ประวัติศาสตร์บาเบอร์ ปฐมกษัตริย์โมกุล (3): ประสบความสำเร็จเพียงครึ่งเดียว

บาเบอร์ ปฐมกษัตริย์โมกุล (3): ประสบความสำเร็จเพียงครึ่งเดียว

ตอนที่ 1 อยู่ที่นี่

ในตอนที่แล้ว บาเบอร์กำลังตัดสินใจครั้งสำคัญว่า เขาจะยอมรับเงื่อนไขของ Taghai ดีหรือไม่ ในตอนแรกเขารีบร้อนเกินไปจนไม่ได้คิดถึงอันตรายจะเกิดขึ้นได้ เมื่อได้สติเขาก็มาอยู่หน้าเมืองมาร์กินัน (Marghinan) แล้ว

ท้ายที่สุด บาเบอร์ตัดสินใจเสี่ยงดวงเข้าไปในเมือง เพราะเขาไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว

ชะตากรรมของบาเบอร์จะเป็นอย่างไร?

บาเบอร์

ยุทธการแห่งมาร์กินัน

ทหารที่อยู่รอบกายบาเบอร์มีอยู่ทั้งหมด 240 นาย พวกเขาเดินทางมายังหน้าเมืองมาร์กินัน ฝ่าย Taghai เจ้าผู้ครองเมืองได้รอบาเบอร์อยู่ที่บนกำแพง เขาบอกสิ่งที่เขาต้องการอย่างที่บอกในจดหมายแก่บาเบอร์อีกครั้งหนึ่ง บาเบอร์ตอบรับด้วยความยินดี

Taghai จึงเปิดประตูให้บาเบอร์เข้าไปในเมือง เขาได้นำบาเบอร์ไปพักที่บ้านแห่งหนึ่ง และบอกแก่บาเบอร์ว่า ปวงชนทุกเผ่าในเฟอร์กานาต่างต้องการให้บาเบอร์กลับมา เพราะว่าอูซุน ฮาซานและ อาห์เมด แทมบาล สองหัวหน้ากบฏที่ยึดครองเฟอร์กานาไปนั้นกดขี่ข่มเหงพวกเขาอย่างหนัก

เมื่อได้ที่มั่นที่มาร์กินันแล้ว บาเบอร์ได้ส่งทูตไปยังเมืองต่างๆ และชนเผ่าหลายแห่งให้มาสวามิภักดิ์ต่อตน เหล่าชนเผ่าหลายแห่งที่อาศัยตามภูเขาได้มายอมจำนนต่อบาเบอร์เป็นจำนวนมาก ทำให้กำลังของเขาเริ่มฟื้นฟูกลับมา

ฝ่ายฮาซาน และแทมบาลได้ทราบข่าวมาบาเบอร์อยู่ที่มาร์กินัน ทั้งสองจึงนำกำลังออกไปตี กองทัพของทั้งสองเป็นกองทัพขนาดใหญ่ พวกเขารวบรวมกำลังพลเท่าที่จะหาได้ และยังสมทบด้วยชนเผ่าต่างๆ ที่อยู่ในอำนาจ นอกจากนี้ยังนำจาฮันกีร์ น้องชายของบาเบอร์มาในกองทัพด้วย

ขณะนั้นกองกำลังที่บาเบอร์และ Taghai มีอยู่ได้ถูกส่งออกไปเกลี้ยกล่อมชนเผ่าต่างๆ ดังนั้นกำลังทหารที่อยู่ในเมืองมาร์กินันจึงมีเพียงหยิบมือเท่านั้น

เมื่อกองทัพกบฏของฮาซานและแทมบาลมาถึงบริเวณชานเมือง บาเบอร์ก็สั่งให้ทหารที่มีอยู่น้อยนิดออกไปโจมตีเพื่อไม่ให้ศัตรูประชิดเมืองมาร์กินันได้ ปรากฏว่ากองทัพของบาเบอร์ได้ต่อสู้อย่างแข็งแกร่ง ทหารกบฎไม่อาจจะยกเข้าประชิดเมืองมาร์กินันได้

ข่าวเมืองมาร์กินันถูกประชิดทราบไปถึงแม่ทัพอื่นๆ ของบาเบอร์ที่แยกย้ายกันไปรวบรวมกำลังคน พวกเขานำกำลังย้อนกลับมาที่มาร์กินันทันที

โชคเป็นของบาเบอร์ เมื่อบางชนเผ่าที่อยู่ในกองทัพกบฏตัดสินใจเปลี่ยนฝั่งและมาเข้ากับบาเบอร์ พวกเขาทำการฆ่าฟันกองทัพกบฏจนวุ่นวายอุตลุด และฉวยโอกาสนั้นนำกำลังเข้ามายอมจำนนต่อบาเบอร์ในเมือง บาเบอร์รับพวกเขาไว้ด้วยความยินดียิ่ง

เมื่อกองทัพหนุนของบาเบอร์ใกล้เข้ามา ฮาซานและแทมบาลจึงส่งกำลังจำนวนมากออกไปสกัดกั้นที่บริเวณแม่น้ำ แต่กลับถูกแม่ทัพของบาเบอร์จับการเคลื่อนไหวได้ ขณะที่กองทัพกบฏกำลังจะขึ้นบก กองทัพของบาเบอร์ที่ดักรออยู่แล้วจึงเข้าโจมตีอย่างหนักหน่วงด้วยทหารม้า

กองทัพกบฏถูกสังหารคนแล้วคนเล่า ทหารม้าของบาเบอร์ไล่ล่าทหารกบฏที่พยายามหนีตายอย่างอลหม่าน บาเบอร์เขียนไว้ในบันทึกของเขาว่า พวกกบฏแตกย่อยยับ แม่ทัพกบฏที่เป็นมือดีของฮาซานและแทมบาลถูกสังหารเกือบทั้งหมด ชัยชนะอันยิ่งใหญ่จึงเป็นของฝ่ายบาเบอร์

ความพ่ายแพ้ทำให้ฮาซานและแทมบาลไม่อาจตั้งทัพอยู่ที่มาร์กินันได้อีกต่อไป เขารีบถอยหนีไปยังแอนดิจาน (Andijan) เมืองหลวงของเฟอร์กานาอย่างรวดเร็ว แต่ปรากฏว่าฮาซานได้ทิ้งนาเซียร์ เบค น้องเขยของเขาเอาไว้ นาเซียร์ เบค ผู้นี้เลยรีบเดินทางกลับไปแอนดิจาน และเข้ายึดเมืองทั้งหมดเอาไว้ได้ หลังจากนั้นจึงส่งคนมาขอยอมจำนนต่อบาเบอร์

มัสยิดจามีที่เมืองแอนดิจาน ประเทศอุซเบกิสถาน Cr: Carpodacus

เมื่อฮาซานและแทมบาลทราบเช่นนั้น พวกเขาจึงแตกคอกันทันที และแยกย้ายกันหลบหนีไปคนละทาง จาฮันกีร์ น้องชายที่กบฏทั้งสองเชิดชูขึ้นมาได้หนีไปกับแทมบาล ทหารกบฏแต่ละนายต่างแตกหนีกันไปสิ้น

บาเบอร์ได้เฟอร์กานาคืน

หลังจากได้รับสาส์นจากนาเซียร์ เบค บาเบอร์ได้นำกองทัพไปยังแอนดิจานทันทีด้วยความยินดี เมื่อบาเบอร์มาถึง นาเซียร์ เบคก็เปิดประตูเมืองให้บาเบอร์เข้าไป บาเบอร์จึงได้เมืองแอนดิจานอันเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรที่เขาได้รับตกทอดมาจากบิดากลับคืน

ฝ่ายแทมบาลและจาฮันกีร์พยายามจะหนีไปตั้งหลักที่เมือง Aush แต่แล้วชาวเมืองที่อยู่ในนั้นกลับไล่ทั้งสองออกมา และยอมจำนนต่อบาเบอร์ ทำให้แทมบาลต้องนำจาฮันกีร์หนีต่อไปที่อื่น

บาเบอร์พักอยู่ที่แอนดิจานได้ประมาณ 4-5 วัน เขาจึงนำกองทัพออกมาปราบปรามฮาซานที่หลบอยู่ที่เมือง Akhsi ฮาซานไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมจำนนแต่โดยดี

ณ เวลานี้ เขาสามารถสังหารฮาซานเสียก็ย่อมได้ แต่บาเบอร์กลับทำในสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิด นั่นก็คือไว้ชีวิตฮาซาน และอนุญาตให้เดินทางไปได้ทุกที่ตามที่ใจปรารถนา

บาเบอร์เล่าในบันทึกของเขาว่า จริงอยู่ว่าฮาซานและพรรคพวกต้องถูกลงโทษ แต่เขาไม่ต้องการทำให้ผู้คนหวาดกลัว เขาเลยไว้ชีวิตและปล่อยตัวฮาซานไป

หลังจากนั้นบาเบอร์ต้องเผชิญกับการกบฏของพวกมองโกล ทำให้เขาต้องส่งกำลังไปปราบปรามได้เป็นผลสำเร็จ บาเบอร์เล่าว่าพวกมองโกลได้ก่อกบฏต่อเขาเป็นครั้งที่ห้าแล้ว นี่อาจจะเป็นสาเหตุที่เขาไม่โปรดปรานสายเลือดมองโกลในตัวของเขาเองก็เป็นได้

สันติภาพที่ไม่ต้องการ

บาเบอร์ได้นำกองทัพยกไปปราบปราบแทมบาล อีกหนึ่งหัวหน้ากบฏ ผู้หลบหนีไปตั้งหลักยังดินแดนตะวันออกเพื่อรวบรวมกำลังมาต่อสู้กับบาเบอร์อีกครั้งหนึ่ง

ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างหนัก ระหว่างนั้นเองแทมบาลกลับได้กำลังสนับสนุนจากข่านแห่งทัชเคนท์ เพราะญาติพี่น้องของเขาเป็นขุนนางสำคัญในราชสำนักทัชเคนท์

เมื่อได้รับกำลังสนับสนุน ทำให้งานของบาเบอร์ยากขึ้นทันที สถานการณ์ของทั้งสองฝ่ายจึงสงบนิ่ง ไม่มีผู้ใดได้รับชัยชนะ แต่สงครามที่ยืดเยื้อเริ่มทำให้ผู้ติดตามโดยเฉพาะเหล่าผู้ติดตามใหม่ๆ หวั่นไหว Taghai และพรรคพวกของเขาเริ่มเสนอให้บาเบอร์สงบศึกกับแทมบาลและจาฮันกีร์

หุบเขาเฟอร์กานา ดินแดนในอดีตของบาเบอร์ Cr: Ljuba Brank

บาเบอร์ไม่ต้องการสันติภาพหรือข้อตกลงใดๆ กับแทมบาลเลย แต่ในเวลานั้นเขาปฏิเสธไม่ได้ว่า Taghai มีอิทธิพลมากในกองทัพของเขา ถ้าบาเบอร์ปฏิเสธความต้องการของเขาแล้ว เรื่องแย่ๆ อาจจะเกิดขึ้นอีกก็ได้

ผลสุดท้ายทั้งสองฝ่ายจึงตกลงสงบศึก ภายใต้ข้อตกลงต่อไปนี้

  1. ดินแดนทางด้าน Akhsi ของแม่น้ำคูแจนต์จะเป็นของจาฮันกีร์ ส่วนด้านแอนดิจานเป็นของบาเบอร์
  2. เมือง Auzkint ตกเป็นของบาเบอร์ หลังจากที่ครอบครัวของฝ่ายแทมบาลได้อพยพไปแล้ว
  3. หลังจากตกลงสันติภาพกันแล้ว ทั้งบาเบอร์และจาฮันกีร์จะต้องยกทัพไปตีซามาร์คันด์ เมื่อตีซามาร์คันด์ได้แล้ว บาเบอร์ต้องยกดินแดนทั้งหมดในแอนดิจานให้กับจาฮันกีร์

ข้อตกลงที่บาเบอร์ได้มาจึงไม่ดีสักเท่าใดนัก เพราะจริงๆ ดินแดนในเฟอร์กานาส่วนใหญ่ก็อยู่ในบาเบอร์อยู่แล้ว แถมบาเบอร์ยังต้องมอบเฟอร์กานาทั้งหมดให้จาฮันกีร์หลังจากที่ยึดซามาร์คันด์คืนมาได้อีก ไม่ว่าจะมองมุมไหนบาเบอร์ก็ไม่คุ้มเลย

เรามาดูกันในตอนหน้าครับ ว่าสันติภาพในข้อตกลงกลวงๆ เช่นนี้จะอยู่ได้นานหรือไม่

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!