ท่องเที่ยวหมู่เกาะกาลาปากอส (Galapagos) มีสถานที่ไหนน่าไปเที่ยวบ้าง?

หมู่เกาะกาลาปากอส (Galapagos) มีสถานที่ไหนน่าไปเที่ยวบ้าง?

Galapagos Islands หรือหมู่เกาะกาลาปากอส เป็นหมู่เกาะที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกในเรื่องของ “สัตว์” ที่นี่มีสัตว์มากมายที่ไม่สามารถพบได้ในส่วนอื่นของโลก ชาร์ลส์ ดาร์วินเองก็ได้ศึกษาชีวิตสัตว์เหล่านี้และให้กำเนิดทฤษฎีวิวัฒนาการ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของวิชาชีววิทยาที่เราเรียนอยู่ในทุกวันนี้ด้วย

ผมบอกได้เลยว่าหมู่เกาะกาลาปากอสเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับต้นๆ ที่ทำให้คุณตื่นตาตื่นใจได้ไม่ยาก เพราะนอกจากสัตว์แล้ว เกาะแห่งนี้ยังมีธรรมชาติที่สวยงามมากๆ อีกด้วย

ในโพสนี้ผมจะอธิบายถึงข้อควรทราบเกี่ยวกับหมู่เกาะกาลาปากอส ให้ทุกคนได้ทราบเสียก่อน หลังจากนั้นจะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเป็นลำดับต่อไปครับ

Pinnacle Rock, Galapagos Islands Image by pen_ash from Pixabay

รู้จัก Galapagos Islands

หมู่เกาะกาลาปากอส (Galapagos Islands) เป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก โดยห่างจากแผ่นดินใหญ่ที่ใกล้ที่สุดมากถึง 1,000 กิโลเมตร ตัวหมู่เกาะประกอบด้วยเกาะ 18 แห่ง เกาะเล็ก 3 แห่ง และแท่งหินอีก 107 แห่ง ส่วนลักษณะทางภูมิศาสตร์เป็นหมู่เกาะภูเขาไฟครับ

ตลอดหน้าประวัติศาสตร์ ไม่เคยมีชนกลุ่มใดอาศัยที่หมู่เกาะแห่งนี้เป็นการถาวรมาก่อน เพราะยังไม่มีใครค้นพบน้ำจืดในหมู่เกาะแห่งนี้เลย (ในเวลาต่อมาถึงจะค้นพบ) พวกพ่อค้าสัตว์ชาวตะวันตกจึงใช้ที่นี่เป็นสถานที่ล่าสัตว์ครั้งคราวเพื่อนำไปขายเท่านั้น

Galapagos Tortoise Image by Felipe Lopez from Pixabay

จนกระทั่งในปี ค.ศ.1832 ประเทศเอกวาดอร์ได้ผนวกหมู่เกาะกาลาปากอสเป็นส่วนหนึ่งของประเทศของตน โดยในช่วงแรกรัฐบาลเอกวาดอร์ก็นำพวกนักโทษมาอยู่ที่นี่ก่อน หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยชาวบ้านและช่างฝีมือทั่วไปอีกจำนวนหนึ่ง

ในปี ค.ศ.1835 นักชีววิทยาหนุ่ม ชาร์ลส์ ดาร์วิน (Charles Darwin) ได้เดินทางมายังหมู่เกาะแห่งนี้พร้อมกับเรือ HMS Beagle ของอังกฤษ เขาได้ตั้งข้อสังเกตถึงสัตว์ต่างๆ ในหมู่เกาะแห่งนี้ เช่นนกบางชนิดมีความแตกต่างกันในแต่ละเกาะรวมไปถึงบรรดาเต่าทั้งหลายด้วย

ดาร์วินได้รวบรวมข้อมูลเหล่านี้และได้พัฒนาขึ้นเป็นทฤษฎีวิวัฒนาการในเวลาต่อมา หนังสือและงานของดาร์วินอย่าง On the Origin of Species ได้ทำให้หมู่เกาะกาลาปากอส เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

Lava Tunnel, Galapagos Islands Image by Peter Mill from Pixabay

ประเทศเอกวาดอร์ได้ประกาศให้ตัวหมู่เกาะเป็นอุทยานแห่งชาติในปี ค.ศ.1959 หลังจากนั้นการท่องเที่ยวในหมู่เกาะก็เริ่มเป็นที่นิยม ทำให้ชาวเอกวาดอร์อพยพไปอยู่ที่หมู่เกาะดังกล่าวมากขึ้น ในปัจจุบันหมู่เกาะจึงมีผู้อยู่อาศัยอย่างถาวรประมาณ 25,000 คนครับ

ในปัจจุบันเกาะ Galapagos ได้รับการยกย่องว่าเป็นแหล่งดูสัตว์อันดับต้นๆของโลก ไม่ว่าจะเป็นสัตว์บกหรือสัตว์ทะเล ดังนั้นใครที่ชอบดูสัตว์ไม่ควรพลาดที่จะมาเยือนที่นี่สักครั้งหนึ่งเลยครับ

ถัดไปเราไปดูกันดีกว่าหมู่เกาะแห่งนี้มีที่ไหนน่าไปเที่ยวบ้าง

1. San Cristobal Island

San Cristobal เป็นเกาะที่เป็นที่ตั้งของ Puerto Baquerizo Moreno เมืองหลวงของหมู่เกาะกาลาปากอส ภายในเกาะแห่งนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่งได้แก่

San Cristobal Island, Galapagos Islands By Diego Delso, CC BY-SA 4.0,

La Loberia ชายหาดที่เต็มไปด้วยแมวน้ำและสิงโตทะเลกำลังนอนอาบแดดอยู่อย่างสบายใจ หรือบางตัวก็กำลังเล่นน้ำกับลูกของมัน นอกจากนี้ยังมีอิกัวน่า เต่ายักษ์ และสัตว์อื่นๆ ให้คุณได้ชมอีกด้วย

La Loberia by Florent Figon, Flickr, CC By SA 2.0

ถ้าคุณอยากจะเล่นกระดานโต้คลื่น ดำน้ำ หรือว่ายน้ำก็สามารถทำได้ แต่สิ่งที่ต้องระวังอย่างเดียวคืออย่าเข้าไปใกล้พวกสัตว์ โดยเฉพาะสิงโตทะเล เพราะอาจจะเป็นอันตรายได้ครับ

จุดไฮไลท์ที่สวยงามของหมู่เกาะกาลาปากอสอีกแห่งหนึ่งอย่าง Kicker Rock ก็ตั้งอยู่ใกล้กับเกาะนี้ด้วย แท่งหินสูง 460 ฟุตกลางทะเลแห่งนี้เกิดขึ้นตามธรรมชาติและมีรูปร่างที่เป็นเอกลักษณ์ คุณสามารถลงว่ายน้ำหรือดำน้ำตื้นบริเวณนี้ได้อีกด้วยครับ แต่ต้องไปกับทัวร์นะครับ เพราะมันอยู่กลางทะเลนั่นแหละ

ถ้าคุณโชคดีจริงๆ คุณมีโอกาสเห็นฉลามกาลาปากอส (Galapagos Sharks) นับร้อยตัวว่ายเข้ามาใกล้คุณมากๆ อีกด้วย ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่จุดดำน้ำไม่กี่แห่งในโลกสามารถให้คุณได้ แต่เวลาดำน้ำต้องระวังนะครับ เพราะทะเลบริเวณนี้มีคลื่นลมรุนแรงครับ ถ้าดำน้ำหรือว่ายน้ำไม่แข็งจริงๆ การชมจากบนเรือน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

Kicker Rock By David Stanley, Flickr, CC By 2.0

สถานที่ที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ Frigatebird Hill หรือภูเขาที่คุณสามารถปีนขึ้นไปชมวิวสวยๆ และชมนกนานาชนิดได้ครับ แต่ถ้าใครชอบชมนกจริงๆ ต้องไปที่ Punta Pitt ซึ่งเป็นเขตที่นกทะเลจำนวนมากสร้างรังอยู่ที่นี่

Brown Pelican at San Cristobal, Galapagos Islands By Diego Delso, CC BY-SA 4.0,

นอกเหนือจากสถานที่เหล่านี้แล้ว San Cristobal ยังมีหาดอีกหลายแห่งที่สวยงามและมีแมวน้ำและสิงโตทะเลให้ชมอย่างใกล้ชิด อาทิเช่น

  • Playa Cerro Brujo
  • Punta de Oliviana
  • Punta Carola
  • El Manglecito
  • Puerto Grande
  • Playa Mann
  • Playa Ochoa
หาดที่เกาะ San Cristobal By descubriendoelmundo, Flickr, CC By SA 2.0

สำหรับใครที่ชอบดำน้ำลึก รายรอบเกาะแห่งนี้มีจุดดำน้ำที่น่าสนใจหลายแห่งซึ่งเต็มไปด้วยปะการังและสัตว์ทะเลมากมาย แต่ว่าการจะออกไปแน่นอนว่าต้องติดต่อกับทัวร์ครับ

2. Santa Cruz Island

Santa Cruz เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นลำดับที่สองในหมู่เกาะ Galapagos ที่นี่เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของการท่องเที่ยวของการที่นี่เลยก็ว่าได้ครับ เมืองใหญ่ที่สุดที่ตั้งอยู่บนเกาะนี้คือ Puerto Ayora

สถานที่แรกที่น่าสนใจคือ Charles Darwin Research Station หรือศูนย์วิจัยที่เป็นสถานที่เพาะพันธุ์สัตว์ และให้ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับธรรมชาติและประวัติศาสตร์ของหมู่เกาะกาลาปากอส ที่นี่เป็นสถานที่ที่คุณสามารถชมเต่ายักษ์กาลาปากอส (Galapagos Tortoise) ได้อย่างใกล้ชิด แม้ว่าจะมีจำนวนไม่มากเท่าที่อื่นก็ตามครับ

Galapagos Tortoise By David Adam Kess, CC BY-SA 3.0,

ถ้าอยากชมเต่ายักษ์จำนวนมากแบบใกล้ชิด เกาะ Santa Cruz มีสองจุดให้ชมครับ นั่นคือที่ Rancho Primicias และ El Chato Tortoise Reserve ซึ่งอยู่ติดกัน ทั้งสองแห่งจะให้คุณสำรวจเต่ายักษ์ที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติของมัน ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่หาที่อื่นไม่ได้อีกแล้วครับ

ใกล้กับทั้งสองแห่งมี Lava Tunnels หรืออุโมงค์ที่เกิดขึ้นจากการไหลของลาวา ก่อให้เกิดภูมิประเทศที่หาชมได้ยากมากๆ ขึ้นมา คุณจะได้เดินผ่านอุโมงค์เหล่านี้และสัมผัสถึงความอัศจรรย์ของธรรมชาติครับ

อีกสถานที่ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงคือ Twin Craters ซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่ใช่หลุมอุกกาบาตแต่อย่างใด แต่เป็นหลุมที่เกิดจากการยุบตัวของพื้นดินเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของชั้นภูเขาไฟ นอกจากความแปลกของธรรมชาติที่คุณสามารถชมได้แล้ว บริเวณนี้ยังมีนกอีกจำนวนมากให้คุณชมด้วยครับ

นอกจากนี้นักท่องเที่ยวหลายคนขนานนาม Tortuga Bay ที่เกาะ Santa Cruz ว่าเป็นสุดยอดไฮไลท์ของทริปเกาะกาลาปากอส เพราะที่นี่มีหาดทรายขาวสะอาดที่มีเต่าดำมาวางไข่ รวมไปถึงมีอิกัวนาน้ำ และ Sally lightfoot crab ปูสีสันฉูดฉาดสุดสวยที่พบเฉพาะที่ชายฝั่งของทวีปอเมริกาทั้งสองให้ชมด้วย

Tortuga Bay By Diego Delso, CC BY-SA 4.0,

ไม่เพียงเท่านี้ เกาะ Santa Cruz ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจด้วย อาทิเช่น

  • Black Turtle Cove – ป่าโกงกางที่เต็มไปด้วยสัตว์น้ำ โดยเฉพาะเต่าทะเล
  • Itabaca Channel – ทะเลแคบๆ ที่อยู่ตรงกลางระหว่างเกาะ Santa Cruz และ Baltra
  • Academy Bay – อ่าวยอดนิยมสำหรับการดูสิงโตทะเล และดำน้ำลึก ตัวอ่าวตั้งอยู่ใกล้กับ Charles Darwin Research Station
Itabaca Channel By David Adam Kess, CC BY-SA 3.0,

3. Isabela Island

Isabela Island เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะกาลาปากอส (Galapagos islands) บนเกาะมีเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ชื่อ Puerto Villamil เกาะแห่งนี้มีธรรมชาติที่สวยงามไม่แพ้เกาะอื่นๆ ในหมู่เกาะเลยครับ

จุดแรกที่คนนิยมไปกันคือ Sierra Negra Volcano ภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่มีหลุมปล่องภูเขาไฟ (caldera) ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และมีเส้นผ่านศูนย์กลางถึงเกือบ 10 กิโลเมตรด้วยกัน ในปัจจุบันภูเขาไฟลูกนี้ยังไม่ดับนะครับ แม้ว่าจะไม่ปะทุมาตั้งแต่ปี ค.ศ.2005 แล้วก็ตาม นอกจากนี้ที่นี่ยังมีเต่ายักษ์กาลาปากอสพันธุ์ที่หายากอาศัยอยู่ด้วยครับ

Sierra Negra Volcano By Peter Swaine, Flickr, CC By 2.0

อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ คือ Flamingos Lake ซึ่งนอกจากจะมีนกฟลามิงโก้แล้วยังมีนกทะเลอีกเป็นจำนวนมากด้วยครับ ที่นี่เป็นสถานที่ที่มีนกฟลามิงโก้มากที่สุดในหมู่เกาะกาลาปากอส

Flamingo ที่ Galapagos Islands By Peter Swaine, Flickr, CC By 2.0

สิ่งที่น่าสนใจคือ เกาะแห่งนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ด้วย นั่นคือ Wall of Tears ซึ่งเป็นกำแพงที่พวกนักโทษถูกบังคับให้สร้างบนเกาะ Isabela เพื่อสร้างสถานที่คุมขังพวกนักโทษเอง ตลอดเวลาการสร้างสิบกว่าปีมีผู้เสียชีวิตนับพัน ทำให้ชาวเกาะกาลาปากอสมีเรื่องเล่าว่าวันดีคืนดีจะมีเสียงร้องไห้ดังออกมาจากกำแพงแห่งน้ำตาแห่งนี้ครับ

Wall of Tears By Steven Bedard, Flickr, CC By 2.0

ถ้าใครยังไม่รู้สึกอิ่มกับการชมนกและสัตว์บกต่างๆ คุณสามารถไปชมได้ที่ Moreno Point, The Wetlands, Urbina Bay หรือ Tagus Cove แต่ถ้าอยากดูอิกัวนาต้องไปที่ Albemarle Point ครับ

สำหรับใครที่ชอบดำน้ำไม่ว่าจะดำน้ำตื้นหรือลึกก็ตาม เกาะ Isabela แห่งหมู่เกาะกาลาปากอสมีจุดดำน้ำระดับเทพที่เต็มไปด้วยสัตว์ทะเลขนาดใหญ่ไม่ว่าจะเป็นวาฬ ฉลาม เต่าทะเล นกเพนกวิน ปลากระเบน และปลาอื่นๆ เป็นจำนวนมาก จุดระดับท็อปได้แก่

  • Elizabeth Bay
  • Las Tintoreras – นอกจากจะเป็นจุดดำน้ำแล้ว ยังมีชายหาดที่เป็นจุดวางไข่ของอิกัวนาทะเลด้วย
  • Los Tuneles
  • Concha de Perla
  • Vincente Roca Point
  • Cowley Islet
  • Cuatro Hermanos Islets (ดำใต้ถ้ำ)
  • Roca Redonda
  • Tortuga Islet
  • Cape Marshall (เน้นสัตว์ทะเลตัวใหญ่ทุกประเภท มีฉลามหัวค้อนให้ชมด้วย)
ฉลามหัวค้อนที่หมู่เกาะกาลาปากอส Image by Took from Pixabay

สิ่งที่คุณควรทราบอย่างหนึ่งคือ ในการดำน้ำที่นี่บางจุด คุณต้องมีประสบการณ์การดำน้ำมากกว่าที่กำหนด (เช่น 50 ไดฟ์ขึ้นไป และต้องมีประสบการณ์ดำน้ำแบบพิเศษมาก่อน) ถึงจะดำได้ มิฉะนั้นทัวร์จะไม่ให้คุณดำครับ

ถ้าคุณไม่อยากดำน้ำ วิธีที่ชมสัตว์ที่ดีที่สุดคือการนั่งเรือเล็กหรือ Dinghy Ride ครับ

Blue Footed Boobies at Isabela Island, Galapagos islands By Anne and David, Flickr, Public Domain

4. Fernandina Island

Fernandina Island เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ในหมู่เกาะกาลาปากอส และเป็นเกาะที่อายุน้อยที่สุดในโลกแห่งหนึ่งด้วย เกาะภูเขาไฟแห่งนี้นอกจากจะสวยงามแล้ว ยังมีสัตว์มากมายที่ให้คุณชมด้วย ไม่ว่าจะเป็นอิกัวนา สิงโตทะเล นกนานาชนิด

Fernandina Island by David Stanley, Flickr, CC By 2.0

คุณสามารถปีนภูเขาสีดำที่เกิดจากการไหลบ่าของลาวาได้ที่ Espinosa Point เช่นเดียวกับชมสัตว์นานาชนิดที่อาศัยอยู่ที่นี่ ส่วนใครที่ชอบดำน้ำตื้น สามารถเดินไปได้ที่ Mangle Point ซึ่งคุณจะได้ใกล้ชิดกับนกเพนกวินน่ารักๆ จำนวนมากครับ

ถ้าคุณมีประสบการณ์มากกว่า 40 ไดฟ์ได้ครับ คุณสามารถลงไปสัมผัสกับโลกใต้ทะเลที่ Cape Douglas ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กันได้

5. Santiago Island

Santiago Island เป็นอีกหนึ่งในเกาะยอดนิยมในหมู่เกาะกาลาปากอส ที่นี่เต็มไปด้วยสิงโตทะเลและนกนานาชนิดอย่างเช่นเหยี่ยวกาลาปากอส หรือนกอย่าง Darwin’s Finches ให้คุณได้พบเจอ เช่นเดียวกับจุดดำน้ำที่ยอดเยี่ยมอีกหลายแห่งครับ

James Bay By Aaron Logan, Flickr, CC By 2.0

จุดที่น่าสนใจแห่งแรกคือ James Bay (หรือ Port Egas) อ่าวที่เต็มไปด้วยสิงโตทะเล แมวน้ำ และนกนานาชนิด นอกจากนี้นอกอ่าวยังมีสัตว์ทะเลอย่างเช่นปลากระเบนและฉลามให้คุณได้ดำน้ำตื้นกับพวกมันด้วยครับ

Sullivan Bay By NOAA Photo Library, Flickr, CC By 2.0

ถ้าคุณสนใจภูมิประเทศแปลกๆ ที่เกิดจากภูเขาไฟต้องไปที่ Sullivan Bay อ่าวที่่ใกล้กับชั้นลาวาที่มีรูปร่างแปลกตา ซึ่งลักษณะภูมิประเทศแบบนี้จะพบได้ที่นี่และหมู่เกาะฮาวายเท่านั้นครับ อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ Chinese Hat ที่รูปร่างหน้าตาของยอดภูเขาเหมือนกับหมวกของชาวเอเชียตะวันออกครับ เหมือนไม่เหมือนดูเอาเองด้านล่าง

Chinese Hat By Claumoho, Flickr, CC By 2.0

ในอดีตเกาะ Santiago เคยเป็นที่หลบภัยของพวกโจรสลัดอังกฤษที่มักปล้นเรือสินค้าของสเปนแล้วมาหลบที่นี่ชั่วคราว ที่อยู่อาศัยของพวกเขาอยู่ที่ Buccaneer Cove ซึ่งเป็นถ้ำบนเกาะแห่งนี้ คุณสามารถเข้าไปชมได้ครับ

สำหรับสายดำน้ำลึก ที่นี่มีจุดให้ดำเด่นๆ ของสองจุดได้แก่ Albany Islet และ Cousins Rocks ซึ่งมีสัตว์น้ำนานาชนิดให้ชม โดยเฉพาะพวกฉลามหัวค้อนครับ

6. Bartholomew Island

Bartholomew Island เป็นเกาะซึ่งเป็นที่ตั้งของ Pinnacle Rock หินขนาดใหญ่ที่เป็นสัญลักษณ์ของเกาะกาลาปากอส ดังนั้นคุณควรจะมาถ่ายรูปที่นี่สักครั้งหนึ่งครับ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีชั้นลาวาที่ดูน่าแปลกตาให้ชมด้วย

Pinnacle Rock By David Stanley, Flickr, CC By 2.0

นอกจากนี้ โลกใต้ทะเลของเกาะนี้ยังสวยงามและอุดมสมบูรณ์ไม่แพ้ที่อื่น คุณสามารถดำน้ำลึกเพื่อความชมความงามได้ด้วยเช่นกันครับ

7. Espanola Island

Espanola Island เป็นเกาะในหมู่เกาะกาลาปากอสที่มีหาดทรายสีขาว และมีน้ำทะเลที่ใสและสวยมาก ที่นี่จึงเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่มาว่ายน้ำครับ โดยเฉพาะที่ Osborn Islet หรือ Gardner Bay

Gardner Bay By Dan, Flickr, CC By SA 2.0

ที่ Gardner Bay มีความพิเศษอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือที่นี่เป็นสถานที่หาคู่ของนก Albatross นับหมื่นตัว นอกจากนี้ยังมีสิงโตทะเลจำนวนมากนอนอยู่ด้วย ดังนั้นคุณจะได้ทั้งว่ายน้ำและชมสัตว์ไปในคราวเดียวกันครับ

อีกหนึ่งที่ควรค่าต่อการกล่าวถึงคือ Suarez Point ซึ่งเป็นจุดชมและถ่ายรูปนกของเกาะแห่งนี้ครับ ที่นี่มีทั้งนก Nazca boobies, albatross และ blue-footed boobies ให้คุณได้ชมครับ

Albatross By putneymark , CC BY-SA 2.0,

8. Floreana Island

Floreana Island หรือ Santa Maria เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ใต้สุดของหมู่เกาะกาลาปากอส ในอดีตที่นี่เคยเป็นสถานที่ที่พวกนักล่าวาฬใช้เป็นไปรษณีย์เพื่อติดต่อสื่อสารกับโลกภายนอก ปัจจุบันจุดดังกล่าวก็ยังอยู่ นั่นคือ Post Office Bay ซึ่งมีชายหาดที่สวยงามตั้งอยู่ครับ

ไปรษณีย์ที่ Post Office Bay By Claumoho, Flickr, CC By 2.0

สถานที่น่าสนใจอีกแห่งคือ บ่อน้ำจืดเก่าแก่ที่ผู้อยู่อาศัยยุคแรกๆ ใช้ดื่มประทังชีวิตหรือ Asilo de la Paz ครับ นอกจากนี้คุณสามารถเดินเทรคกิ้งเข้าไปในถ้ำที่นักสำรวจยุคแรกๆ ใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยเพื่อดูว่าพวกเขาใช้ชีวิตอย่างไร

สำหรับสายดูสัตว์ จุดที่น่าสนใจคือ Champion Islet ครับ จุดนี้จะเป็นเกาะเล็กๆ ห่างจาก Floreana เล็กน้อย แต่เต็มไปด้วยสิงโตทะเล และปลาเล็กปลาน้อยจำนวนมาก นักท่องเที่ยวมักจะมาดำน้ำตื้นหรือล่องเรือเล็กชมสัตว์กันครับ

ถ้ายังไม่เบื่อกับนกฟลามิงโก้ สามารถไปชมกันต่อได้ที่ Cormorant Point ซึ่งเป็นสระน้ำที่มีนกดังกล่าวจำนวนมาก และยังมีหาดสีเขียวที่แปลกตาให้ชมด้วยครับ

ปิดท้ายด้วยการดำน้ำตื้น Devil’s Crown ใกล้กับเกาะ Floreana เป็นจุดดำน้ำตื้นที่ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะกาลาปากอส ถ้าบินมาถึงที่นี่แล้วไม่ค่อยพลาดลงดำน้ำที่นี่ครับ

9. สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ

นอกจาก 8 เกาะที่ผมได้แนะนำไปแล้ว หมู่เกาะกาลาปากอสยังมีจุดสวยๆ อีกหลายแห่งที่น่าไป อาทิเช่น

  • Darwin Island – หนึ่งในจุดดำน้ำลึกที่ดีที่สุดในโลก ครบเครื่องทั้งปะการังและสัตว์น้ำ แถมยังมีภูเขาหินสวยๆ อย่าง Darwin’s Arch ด้วย แต่คุณไม่สามารถขึ้นไปบนเกาะได้ครับ
  • Wolf Island – จุดดำน้ำสำหรับสายแข็งเรื่องการดำน้ำจริงๆ แม้ว่าคลื่นลมจะรุนแรง แต่ปลานับล้านทำให้นักดำน้ำตัดสินใจเสี่ยง!
  • Pinzon Island
  • Pinta Island
  • Santa Fe Island
  • Genovesa Island
  • North Seymour Island
  • South Plaza Island
  • Rabida Island – เด่นสุดๆ เรื่องหาดทรายสีแดง
Rabida Island Image by Gonzo1887 from Pixabay

ไปเที่ยวหมู่เกาะกาลาปากอสอย่างไรดี?

คุณสามารถเที่ยวหมู่เกาะกาลาปากอส (Galapagos islands) ได้ตลอดทั้งปี เพราะว่าคลื่นลมบริเวณนี้ไม่ได้รุนแรงมากขนาดที่สร้างปัญหาต่อการท่องเที่ยวมากนัก แต่ช่วงที่ดีที่สุดคือ ช่วงเดือนธันวาคม-พฤษภาคมครับ เพราะน้ำจะไม่ขุ่น และคลื่นลมจะเบาที่สุด

อย่างไรก็ดี ด้วยความที่สถานที่ท่องเที่ยวในหมู่เกาะมีเยอะมากอย่างที่ได้เห็นไปแล้วด้านบน และตัวหมู่เกาะอยู่ห่างไกลจากประเทศไทยมาก ถ้าคุณจะไป ผมมองว่าควรให้เวลา 12 วัน หรือมากกว่านั้น เพราะกว่าจะบินไปถึงก็ใช้เวลา 2 วันแล้วครับ

Espanola Island, Galapagos islands Image by Vincent Croos from Pixabay

ในการบินไปสู่หมู่เกาะกาลาปากอสที่เร็วที่สุดจะใช้เวลาอย่างน้อย 30 ชั่วโมงขึ้นไป และอาจจะต้องเปลี่ยนเครื่องบิน 2-3 ครั้ง และในการจอง คุณจะต้องจองหลายสายการบินควบคู่กันด้วย เพราะไม่มีสายการบินเดียวที่นำคุณจากกรุงเทพไปยังหมู่เกาะกาลาปากอสได้โดยตรง สายการบินที่น่าสนใจได้แก่

  • KLM
  • LATAM Airlines
  • Air France
  • Avianca

เมื่อคุณไปถึงหมู่เกาะกาลาปากอสแล้ว คุณสามารถจองทัวร์ท้องถิ่นได้ ซึ่งคุณสามารถปรับทริปให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณได้ครับ

[sc name=”travelthai” ][/sc]

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!