รีวิวอาหารบุฟเฟต์รีวิวร้าน Shabu Lab สาขาสยาม ความอร่อยอยู่ที่ฝีมือตัวเองล้วนๆ

รีวิวร้าน Shabu Lab สาขาสยาม ความอร่อยอยู่ที่ฝีมือตัวเองล้วนๆ

สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ผมจะไปลองชิมร้าน Shabu Lab ที่สยาม ร้านนี้เป็นร้านชาบูที่มี concept ที่แปลกและน่าสนใจมาก นั่นคือทุกท่านจะต้องปรุงน้ำซุปและน้ำจิ้มด้วยตนเอง จะอร่อยไม่อร่อยก็แล้วแต่ลูกค้าเลยครับ

พิกัดของร้านอยู่ตามนี้นะครับ

ส่วนด้านล่างนี่คือ บริเวณหน้าร้าน ด้านหน้าร้านจะมีคำว่า Shabu Lab และรูปการ์ตูนไอน์สไตน์อยู่ด้านหน้า

ราคาก็ตามนี้เลย 379 Net รวมน้ำ Vat, Service Charge ทุกอย่างแล้วครับ นอกจากนี้ยังไม่จำกัดเวลากินด้วยนะครับ

ส่วนนี่คือบรรยากาศภายในร้าน ร้านจะตบแต่งแบบสว่างๆ ตามคอนเซ็ปห้องแล็ปของทางร้าน

เรามาดูที่ตรงนี้กันก่อน นี่คือไลน์น้ำซุปครับ ทางร้านจัดไว้เป็นถาดๆ อยู่แล้ว เราอยากได้น้ำซุปไหนก็เลือกไป น้ำซุปตอนนี้มี น้ำซุปสุกี้ยากี้ (น้ำดำ) น้ำซุปหมาล่า น้ำซุปแจ่ว น้ำซุปชีส น้ำซุปเบคอน และน้ำซุปคาร์บอน

อย่างไรก็ตาม ทางร้านได้เตรียมเครื่องปรุงไว้พร้อมแล้วสำหรับท่านที่ต้องการปรุงอะไรเพิ่ม ซึ่งจากประสบการณ์แล้ว ต้องปรุงเพิ่มจริงๆ ครับ ที่ร้านให้มาในถาดเนี่ยไม่พอที่น้ำซุปจะอร่อย

ถัดมาเป็นไลน์น้ำจิ้มครับ

จากด้านบนน้ำจิ้มนี่มีหลายแบบให้เลือกเลย ตั้งแต่น้ำจิ้มสุกี้ น้ำจิ้มสุกี้ใส่เต้าหู้ยี้ น้ำจิ้มซีฟู้ด น้ำจิ้มชีส น้ำจิ้มงา จากที่ลองมาผมว่าโดยรวมแล้วใช้ได้ทุกอัน แต่ชอบที่สุดน่าจะเป็นน้ำจิ้มสุกี้ใส่เต้าหู้ยี้

นอกจากนี้ยังมีน้ำจิ้มอื่นๆ อีกหลายอย่างที่เราสามารถเลือกปรุงได้เองตามรูปด้านล่าง แต่ที่เด็ดที่สุดคือ ไข่ลวกออนเซ็นครับ ซึ่งถ้าร้านอื่นมักจะให้จิ้มไข่ดิบ แต่ร้านนี้ให้จิ้มไข่ลวกออนเซ็นแทนครับ

ถัดมาเป็นไลน์ผัก มีให้เลือกหลายอย่างเหมือนกันครับ ผักเค้าก็สดดีครับ

ส่วนนี้เป็นไลน์ลูกชิ้น มีให้เลือก 6 อย่างครับ

จากที่ได้ลองมา โดยส่วนตัวไม่ค่อยชอบเท่าไรครับ ผมว่ากินเนื้อกับหมูดีกว่า เพราะลูกชิ้นแป้งเยอะไป

ถัดมาเป็นไลน์ข้าว เนื้อ/หมูต้มซีอิ้ว น้ำ และมาม่าครับ

นอกจากนี้ยังมีไลน์น้ำอัดลมให้กินด้วย

นี่เป็นหม้อ เนื้อผสมหมูต้มซีอิ้ว ทางร้านบอกว่าใส่ชาบูชาบูก็ได้ หรือกินกับข้าวเปล่าเลยก็ได้

จากที่ได้กิน ผมว่าหมูและเนื้อนุ่มอร่อยดี แต่โดยส่วนตัวผมว่าน่าจะแยกหมูกับเนื้อออกจากกันนะ เพราะคนที่ไม่กินเนื้อแต่อยากกินเมนูนี้น่าจะมีเยอะอยู่

ไลน์สุดท้ายคือ ไอศกรีม ส่วนนี้ไม่ได้ลองเลยไม่ทราบว่ารสชาติเป็นอย่างไร

พอชมไลน์ และหยิบของที่ต้องการเสร็จก็กลับมาที่โต๊ะ

ส่วนด้านล่างนี่คือที่โต๊ะครับ ลูกค้าทุกคนจะมีหม้อของใครของมัน และนั่งหันหน้าชนกับชาวบ้านด้วย ท่านที่มาเป็นกลุ่มและอยากได้ความเป็นส่วนตัว อาจจะไม่เหมาะกับร้านนี้เท่าไร เพราะร้านนี้เราต้องนั่งติดกับคนอื่นครับ

เอาละเริ่มต้น “ทดลอง” ปรุงน้ำซุปเสียที ทางร้านบอกว่า ถ้าปรุงแล้วรสชาติกินไม่ได้ สามารถเปลี่ยนได้ในทันที ไม่ต้องกินให้หมด พอเปิดถาดออกมาก็เจอสิ่งนี้อยู่ ผมเลือกน้ำซุปหมาล่ามาลองก่อนเป็นรสชาติแรกครับ

หลังจากนั้นก็เทเครื่องใส่ลงไปในน้ำซุป base ที่ให้มาอยู่แล้วครับ รูปด้านล่างที่เพิ่งเทไปหมาดๆ เลย

ผ่านไปสักพักน้ำซุปก็จะสีเข้มขึ้น ตามเครื่องเทศของหมาล่า

มาถึงโซนเนื้อสัตว์กันบ้าง เนื้อสัตว์มี เนื้อออสเตรเลียที่สามารถเลือกได้ว่าจะเอาแบบมันมากหรือมันน้อย และหมูคุโรบูตะ และสุดท้ายคือแฮมไก่ครับ นี่คือเนื้อสัตว์ทั้งหมดที่มี นอกจากนี้คือลูกชิ้นแล้วครับ ส่วนซีฟู้ดร้านนี้ไม่มีครับ

ส่วนถัดมาน่าจะเป็น หมูคุโรบูตะ

พอน้ำเริ่มจะได้ที่แล้ว (สีเริ่มเข้ม) ผมก็ลองใส่เนื้อลงไป

ปรากฏว่าเนื้อของร้านนี้คุณภาพใช้ได้เลยครับ ไม่เหนียวเลยทำให้กินได้เรื่อยๆ แต่เหมือนว่าหมาล่านี่ผมยิ่งปรุงแล้วยิ่งเละ ไม่อร่อยเลย 555 ผมเคยขอพนักงานเปลี่ยนน้ำซุปครับ

น้ำซุปหน้าใหม่ที่ได้ลองคือ น้ำซุปแจ่ว และน้ำซุปสุกี้ยากี้ (น้ำซุปหลังนี่ไม่มีรูปนะครับ กินเพลินๆ ลืมไปจริงๆ)

ด้านล่างนี่คือน้ำซุปแจ่วครับ ผมว่าอร่อยดีนะตัวนี้

ที่ฟินจริงๆ ของร้านนี้เหมือนจะเป็นรูปด้านล่าง นี่คือ เนื้อจิ้มไข่ลวกแบบออนเซ็นครับ ไข่ลวกของร้านนี้นี่ ผมชอบมาก ผมว่าเค้าลวกมาได้แบบไร้ที่ติ ไม่สุกเกินไป ไม่ดิบเกินไป อยู่ระหว่างกลางที่ยอดเยี่ยมพอดิบพอดี

ใครเป็นตัวจริงเรื่องจิ้มไข่ นี่ผมบอกเลยว่าคงจิ้มกันรัวๆ ถ้าหมดไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มเหมือนบางร้านด้วยนะครับ จะกินเท่าไรก็ได้

ที่มาของความฟินอีกอย่างคือ น้ำจิ้มชีสครับ จริงๆมันก็ชีสทั่วไปนี่แหละครับ น้ำจิ้มนี่เหมือนจะ popular เพราะในขวดเหลือน้อยสุดเลย

โดยรวมก็เท่านี้แหละครับ หลังจากนี้เราก็เปลี่ยนน้ำและน้ำจิ้ม และลองปรุงโน่นนี่ไปเรื่อย ซึ่งเอาเข้าจริง ความอร่อยไม่อร่อยนี่ขึ้นอยู่กับฝีมือเราล้วนๆ จริงๆ แต่ใครไม่ปรุงเองไม่น่ารอดนี่บอกให้พนักงานช่วยได้นะครับ ผมก็ให้เค้าทำให้เหมือนกัน 555 ที่นี่พนักงานเอาใจใส่ดูแลดีมาก และรวดเร็วด้วยครับ

ร้านนี้ค่อนข้างเป็นที่นิยมในหมู่นิสิตและนักศึกษา ตลอดจนนักเรียนทั่วไป และด้วยความที่สามารถกินได้ไม่จำกัดเวลาด้วย ทำให้ถ้ามากลุ่มใหญ่ อาจจะต้องรอนานหน่อยครับ ไม่งั้นก็มาตั้งแต่ร้านเปิดใหม่ๆ เลย แต่ถ้ามาคนเดียวโดดๆ นี่สบายครับ

อย่างไรก็ตาม ร้านนี้ไม่เหมาะกับท่านที่ต้องการเน้นกินแบบให้อร่อยสุดๆ เพราะถ้าว่ากันตามตรงแล้ว รสชาติน้ำซุปของร้านนี้ (แม้พนักงานจะปรุงให้ก็ตาม) ไม่สามารถสู้กับร้านดังอื่นๆ ได้ ยกเว้นว่าท่านจะปรุงเองได้เทพจริงๆ ครับ

ติดตามเว็บไซต์ของทางร้านได้ที่นี่ครับ

ดูรายชื่อและรีวิวร้านอาหารน่าลองในกรุงเทพและปริมณฑลได้ ที่นี่

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!