ประวัติศาสตร์การรุกรานจักรวรรดิอินคาของชาวสเปน (3): พบกันครั้งแรก

การรุกรานจักรวรรดิอินคาของชาวสเปน (3): พบกันครั้งแรก

ตอนที่ 1 อยู่ที่นี่

หลังจากอตาฮวลปามีชัยในสงครามกลางเมืองแล้ว เขาก็ได้ทราบข่าวว่ามีผู้รุกรานต่างถิ่นกำลังเดินทางเข้ามาในดินแดนของพวกเขา พวกนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากกองทัพสเปนจำนวน 168 นายที่นำมาโดย ฟรานซิสโก ปิซาร์โร

ปิซาร์โรได้รับอนุญาตจากกษัตริย์สเปนให้พิชิตอาณาจักรอินคามาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตัวเขาจึงมีความต้องการที่จะพิชิตอินคาให้ได้เหมือนกับที่คอร์เตส ญาติของเขาพิชิตอาณาจักรแอซแทคมาแล้ว

กองทัพอันน้อยนิดของปิซาร์โรปีนป่ายเทือกเขาแอนดีสลงมาถึงพื้นที่บริเวณเมือง Cajamarca ใกล้กับบริเวณที่อตาฮวลปา ว่าที่จักรพรรดิอินคาพระองค์ใหม่กำลังประทับอยู่

ถึงเวลาแล้วที่ทั้งสองฝ่ายจะได้พบกับ “ชนต่างถิ่น” เสียที

เมือง Cajamarca ในประเทศเปรูในปัจจุบัน By Photo by J. Stander

ปัญหาทางภาษา

พวกสเปนเดินทางเข้าในเมือง Cajamarca พวกเขาบันทึกไว้ว่าศูนย์กลางของเมืองมีขนาดใหญ่กว่าเมืองใดๆ ในสเปน แต่ในเมืองแทบไม่มีคนอาศัยอยู่เลย เพราะสงครามกลางเมืองที่เพิ่งเกิดขึ้นหมาดๆ ทำให้ผู้คนหลบหนีออกนอกเมืองไปกันหมด

เหล่านักรบ Conquistador จึงเข้าอยู่ในบ้านหลายแห่งบริเวณศูนย์กลางของเมือง ปิซาร์โรทราบมาว่าอตาฮวลปา ว่าที่จักรพรรดิอินคาอยู่แถวๆ นั้น เขาจึงส่งเออร์นันโด เดอ โซโท (Hernando de Soto) นายทหารวัย 32 ปี พร้อมกับทหารอีกสิบห้านาย เข้าไปทูลเชิญอตาฮวลปาให้มาพบกัน

โซโท ผู้นี้เป็นนักรบ Conquistador ที่มีประสบการณ์สูงมาก เขาเคยสู้รบประมือกับชนพื้นเมืองในทวีปอเมริกามาแล้วหลายครั้ง เขาเป็นคนกล้าหาญและทะเยอทะยาน ดังนั้นหน้าที่นี้ย่อมเหมาะกับเขาที่สุด

เออร์นานโด เดอ โซโท

เมื่อโซโทเข้าไปใกล้ค่ายของอินคา ทหารราบอินคานับพันคนมองมาที่โซโทอย่างสงบนิ่ง พวกเขามองเห็นชนต่างถิ่นไว้หนวดกำลังขี่สัตว์ตัวโตชนิดหนึ่งอยู่ที่พวกเขาไม่ทราบว่าเป็นอะไร

โซโทได้ทิ้งทหารส่วนใหญ่ไว้ที่หน้าค่าย เขานำล่ามชื่อ Felipillo พร้อมกับทหารอีกสองนายเข้าไปในค่ายของอินคา โซโทสังเกตได้ว่าใครคืออตาฮวลปา เขาจึงขี่ม้าตรงไปหาพระองค์ทันที และว่ากล่าวสารที่เข้าเตรียมมาด้วยเสียงอันดัง

Felipillo ผู้เป็นล่ามจึงเริ่มแปลคำพูดของโซโท สารของพวกสเปนมีเนื้อหาสำคัญว่า

ชาร์ลส์ที่ 5 กษัตริย์แห่งสเปนผู้ยิ่งใหญ่ได้ส่งพวกเขามาสอนสั่งให้อตาฮวลปา และชาวอินคาอื่นๆ ให้ทราบถึงพระผู้เป็นเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้กษัตริย์แห่งสเปนยังได้ส่งพวกเขามาเพื่อสร้างความเป็นมิตร ความเป็นพี่น้อง และมิตรภาพ อันยั่งยืนต่อไปชั่วกาลนาน ถ้าอตาฮวลปาอนุญาต พวกเขาจะรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง

แต่ปัญหาก็ได้เกิดขึ้นในบัดดล

ตัว Felipillo ผู้เป็นล่ามนี้เป็นชาวพื้นเมืองในอเมริกากลาง ตัวเขาไม่ใช่คนสเปนหรือคนอินคา เขายังเป็นชนชั้นล่างที่ไม่เข้าใจภาษาระดับการทูต ตัวเขาเคยเรียนภาษาของชาวอินคามาอย่างงูๆ ปลาๆ ในเมืองชายแดนอันห่างไกลอย่าง Tumbez ส่วนภาษาสเปนเองก็ไม่ใช่ภาษาแม่ของเขา เขาเรียนภาษาสเปนจากการที่ได้ยินพวกสเปนพูด ซึ่งบางคำก็เป็นภาษาหยาบกระด้างอีกด้วย

ดังนั้นเชื่อได้เลยว่า Felipillo อ่อนด้อยทั้งสองภาษา เขาน่าจะพูดภาษาทั้งสองได้แบบงูๆปลาๆ คนผู้นี้จึงไม่สมควรมาเป็นล่ามในสถานการณ์แบบนี้เลยโดยสิ้นเชิง

เรามั่นใจได้เลยว่าภาษาที่ Felipillo ใช้ไม่น่าจะเป็นสิ่งที่โซโทต้องการจะสื่ออย่างแน่นอน

ระหว่างที่ Felipillo กำลังแปลอยู่นั้น อตาฮวลปามองพื้นอยู่ตลอดเวลา เมื่อแปลเสร็จเรียบร้อยแล้ว โซโทจึงยืนรอด้วยความสงบนิ่ง เพื่อรอฟังว่าอตาฮวลปาจะว่าอย่างไร

แต่แล้วพวกเสนาบดีที่รายล้อมอตาฮวลปากลับบอกว่า อตาฮวลปาไม่รับแขกแล้ว เพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เขากำลังปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา

ปะทะคารม

จังหวะนี้เองเออร์นันโด ปิซาร์โร (Hernando Pizarro) น้องชายของฟรานซิสโก ปิซาร์โร นำกำลังทหารสเปนส่วนหนึ่งมาสมทบตามคำสั่งของพี่ชาย เพราะฟรานซิสโกเห็นว่าโซโทไปนานแล้วยังไม่กลับ เลยเกรงว่าจะเป็นอันตราย

โซโทจึงให้ล่ามบอกอตาฮวลปาไปว่า ชายผู้นี้คือน้องชายของแม่ทัพสเปน เมื่ออตาฮวลปาได้ยินเท่านั้น เขาจึงมองพวกสเปนเป็นครั้งแรกทันที (หลังจากมองพื้นมาเป็นเวลานาน) อตาฮวลปาพูดขึ้นว่า

หัวหน้าบริเวณชายทะเลบอกข้าว่า พวกเจ้าปฏิบัติต่อพวกหัวหน้าอย่างไม่ถูกต้อง พวกเจ้าจับพวกเขาล่ามโซ่ไว้ เขาส่งโซ่มาเป็นหลักฐานให้กับข้า และบอกมาว่าเขาสังหารพวกเจ้าไปสามคนและม้าตัวหนึ่ง

ระหว่างที่อตาฮวลปาพูด พวกสเปนทุกคนก็ยังไม่ลงจากม้า พวกเขาไม่ให้ความเคารพต่อธรรมเนียมอินคาใดๆ โดยสิ้นเชิง แถมยังพูดด้วยน้ำเสียงหยาบกระด้างอีก ความตึงเครียดจึงเพิ่มมากขึ้นทีละน้อย

สำหรับพวกสเปนแล้ว พวกเขารู้แก่ใจดีว่ามันเป็นเรื่องจริง ทหารสเปนสามคนถูกสังหาร และม้าหลายตัวได้รับบาดเจ็บ พวกสเปนจึงล้างแค้นด้วยการสังหารชนพื้นเมืองมากมาย โดยเฉพาะพวกหัวหน้าเผ่าต่างๆ ที่พวกเขาจับมาเผาทั้งเป็น

เออร์นานโดผู้นี้เป็นคนหยาบกระด้างยิ่งกว่าโซโท เขาจึงให้ Felipillo ตอบกลับไปว่า สิ่งที่อตาฮวลปาได้ยินเป็นเรื่องไม่จริง (ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องจริง)

เออร์นานโดว่าต่อไปว่าพวกชนพื้นเมืองอ่อนหัดมาก (เหมือนไก่) พวกเขาจะสังหารพวกสเปนบนหลังม้าได้อย่างไร นอกจากนี้พวกสเปนใช้ความรุนแรงกับพวกที่ใช้ความรุนแรงกับพวกเขาก่อนเท่านั้น เพราะฉะนั้นสิ่งที่อตาฮวลปาได้ยินมาจึงเป็นเท็จโดยสิ้นเชิง

เมื่ออตาฮวลปาได้ยินเช่นนั้น เขารู้สึกว่ากำลังถูกพวกสเปนดูถูก ในสายตาของเขา อตาฮวลปาเชื่อว่าพวกสเปนมีแค่หยิบมือจะทำอะไรได้

อตาฮวลปาจึงว่าเขาจะส่งกองทัพออกไปจัดการกับพวกหัวหน้าเผ่าที่โกหกเขา แต่เออร์นานโดกลับตอบว่า อตาฮวลปาไม่ต้องลำบากส่งกองทัพไป เพราะพวกสเปนบนหลังม้าแค่สิบคนก็สามารถจัดการพวกนี้ได้เรียบแล้ว ไม่ว่าพวกชนพื้นเมืองจะมีกำลังเท่าไรก็ตาม

อตาฮวลปา

สีหน้าของอตาฮวลปาเปลี่ยนไปทันที ไม่ต้องสงสัยว่าคำพูดของพวกสเปนเหยียดหยามเขาและอาณาจักรของเขามาก แต่ในใจยังไม่รู้สึกเกรงกลัวเท่าไรนัก

ทันใดนั้น โซโทที่อยู่บนหลังม้าตัดสินใจแสดงอะไรสักอย่างให้อตาฮวลปาเห็น เขาใช้ม้าของเขาชาร์จเข้าใส่ทหารอินคาที่ยืนอยู่รายล้อมทันที ปรากฏว่าเหล่าองครักษ์ของอตาฮวลปาแตกหนีไปทั่ว ต่างคนต่างวิ่งหนีหาที่กำบัง บางคนถึงกับล้มลุกคลุกคลานเพื่อที่จะหนีเอาชีวิตรอด แม้ว่าโซโทจะยังไม่ได้เงี้อดาบเลยก็ตาม

ตลอดเวลาที่โซโทแสดงโชว์ของเขานั้น อตาฮวลปาก็ยังสงบนิ่ง แต่ในใจโกรธมากขึ้นตามลำดับ

อตาฮวลปาพยายามข่มความโกรธของเขา หลังจากนั้นเขาสั่งให้นำเครื่องดื่มมามอบให้กับพวกสเปน ในตอนแรกพวกสเปนปฏิเสธเพราะเกรงว่าจะมียาพิษ แต่เมื่ออตาฮวลปาคะยั้นคะยอให้ดื่ม พวกเขาจึงดื่มในที่สุด

ในเวลานั้นดวงอาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้ว พวกสเปนจึงขออำลาไป ก่อนจะไปเออร์นันโดได้ถามอตาฮวลปาว่า อตาฮวลปาต้องการให้เออร์นันโดบอกฟรานซิสโก หัวหน้าของพวกสเปนอย่างไร อตาฮวลปาบอกว่าเขาจะเดินทางไปยังตัวเมือง Cajamarca ในวันรุ่งขึ้น และจะไปพบกับหัวหน้าของพวกสเปนด้วย

หลังจากนั้นพวกสเปนจึงลากลับไปที่มั่นของพวกตน

คืนนั้น ในใจของอตาฮวลปาเต็มไปด้วยความโกรธแค้นพวกสเปน เขาสั่งให้ประหารชีวิตทหารองครักษ์ที่หนีตายตอนที่โซโทชาร์จเข้าใส่ทั้งหมด เพราะว่าพวกเขาแสดงความขี้ขลาดและละเมิดระเบียบวินัยต่อหน้าชาวต่างถิ่นพวกนี้

อตาฮวลปาตั้งใจว่าในวันพรุ่งนี้ เขาจะจับพวกสเปนสังหารให้หมด พวกที่เหลืออยู่ก็จะจับตอนเสียเพื่อให้เป็นขันทีคอยดูแลฮาเร็มของตน ส่วนม้าที่พวกสเปนขี่ อตาฮวลปาจะจับมาเพาะพันธุ์ให้มากๆ เขาจะได้สร้างอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ทรงอำนาจกว่าเดิม

เรามาดูกันตอนหน้าว่า อตาฮวลปาจะทำสำเร็จหรือไม่

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!