ถ้ากล่าวถึงประเทศโครเอเชีย (Croatia) ผมเชื่อว่าหลายคนคงจะนึกถึงทีมฟุตบอล เพราะทีมชาติโครเอเชียเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จมากทีมหนึ่ง
แต่จริงๆแล้วโครเอเชียไม่ได้มีดีแค่ทีมฟุตบอลเท่านั้น
แม้ว่าโครเอเชียเป็นประเทศใหม่ที่มีอายุยังไม่ถึง 30 ปีดี แต่ประเทศแห่งนี้มีเมืองสวยอยู่มากมายหลายแห่ง ชนิดที่เรียกว่าไม่แพ้ประเทศอื่นๆ ในยุโรปเลย
ไม่เพียงเท่านั้นความสวยของเมืองเหล่านี้ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะด้านสถาปัตยกรรม แต่ยังมีความงดงามทางด้านธรรมชาติอีกด้วย
เราไปดูกันดีกว่าครับ เมืองสวยแห่งโครเอเชียจะมีที่ใดบ้าง
1. Dubrovnik
Dubrovnik (ดูบรอฟนิค) เป็นหนึ่งในเมืองที่มีชื่อเสียงที่สุดในโครเอเชีย สาเหตุสำคัญคือซีรีส์ที่ดังไปทั่วโลกอย่าง Game of Thrones ได้ถ่ายทำหลายฉากในเมืองแห่งนี้ ปัจจุบันดูรอฟนิคจึงอัดแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
ตัวเมืองมีลักษณะเป็นปากอ่าวที่ยื่นออกไปทางทะเลเอเดรียติก ทำให้มีทัศนียภาพที่งดงามโดยธรรมชาติอยู่แล้ว มิเพียงเท่านั้น ดูบรอฟนิคยังมีอาคารอายุหลายร้อยปีที่ตั้งอยู่ด้วย ดังนั้นภายในเมืองจึงเปรียบดังเมืองโบราณที่ตั้งอยู่ริมทะเลอย่างไม่มีผิดเพี้ยน
ด้วยความงดงามเช่นนี้ ทำให้ดูบรอฟนิคเป็นเมืองที่ทำให้นักท่องเที่ยวประทับใจมาแล้วนับคนไม่ถ้วน หลายคนถึงกับปรารถนาจะได้กลับไปเยือนเมืองนี้อีก
2. Split
Split (สปลิท) เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับสองของโครเอเชีย สปลิทเป็นเมืองที่เก่าแก่ถึงอย่างน้อย 1,500 ปี ที่นี่มีพระราชวังของจักรพรรดิไดอาคลีเชียนแห่งยุคโรมันตั้งอยู่ด้วย
บ้านเมืองและสิ่งก่อสร้างแบบโบราณยังได้รับการรักษาอย่างดีมาก ทำให้สปลิทดูเหมือนกับเป็นเมืองโบราณเช่นเดียวกับดูบรอฟนิค ไม่เพียงเท่านั้นสปลิทยังมีท้องทะเลสีฟ้าอมเขียวตลอดจนชายหาดที่สวยงามมากอีกด้วย
ใครที่เดินทางมาเที่ยวที่นี่อย่าได้พลาดที่จะเดินทางไปยัง Marjan Hill เพื่อที่จะชมวิวมุมสูงของเมือง ภาพที่เห็นจะทำให้ลืมไม่ลงเลยทีเดียว
3. Rab
Rab (แรป) เป็นเมืองที่อยู่บนเกาะชื่อเดียวกัน เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่นอกชายฝั่งทะเลเอเดรียติกของประเทศโครเอเชีย
แรปเป็นเมืองที่เก่าแก่มาก ประวัติศาสตร์ของเมืองย้อนไปได้ถึงสมัยจักรพรรดิเอากุสตุส (Augustus) หรือว่าสองพันปีก่อน นอกจากนี้แรปยังเป็นที่หลบหนีของชาวคริสเตียนเมื่อครั้งที่จักรพรรดิไดอาคลีเชียนปราบปรามชาวคริสต์อีกด้วย
ด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานทำให้แรปเป็นเมืองที่ผู้ที่สนใจในประวัติศาสตร์มักมาเยี่ยมเยือน เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวทั่วไปที่อยากจะมาพักผ่อนและชมธรรมชาติ รายรอบเกาะแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยเรือยอร์ชที่นำนักท่องเที่ยวมาใช้เวลาดื่มด่ำกับบรรยากาศอันตราตรึง
4. Hvar
Hvar (ฮวาร์) เป็นอีกเมืองที่ตั้งอยู่บนเกาะในทะเลเอเดรียติกของประเทศโครเอเชีย ฮวาร์มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานไม่แพ้เมืองอื่นๆ เพราะสามารถย้อนไปได้ถึงสมัยกรีกเลยทีเดียว
ภูมิประเทศรอบเมืองแห่งนี้มีความน่าสนใจอย่างมาก ทะเลเอเดรียติกรายรอบเมืองนี้มีเกาะแก่งที่น่าสนใจ ท้องทะเลก็สวยใสสะอาด หาดทรายก็ขาวน่าเดินเล่น นอกจากนี้ยังมีสิ่งก่อสร้างสวยๆ อีกต่างหาก ทำให้ฮวาร์เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
5. Cavtat
Cavtat (แคฟแทต หรือ คาฟทัต) เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 2,500 ปี ตัวเมืองตั้งอยู่ทางใต้สุดของประเทศโครเอเชีย และไม่ไกลจากดูบรอฟนิคเท่าไรนัก
ปัจจุบันแคฟแทตเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญ เพราะตัวเมืองมีปากอ่าวที่สวยงามมาก นักท่องเที่ยวจึงเดินทางมาที่นี่เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ ภายในเมืองจึงมีโรงแรมสุดหรู หรือบ้านพักระดับไฮโซของเศรษฐีหลายต่อหลายแห่ง
6. Zadar
Zadar (ซาดาร์) เป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศโครเอเชีย เมืองนี้มีหลักฐานว่าถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่ช่วง 800 ปีก่อนคริสตกาลเลยทีเดียว
ปัจจุบันซาดาร์เหลือโบสถ์ที่เก่าแก่และสวยงามอย่างเช่น Church of St Donatus ที่มีอายุมากกว่าหนึ่งพันปี นอกจากนี้ยังมีสิ่งก่อสร้างแบบโรมันหลงเหลืออยู่ด้วย ซาดาร์จึงเป็นเมืองที่เต็มเปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมอันน่าเก่าแก่ ซึ่งควรค่ากับการไปชมอย่างยิ่งครับ
7. Trogir
Trogir (โทรเกียร์) เป็นอีกหนึ่งเมืองโบราณที่ตั้งอยู่บนเกาะของประเทศโครเอเชีย เมืองนี้อยู่ใกล้กับเมืองสปลิท ทำให้สามารถไปเจียดเวลาจากสปลิทไปชมได้อย่างสบายๆ
โทรเกียร์มีสิ่งก่อสร้างสไตล์เวนิสอยู่มากมาย นี่จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้โทรเกียร์ได้รับการยกย่องว่าเป็นมรดกโลกจากองค์กร UNESCO สิ่งก่อสร้างที่น่าสนใจอาทิเช่น ปราสาท Kamerlengo หรือ Cathedral of St.Lawrence เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองนี้ที่ต้องไปเยี่ยมเยือนให้ได้ครับ
ในกรณีที่เบื่อศิลปวัฒนธรรมแล้ว ผมแนะนำให้ลองมานั่งเล่นที่บริเวณท่าเรือดูครับ เพราะจะได้สัมผัสถึงสถาปัตยกรรมและท้องทะเลที่สวยงามไปพร้อมๆ กัน บอกได้แค่ว่า “งดงามจับใจ” ครับ
8. Rovinj
Rovinj (โรวีน) เป็นเมืองริมทะเลเอเดรียติกที่อยู่ในคาบสมุทร Istria ติดกับประเทศอิตาลี เมืองนี้เก่าแก่เหมือนกับเมืองอื่นๆ แต่ในปัจจุบันเมืองนี้มีชื่อเสียงในฐานะเป็นเมืองรีสอร์ท และสถานที่ตกปลาที่อุดมสมบูรณ์
รายรอบเมืองโรวีนยังมีเกาะแก่งกลางทะเลที่งดงามอีกถึง 19 เกาะ ทำให้เหมาะอย่างยิ่งกับการนั่งเรือชมท้องทะเลครับ
9. Korčula
Korčula (คอชูลา) เป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่บนเกาะ เมืองนี้มีชื่อเสียงมากในเรื่องของสถาปัตยกรรมแบบยุคกลางที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองรายรอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
คอชูลาเป็นเมืองที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไรนัก แต่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง เช่นประตูและกำแพงเมืองที่ปกป้องเมืองทั้งจากการรุกรานของศัตรูและภัยธรรมชาติ หรือบ้านของนักเดินทางชื่อดังอย่างมาร์โค โปโลเป็นต้น
ด้วยความที่ห่างไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวหลักมากพอสมควร ทำให้นักท่องเที่ยวในคอชูลามีไม่มากนัก เราจึงสามารถสัมผัสกับบรรยากาศและท้องทะเลได้อย่างจุใจ นอกจากนี้อย่าได้พลาดไปเยี่ยมชมไร่องุ่นที่ผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงของคอชูลาด้วยครับ
10. Zagreb
Zagreb (ซาเกร็บ) เป็นเมืองหลวงของประเทศโครเอเชีย การมาเที่ยวโครเอเชียคงจะไม่ครบถ้วนถ้ายังไม่ได้เดินทางมาเที่ยวเมืองนี้
ต่างจากเมืองอื่นๆ อีก 9 เมือง ซาเกร็บไม่ติดทะเลแต่อย่างใด แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเมืองนี้จะไม่สวย ซาเกร็บเป็นเมืองเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยอาคารที่สร้างอย่างประณีตและอยู่ในสภาพสมบูรณ์ อาทิเช่น Cathedral of Zagreb ที่ตั้งเด่นเป็นสง่า และ Ban Jelačić Square ที่มีความสวยไม่แพ้เมืองใดในยุโรปเลย
ไม่เพียงเท่านั้น ซาเกร็บยังมีพิพิธภัณฑ์แปลกๆ แต่น่าสนใจอย่าง Museum of Broken Relationships ที่จัดแสดงข้าวของต่างๆ ที่แสดงถึงความรักที่พังทลายด้วย
ส่งท้าย
ประเทศโครเอเชียเป็นประเทศที่มีเมืองสวยๆ มากมายหลายแห่ง การเดินทางมาประเทศแห่งนี้ก็ไม่ได้ยุ่งยากมากมาย สายการบินอย่าง Qatar Airways และ Lufthansa มีบริการเที่ยวบินจากกรุงเทพมายังซาเกร็บให้ได้จองหลายเที่ยวต่อสัปดาห์ โดยในการเดินทางจะต้องแวะ 1 ครั้ง (อย่างเช่นที่โดฮาเป็นต้น) ครับ
[sc name=”travelthai” ][/sc]