ประวัติศาสตร์ความรักและชีวิตที่ต้องฝ่าฟันของ "จักรพรรดินีมิจิโกะ"

ความรักและชีวิตที่ต้องฝ่าฟันของ “จักรพรรดินีมิจิโกะ”

ในวันนี้จักรพรรดิอากิฮิโต (Emperor Akihito) ทรงสละราชสมบัติอย่างเป็นทางการ หลังจากครองราชย์มานาน 30 ปี ข้างกายของพระจักรพรรดิทรงมีจักรพรรดินีมิจิโกะประทับอยู่เคียงข้างตลอดเวลา พระนางเป็นคู่คิดคนสำคัญของพระองค์ และมีบทบาทสำคัญยิ่งในการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของสถาบันกษัตริย์ญี่ปุ่นจากหน้ามือเป็นหลังมือ

หากแต่ว่าชีวิตในวังของจักรพรรดินีมิจิโกะไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะเธอเคยเป็นสามัญชนคนธรรมดา ผู้ไม่มีเชื้อสายจักรพรรดิหรือชนชั้นนำของญี่ปุ่นเลยแม้แต่น้อย เธอต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ มากมาย อย่างที่ผมจะเล่าต่อไป

วัยเยาว์

ชื่อเดิมขององค์จักรพรรดินีคือ มิจิโกะ โชดะ ครอบครัวของเธอเป็นครอบครัวสามัญชนที่มีฐานะร่ำรวยมาก ฮิเดซาบุโระ โชดะ บิดาของเธอเป็นประธานของบริษัท Nisshin Milling Company บริษัทแป้งขนาดใหญ่ในญี่ปุ่น (ทุกวันนี้ยังอยู่ในดัชนี Nikkei 225) ส่วนมารดาของเธอชื่อ ฟูมิโกะ โซเอจิมา

มิจิโกะเป็นบุตรคนที่สองของครอบครัวที่มีความเชื่อทางศาสนาเบนไปทางคริสตจักรคาทอลิก เราไม่แน่ชัดว่าบิดาและมารดาของมิจิโกะเป็นชาวคริสต์อย่างเต็มตัวเลยหรือไม่ แต่มิจิโกะไม่เคยได้รับการทำพิธีเพื่อเป็นชาวคริสต์แต่อย่างใด

มิจิโกะในวัยเด็ก

การที่ครอบครัวค่อนข้างนับถือศาสนาคริสต์ทำให้มิจิโกะมีโอกาสได้รับการศึกษาทั้งสองแบบ นั่นคือแบบญี่ปุ่น และแบบตะวันตกด้วย เธอสามารถพูดภาษาอังกฤษและสามารถเล่นเปียโนได้อย่างคล่องแคล่ว

หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 มิจิโกะได้เข้าเรียนระดับชั้นมัธยมในโรงเรียน Sacred Heart ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือข่ายโรงเรียนของคริสตจักรคาทอลิกในญี่ปุ่น ต่อมาเธอก็ได้เข้าศึกษาระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยของเครือ Sacred Heart อีกเช่นเดียวกัน (University of the Sacred Heart)

มิจิโกะเป็นคนที่เรียนเก่งมาก เธอจบการศึกษาด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง (Summa Cum Laude) ในวรรณกรรมอังกฤษ ในปี ค.ศ.1957 นอกจากนี้เธอยังเป็นประธานของสภานักศึกษาอีกด้วย

พบรักที่สนามเทนนิส

ครอบครัวโชดะเป็นตระกูลที่ร่ำรวยมาก บิดามารดาของเธอจึงพิถีพิถันอย่างมากกับการเลือกคู่ครองให้กับมิจิโกะ เพราะมีชายหนุ่มหลายคนที่มาจากตระกูลที่ดีที่อยากจะแต่งงานกับมิจิโกะ แต่ครอบครัวของเธอก็ยังไม่ได้ตอบรับใครสักคนเดียว

แต่แล้วโชคชะตาก็ได้กำหนดให้เธอพบกับคู่ครองของเธอ เขาเป็นชายหนุ่มที่มีฐานันดรศักดิ์อย่างที่เธอไม่คาดคิด

ชายผู้นั้นคือ มงกุฎราชกุมารอากิฮิโต แห่งราชวงศ์อิมพิเรียลของญี่ปุ่น!

ในเดือนสิงหาคม ค.ศ.1957 มิจิโกะได้ไปเล่นเทนนิส กีฬาโปรดของเธอที่คารุยซาว่าใกล้กับเมืองนากาโน เธอและเพื่อนของเธอได้แข่งเทนนิสแบบเป็นคู่กับมงกุฎราชกุมารอากิฮิโตและเพื่อนของพระองค์ ปรากฏว่าคู่ของมิจิโกะเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้

(ผมไม่แน่ใจว่ารูปติดลิขสิทธิ์หรือไม่ เลยขอไม่ลง ท่านที่สนใจไปตามดูได้ ที่นี่)

หลังจากนั้นทั้งสองก็ได้เริ่มพูดคุยและสนิทสนมกันบ่อยครั้งขึ้น ความสัมพันธ์ก็เริ่มที่จะแปรเปลี่ยนเป็นความรักในที่สุด

มิจิโกะในปี ค.ศ.1958

การแต่งงาน

หากแต่ว่าความรักทั้งสองไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ราชวงศ์ญี่ปุ่นในขณะนั้นยังอยู่ในสถานะเทพเจ้า ผู้คนจำนวนมากที่ผ่านยุคก่อนมายังเคารพนับถือพระองค์อยู่มาก เหล่าสมาชิกราชวงศ์ก็มีค่านิยมว่า พระราชโอรสจะต้องแต่งงานกับชนชั้นสูงด้วยกันเท่านั้น เรียกได้ว่าแนวคิดยังเป็นแบบอนุรักษ์นิยมสุดโต่ง

ถึงแม้ครอบครัวมิจิโกะจะมีฐานะดี แต่ครอบครัวของเธอก็มิใช่ชนชั้นสูงอันเก่าแก่ แถมครอบครัวของเธอยังมีความเชื่อเอียงไปทางศาสนาคริสต์อีก ทำให้พวกหัวเก่าเคร่งศาสนาชินโตยากที่จะรับได้

หากแต่ว่ามงกุฎราชกุมารอากิฮิโตก็ทรงพยายามทำทุกวิถีทางที่จะทำให้พระองค์ได้แต่งงานกับมิจิโกะ พระองค์สามารถทำให้พระจักรพรรดิฮิโรฮิโต พระบิดาของพระองค์อนุญาตได้สำเร็จ ถึงกระนั้นจักรพรรดินีโคจุน พระมารดาที่เคยเป็นเจ้าหญิงก็ยังคัดค้านที่มงกุฎราชกุมารอากิฮิโตก็ยังคัดค้านอยู่ดี

อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วสำนักพระราชวังญี่ปุ่นก็ได้อนุญาตให้มงกุฎราชกุมารอากิฮิโตอภิเษกสมรสกับมิจิโกะได้ แต่มิจิโกะเล่าอยากจะสมรสกับพระองค์รึเปล่า

จักรพรรดิอากิฮิโตทรงเคยให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมาว่า

เราพูดคุยกันทางโทรศัพท์หลายครั้งก่อนที่เธอจะยอมรับ มันไม่ได้เรียบง่ายเหมือนกับการขอแค่ครั้งเดียว ในการพูดคุยของเราหลายครั้ง ฉันได้บอกเธอว่าในการที่ฉันจะปฏิบัติหน้าที่มงกุฎราชกุมารได้ ฉันต้องการคนที่เข้าใจความหมายและความสำคัญของหน้าที่เหล่านี้ และสามารถสนับสนุนฉันได้ ฉันดีใจจริงๆ เมื่อเธอตอบรับ (คำขอแต่งงาน)

จักรพรรดิอากิฮิโตให้สัมภาษณ์ต่อหนังสือพิมพ์ Yomiuri Shimbun

ทั้งสองเข้าพิธีอภิเษกสมรสกันอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 มกราคม ค.ศ.1959 งานถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ชาวญี่ปุ่นเองก็ตื่นเต้นมาก ในงานพระราชพิธีมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 500,000 คน ส่วนอีก 15 ล้านคนดูถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ ชาวญี่ปุ่นนับล้านถึงกับซื้อโทรทัศน์เพื่อดูพระราชพิธีโดยเฉพาะ

รูปภาพของครอบครัวในวันแต่งงาน

หลังจากการแต่งงาน สถานะของเธอจึงเป็นเจ้าหญิงมิจิโกะ พระชายาของมงกุฎราชกุมารอากิฮิโต

ชีวิตในกรงทอง

การเข้ามาอยู่ในพระราชวังของเจ้าหญิงองค์ใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย ภาระหน้าที่แรกๆ ของเธอก็คือ การมีโอรสเพื่อสืบต่อบัลลังก์ต่อไป ในเรื่องนี้เธอแทบจะไม่มีปัญหาใดๆ เจ้าหญิงมิจิโกะทรงให้กำเนิดโอรสองค์แรกหลังจากอภิเษกสมรสได้ไม่นาน พระโอรสองค์นี้คือ เจ้าชายนารุฮิโต (ปัจจุบันกำลังจะเป็นจักรพรรดิพระองค์ใหม่)

ถึงแม้จะมีพระโอรสอย่างรวดเร็ว มิจิโกะต้องเผชิญกับธรรมเนียมและค่านิยมต่างๆ ในวัง โดยเฉพาะแรงกดดันที่มาจากจักรพรรดินีโคจุน พระมารดาของพระสวามีของเธอ (แม่สามี) เรื่องนี้ได้ถูกเผยแพร่ออกมาว่า เจ้าหญิงพระองค์ใหม่มักจะถูกค่อนขอดจากจักรพรรดินีโคจุนและพวกหัวเก่าอยู่เสมอว่า เธอไม่คู่ควรกับตำแหน่งนี้

ครอบครัวของมงกุฎราชกุมารอากิฮิโตและเจ้าหญิงมิจิโกะ Cr: Ministry of Foreign Affairs of Japan

แน่นอนว่ามิจิโกะต้องพยายามอดทนและต่อสู้กับแรงกดดันที่ถาโถมเข้ามาที่ตัวเธอ บ่อยครั้งแรงกดดันจากจักรพรรดินีโคจุนและพวกขวาจัดทำให้เธอเครียดอย่างมาก ความเครียดเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้มิจิโกะแท้งบุตรในปี ค.ศ.1963

หากแต่ว่านั่นไม่ได้แปลว่า เธอไม่ได้ต่อสู้กับแรงกดดันเหล่านี้ และเธอก็ได้รับชัยชนะเสียด้วย เธอเลือกที่จะฝ่าฝืนธรรมเนียมเดิมๆ และเลี้ยงดูโอรสธิดาทั้งสามของเธอด้วยตนเอง แทนที่จะมอบให้แม่นมหรือข้าราชบริพารเป็นผู้เลี้ยงดูเหมือนกับที่เป็นมา

การเปลี่ยนทัศนคติ

เมื่อเวลาผ่านไป เจ้าหญิงมิจิโกะยังโดนโจมตีอยู่บ่อยครั้งโดยสื่อฝั่งขวาที่คาดหวังว่าจักรพรรดิและครอบครัวจะต้องสูงส่ง ห้ามไม่ให้มีใครแตะต้อง เมื่อเจ้าหญิงมิจิโกะมาจากสามัญชน พวกสื่อจึงโจมตีและกดดันเธอเป็นการใหญ่ อาทิเช่น

พวกเขาโจมตีเธอว่า “ไม่มีความคิด” เพราะว่าเธอ

  • เถียงพระสวามี
  • ให้ข้าราชบริพารนำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาให้เธอกลางดึก
  • ให้พนักงานตัดต้นไม้เก่าแก่บางต้นที่พระสวามีโปรดปราน

ข้อกล่าวหาทั้งหมดฟังดูแย่สำหรับพวกหัวเก่าญี่ปุ่นที่มีค่านิยมเดิมๆ ว่าสตรีต้องเชื่อฟังสามี

แต่สำหรับเจ้าหญิงและพระสวามีไม่ได้มีแนวคิดหัวเก่า ทั้งสองกลับพยายามทำตรงกันข้ามกับสิ่งที่พวกเขาคาดหวังเพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ๆ สำหรับราชวงศ์ญี่ปุ่น ทั้งสองต้องการให้ผู้คนทั่วไปเห็นว่า พวกเขาก็เป็นครอบครัวญี่ปุ่นครอบครัวหนึ่งเท่านั้น

นอกจากจะเลี้ยงดูโอรสธิดาเองแล้ว ทั้งสองพระองค์ยังเสด็จไปเยี่ยมเยียนประชาชนในจังหวัดต่างๆ ของญี่ปุ่นโดยไม่ถือพระองค์ เหล่าสามัญชนจึงรักทั้งสองพระองค์มาก ชาวญี่ปุ่นมองเจ้าหญิงมิจิโกะว่าเป็นสัญลักษณ์ของยุคใหม่ของญี่ปุ่นที่ก้าวไปสู่ความทันสมัยและประชาธิปไตย

ถึงแม้กระแสสนับสนุนมากมาย แต่คนรอบตัวที่เป็นคนหัวเก่าก็ยังต่อต้านมิจิโกะ องค์จักรพรรดินีเคยให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมาว่า เธอเสียใจและรู้สึกผิดที่ทำไม่ได้ตามที่พวกเขาคาดหวังและต้องการ มันทำให้รู้สึกเศร้าและวิตกกังวลมาก แต่ท้ายที่สุดแล้วเธอก็ผ่านมันมาได้

ถึงกระนั้นเธอเองก็คิดถึงชีวิตสามัญชนไม่น้อย เธอเล่าว่าเธออยากจะมีเสื้อโค้ทล่องหนสักตัวหนึ่ง เธอจะได้สวมใส่มันและเดินไปร้านหนังสือโดยที่ไม่มีใครเห็น

ครอบครัวราชวงศ์ญี่ปุุ่น

จักรพรรดินีมิจิโกะ

จักรพรรดิฮิโรฮิโตสวรรคตในปี ค.ศ.1989 พระสวามีของมิจิโกะจึงครองราชย์สืบต่อเป็นจักรพรรดิอากิฮิโต มิจิโกะเองจึงได้ขึ้นเป็นจักรพรรดินีด้วย

จักรพรรดินีมิจิโกะทรงเริ่มต้นความพยายามต่อไปด้วยการเสด็จไปเยี่ยมเยือนสถานที่ต่างๆ กับพระสวามีเพื่อที่จะใกล้ชิดประชาชนมากยิ่งขึ้น ทั้งสองพระองค์ไม่ได้ฟุ้งเฟ้อ ทรงใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ใช้พระราชทรัพย์เท่าที่จำเป็น และทำงานหนักในฐานะสัญลักษณ์ของประเทศที่อยู่ในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีภัยพิบัติบ่อยครั้ง แต่จักรพรรดิและจักรพรรดินีก็มิได้ทรงเกรงกลัว ทั้งสองเสด็จไปเยี่ยมเยือนผู้ประสบภัยหลายต่อหลายครั้ง เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่ชาวบ้านและพนักงาน การเสด็จออกไปหาผู้ประสบภัยกลายเป็นสัญลักษณ์ของรัชกาลของจักรพรรดิอากิฮิโตเลยทีเดียว

ภาพการเสด็จไปเยี่ยมเยือนประชาชนตอนเกิดสึนามิใหญ่ ดูได้ที่นี่

ภาพลักษณ์ของสถาบันกษัตริย์ญี่ปุ่นในระยะหลังจึงไม่ได้ห่างเหิน หรือ มีสถานะเป็นเทพเจ้าเหมือนแต่ก่อน ประชาชนสามารถเข้าถึงจักรพรรดิและจักรพรรดินีได้ง่าย ด้วยเหตุนี้ทำให้ชาวญี่ปุ่นรักและเทิดทูนจักรพรรดิและจักรพรรดินีของพวกเขามาก ชาวญี่ปุ่นมองจักรพรรดินีมิจิโกะเป็นสัญลักษณ์ของความมัธยัสถ์และความบริสุทธิ์

ในวันนี้ (30/4/19) จึงเป็นวันสุดท้ายของการเป็นจักรพรรดินีของจักรพรรดินีมิจิโกะ ชาวญี่ปุ่นต่างคาดหวังให้พระนางและพระสวามีทรงพักผ่อนอย่างมีความสุข

จักรพรรดิอากิฮิโต และจักรพรรดินีมิจิโกะ

บทความประวัติศาสตร์

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!