ประวัติศาสตร์SU 593: เครื่องตกเพราะเด็ก 16 ปีอยู่ในที่นั่งนักบิน

SU 593: เครื่องตกเพราะเด็ก 16 ปีอยู่ในที่นั่งนักบิน

หลายท่านอาจจะสงสัยว่าเพราะเหตุใดถึงมีกฎห้ามไม่ให้ ผู้ใดนอกเหนือจากนักบินเข้าไปในห้องนักบิน สาเหตุคือการละเมิดกฎดังกล่าวได้ทำให้เกิดเรื่องเศร้า อย่างที่เกิดกับเครื่องบินลำนี้นี่เอง

เครื่องบินลำที่เกิดเหตุ Cr: Michel Gilliand

ในวันที่ 23 มีนาคม ค.ศ.1994 เครื่องบินของสายการบินแห่งชาติรัสเซีย หรือสายการบินแอโรฟลอต เที่ยวบินที่ 593 (SU 593) ได้ออกเดินทางจากมอสโกมุ่งหน้าไปยังฮ่องกง

ผู้โดยสารในเที่ยวบินมีจำนวน 63 คน ส่วนมากแล้วพวกเขาเป็นนักธุรกิจชาวฮ่องกงและไต้หวันที่เดินทางไปยังรัสเซีย เพื่อแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต วันที่ทำการบินเป็นวันที่สภาพอากาศสดใสมาก ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย

ครอบครัวของนักบิน

สายการบินแอโรฟลอตอนุญาตให้ครอบครัวของนักบินสามารถซื้อเที่ยวบินในราคาที่ต่ำกว่าปกติ 1 ครั้งต่อปีเพื่อเป็นสวัสดิการให้กับนักบิน ในวันนั้นกัปตัน ยาโรสลาฟ คูดรินสกี้ (Kudrinsky) จึงนำบุตรชาย เอลดาร์ (Eldar) และบุตรสาวของเขา ยานา (Yana) ขึ้นมาโดยสารเครื่องบินที่เขาควบคุมอยู่ในฐานะนักบินที่ 1

เอลดาร์และยานาเพิ่งจะเคยขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศเป็นครั้งแรก ในวันนั้นเอลดาร์อายุ 16 ปี ส่วนยานา อายุ 12 ปี ทั้งสองจึงรู้สึกตื่นเต้นมาก

หลังจากที่เครื่องบินขึ้นสู่ท้องฟ้าแล้ว ระบบ Autopilot ก็ทำหน้าที่ขับเครื่องบินด้วยตัวของมันเองต่อไป กัปตันคูดรินสกี้นำบุตรของเขาทั้งสองเข้ามาในห้องนักบิน (Cockpit) เพื่อที่ทั้งสองจะได้สัมผัสบรรยากาศบนเครื่องบินจากห้องบังคับการ

เอลดาร์และยานาตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศในเครื่องบินมาก กัปตันคูดรินสกี้จึงเสนอให้ทั้งสองลองนั่งบนเก้าอี้นักบินและโยกคันบังคับดู การกระทำเช่นนี้ของกัปตันคูดรินสกี้เป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับที่ห้ามไม่ให้ผู้ใดนอกจากนักบินมานั่งที่เก้าอี้นักบิน

ยานา บุตรสาวเป็นผู้ที่ได้ลองนั่งบนเก้าอี้นักบินก่อน กัปตันคูดรินสกี้ได้ปรับเปลี่ยนระบบ Autopilot เล็กน้อย เพื่อทำให้ดูเหมือนว่าเธอกำลังบังคับเครื่องบินอยู่จริงๆ ยานาลองโยกคันบังคับดูเบาๆ อยู่ไม่นาน เธอก็ลุกออกจากที่นั่งนักบิน

หลังจากนั้นเอลดาร์ บุตรชายของเขาก็มานั่งที่นักบินบ้าง กัปตันคูดรินสกี้จึงจัดการปรับระบบ Autopilot เพื่อที่เอลดาร์จะได้รับประสบการณ์เหมือนกับที่ยานาได้

เอลดาร์ทดลองยกคันบังคับดู แต่ผลที่ตามมาคือ เขาโยกคันบังคับแรงเกินไป ทำให้คอมพิวเตอร์ในเครื่องนั้นเปลี่ยนระบบจาก Autopilot มาเป็นระบบ Manual หรือใช้คนบังคับทันทีนั้น

ความผิดพลาด

เครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินแอร์บัส 310-304 (Airbus 310-304) ซึ่งเป็นเครื่องบินที่แอโรฟลอตได้รับมาไม่นานนัก (ประมาณ 1 ปีเศษ) เหล่านักบินรัสเซียที่ชินกับเครื่องบินรัสเซียมาโดยตลอดจึงไม่คุ้นเคยกับมันเท่าไรนัก

ดังนั้นเมื่อแสงไฟเตือนว่าระบบกำลังเปลี่ยนเปล่งแสงขึ้น นักบินทั้งสองจึงไม่มีใครสังเกต เพราะพวกเขาชินกับระบบแบบเครื่องบินรัสเซียที่จะเตือนโดยการใช้เสียง

เอลดาร์ขับไปสักพัก เด็กวัย 16 ผู้นี้ก็รู้สึกถึงความแปลกประหลาด เขาสังเกตว่าเครื่องบินนั้นกำลังหมุนด้วยตัวของมันเองในมุมที่สูงมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เอลดาร์นั่งลงบนที่นั่งนักบิน จนกระทั่งเขารู้สึกถึงปัญหานี้กินเวลาไปเพียง 3 นาทีเท่านั้น

กัปตันคูดรินสกี้และนักบินที่สองมองไปที่เส้นทางการบิน ก็พบว่ามันเปลี่ยนไปเหมือนกับว่ามันบินวนอยู่กับที่อยู่ นักบินทั้งสองนั้นงุนงงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่

ระหว่างที่ทั้งสองกำลังงุนงงอยู่ (ประมาณ 9 วินาที) เครื่องบินได้เอียงสูงขึ้นจนเอียงไปเกือบถึง 90 องศา ตัวเครื่องบินไม่ได้ถูกสร้างมาให้สามารถเอียงได้ในระดับเช่นนั้น มันจึงไม่สามารถคงระดับความสูงไว้ได้ เครื่องบินเริ่มลดระดับความสูงลงมาอย่างรวดเร็ว

การที่เครื่องบินตกลงมาเช่นนั้นทำให้ แรงโน้มถ่วงของโลก (G-Force) สูงเสียดฟ้า เอลดาร์จึงไม่สามารถออกมาจากที่นั่งนักบินเพื่อให้กัปตันคูดรินสกี้เข้าควบคุมเครืองบินได้ กัปตันคูดรินสกี้พยายามจะให้เอลดาร์ออกมาจากที่นั่งนักบิน แต่ก็ไม่สำเร็จ เขาจึงให้เอลดาร์หมุนคันบังคับไปซ้ายที ขวาที เพื่อพยายามจะควบคุมเครื่องบินให้ได้

ระบบ Autopilot ของเครื่องบินจึงช่วยเหลือด้วยการเพิ่มแรงขับ (Thrust) และดึงหัวเครื่องบิน (Nose) ขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องบินกระแทกพื้น ในช่วงนี้แรงโน้มถ่วงถึงลดลง ทำให้กัปตันคูดรินสกี้สามารถนำเอลดาร์ออกมา และเข้าควบคุมเครื่องบินได้

ตกลงกลางหิมะ

หากแต่ว่าหลังจากนั้นเครื่องบินกลับสูญเสียการทรงตัว (Stall) ระบบ Autopilot ไม่สามารถควบคุมเครื่องบินได้อีก ตัวระบบ Autopilot จึงปิดตัวลงและให้การควบคุมเป็นของนักบิน

ในวินาทีนั้น ตัวระบบฉุกเฉินที่ทำงานโดยอัตโนมัติของเครื่องบินจึงทำงาน เพื่อไม่ให้เครื่องบินสูญเสียการทรงตัว ระบบฉุกเฉินพยายามแก้สถานการณ์ด้วยการกดหัวเครื่องบินลง แต่มันกลับทำให้ตัวเครื่องบินพุ่งดิ่งลงไปที่พื้นดิน

นักบินที่ 2 สามารถดึงเครื่องบินขึ้นเพื่อไม่ให้เครื่องบินพุ่งลงพื้นได้สำเร็จ แต่เขาดึงมันขึ้นมากเกินไป ทำให้เครื่องบินพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าในระดับที่สูงถึง 90 องศา กลายเป็นว่าเครื่องบินสูญเสียการทรงตัวอีกครั้ง

ในครั้งนี้ตัวเครื่องบินจึงพุ่งหลาวลงไปสู่พื้นดิน กัปตันคูดรินสกี้และนักบินที่สองพยายามอย่างสุดชีวิตเพื่อที่จะควบคุมเครื่องบิน แต่พวกเขาทำได้สำเร็จในระดับความสูงที่ต่ำมาก มันจึงสายไปเสียแล้ว เครื่องบินพุ่งกระแทกพื้นอย่างแรง ในสภาพกลับหัวกลับหาง ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 75 คนเสียชีวิตทั้งหมดที่ดินแดนอันหนาวเหน็บของไซบีเรีย

เทือกเขา Kuznetsk Alatau ในไซบีเรีย บริเวณเทือกเขาที่เครื่องบินตก

หลังจากนั้นได้มีการเก็บซากและพบกล่องดำ ทำให้ทราบถึงเหตุการณ์ทั้งหมด เจ้าหน้าที่ได้ค้นพบว่าการตกครั้งนี้เกิดจากการที่กัปตันคูดรินสกี้ นักบินที่ 2 รวมไปถึงเอลดาร์ ไม่ยอมปล่อยคันบังคับเครื่องบิน ถ้าทั้งสามปล่อยคันบังคับเครื่องบินแล้ว ระบบ Autopilot จะเข้าทำงานด้วยตัวของมันเอง และป้องกันอุบัติเหตุครั้งนี้ไว้ได้

อุบัติเหตุครั้งนี้จึงเป็นโศกนาฎกรรมอันน่าเศร้าที่เกิดจากการละเมิดกฎระเบียบของการบินของกัปตันเอง สายการบินแอโรฟลอตจึงมีการปฏิรูประเบียบวินัยของนักบินกันยกใหญ่

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!