ผมเป็นแฟนพันธุ์แท้ร้านบุฟเฟต์เนื้อย่าง ร้าน Gyu Kaku เลยก็ว่าได้ เพราะว่าผมไปกินค่อนข้างบ่อย (เดือนสองเดือนครั้ง) แต่ก่อนหน้านี้ไม่มีโอกาสได้รีวิวเลย ในวันนี้จึงขอนำมารีวิวลงเว็บให้ทุกท่านได้อ่านบ้างครับว่าเป็นอย่างไร
ก่อนอื่น ต้องเรียนให้ทราบก่อนเลยว่า ตอนนี้ร้านเพิ่งจะปรับราคา และเพิ่มเมนูใหม่มาหมาดๆ มีการเพิ่มเนื้อหลายอย่าง จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลยครับ
สาขาที่ผมใช้บริการคือ Gyu Kaku สาขาธนิยะนะครับ พิกัดอยู่ด้านล่าง ร้านอยู่ที่ปากทางเข้าซอยธนิยะเลย อยู่ฝั่งตรงข้ามกับธนิยะพลาซ่า เดินเข้าซอยมาจากถนนสีลม แล้วมองขวาก็จะเห็นร้านเลยครับ
พอมาถึงก็โป๊ะแตกเลยครับ แอร์เสีย! จะไหวมั้ยวะ 55 แต่คิดไปคิดมาก็คิดว่าพอไหว เพราะว่าร้านเค้าก็เอาพัดลมมาเป่าให้ลูกค้าอย่างดี
ร้านนี้แคบหน่อย โต๊ะจะชิดกัน (มาก) เพราะฉะนั้นโต๊ะเราก็จะติดกับคนอื่นมากหน่อย
วันนี้ที่ผมเลือกกินคือ 699++ ครับ (ไม่รวมน้ำนะครับ ต้องสั่งเพิ่ม) เมนูของร้านนี้มีเยอะมาก ผมลองเล่นๆ ให้ดูแผ่นนึงละกัน ส่วนที่เหลือไปดูกันได้ที่ Gyu Kaku Thailand
สังเกตดูว่าที่เมนูจะมีคำว่า New แสดงให้เห็นเป็นเนื้อตัวใหม่
จานและตะเกียบของร้านนี้
ร้าน Gyu Kaku ใช้เป็นเตาถ่าน ต่างจาก Tajimaya ที่เป็นเตาไฟฟ้า
โดยส่วนตัวแล้ว ผมชอบเตาถ่านมากกว่านะ ผมว่ามันทำให้หอมกว่า แต่บางทีใช้เตาถ่านก็มีปัญหา เพราะว่าเนื้อสุกไม่ทันใจ แต่วันนี้ของร้าน Gyu Kaku ถือว่าใช้ได้ ไม่มีปัญหาเรื่องสุกช้าเลย
เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า
ก่อนอื่น เจ้าหน้าที่ก็เอาผักมาให้พร้อมกับน้ำจิ้มและกระเทียม
เนื้อตัวแรกคือ Dragon Karubi หรือ เนื้อซี่โครงคารูบิใหญ่พิเศษ เนื้อตัวนี้เป็นเนื้อตัวใหม่
ตัวนี้ผมชอบนะ โดยทั่วไปแล้วส่วนนี้เวลากินๆ จะหวาดๆ นิดหน่อยว่าจะเหนียว แต่ของ Gyu Kaku นี่ดีอยู่ที่ไม่เหนียวเลย ผมจัดไปหลายจานอยู่ด้วยกัน
ต่อมาคือ Signature ของร้านอีกตัวนึงเลย นั่นก็คือลิ้นวัวนั่นเอง
ตัวนี้น้องผมชอบมาก ตัวลิ้นวัวก็ยังอร่อยเหมือนเดิม หนุบๆ ดี แต่ถ้าเทียบกับที่เคยมากินครั้งก่อน ถือว่าครั้งที่แล้วดีกว่า วันนี้มันแอบมีความเหนียวอยู่นิดหน่อย
จานนี้คือ Beef Dice Steak เนื้อลูกเต๋าแบบสเต็ก เนื้อตัวใหม่ของร้านเหมือนกัน
เนื้อลูกเต๋าตัวนี้พอย่างแล้วมันนิ่มมาก นิ่มจริงๆ แบบละลายในปากได้เลย แต่ว่าเวลาย่างนี่ต้องดูแลมันมากกว่าเนื้อปกติหน่อย เพราะต้องพลิกไปพลิกมาย่างมันหลายด้าน กว่าจะได้ที่ถือว่านานอยู่ โดยรวมแล้วชอบนะครับ สั่งมาหลายจานเลยทีเดียว
จานต่อมาคือ Spicy Miso Karubi หรือเนื้อซี่โครงคารูบิหมักซอสสไปซี่มิโซะ
ตัวนี้จะว่าสไปซี่มันก็ไม่ได้สไปซี่ขนาดนั้น ตัวเนื้อนุ่ม สุกง่าย เพราะมีมันเยอะ ถือว่าอร่อยดีเวลากินกับข้าว ถ้ากินเปล่าๆ ผมว่าเค็มไปสำหรับเนื้อหมักซอสตัวนี้
ต่อมาคือ คิวคาคุคารูบิ ตัวนี้เป็นเนื้อตัวเก่า
ตัวเนื้อย่างออกมาก็ยังอร่อยเหมือนเดิม แต่ผมจัดว่าเนื้อเหนียวกว่าตัว Dragon Karubi อยู่ระดับหนึ่ง ต้องเคี้ยวมากกว่านิดนึง สั่งไปหลายจานเหมือนกันครับตัวนี้
ต่อมาเราก็วนอยู่กับคารูบินี่แหละครับ แต่เปลี่ยนเป็น Karubi Shio with Leeks หรือ เนื้อซี่โครงคารูบิหมักซอสเกลือและต้นหอม จานนี้เป็นเนื้อตัวเก่าครับ
ตัวนี้กินง่ายดีครับ สุกง่าย กินง่าย แต่มันออกเค็มนะครับ เพราะมันหมักซอสเกลือ ผมว่าต้องกินกับข้าวแหละถึงจะดี จานนี้ก็เบิ้ลไปหลายจานอยู่
จานต่อมาเป็นเนื้อจานสุดท้ายที่ได้กินมาครับ จานนี้คือ Double Garlic Karubi หรือ เนื้อซี่โครงคารูบิโรยหน้ากระเทียมบดและสับ ตัวนี้เป็นเนื้อใหม่ครับ
ตัวนี้จากที่กินมา ผมว่ามันไม่ค่อยต่างกับตัวก่อนหน้านี้เท่าไรในเรื่องรสชาติ เนื้อก็ตัวเดียวกัน แค่เปลี่ยนสิ่งที่โรยมา มันก็ไม่ได้เปลี่ยนรสชาติขนาดนั้น แต่ก็ถือว่าอร่อยดีครับ
ร้าน Gyu Kaku มีชีสให้สั่งด้วยนะครับ ผมก็สั่งมาถ้วย สองถ้วยตามรูป
แน่นอนว่าต้องเอามาจิ้มกับเนื้อเพื่อเพิ่มรสชาติ
โดยรวมแล้ว ผมชอบ Dragon Karubi ที่สุด สำหรับในหมู่มวลมหาเนื้อนะครับ แต่เนื้อของที่นี่มีหลายแบบมากจริงๆ มากเกินกว่าจะลองได้หมดครับ เลยขอเน้นไปที่ตัวที่ชอบ (และแพง) ก่อนจะดีกว่า
เอาทุกอย่างมาย่างรวมกัน
พอเริ่มเลียนเนื้อแล้ว เลยเอาอย่างอื่นมาลองย่างบ้าง เช่น ปลาแซลมอน
ผมว่าคุณภาพปลาแซลมอนไม่ค่อยดีเท่าไร สู้ AKA ไม่ได้ ถ้าอยากกินปลาแซลมอนในร้านเนื้อย่างจริงๆ แนะนำร้านอื่นดีกว่าครับ
เราลองมาดูของที่ไม่ต้องย่างเองกันบ้างดีกว่า เช่น
ยำปลาแซลมอน
ตัวปลาสด และคุณภาพใช้ได้ ยำก็ทำมาได้แซ่บดี ถือว่าเป็นการตัดเลี่ยนที่ดีมาก เมนูนี้สั่งมาเรื่อยๆ เลยครับ
สี่ชิ้นด้านล่างจริงๆ มีสองเมนูรวมกันครับ คือ ซูชิหน้าเนื้อคารูบิ เป็นเมนูใหม่
ตอนแรกสั่งมาหวังไว้มาก สรุปคือเนื้อที่ให้มาย่างเองอร่อยกว่าครับ ตัวนี้เนื้อก็ไม่ค่อยร้อนเท่าไรด้วย ถ้ามาอีกรอบ คงไม่สั่งแล้วครับ
ลำดับต่อมาคือ ซูชิหน้าหมูกิมจิ กับหน้าหมูหมักซอสเกลือและต้นหอม เป็นเมนูใหม่ทั้งคู่เหมือนกัน
ตัวนี้เป็นเมนูที่ไม่ชอบที่สุดที่ได้กินวันนั้นครับ ตัวหมูมันกลิ่นหืนๆ เหม็นๆ แปลกๆ เนื้อหมูก็ไม่ได้นิ่มด้วย สร้างมาย่างเองอร่อยกว่าทุกประการครับ ตัวข้าวซูชิก็ไม่ค่อยอร่อยเท่าไรด้วย สรุปคือเมนูนี้ไม่ผ่านครับ
สุดท้ายคือ ของหวานแบบเดิมครับ เป็นไอศกรีม
สั่งไอศกรีมวนิลามาลองกินก่อน
ตัวไอศกรีมอร่อยดี มีความเหนียว แต่รสชาติมันคุ้นๆ อยู่ ไม่แน่ใจว่ายี่ห้ออะไร น้องผมเดาว่า BUDS
ไอศกรีมมีอีกรสชาติคือ ชาเขียวครับ ซึ่งก็ได้ลองเหมือนกัน
ตัวไอศกรีมชาเขียวมีความขมอยู่เล็กน้อย ได้รสชาติชาเขียว แต่ก็มีความเหนียวดี ถือว่าอร่อยดีครับ
โดยสรุปแล้ว: เมนูใหม่มีทั้งอร่อยและไม่อร่อยครับ แต่ก็ถือว่าเพิ่มเมนูอีกนับสิบอย่าง ผมมองว่าเป็นข้อดีเพราะให้ลูกค้าได้เลือกมากขึ้น สำหรับการบริการในวันนั้น ผมถือว่าดีใช้ได้ครับ ดีกว่าครั้งก่อนที่มากิน ครั้งนี้ถือว่าเสิร์ฟเร็ว แม้ว่าจะเป็นสั่งรอบที่ 3 รอบที่ 4 ก็ตาม โดยรวมแล้ว Gyu Kaku ยังถือว่าเป็นบุฟเฟต์เนื้อย่างที่มีคุณภาพอยู่ร้านหนึ่งครับ
อ่านรวมรายชื่อร้านอาหารที่น่าลิ้มลองได้ ที่นี่