ประวัติศาสตร์ชีวิตรักและสเป๊กสาวๆ ของสตาลิน ตอนที่ 2: ความรักครั้งใหม่?

ชีวิตรักและสเป๊กสาวๆ ของสตาลิน ตอนที่ 2: ความรักครั้งใหม่?

การตายของคาโตในตอนที่แล้ว ทำให้สตาลินเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก สตาลินกลายเป็นคนเอาจริงเอาจังมากขึ้น และทุ่มสุดตัวให้กับการปฏิวัติ ยาคอฟ บุตรชายของเขาที่เกิดกับคาโต สตาลินก็ได้มอบให้ครอบครัวของเธอเป็นผู้เลี้ยงดู

สตาลินในปี ค.ศ.1915

ทำสาวตั้งครรภ์

สตาลินร้างรักอยู่นานหลายปี แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าสตาลินจะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงเลยในช่วงนั้น ตัวสตาลินเองก็คนชอบฉอเลาะอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงพูดคุยกับสาวๆ อยู่เนืองๆ แต่เขาก็ไม่ได้คบใครเป็นตัวเป็นตนเลย

ในปี ค.ศ.1913 สตาลินโดนรัฐบาลซาร์เนรเทศไปไกลถึง Turukhansk เมืองนี้ห่างไกลจากมอสโกหลายพันกิโลเมตร และมีอากาศอันหนาวเหน็บ ระหว่างนี้เขามีแต่พวกบอลเชวิคและพวกนักโทษอื่นๆเป็นรูมเมตร่วมห้อง แต่นั่นไม่ได้ขัดขวางเขาในการคบหากับสาวๆ ได้

ระหว่างที่เขาอาศัยอยู่กับครอบครัวชาวบ้านชื่อ ครอบครัว Pereprygin เรื่องก็เกิดขึ้นจนได้

สตาลินในวัย 36 ปี ได้ลักลอบคบหากับเด็กสาวชื่อ Lidia Pereprygia เธอมีอายุ 13 ปีได้เท่านั้นเอง ซึ่งต่ำกว่าอายุของผู้ที่บรรลุนิติภาวะในสมัยซาร์ (14 ปี)

Lidia เป็นลูกสาวของครอบครัวดังกล่าว สตาลินคงจะไปจีบเธอ และคบหากับเธอในที่สุด

แต่สตาลินกลับทำให้เธอตั้งครรภ์! ทำให้เป็นเรื่องขึ้นมาทันที

ถึงแม้ดินแดนแถบนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจน้อย แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เข้ามายุ่งเกี่ยวในเคสนี้ เพราะสตาลินทำเด็กผู้ยังไม่บรรลุนิติภาวะตั้งครรภ์ สตาลินโดนเจ้าหน้าที่จับไปสอบสวนอยู่นาน สุดท้ายเรื่องทั้งหมดลงเอยด้วยการที่สตาลินยอมแต่งงานกับ Lidia

บุตรในท้องของ Lidia กลับเสียชีวิตหลังจากที่เกิดได้ไม่นาน แต่สตาลินมีลูกชายกับเธออีกคนหนึ่งชื่อ อเล็กซานเดอร์

ชีวิตของสตาลินในไซบีเรียกลับเป็นไปด้วยความสุขสบาย เพราะการอุปการะของครอบครัวของภรรยา สตาลินใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการตกปลา ทั้งๆที่การเมืองรัสเซียกำลังเข้าสู่จุดเดือด เพราะรัสเซียเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1

ในปลายปี ค.ศ.1916 สตาลินได้ถูกรัฐบาลซาร์เกณฑ์ให้ไปเป็นทหารเพื่อไปรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่สตาลินกลับรอดการเกณฑ์ไปอย่างหวุดหวิด เพราะแขนของเขาไม่สมประกอบจากอุบัติเหตหลายปีก่อน

สตาลินได้รับอนุญาตให้อยู่ที่เมือง Achinsk เมืองที่ไม่ได้อยู่ห่างไกลทางรถไฟและความเจริญมากนัก เขาอยู่ที่นั่นจนกระทั่งเกิดการปฏิวัติกุมภาพันธ์ในปี ค.ศ.1917 สตาลินจึงได้เดินทางกลับมายังกรุงเปโตรกราด เมืองหลวงของรัสเซีย

การกลับมาเปโตรกราดทำให้สตาลินไม่ได้พบกับครอบครัว Pereprygin และ Lidia ภรรยาคนที่สองของเขาอีกเลย อเล็กซานเดอร์ บุตรชายของเขาที่เกิดกับ Lidia จึงเป็นบุตรชายที่สตาลินไม่เคยเห็นหน้า (เขาเกิดในปี ค.ศ.1917 หลายเดือนหลังจากที่สตาลินถูกเกณฑ์ไปรบ)

นักประวัติศาสตร์หลายคนวิพากษ์วิจารณ์สตาลินว่า สตาลินคบหาและแต่งงานกับ Lidia เพื่อความสุขช่วงครั้งคราวเท่านั้น

ครอบครัวผู้อุปการะ

ตั้งแต่ก่อนโดนเนรเทศ สตาลินได้รับการช่วยเหลือจากนักปฏิวัติคนหนึ่งชื่อ เซอร์เกย์ อัลลิลูเยฟ (Sergei Alliluyev) หลังจากที่เขากลับมายังกรุงเปโตรกราดแล้ว สตาลินได้มาพักอาศัยอยู่ที่บ้านพักของครอบครัวอัลลิลูเยฟอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เขาเริ่มสนิทสนมคุ้นเคยกับครอบครัวของเซอร์เกย์ โดยเฉพาะ นาเดชดา อัลลิลูเยฟวา (Nadezhda Alliluyeva) หรือ นาดยา (Nadya) บุตรสาววัย 16 ปีของเซอร์เกย์

เซอร์เกย์ อัลลิลูเยฟ ผู้อุปการะคุณคนสำคัญของสตาลิน

สตาลินเป็นคนครึกครื้นและชอบพูดคุยฉอเลาะอยู่แล้ว ทำให้นาดยาเริ่มประทับใจในตัวสตาลินมากขึ้นทุกวัน บางวันสตาลินชอบมาเล่นมุกตลกและคุยเล่นกับนาดยาและพี่น้องของเธอจนดึกดื่น บางครั้งเซอร์เกย์ถึงกับรำคาญว่าทำไมพวกเขาไม่ยอมหลับไม่ยอมนอนเสียที

ครอบครัวอัลลิลูเยฟชอบพอในตัวสตาลินมาก และมองสตาลินในแง่บวกขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาถึงกับหาที่อยู่ใหม่เพื่อที่สตาลินจะได้มาหาได้บ่อยๆ เมื่อได้อพาร์ตเมนต์ใหม่แล้ว พวกเขาถึงกับเก็บห้องหนึ่งไว้ให้สตาลิน เพื่อที่เมื่อสตาลินมาเยี่ยมเยือน เขาจะได้มีห้องเป็นของตัวเอง

หากแต่ว่าสตาลินเองวุ่นวายอยู่กับความพยายามที่จะก่อการปฏิวัติซ้อน และกลัวว่าเขาจะนำพาเรื่องยุ่งยากมาให้ครอบครัวอัลลิลูเยฟ ดังนั้นเขาจึงไม่มีเวลามาเยี่ยมเยือนครอบครัวอัลลิลูเยฟเท่าไรนัก ผู้ที่เฝ้ารอการกลับมาของเขามากที่สุดคือ เด็กสาววัย 16 ปีชื่อ นาดยา นั่นเอง

นาดยา

ในช่วงนี้สตาลินเองก็แอบพูดคุยคบหากับสาวๆ อยู่หลายคน แต่ก็เหมือนเดิม นั่นก็คือไม่มีใครเป็นตัวเป็นตน

สตาลินกลับมาที่บ้านอัลลิลูเยฟหลังเหตุการณ์ July Days เล็กน้อย นาดยากลับไม่ได้พบสตาลินเพราะว่าเธอออกไปพักร้อน ครอบครัวอัลลิลูเยฟดูแลสตาลินอย่างดีเหมือนเดิม

พวกเขาได้ขอให้สตาลินเปลี่ยนลุคเสียหน่อย เพราะในขณะนั้นสตาลินใส่แต่เสื้อเก่าๆ โทรมๆ สตาลินอ้างว่าตนเองไม่มีเวลา ครอบครัวอัลลิลูเยฟจึงไปตัดสูทตัวใหม่และมามอบให้กับสตาลิน น้ำใจของครอบครัวอัลลิลูเยฟที่มอบให้สตาลินจึงมากมายเหลือเกิน

นาดยากลับมายังเปโตรกราดในฤดูใบไม้ร่วง เธอได้ช่วยเหลือโอลกา แม่ของเธอในการทำความสะอาดบ้าน นาดยาได้เคลื่อนโต๊ะและเก้าอี้เสียงดัง จนสตาลินออกมาจากห้องของเขาเพื่อมาดูว่าเป็นเสียงอะไร ปรากฏว่าเขาเห็นว่าเป็นนาดยา สตาลินจึงอุทานขึ้นว่า

โอ้ เป็นเธอหรือนี่ ตอนนี้ฉันเห็นแล้วว่าแม่บ้านตัวจริงกำลังทำงานอยู่นะ!

นาดยารู้สึกงงๆ กับคำพูดของสตาลิน เธอกล่าวขึ้นว่า

ทำไมเหรอ ไม่ดีหรือ (คะ)

สตาลินรีบปฏิเสธ เขากล่าวว่าจริงๆ แล้วเป็นเรื่องดี และขอให้เธอทำต่อไป

เหตุการณ์นั้นดูเหมือนว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่จุดความสนใจของสตาลินในตัวนาดยา

สเป๊กสาวของสตาลิน

สตาลินชอบผู้หญิงที่สามารถดูแลบ้านให้กับเขาได้ และรักเขามาก สตาลินต้องการให้เธอเป็นที่พึ่งในยามที่เขาต้องการผ่อนคลาย เพราะเขาเคร่งเครียดมามากแล้วกับเรื่องการเมือง เขาต้องการจากสนับสนุนทางจิตใจจากเธอในเวลาที่เขามีปัญหา นอกจากนี้สตาลินก็ชอบผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าตัวเองหลายปี เพื่อที่เธอจะได้เชื่อฟังเขาทุกประการ

ในช่วงนั้นเรื่องการเมืองกำลังร้อนแรง ทำให้สตาลินเหน็ดเหนื่อย ครอบครัวอัลลิลูเยฟจึงเปรียบเป็นเหมือนเป็นแหล่งพักพิงที่สำคัญยิ่งของสตาลิน นักประวัติศาสตร์เชื่อว่าในช่วงนี้เองทำให้สตาลินเริ่มสนใจในตัวนาดยา ถึงแม้เขาจะมีอายุมากกว่าเธอถึง 23 ปีก็ตาม (สตาลิน 39 นาดยา 16)

โรเบิร์ต เซอร์วิส นักประวัติศาสตร์ผู้รวบรวมเรื่องของสตาลินให้ความเห็นว่า การที่สตาลินเห็นว่าครอบครัวอัลลิลูเยฟเป็นวิมานที่สำคัญของเขา มันจึงไม่แปลกอะไรที่สตาลินจะขอนาดยา หนึ่งในสมาชิกครอบครัวดังกล่าวแต่งงานในภายหลัง

เรามาดูกันตอนหน้าครับว่าสตาลินจะได้แต่งงานกับนาดยาหรือไม่อย่างไร

Sources:

  • Robert Service, “Stalin: A biography”
  • Simon Sebag Montefiore, “Stalin: The Court of the Red Tsar”

ซื้อหนังสือดีๆ เกี่ยวกับสตาลินอ่านได้ทันทีผ่าน Kindle

บทความประวัติศาสตร์

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!