ท่องเที่ยวเกาะโบราไกย์ (Boracay) ของฟิลิปปินส์มีจุดไหนน่าไปเที่ยวชมบ้าง?

เกาะโบราไกย์ (Boracay) ของฟิลิปปินส์มีจุดไหนน่าไปเที่ยวชมบ้าง?

เกาะโบราไกย์ (ฺBoracay Island) เป็นหนึ่งในเกาะหลายพันเกาะของประเทศฟิลิปปินส์ ในปี ค.ศ.2012 นิตยสารการเดินทางอย่าง Travel + Leisure ได้จัดอันดับว่าเกาะโบราไกย์เป็นเกาะที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก

หลายคนอาจจะสงสัยว่าเกาะโบราไกย์ตั้งอยู่ที่ไหน และมีอะไรให้เที่ยวบ้าง เราไปเริ่มต้นกันเลยดีกว่าครับโบราไกย์

เกาะโบราไกย์ Image by hani Han from Pixabay

รู้จักเกาะโบราไกย์ (Boracay)

เกาะโบราไกย์ (Boracay) เป็นเกาะที่ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของหมู่เกาะทั้งหลายที่ประเทศฟิลิปปินส์ครอบครองอยู่ โดยอยู่ในเขต Visayas ตะวันตก (Western Visayas) และห่างจากกรุงมะนิลาประมาณ 315 กิโลเมตรครับ

โบราไกย์เป็นเกาะขนาดเล็กที่มีความยาวเพียง 7 กิโลเมตร และความกว้างเพียง 1 กิโลเมตรเท่านั้น ตัวเกาะเริ่มเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวในช่วงปี ค.ศ.1970 โดยเฉพาะเหล่า backpacker เพราะว่าค่าใช้จ่ายถูกมาก และชายหาดของที่นี่ไม่แพ้ที่ใดในโลก แต่แล้วการท่องเที่ยวก็เริ่มซบเซาในช่วงทศวรรษ 90 เพราะการระบาดของแบคทีเรียภายในเกาะที่เกิดขึ้นจากการระบายของเสียที่ย่ำแย่

Boracay Island Image by lapping from Pixabay

รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ลงทุนสร้างระบบระบายของเสียขึ้นมาใหม่ ทำให้ปัญหาดังกล่าวสิ้นสุดลง นักท่องเที่ยวก็เริ่มกลับมาตามลำดับจนทำให้เกาะแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของประเทศฟิลิปปินส์

แต่แล้วในปี ค.ศ.2018 เกาะโบราไกย์ กลับประสบปัญหาสาหร่ายระบาดตามชายหาด และนักท่องเที่ยวที่มากเกินไป ทำให้ประธานาธิบดี Duterte สั่งให้ปิดเกาะโบราไกย์ เป็นเวลา 6 เดือนเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ ในปัจจุบันการปิดได้สิ้นสุดลงเป็นที่เรียบร้อย และเกาะโบราไกย์ กลับมาสวยเหมือนเดิมแล้วครับ

เพื่อป้องกันภาวะนักท่องเที่ยวล้นไม่ให้เกิดขึ้นอีก รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวในเกาะโบราไกย์ลงอย่างมาก รวมทั้งจัดระเบียบหาด และปราบปรามกิจกรรมปาร์ตี้ที่ผิดกฎหมายด้วย

ถัดไปเราไปดูกันดีกว่าครับว่าเกาะโบราไกย์มีสถานที่ท่องเที่ยวไหนน่าไปเที่ยวบ้าง

1. Ariel’s Point

Ariel’s Point เป็นไฮไลท์ของเกาะโบราไกย์ เลยก็ว่าได้ เพราะว่าเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวมักเดินทางมากระโดดจากหน้าผาสูง 3-15 เมตรแล้วแต่คุณจะเลือก นอกจากนี้บริเวณจุดกระโดดยังมีไม้กระดานให้คุณเตรียมตัวเตรียมใจและตั้งท่าตามที่คุณต้องการด้วย

เมื่อคุณเอาชนะความกลัวและกระโดดลงไป ร่างของคุณจะตรงดิ่งลงไปยังท้องทะเลอันใสสะอาดท่ามกลางเสียงโห่ร้องของนักท่องเที่ยวด้วยกันครับ

สำหรับเรื่องความปลอดภัย บริเวณนั้นมีไลฟ์การ์ดคอยจับตาดูคุณตลอดเวลาครับ เพราะฉะนั้นวางใจได้เลย

แต่ถ้าคุณไม่กล้ากระโดดจริงๆ ที่นี่มีกิจกรรมอื่นๆ ให้คุณทำไม่ว่าจะเป็นพายเรือ ดำน้ำตื้น ว่ายน้ำ ปีนเขา ปีนผา ฯลฯ ระหว่างที่รอเพื่อนกระโดดได้ครับ

ใครที่สนใจจะไป คุณต้องซื้อตั๋วเข้า Ariel’s Point ในราคา 1,751 บาท วิธีการซื้อที่ง่ายที่สุดคือซื้อผ่าน Klook ครับ ซึ่งถ้าคุณซื้อผ่าน Klook จะรวมค่ากระโดด ค่าอาหารมื้อกลางวันแบบ BBQ และเครื่องดื่ม ค่าเดินทางทางเรือไปกลับ Ariel’s Point ค่าพายเรือคายัค และค่าอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งหมด เรียกได้ว่ารวมหมดทุกอย่างแล้ว คุณแทบไม่ต้องจ่ายอะไรอีกแล้วครับ

2. Beaches

เกาะโบราไกย์เป็นเกาะที่มีชายหาดอันสวยงามติดอันดับโลกอยู่หลายแห่ง แต่ละแห่งจะแตกต่างกันตรงที่กิจกรรมและบรรยากาศนี่แหละครับ บางแห่งจะเป็นชายหาดสำหรับกิจกรรม หรือสายปาร์ตี้ เหมาะกับการรื่นเริงสังสรรค์ ส่วนบางหาดจะเป็นหาดสำหรับครอบครัวที่เงียบสงบที่เหมาะต่อการพักผ่อนรับลมสบายๆ ครับ

White Beach คือชายหาดยาวหลายกิโลเมตรซึ่งเป็นชายหาดหลักของที่นี่ ตัวหาดจะแบ่งออกเป็นสามส่วนหรือ Station 1,2,3

ทั้งนี้โรงแรมชั้นนำของโบราไกย์จะตั้งอยู่ริมหาด Station 1 สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหลายตลอดจนร้านอาหารจะอยู่ที่ Station 2 ส่วนโรงแรมระดับรองลงมาสำหรับ backpacker จะอยู่ที่ Station 3 ครับ

White Beach, Boracay By Ronald Tagra, Flickr, CC By 2.0

ใกล้กับ Station 1 มีแลนด์มาร์กของเกาะโบราไกย์ นั่นคือ Willy’s Rock หรือหินภูเขาไฟหน้าตาแปลกประหลาดก้อนใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมหาด นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันที่นี่ครับ

โดยรวมแล้ว White Beach มีคนพลุกพล่านมากที่สุดในโบราไกย์ ซึ่งในช่วงที่คนเยอะนั้น คนจะมหาศาลจริงๆ ถ้าไม่ชอบปาร์ตี้และคนจำนวนมาก ผมแนะนำให้หลีกเลี่ยงไปที่หาดอื่นครับ

หาดต่อมาที่น่าสนใจคือ Bulabog Beach หาดที่เป็นที่นิยมในการจัดปาร์ตี้ต่างๆ ของเกาะโบราไกย์ นอกจากนี้ที่หาดนี้คุณยังสามารถเล่น windsurf รวมไปถึงกิจกรรมทางน้ำอื่นๆได้อย่างครบครัน แต่โดดเด่นจริงๆ คือการเล่นว่าวครับ เพราะว่า Bulabog Beach ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นสถานที่เล่นว่าวอันดับ 1 ของทวีปเอเชียมาแล้ว

Bulabog Beach By Roman Nuritdinov, Flickr, CC By 2.0

แต่ถ้าคุณต้องการหลบความพลุกพล่าน และอยากได้ยินแต่เสียงของธรรมชาติ หาดที่คุณควรจะไปได้แก่ Puka Beach และ Dinivid Beach ที่นี่มีนักท่องเที่ยวไม่มากนัก ไม่ค่อยมีปาร์ตี้ นอกจากนี้กีฬาทางน้ำก็ไม่ค่อยมีด้วย เพราะว่าคลื่นลมจะรุนแรงกว่า Bulabog Beach ครับ

Puka Beach By Jewel Tseng, Flickr, CC By 2.0

หาดที่น่าสนใจยังมีหลายแห่ง อาทิเช่น Tambisaan Beach, Ilig Iligan Beach หรือ Balinghai Beach ทั้งสามหาดถือว่าเป็นหาดที่นักท่องเที่ยวน้อย โดยเฉพาะหาดสุดท้าย เนื่องจากเป็นหาดส่วนตัวในโรงแรม Balinghai Beach Resort ครับ

3. Crystal Cove

Crystal Cove เป็นเกาะที่อยู่ห่างจากเกาะหลักของโบราไกย์ ไม่ไกลนัก เกาะแห่งนี้เป็นสถานที่ถ่ายรูปและชมวิวอันดับต้นๆ ของที่นี่ เพราะมีเวิ้งอ่าวสวยงาม น้ำทะเลที่ใสสะอาด จุดสวยๆ เองก็มีเต็มไปหมด ดังนั้นใครที่ชอบเซลฟี่พลาดไม่ได้เลยครับ

Crystal Cove By Gary Todd, Flickr, Public Domain

วิธีการเดินทางไป Crystal Cove ไม่ยากอะไร คุณแค่เช่าเรือมาจาก White Beach Station 1 เรือจะใช้เวลาเพียง 15-20 นาที คุณจะเดินทางมาถึง Crystal Cove แล้วครับ

4. Mount Luho

Mount Luho เป็นจุดที่สูงที่สุดบนเกาะโบราไกย์ ถ้าคุณยอมเดินขึ้นไปถึงด้านบนสุดของภูเขา (เดินไม่ได้ยากมากนัก) คุณจะได้เห็นวิวที่สวยงามสุดๆ เนื่องจากว่าเกาะโบราไกย์ มีความกว้างแค่ 1 กิโลเมตร ถ้าคุณยืนอยู่บนบนภูเขา คุณจะเห็นวิวทะเลอันงดงามของเกาะโบราไกย์ ได้แบบ 360 องศาเลยครับ

Mount Luho By Roman Nuritdinov, Flickr, CC By 2.0

ด้านบนภูเขามีร้านอาหารชื่อ Mt Luho Grill Boracay ตั้งอยู่ บรรยากาศที่ร้านนี้ดีงามมากๆ คู่รักหลายคู่เลยเลือกที่จะแต่งงานที่นี่ครับ

5. Carabao Island

Carabao Island เป็นเกาะที่มีชื่อเหมือนกันวงดนตรีและเครื่องดื่มชูกำลังของประเทศไทย ตัวเกาะต่างอยู่ห่างจากเกาะโบราไกย์ออกไปพอสมควร ถ้าจะไปต้องนั่งเรือไปประมาณ 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมง

ตัวเกาะจะเงียบสงบกว่าเพราะมีนักท่องเที่ยวน้อยกว่าเกาะหลัก ดังนั้นคุณสามารถพักผ่อนและเล่นกิจกรรมทางน้ำอย่างอิสระโดยไม่มีใครรบกวนมากนัก

6. Crocodile Island

Crocodile Island เป็นอีกเกาะหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปเที่ยว สาเหตุที่เกาะนี้ได้ชื่อว่าเกาะจระเข้ไม่ใช่ว่าเพราะมีจระเข้หรือว่าอะไร แต่เพราะว่ามันมีรูปร่างเหมือนกับจระเข้เท่านั้นแหละ

บริเวณรอบตัวเกาะเป็นแหล่งดำน้ำตื้นชั้นยอด เพราะมีปะการังและปลาน้อยใหญ่ที่อุดมสมบูรณ์ครับ นอกจากนี้มีหาดสวยๆ ให้ลงเล่นน้ำอีกด้วย

7. Maniguin Island

Maniguin Island เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ห่างจากเกาะโบราไกย์ไปประมาณ 2 ชั่วโมง แต่เกาะแห่งนี้เป็นสวรรค์ของการดำน้ำลึกเลยครับ เพราะทรัพยากรใต้น้ำอุดมสมบูรณ์มากๆ ทั้งปะการัง ปลาเล็กปลาน้อย และปลาใหญ่ นอกจากนี้คุณมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับโลมาที่จะว่ายตามเรือของคุณด้วย

ไปเที่ยวเกาะโบราไกย์ (Boracay) อย่างไร

หลังจากการปรับปรุงในช่วงปี ค.ศ.2019 เกาะโบราไกย์ก็ได้เปิดรับนักท่องเที่ยวอีกครั้งหนึ่ง ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเที่ยวเกาะโบราไกย์คือช่วงเดือนธันวาคมถึงเมษายนครับ

วิธีการเดินทางไปโบราไกย์มีหลายขั้นตอน แต่ก็ไม่ยากอะไร ขั้นตอนแรกคุณจะบินไปลงสนามบิน Caticlan หรือ Boracay (MPH) ซึ่งจะผ่านการเปลี่ยนเครื่องบินที่มะนิลา ขั้นตอนต่อมาคือนั่งรถจากสนามบินไปที่ท่าเรือ และขึ้นเรือไปยังเกาะโบราไกย์ครับ

สายการบินที่น่าสนใจได้แก่

  • Cebu Pacific
  • Philippines AirAsia
  • Philippines Airlines

ในปัจจุบันทัวร์ไทยบางทัวร์ก็นำนักท่องเที่ยวไปยังเกาะโบราไกย์เช่นกัน แต่จะรวมไปกับการเที่ยวที่อื่นอย่างเช่น Bohol ด้วยครับ

Boracay vs Palawan ไปไหนดี?

ทั้งสองเกาะมีความสวยที่แตกต่างกันออกไป เกาะโบราไกย์ (Boracay) จะเหมาะกับใครที่ชอบกิจกรรมบนหาดมากกว่าเพราะมีปาร์ตี้ที่สนุกสนาน และใช้เวลาไม่กี่วันก็เที่ยวได้อย่างครบถ้วนแล้ว มันจึงเหมาะกับทริปสั้นๆ ที่ใช้เวลาไม่มากนักครับ

ส่วนเรื่องความครบเครื่องในเรื่องการเที่ยวทะเล คงต้องยกให้เกาะปาลาวัน (Palawan) เพราะว่าสุดยอดทุกอย่างตั้งแต่การดำน้ำตื้น ดำน้ำลึก ชายหาด ถ้ำที่เป็นมรดกโลก และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ถ้าคุณจะเที่ยวให้ทั่วจะใช้เวลาเป็นสัปดาห์ครับ

[sc name=”travelthai” ][/sc]

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!