ซานโตรินี่ (Santorini) เป็นหนึ่งในเกาะหลายพันเกาะของประเทศกรีซ (Greece) และตั้งอยู่ทางใต้ของทะเล Aegean ด้วยธรรมชาติที่สวยงาม สิ่งก่อสร้างที่ตระการตาไม่เหมือนที่ใด บรรยากาศที่สุดแสนจะโรแมนติก ทำให้ซานโตรินี่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก
ในปัจจุบันซานโตรินี่จึงเป็นสถานที่ยอดนิยมในการเดินทางมาแต่งงานหรือฮันนีมูน และเป็นเกาะที่นักท่องเที่ยวมักเดินทางมาพักผ่อนหย่อนใจ สัมผัสกับแสงแดดอ่อนๆ และชื่นชมท้องฟ้าที่สวยงามริมท้องทะเลอันน่าหลงใหล
ในโพสนี้ผมจะมาแนะนำให้ทุกคนได้ทราบว่า ซานโตรินี่มีสถานที่ไหนน่าไปเที่ยว หรือว่ามีจุดสวยตรงไหนที่น่าไปชมครับ
การเดินทางไปยังซานโตรินี่
วิธีการเดินทางไปซานโตรินี่จากกรุงเทพก็ไม่ใช่เรื่องยาก คุณบินไปลงกรุงเอเธนส์ (Athens) เมืองหลวงของประเทศกรีซ หรือเมืองใหญ่อื่นๆของยุโรปก่อน หลังจากนั้นก็เดินทางต่อไปยังซานโตรินี่ครับ
ทั้งนี้คุณสามารถต่อเครื่องบินไปยังซานโตรินี่ได้เลยครับ สำหรับค่าตั๋วเครื่องบินจากเอเธนส์ไปซานโตรินี่จะอยู่ที่ประมาณ 47 ยูโร และใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ถ้าพูดถึงเรื่องความเร็วแล้ว การเดินทางด้วยเครื่องบินจะเร็วที่สุด
อย่างไรก็ดีถ้า ใครอยากสัมผัสท้องทะเลของกรีซ การนั่งเรือเฟอร์รีจากเอเธนส์ไปยังซานโตรินี่ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ ค่าเฟอร์รี่จะอยู่ที่ 50-80 ยูโร (แล้วแต่ผู้ให้บริการ) ซึ่งจะแพงกว่าเครื่องบินเสียอีก และใช้เวลามากกว่าด้วย (5-8 ชั่วโมง) แต่คุณจะได้เห็นเกาะแก่งในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอย่างเต็มอิ่มครับ
หลังจากไปถึงแล้ว คุณสามารถเที่ยวซานโตรินี่ (Santorini) เองได้ไม่ยาก เพราะในเกาะมีรถบัสให้ใช้สัญจรอย่างสะดวกสบาย แถมเกาะเองก็ไม่ใหญ่นัก คุณสามารถเดินไปได้ทั่วทั้งเกาะครับ
1. Oia
Oia เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีประชากรเพียงหนึ่งพันกว่าคน แต่หมู่บ้านแห่งนี้ได้ทำให้ซานโตรินี่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ตัวหมู่บ้านตั้งอยู่ริมหน้าผาที่ลาดยาวลงสู่ท้องทะเลสีคราม ซึ่งบริเวณหน้าผาแห่งนี้มีอาคารสีขาวสะอาดเรียงรายกันไป ที่นี่จึงกลายเป็นสถานที่ยอดฮิตในการถ่ายรูปเลยครับ โดยเฉพาะตัวโบสถ์ของเมืองที่มีโดมสีน้ำเงินสดใส
ปัจจุบันอาคารสีขาวเหล่านี้ได้ถูกเปลี่ยนเป็นโรงแรมเล็กๆ โรแมนติกเป็นจำนวนมาก แขกที่มาพักสามารถเห็นวิวท้องทะเลได้อย่างชัดเจนผ่านระเบียงส่วนตัว ทำให้บรรยากาศเหมาะมากๆ กับการดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ครับ
นอกจากนี้หมู่บ้านแห่งนี้ยังมีจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ถ้าคุณมาถึง Oia แล้ว คุณไม่ควรพลาดชมพระอาทิตย์ตกดินอย่างยิ่งเลยครับ
อีกหนึ่งสิ่งที่คุณไม่ควรพลาดคือ การไปนั่งรับประทานอาหารและชมวิวไปด้วยที่ร้านอาหารหลายแห่งภายในเมืองครับ บรรยากาศที่คุณได้รับจะเป็นความทรงจำดีๆ ตราบนานเท่านาน
2. Ammoudi Bay
Ammoudi Bay เป็นอ่าวที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้าน Oia ตัวอ่าวตั้งอยู่ด้านล่างของหน้าผาที่ Oia ตั้งอยู่ ดังนั้นคุณสามารถเดินลงบันได 300 ก้าวจากหมู่บ้าน Oia ไป Ammoudi Bay ได้ครับ
ตัวอ่าวสวยงามมาก เพราะน้ำทะเลโดยรอบเป็นสี Turquoise ทำให้น่าลงเล่นน้ำสุดๆ เลยทีเดียว แต่กิจกรรมยอดนิยมของที่นี่คือกระโดดจากหน้าผาครับ ถ้าใครใจกล้าพอก็จัดเลยครับ 55
สำหรับใครที่อยากพักผ่อนชิวๆ คุณสามารถนั่งเรือไปแช่สระน้ำร้อนที่ห่างอยู่ไปไม่ไกลนักได้ หรือว่าจะนั่งชมวิวทิวทัศน์บริเวณร้านอาหารที่ตั้งอยู่ริมอ่าวก็ได้ครับ
3. Santorini Caldera
เนื่องจากซานโตรินี่เคยเป็นหมู่เกาะภูเขาไฟมาก่อน ดังนั้นจริงๆ แล้วบริเวณแห่งนี้จึงเป็นพื้นที่ยุบตัวขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นระหว่างการระเบิด แต่ที่ต่างออกไปจากฮาวายและเกาะกาลาปากอสคือ พื้นที่ยุบตัว (caldera) ส่วนใหญ่ของซานโตรินี่อยู่ใต้ทะเลและมีความใหญ่ถึง 84 ตารางกิโลเมตรเลยทีเดียว
อย่างไรก็ดีมีหลายส่วนที่ตั้งอยู่บนบก อย่างหน้าผาของหมู่บ้าน oia ก็เป็นส่วนหนึ่งของ caldera ครับ
บางส่วนของ caldera บนเกาะซานโตรินี่มีภูมิประเทศแปลกตาและสวยงาม คุณสามารถติดต่อทัวร์บนเกาะซานโตรินี่เพื่อนำคุณไปชมจุดสวยต่างๆ โดยใช้เรือครับ ซึ่งบางทัวร์จะพาคุณไปแช่บ่อน้ำร้อนเป็นส่วนหนึ่งของทริปด้วยครับ
4. Firá
Firá เป็นเมืองหลวงของเกาะซานโตรินี่ ลักษณะของเมืองคล้ายกับ Oia นั่นคือตั้งอยู่ริมหน้าผาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Santorini Caldera อาคารบ้านเรือนของ Fira ใช้โทนสีขาวและน้ำเงินทั้งหมด และลาดเป็นขั้นบันได ทำให้มีความสวยงามแปลกตา อาคารสีขาวขั้นบันไดเหล่านี้จึงเป็นสัญลักษณ์ของ Santorini ไปโดยปริยายครับ
เช่นเดียวกับ Oia ตัวเมือง Fira เป็นจุดชมวิวท้องทะเล Aegean ชั้นยอด และมีร้านอาหารและคาเฟ่หลายแห่งที่คุณสามารถรับประทานหรือดื่มกาแฟเพื่อสัมผัสและดื่มด่ำกับบรรยากาศได้ครับ ส่วนที่ใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศช่วงกลางคืน ที่นี่มีบาร์และไนท์คลับให้คุณได้ไปเยือนเช่นกัน
นอกจากนี้ภายในเมือง Fira มีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจอยู่สองแห่ง นั่นคือ Museum of Prehistoric Thera และ Archaeological Museum ซึ่งจัดแสดงวัตถุโบราณที่ถูกค้นพบภายในโบราณสถานบนเกาะซานโตรินี่ครับ
5. Beaches
เช่นเดียวกับเกาะอื่นๆ สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการไปเยือนชายหาดของเกาะซานโตรินี่ แต่ผมบอกได้เลยว่าชายหาดที่นี่ “ไม่ธรรมดา” ครับ ที่ไม่ธรรมดาก็เพราะว่ารูปลักษณ์ของชายหาดบางแห่งแตกต่างจากชายหาดทั่วไปที่เรารู้จักกันดี
Red Beach
Red Beach เป็นชายหาดที่อยู่ด้านล่างของหน้าผาสีแดงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ทำให้สีของทรายกลายเป็นสีแดงแกมขาว ด้วยเหตุนี้หน้าผาและน้ำทะเลมีสีที่ตัดกันแรงมาก ทำให้น่าถ่ายรูปอย่างมากเลยครับ
Black Sand Beaches
ซานโตรินี่มีหาดที่มีทรายเป็นสีดำหลายแห่งด้วยกัน ทรายของหาดเหล่านี้เป็นสีดำเพราะเป็นปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาที่เกี่ยวข้องกับภูเขาไฟ แต่หาดทรายเหล่านี้ก็สวยงามไปอีกแบบครับ หาดทรายสีดำที่น่าสนใจได้แก่
- Kamari Beach
- หาดของหมู่บ้าน Perissa, Perivolos และ Agios Georgios
6. Akrotiri Archaeological Site
ห่างจาก Fira ไป 12 กิโลเมตร คือ Akrotiri Archaeological Site ที่นี่เป็นจุดที่นักโบราณคดีค้นพบโบราณวัตถุมากมาย ซึ่งย้อนไปได้ไกลถึง 4,000 ปีครับ
ในอดีตสถานที่แห่งนี้เคยเป็นตัวเมืองชื่อ Akrotiri ที่เจริญรุ่งเรือง แต่แล้วเมืองทั้งเมืองกลับถูกกลบฝังโดยลาวาจากการระเบิดของภูเขาไฟครั้งใหญ่ที่ทำให้เกิด caldera ครับ
อย่างไรก็ดีการถูกฝังกลบด้วยลาวากลับทำให้สิ่งก่อสร้างที่ชาวเมืองสร้างจากดินเหนียวรอดพ้นกาลเวลาอันยาวนานมาได้ และยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์มากๆ ทำให้เมืองนี้ถูกเปรียบว่าเป็นเมืองปอมเปอีแห่งซานโตรินี่เลยครับ
7. Ancient Thera
Thera เป็นชื่อเก่าของซานโตรินี่ตั้งแต่ครั้งโบราณ ดังนั้น Ancient Thera จึงเป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่บนเกาะซานโตรินี่นั่นเองครับ โบราณสถานแห่งนี้มีอายุประมาณ 2,900 ปี และยังพอหลงเหลือร่องรอยให้ดูว่าอาคารแต่ละแห่งเคยใช้ทำอะไรอยู่ ไม่ว่าจะเป็นโรงละคร โรงยิม หรือสถานที่ราชการครับ
8. Imerovigli
Imerovigli เป็นอีกหมู่บ้านบนเกาะซานโตรินี่ที่มีชื่อเสียงสุดๆ ในเรื่องพระอาทิตย์ตกดิน จนถึงกับได้สมญานามว่า “Balcony to the Aegean” เลยทีเดียวครับ ส่วนหนึ่งเพราะว่าตัวหมู่บ้านตั้งอยู่บนจุดสูงที่สุดของ caldera ด้วย
อาคารต่างๆ ของหมู่บ้านสร้างขึ้นบน caldera เช่นเดียวกับ Fira และ Oia แต่ว่ามีจำนวนน้อยกว่า เพราะว่ามีผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านแค่ประมาณ 500 คนเท่านั้นเองครับ
ใกล้กับ Imerovigli มีหินก้อนใหญ่ชื่อ Skaros Rock ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของปราสาทที่ใช้ป้องกันเกาะแห่งนี้ในสมัยยุคกลางตั้งอยู่ ในปัจจุบัน Skaros Rock เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่สำคัญของเกาะซานโตรินี่ เพราะจากที่นี่คุณสามารถเห็นวิวได้แบบ 360 องศาโดยรอบเลยครับ
9. Pyrgos
Pyrgos เป็นเมืองหลวงเก่าของเกาะซานโตรินี่ก่อนที่จะถูกแทนที่ด้วย Fira ตามสภาพภูมิศาสตร์แล้ว Pyrgos ตั้งอยู่กลางเกาะและตั้งอยู่บนจุดที่สูงที่สุดของเกาะ จุดเด่นของ Pyrgos คือคุณสามารถเห็นวิวของหมู่บ้านใกล้ๆ บนเกาะได้รายรอบ (จากภูเขาชื่อ Mt. Profitis Ilias) และนักท่องเที่ยวยังมีไม่มากนักเมื่อเทียบกับ Oia และ Fira ครับ