ประวัติศาสตร์จีนจ้านกว๋อเมื่อ "จิ๋นซีฮ่องเต้" เกือบถูกลอบสังหารโดยจิงเคอจากแคว้นเยียน

เมื่อ “จิ๋นซีฮ่องเต้” เกือบถูกลอบสังหารโดยจิงเคอจากแคว้นเยียน

จิ๋นซีฮ่องเต้ (ฉินสื่อหวงตี้) หรือฉินหวางเจิ้งเป็นจักรพรรดิที่เรียกได้ว่าเป็นที่เกรงกลัวของประชาชนมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์จีน การปราบปรามพวกกบฏอย่างรุนแรงเป็นสิ่งที่ทำให้ทั่วทั้งแผ่นดินหวั่นเกรงเขายิ่งขึ้นไปอีก

หากแต่ว่าในปี 227 BC (ก่อนคริสตกาล 227 ปี) กลับมีชายคนหนึ่งหาญกล้าถึงขนาดเข้ามาลอบสังหารฉินหวางเจิ้งถึงในพระราชวัง แม้ฉินหวางเจิ้งจะรอดชีวิตไปได้ แต่การสังหารดังกล่าวได้กลายเป็นตำนานไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย ในฐานะการลอบสังหารที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์จีน

มือสังหารผู้นั้นคือ จิงเคอ (Jing Ke, 荊軻)

จิงเคอพยายามสังหารฉินสื่อหวงตี้ จิงเคอยืนอยู่ทางด้านขวาของภาพ ส่วนฉินสื่อหวงตี้ยืนอยู่ทางด้านซ้ายของภาพ ผู้ที่หมอบอยู่ตรงกลางคือฉินหวู่หยาง

ไท่จื่อตันและจิงเคอ

ช่วงเวลาที่ฉินหวางเจิ้งกำลังหาทางทำลายแคว้นหานและจ้าว ไท่จื่อตัน (หรือ รัชทายาทที่ชื่อตัน) แห่งแคว้นเยียนประทับอยู่ในแคว้นฉิน ไท่จื่อตันผู้นี้เคยรู้จักกับฉินหวางเจิ้งตั้งแต่เยาว์วัย แต่ในเวลาต่อมาเขากลับต้องเป็นตัวประกันในเมืองเสียนหยาง (ปัจจุบันคือซีอาน) ทำให้เขาโดนกดขี่มากมายจากฉินหวางเจิ้ง

ความโกรธแค้นทำให้ไท่จื่อตันไม่กลัวอันตราย เขาฉวยโอกาสที่แคว้นฉินสนใจกับการโจมตีแคว้นอื่นๆ หลบหนีกลับแคว้น ซึ่งก็ทำได้สำเร็จ

ในใจของไท่จื่อตันต้องการล้างแค้นแคว้นฉิน แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรดี แคว้นฉินเป็นแคว้นใหญ่ ส่วนแคว้นเยียนเป็นแคว้นเล็ก แคว้นอื่นๆ กำลังถูกแคว้นฉินเขมือบทีละแคว้น

ระหว่างนั้นเองปรากฏว่าฝานหยีฉีที่เคยร่วมการกบฏเฉิงเจียวได้หลบหนีมาถึงแคว้นเยียน ไท่จื่อตันต้องการจะรับเขาไว้ แต่ราชครูจีว์หวู่กลับทัดทาน เพราะเขาเกรงว่าถ้าฉินหวางเจิ้งทราบ ฉินหวางเจิ้งจะเอาเรื่องแคว้นเยียนได้ เขาจึงเสนอให้ไท่จื่อตันส่งตัวฝานหยีฉีไปให้พวกซงหนูทางตอนเหนือเสียเพื่อตัดปัญหา

แต่ทว่าไท่จื่อตันกลับไม่อาจจะเหี้ยมโหดทำเช่นนั้นได้กับผู้ที่หนีร้อนมาพึ่งเย็น จีว์วู่จึงเสนอให้ไท่จื่อตันไปปรึกษากับเถียนกวง ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นอาจารย์ผู้มีสติปัญญาสูงคนหนึ่งในแคว้นเยียน

ไท่จื่อตันจึงมาเยี่ยมเยือนเถียนกวง ไท่จื่อตันกล่าวว่า

แคว้นฉินและเยียนไม่อาจจะอยู่ร่วมโลกกันได้ ข้าจึงอยากให้ท่านช่วยแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้หน่อยเถิด

เถียนกวงกล่าวแต่เพียงว่า เขามีอายุมากแล้ว เขาจึงแนะนำแขกผู้หนึ่งที่เขาคิดว่ามีความสามารถให้กับไท่จื่อตัน

แขกผู้นี้ของเถียนกวงคือ จิงเคอ

จิงเคอผู้นี้ซือหม่าเชียนบันทึกว่าเป็นชาวเว่ย (แคว้นเล็กๆ ที่ไม่ใช่แคว้นเว่ยที่เป็นแคว้นสามจิ้น) เดิมทีบรรพบุรุษของจิงเคอเป็นชาวแคว้นฉี แต่ได้อพยพมาอยู่แคว้นเว่ย

ชีวิตเขาในตอนเริ่มแรกไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไรนัก จิงเคอชอบอ่านหนังสือและฝึกดาบ เขาเดินทางไปมาในหกแคว้นตะวันออกอยู่บ่อยครั้ง จนกระทั่งวันหนึ่งเขาเดินทางไปถึงแคว้นเยียน เขาได้พบเถียนกวงเข้า เถียนกวงให้การต้อนรับจิงเคอเป็นอย่างดี หลังจากนั้นจิงเคอก็พำนักอยู่ในแคว้นเยียน

ก่อนที่ไท่จื่อตันจะจากไป เขาได้กำชับเถียนกวงว่าอย่าได้บอกเรื่องนี้แก่ผู้ใด เถียนกวงรับคำ หลังจากนั้นจึงเดินทางไปพบกับจิงเคอ และบอกเขาให้ไปพบกับไท่จื่อตัน

ซือหม่าเชียน นักประวัติศาสตร์ในราชวงศ์ฮั่นผู้ประพันธ์พงศาวดารสื่อจี้ว่า เถียนกวงรู้สึกไม่สบายใจที่ไท่จื่อตันไม่ไว้ใจตนจากการที่เขาเตือนเถียนกวงว่าไม่ให้บอกเรื่องนี้แก่ผู้ใด และอีกนัยหนึ่งต้องการปลุกเร้าตัวจิงเคอด้วย

หลังจากที่เขาบอกทุกอย่างกับจิงเคอแล้ว เถียนกวงจึงเชือดคอตายทันที ก่อนที่จะสิ้นลมเถียนกวงบอกให้จิงเคอไปบอกไท่จื่อตันด้วยว่าไม่ต้องกลัวความลับจะรั่วไหล เพราะเขาได้จากโลกนี้ไปแล้ว

จิงเคอจึงเดินทางไปหาไท่จื่อตันและแจ้งเรื่องทั้งหมดให้ทราบ เมื่อไท่จื่อตันทราบว่าเถียนกวงตายแล้วก็เสียใจอย่างมาก ไท่จื่อตันถึงกับทรุดตัวลงและร้องครวญครางว่าตนเองไม่ได้ต้องการจะให้เถียนกวงตายเลย

หลังจากนั้นไท่จื่อตันและจิงเคอจึงพูดคุยปรึกษากัน ไท่จื่อตันพูดขึ้นว่าตนเองได้คิดแผนการขึ้นมาแผนหนึ่ง

กล่าวคือไท่จื่อตันต้องการส่งมือดีคนหนึ่งเข้าไปจับฉินหวางเจิ้งให้เป็นตัวประกัน และบังคับให้เขาคืนดินแดนที่ตีชิงไปให้กับหกแคว้นตะวันออก เช่นเดียวกับที่เฉาโมเคยจี้ฉีหวนกงให้คืนดินแดนให้แคว้นลู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน ถ้าฉินหวางเจิ้งไม่ยอมคืนก็ให้สังหารเสียเลย

และจิงเคอคือมือดีคนที่ไท่จื่อตันปรารถนาจะส่งเข้าไปในวังฉิน

สำหรับจิงเคอแล้ว เขาเรียนไท่จื่อตันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ตัวเขาไม่น่ามีความสามารถเพียงพอ แต่ไท่จื่อตันก้มศีรษะขอร้องเขา จนสุดท้ายจิงเคอตัดสินใจยอมรับข้อเสนอในที่สุด

หลังจากนั้นไท่จื่อตันจึงดูแลจิงเคออย่างดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่อันที่จริงแล้วจิงเคอยังไม่ต้องการจะเดินทางไปแคว้นฉินสักเท่าใดนัก แม้เขาจะตอบรับไท่จื่อตันไปแล้วก็ตาม

สาเหตุก็เดาไม่น่ายาก เพราะความเสี่ยงที่จะพลาดมีสูงมาก ถ้าพลาดขึ้นมาสิ่งที่จิงเคอได้รับคือความตายสถานเดียว

ผู้เสียสละ

ต่อมาไม่นานหวางเจียนพิชิตแคว้นจ้าวได้เป็นผลสำเร็จ กองทัพฉินจึงยกเข้าใกล้แคว้นเยียน ไท่จื่อตันเกรงกลัวยิ่งนัก เขาจึงรีบมาขอร้องจิงเคออย่างมากมายอีกครั้งหนึ่ง จิงเคอบอกไท่จื่อตันว่าตัวเขายินดีจะไป แต่

ฉินหวางหาได้เข้าถึงตัวพระองค์ได้อย่างง่ายๆ ไม่ แต่ถ้าเป็นแม่ทัพฝานแล้ว ฉินหวางทรงให้ค่าหัวเขาเป็นทองคำพันตำลึงและศักดินาหมื่นครัวเรือน ถ้าข้าได้ศีรษะของเขาและแผนที่ของดินแดนตู้คังในแคว้นเยียนแล้ว นำไปถวายฉินหวาง พระองค์จะต้องโปรดให้ข้าเข้าเฝ้าเป็นแน่

(ดินแดนตู้คังเป็นดินแดนที่มีความอุดมสมบูรณ์มากแห่งนึงในแคว้นเยียน)

ไท่จื่อตันตอบว่า

แม่ทัพฝานหลบหนีมาพึ่งข้าในขณะที่เขาอยู่ในที่นั่งลำบาก แม้ข้าไม่ปรารถนาจะทำลายเจตนารมณ์ของท่านผู้เคารพที่ช่วยเหลือกิจการส่วนตัวของข้า แต่ข้าขอให้ท่านลองตรองดูใหม่

จิงเคอเห็นว่าไท่จื่อตันคงจะไม่ยอมสังหารฝานหยีฉีเพื่อการนี้เป็นแน่ จิงเคอจึงไปพบกับฝานหยีฉีด้วยตนเอง จิงเคอกล่าวว่า

พ่อ แม่ และครอบครัวของท่านถูกประหารชีวิตหมดเพราะท่านแต่เพียงผู้เดียว ตอนนี้ข้าได้ยินว่าฉินหวางตั้งค่าหัวท่านเป็นทองคำพันตำลึงและศักดินาหมื่นครัวเรือน ท่านคิดว่าอย่างไร

ฝานหยีฉีตอบว่า

ทุกครั้งที่ข้านึกถึงมัน ฉันรู้สึกปวดร้าวลงไปถึงกระดูกทุกส่วน แต่ฉันไม่รู้จะทำอย่างไรจริงๆ

จิงเคอจึงกล่าวต่อไปว่า

ถ้าข้ามีวิธีทำให้แคว้นเยียนพ้นจากอันตราย และได้ล้างแค้นศัตรูของท่านด้วย ท่านจะว่าอย่างไร

ฝานหยีฉีรู้สึกสงสัย เขาจึงถามว่าจิงเคอจะทำอย่างไร จิงเคออธิบายแผนการทั้งหมด และบอกฝานหยีฉีว่าเขาต้องการศีรษะของเขาเพื่อใช้ในการเข้าถึงตัวฉินหวาง

เมื่อฟังจบ ปรากฏว่าฝานหยีฉีไม่พูดพร่ำทำเพลง เขาคว้ากระบี่ออกมาและเชือดคอของตนเองทันที ไท่จื่อตันทราบเรื่องดังกล่าวในไม่ช้า และรีบเดินทางมาทันที เขาร้องไห้และอาลัยถึงความกล้าหาญของฝานหยีฉี

การตายของฝานหยีฉีทำให้จิงเคอได้ทุกสิ่งที่เขาต้องการแล้ว

หลังจากนั้นไท่จื่อตันให้คนเตรียมมีดไว้ให้จิงเคอ มีดเล่มนี้คมกริบและอาบยาพิษด้วย นอกจากนี้ไท่จื่อตันได้สั่งให้ฉินหวู่หยาง นักโทษคนหนึ่งที่เคยก่ออาชญากรรมเป็นผู้ช่วยของเขาในภารกิจนี้

เมื่อการเตรียมการเสร็จสิ้นแล้ว จิงเคอและขบวนของเขาก็เดินทางไปแคว้นฉินทันที เพื่อปฏิบัติภารกิจที่เสี่ยงสุดยอด

เข้าเฝ้าฉินหวาง

จิงเคอเดินทางมาถึงเสียนหยาง เมืองหลวงของแคว้นฉิน เขาได้นำทองคำจำนวนหนึ่งไปติดสินบนเมิ่งเจี่ย ชาววังคนหนึ่งที่เป็นคนสนิทของฉินหวางเจิ้ง เมิ่งเจี่ยจึงเพ็ดทูลต่อฉินหวางเจิ้งว่าจิงเคอ ทูตแคว้นเยียนได้นำศีรษะของฝานหยีฉีและแผนที่เมืองตู้คังมาถวายต่อฉินหวางเจิ้งเพื่อหวังจะเป็นไมตรี

ฉินหวางเจิ้งได้ฟังเช่นนั้นก็ปิติยินดีอย่างมาก เขาอนุญาตให้จิงเคอเข้าเฝ้าในทันที

จิงเคอเดินถือกล่องใส่ศีรษะของฝานหยีฉีเข้าไปในพระราชวังหลวง ส่วนฉินหวู่หยางถือแผนที่เข้าไป ปรากฏว่าฉินหวู่หวางที่เคยเป็นฆาตกรมาก่อนกลับตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว ใบหน้าของเขาถึงกับเปลี่ยนสี ขุนนางแคว้นฉินที่รายล้อมอยู่ต่างรู้สึกสงสัยว่าทำไมฉินหวู่หวางถึงเป็นเช่นนั้น

ทันใดนั้นจิงเคอรีบทูลฉินหวางเจิ้งว่า

เขาเป็นชายผู้ไม่รู้หัวนอนปลายเท้ามาจากชายแดนตอนเหนือ เขาไม่เคยเห็นโอรสสวรรค์มาก่อน ข้าพระองค์ขอให้ต้าหวางทรงเมตตาเขาและให้พวกเราได้เสร็จสิ้นภารกิจที่ได้รับมาเถิด

การลงมือ

หลังจากนั้นฉินหวางเจิ้งจึงให้คนนำแผนที่เข้ามาให้ชมดู แผนที่จีนโบราณเป็นแผนที่แบบม้วน ดังนั้นฉินหวางเจิ้งจึงต้องคลี่มันออกมา เมื่อฉินหวางเจิ้งคลี่มันจนสุด มีดสั้นที่จิงเคอแอบไว้ก็โผล่ออกมา!

ภายในเสี้ยววินาที จิงเคอใช้มือซ้ายฉวยแขนเสื้อของฉินหวางเจิ้ง และใช้มือขวาฉวยมีดที่มากับแผนที่แทงฉินหวางเจิ้งทันที

แต่ปรากฏว่าฉินหวางเจิ้งกลับลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ ทำให้แขนเสื้อขาดไป ฉินหวางเจิ้งรอดคมมีดไปได้อย่างหวุดหวิด

ฉินหวางเจิ้งมีดาบยาวอยู่เล่มหนึ่งติดกับตัว แต่ดาบยาวมากและอยู่ในฝัก ฉินหวางเจิ้งเองก็ตื่นตระหนกทำให้เขายังไม่สามารถกระชากดาบออกมาจากฝักได้

เมื่อฉินหวางเจิ้งหลุดมือไปได้ จิงเคอจึงถือมีดไล่ตามไป ฉินหวางเจิ้งพยายามหลบหลีกไปมาระหว่างเสา เพื่อไม่ให้จิงเคอเข้าถึงตัวได้

พวกขุนนางที่อยู่ที่นั่นต่างตกตะลึงที่มีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้น แต่พวกเขาไม่มีอาวุธติดตัวอยู่เลยตามกฎหมายราชวงศ์ฉิน กองทหารรักษาการก็อยู่ภายนอก พวกทหารไม่ได้รับคำสั่งให้เข้ามานอกเสียจากได้รับคำสั่งจากฉินหวางเท่านั้น พวกเขาจึงไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นภายในท้องพระโรง

ดังนั้นชีวิตของฉินหวางเจิ้งจึงตกอยู่ในอันตรายยิ่ง จิงเคอไล่ตามฉินหวางเจิ้งจนมาเกือบถึงตัวอยู่แล้ว แพทย์หลวงชื่อเซี่ยหวู่จีว์ที่ถือกล่องยาขนาดใหญ่อยู่จึงเขวี้ยงมันเข้าใส่จิงเคอทันที จิงเคอถึงกับเสียสมาธิ และพลาดโอกาสทองที่จะสังหารฉินหวางเจิ้ง

ฉินหวางเจิ้งพยายามจะกระชากดาบยาวออกมาป้องกันตัว แต่ยังไม่สำเร็จ มหาดเล็กคนหนึ่งจึงตะโกนขึ้นว่า

ต้าหวาง โปรดนำดาบไปด้านหลังแล้วกระชากออกมาเถิด!

ฉินหวางเจิ้งทำตามนั้น ดาบยาวจึงหลุดออกมาจากฝัก ฉินหวางเจิ้งใช้มันฟาดฟันใส่จิงเคอที่บริเวณสะโพกซ้าย จิงเคอล้มลงทันทีด้วยความเจ็บปวด แต่ก็ยังไม่วายปามีดเข้าใส่ฉินหวางเจิ้ง

มีดดังกล่าวไปกระทบกับเสาสำริด เมื่อจิงเคอสิ้นอาวุธแล้ว ฉินหวางเจิ้งจึงฟาดฟันใส่จิงเคออีกหลายดาบ จิงเคอรู้ตัวว่าสิ่งที่เขาทำล้มเหลวแล้ว เขาจึงเอาตัวไปพิงกับเสาและหัวเราะ เขากล่าวว่า

สาเหตุที่งานนี้ทำไม่สำเร็จ เพราะข้าตัดสินใจที่จะจับเป็นเขา และบีบบังคับให้เขาให้ตอบแทนไท่จื่อ (ตัน)

หลังจากนั้นพวกทหารองครักษ์ต่างกรูกันเข้ามาสังหารจิงเคอ ฉินหวางเจิ้งมองดูร่างของจิงเคอด้วยความอนาถใจอยู่พักใหญ่ และมอบรางวัลอย่างมากมายกับแพทย์หลวงและมหาดเล็กที่ช่วยเหลือตนเองในช่วงเวลาดังกล่าว

ความล้มเหลวของจิงเคอทำให้ตัวเขา ฉินหวู่หยาง (ถูกสังหารระหว่างพยายามเข้าไปช่วยจิงเคอ) ฝานหยีฉี และเถียนกวงต้องตายเปล่าโดยไม่มีประโยชน์ใดๆเกิดขึ้นมาเลย

ในทางกลับกันฉินหวางเจิ้งโกรธเคืองแคว้นเยียนอย่างมาก เขาสั่งให้กองทัพหวางเจียนที่เพิ่งพิชิตแคว้นจ้าวยกไปตีแคว้นเยียนทันที

เรื่องจะเป็นไปอย่างไรต่อไป โปรดติดตามได้ในตอนหน้า

  • Sima Qian, Records of The Grand Historian
  • วิวัฒน์ ประชาเรืองวิทย์, เลียดก๊ก เล่ม 3

บทความประวัติศาสตร์

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!