อาหารเนื้อวากิว (Wagyu) จากจังหวัดไหนในญี่ปุ่นที่คนรักเนื้อไม่ควรพลาด?

เนื้อวากิว (Wagyu) จากจังหวัดไหนในญี่ปุ่นที่คนรักเนื้อไม่ควรพลาด?

เนื้อวากิว (Wagyu) เป็นหนึ่งในวัตถุดิบขึ้นชื่อของญี่ปุ่น และเป็นที่ชื่นชอบโดยทั่วไปโดยคนรักเนื้อ โดยเฉพาะสาวกปิ้งย่าง (ผมก็ชอบครับ) ทั้งนี้คำว่า “วา” คือประเทศญี่ปุ่น ส่วนคำว่ากิวแปลว่าเนื้อวัวนั่นเองครับ

หากแต่ว่าจริงๆ แล้วเนื้อวากิวมีหลายชนิดด้วยกัน นอกจากจะแยกเป็นเกรด A1-A5 แล้ว เนื้อวากิวยังสามารถถูกจำแนกเป็นแบรนด์ที่มาจากจังหวัดต่างๆ ได้อีกด้วย อย่างเช่นเนื้อโกเบ (Kobe beef) จากจังหวัด Hyogo เป็นต้น ปัจจุบันญี่ปุ่นมีแบรนด์เนื้อวากิวมากถึง 200 แบรนด์ด้วยกัน

ในโพสนี้เราจะมาดูกันว่าเนื้อวากิว (Wagyu) จากจังหวัดไหนที่คุณไม่ควรพลาดบ้างครับ

1. Kobe Beef

Kobe Beef หรือเนื้อโกเบ น่าจะเป็นเนื้อวากิวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดนอกประเทศญี่ปุ่น โดยเนื้อชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดจากเมืองโกเบซิตี้ เมืองท่าขนาดใหญ่และเมืองหลวงของจังหวัด Hyogo

Kobe Beef Image by Jason Goh from Pixabay

ทั้งนี้วัวที่ให้เนื้อโกเบคือ วัวตัวผู้สีดำ (Kuroge) สายพันธุ์ทาจิมา (Tajima) แต่กรรมวิธีในการเลี้ยงวัวให้ได้เนื้อโกเบที่ดีไม่ใช่เรื่องง่ายเลย วัวแต่ละตัวจะถูกป้อนข้าวและข้าวโพดที่คัดมาพิเศษในจำนวนที่เหมาะสมเท่านั้น เพื่อให้ลายของเนื้อออกมาสวยงาม และได้คะแนน BMS (Beef Marbling Score) มากกว่า 6 คะแนนจากคะแนนเต็ม 12 คะแนนครับ

เนื้อโกเบเป็นหนึ่งในสามเนื้อวากิวสุดยอดของญี่ปุ่น นั่นก็คือเนื้อโกเบ เนื้อมัตสึซากะและเนื้อโอหมินั่นเองครับ

เนื้อโกเบเป็นเนื้อวากิวที่ผมชอบเป็นอันดับต้นๆ โดยเฉพาะเนื้อระดับ A4-A5 ที่บอกเลยว่าอร่อยจนลืมโลกจริงๆ ครับ

2. Matsusaka Beef

Matsusaka Beef เป็นแบรนด์เนื้อวากิวที่มาจากหุบเขาฟูกาโน (Fukano Valley) ใกล้กับเมืองมัตสึซากะ ในจังหวัดมิเอะ (Mie) เนื้อชนิดนี้เป็นที่นิยมในญี่ปุ่นมากกว่าในต่างประเทศ ส่วนหนึ่งเพราะสถานที่ผลิตค่อนข้างกันดาร ทำให้ส่งออกยากกว่าเนื้อโกเบ อีกสาเหตุหนึ่งก็คือปริมาณความต้องการในประเทศสูงมาก ทำให้ไม่มีความจำเป็นต้องส่งออกครับ

เนื้อมัตสึซากะมาจากวัวสีดำสายพันธุ์ Tajima เช่นเดียวกับเนื้อโกเบ แต่วัวที่ใช้จะเป็นวัวตัวเมียที่มีอายุสามปีเท่านั้น วัวเหล่านี้จะได้รับการประคบประหงมอย่างสุดยอด เช่นให้ดื่มเบียร์หรือแม้กระทั่งนวดตามตัวของมัน เซียนสายเนื้อบางคนจะชอบเนื้อมัตสึซากะมากกว่าเนื้อโกเบเพราะว่ามีรสชาติมากกว่าครับ แต่ตัวผมกลับชอบเนื้อโกเบมากกว่า 555

3. Omi Beef

Omi Beef หรือเนื้อโอหมิ เป็นเนื้อวากิวที่มาจากจังหวัดชิกะ (Shiga) ซึ่งในอดีตพื้นที่ของจังหวัดชิกะในปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดโบราณชื่อว่าโอหมิ เนื้อวากิวที่มาจากจังหวัดนี้จึงยังใช้ชื่อเดิมโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด

ความเป็นมาของเนื้อโอหมิอาจจะเรียกได้ว่าเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น เพราะอาจจะย้อนไปได้ถึงสมัยศตวรรษที่ 16 เลยทีเดียว นอกจากนี้ในสมัยที่โชกุนโตกุกาวะปกครองญี่ปุ่น เนื้อโอหมิที่ถูกหมักอย่างดีจะถูกส่งให้กับโชกุนรับประทานเพราะมีความเชื่อว่าเนื้อชนิดนี้เป็นอาหารบำรุงสุขภาพชั้นดีครับ

เนื้อโอหมินี้มาจากวัวสีดำสายพันธุ์ทาจิมะและได้รับการจัดอันดับว่าเป็นสามสุดยอดเนื้อวากิว เช่นเดียวกับเนื้อโกเบ และเนื้อมัตสึซากะ แต่วิธีการเลี้ยงที่แตกต่างทำให้รสชาติของเนื้อต่างออกไปด้วย โดยเนื้อโอหมิจะมีรสชาติหวานกว่าอีกเนื้ออีกสองชนิดครับ

โดยส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบเนื้อโอหมิเท่าไร แม้ว่าจะเป็น A5 ก็ตาม เพราะว่าเลี่ยนเกินไปสำหรับผมครับ

4. Yonezawa Beef

ถ้าไม่นับเนื้อวากิวระดับสุดยอดทั้งสามแล้ว ความสุดยอดของเนื้อโยเนะซาว่า (Yonezawa Beef) จากจังหวัดยามากาตะ (Yamagata) ถือว่าไม่แพ้ใครในญี่ปุ่น บางครั้งเนื้อโยเนะซาว่ากลับได้รับการจัดอันดับเป็น 1 ใน 3 แทนที่เนื้อโอหมิด้วยซ้ำไป

เนื้อโยเนะซาว่าได้มาจากวัวตัวเมียที่ไม่เคยคลอดลูกมาก่อน และมีอายุเฉลี่ย 32 เดือน เนื้อชนิดนี้จะมีสัดส่วนของไขมันและเนื้อที่พอเหมาะ ทำให้เนื้อเกรด A5 สามารถละลายในปากได้เลยครับ

5. Miyazaki Beef

Miyazaki Beef เป็นเนื้อวากิวที่มีที่มาจากจังหวัดมิยาซากิ (Miyazaki) ซึ่งเป็นจังหวัดที่ส่งออกเนื้อวัวเป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น เนื้อวากิวชนิดนี้ได้มาจากวัวสีดำเช่นเดียวกับเนื้อโกเบ และมีวิธีการเลี้ยงที่พิถีพิถันไม่ต่างกัน

แม้ว่าจะไม่ได้รับการจัดอันดับอยู่ในสามสุดยอด แต่เนื้อมิยาซากิก็ชนะการแข่งขันโอลิมปิกอาหารที่จัดขึ้นทุก 5 ปีในญี่ปุ่นมาถึงสามครั้งแล้วครับ ทำให้คุณมั่นใจได้เลยว่าเนื้อมิยาซากิไม่ได้ด้อยกว่าเนื้อวากิวใดๆ ในญี่ปุ่นอย่างแน่นอน

6. Hida Beef

Hida Beef หรือเนื้อฮิดะ เป็นเนื้อที่มาจากเมืองทาคายามา (Takayama) ในจังหวัดกิฟุ (Gifu) ดินแดนที่มีน้ำใสและภูเขาสวยของญี่ปุ่น ทั้งนี้เนื้อฮิดะได้มาจากวัวสีดำเช่นเดียวกัน และมีลายหินอ่อนสวยงามแทบจะทุกด้านครับ

ต้นกำเนิดของเนื้อฮิดะมีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย เพราะในปี ค.ศ.1981 มีชาวบ้านคนหนึ่งนำวัวตัวผู้สีดำชื่อ “ยากุฟุคุ (Yasufuku)” มาจากจังหวัด Hyogo ที่ให้กำเนิดเนื้อโกเบมายังจังหวัดกิฟุ

หลังจากนั้นชาวบ้านในจังหวัดกิฟุจึงช่วยกันเพาะพันธุ์เนื้อวากิวของตนเองขึ้นมาบ้าง โดยใช้สเปิร์มของวัวตัวนี้ ทำไปทำมาเจ้าวัวตัวนี้ให้กำเนิดวัวอีกมากถึง 40,000 ตัวซึ่งให้เนื้อฮิดะนั่นเองครับ

7. Kagoshima Beef

Kagoshima Beef เป็นเนื้อวากิวที่มาจากจังหวัดคาโกะชิมา (Kagoshima) จังหวัดที่เป็นมหาอำนาจในการส่งออกเนื้อสัตว์ของญี่ปุ่น โดยเนื้อวากิวประมาณ 20% ล้วนแต่มีที่มาจากจังหวัดแห่งนี้ครับ

เช่นเดียวกับเนื้อวากิวอื่นๆ เนื้อคาโกะชิมาได้มาจากวัวสีดำเช่นเดียวกัน และได้รับการยกย่องว่ามีลายสวยงาม มีความนุ่มเหมาะต่อการกินเป็นชาบู รวมไปถึงมีรสชาติที่กลมกล่อมครับ

8. Kumamoto Akaushi

Kumamoto Akaushi เป็นเนื้อวากิวที่ต่างจากชนิดอื่นอย่างชัดเจน เพราะว่าเนื้อที่ได้มาจากวัวญี่ปุ่นสีน้ำตาล ต่างจากชนิดอื่นที่มาจากวัวสีดำ ที่มาของเนื้อชนิดนี้คือเมืองคุมาโมโตะ (Kumamoto) ในเกาะคิวชูครับ

จุดเด่นของเนื้อวากิวชนิดนี้คือ ไขมันอาจจะไม่เท่ากับชนิดอื่น แต่ก็มีความนุ่มละมุนลิ้น ตลอดจนกลิ่นและรสชาติที่กลมกล่อม เนื้อชนิดนี้นิยมนำมาย่างเพื่อรับประทานครับ

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!