที่เป็นไอเดียเจ๋งๆ หรือเป็นกระแสไวรัลก็สามารถไปปรากฏอยู่ในบทความของเว็บนี้ได้เช่นเดียวกัน

โดยรวมแล้ว บทความของ The Verge อ่านง่าย และเข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัยครับ

11. Futurism

Futurism เป็นเว็บสุดโปรดของผมเลย ตัวเว็บนี้จะนำเสนอวิทยาการล้ำสมัยที่สุดทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น AI ไปจนถึงเทคโนโลยี CRISPR ทำให้เป็นประโยชน์มากๆ ต่อนักลงทุนอย่างผมที่ต้องการจะทราบถึงเทคโนโลยีที่จะมาเปลี่ยนแปลงโลกครับ โดยส่วนตัวผมรู้จักเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมายเพราะเว็บนี้นี่แหละครับ

แต่ละบทความของ Futurism จะไม่ยาวมากนัก ทำให้เหมาะกับการเก็บข่าวสารอย่างรวดเร็ว และภาษาที่ใช้ถือว่าง่ายมากๆ อีกด้วย ทำให้เว็บนี้ขึ้นแท่นเป็นเว็บอันดับต้นๆ ในดวงใจของผมเลยครับ

ข้อควรทราบ

เว็บไซต์เหล่านี้ทุกเว็บไซต์ล้วนแต่มี social network เป็นของตนเอง ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Twitter ดังนั้นคุณสามารถไปติดตามเว็บเหล่านี้ได้ครับ