Interlaken (อินเตอร์ลาเก้น หรืออินเตอร์ลาเคน) เป็นเมืองเล็กๆ ติดกับเทือกเขาแอลป์ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ตัวเมืองเป็นเมืองตากอากาศมาหลายยุคหลายสมัย เราอาจจะกล่าวได้ว่า Interlaken เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของสวิสเซอร์แลนด์เลยก็ว่าได้
โพสนี้จะนำคุณไปรู้จักกับเมือง Interlaken อย่างละเอียด และแนะนำว่ามีสถานที่ไหนน่าไปเที่ยวบ้างครับ
รู้จักอินเตอร์ลาเก้น (Interlaken)
Interlaken เป็นเมืองเล็กๆ ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ที่มีประชากรประมาณ 6,000 คน แต่ว่านักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองดังกล่าวในแต่ละปีนั้นมีมากกว่านั้นหลายสิบเท่า ส่วนหนึ่งเพราะตัวเมืองมีธรรมชาติที่สวยงาม และเป็นจุดพักสำหรับการเข้าไปเที่ยวภูเขาและทะเลสาบในเขต Bernese Highlands ครับ
ในหน้าประวัติศาสตร์แล้ว แม้ว่า Interlaken จะมีความเป็นมาย้อนไปได้ถึงยุคกลาง แต่ก็ไม่ใช่เมืองที่มีความสำคัญอะไรนัก ชาวเมืองจึงอาศัยอยู่ในความสงบสุขตลอดมาเป็นเวลานานหลายร้อยปี
จนกระทั่งในช่วงศตวรรษที่ 19 Interlaken เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาเพราะจิตรกรชาวสวิสหลายคนได้วาดภาพทิวทัศน์ที่สวยงามของที่นี่ และทำให้ตัวเมืองเริ่มโด่งดังในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะ นักท่องเที่ยวจากทั่วทั้งยุโรปจึงเริ่มเดินทางมาพักผ่อนกันในเมือง โดยเฉพาะหลังจากที่ตัวเมืองได้เชื่อมต่อทางรถไฟกับส่วนอื่นกับของประเทศ
หลังจากนั้นโรงแรมหรูนับสิบแห่งได้สร้างขึ้นภายในและบริเวณใกล้กับตัวเมือง โดยบริเวณเส้นทางสู่ยอดเขาอย่าง Jungfrau จะเป็นส่วนที่มีโรงแรมหนาแน่นที่สุด รายได้จากการท่องเที่ยวได้กลายเป็นรายได้หลักของเมืองมาจนถึงทุกวันนี้ครับ
ตัวเมือง Interlaken มีเทศกาลและกิจกรรมที่น่าสนใจอยู่ 2 อย่าง ได้แก่
- Unspunnenfest – เทศกาลเก่าแก่ของเมือง Interlaken ที่จะเน้นไปที่การแสดงวัฒนธรรมสวิสโบราณ และการเล่นกีฬาต่างๆ อย่างเช่นแข่งปาหิน (Steinstossen) หรือ มวยปล้ำ (Schwingen) เทศกาลนี้น่าดูมาก แต่หาดูยากเพราะจัดทุก 12 ปีเท่านั้น ครั้งต่อไปที่จะจัดคือปี ค.ศ.2029 ครับ
- Jungfrau Marathon – หนึ่งในงานวิ่งมาราธอนข้ามเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก งานนี้จะจัดทุกเดือนกันยายนของทุกปี ถ้าใครสนใจสมัครหาข้อมูลและสมัครวิ่งได้ที่ Jungfrau Marathon (อย่างไรก็ดีเนื่องจากผลของโรคระบาด ทำให้ไม่มีการจัดงานวิ่งนี้ในปี ค.ศ.2020 ครับ)
ถัดไปเราไปดูกันดีกว่าเมือง Interlaken มีสถานที่เที่ยวไหนน่าไปเยือนบ้าง
เดินทางไป Interlaken อย่างไร?
การไปเที่ยว Interlaken ด้วยตนเองทำได้ไม่ยากนัก คุณสามารถเริ่มต้นทริปของคุณได้ด้วยการบินมาลงเมืองซูริก (Zurich) และนั่งรถไฟหรือรถบัสต่อมายัง Interlaken ค่ารถไฟจะอยู่ที่ 36-54 ยูโร ส่วนค่ารถบัสจะเริ่มต้นที่ 7 ยูโรเท่านั้น ทั้งสองราคาจะสำหรับเที่ยวเดียวครับ แต่ราคานี้เปลี่ยนแปลงได้ตลอด เพราะฉะนั้นกดปุ่มด้านล่างเพื่อตรวจสอบวันเวลาที่ต้องการไปจะดีที่สุด
1. Lake Thun
Lake Thun หรือ Thunersee เป็นหนึ่งในทะเลสาบที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ตัวทะเลสาบซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมือง Interlaken ถูกบีบโดยแนวภูเขาทั้งสองด้าน ทำให้มีรูปร่างแคบแต่ยาว น้ำในทะเลสาบมีสีน้ำเงินเข้มอันสวยงามครับ
ด้วยความที่ Lake Thun ถูกบีบโดยแนวภูเขาทั้งสองด้าน ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมล่องเรือในทะเลสาบเพื่อชมเทือกเขาแอลป์อันตระการตาของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ จากที่ผมได้ไปล่องมาแล้ว ผมบอกเลยว่าคุณไม่ควรพลาดจริงๆ ครับ เพราะบรรยากาศดีมาก วิวก็สวย และอากาศก็ดี เหมาะต่อการฟื้นฟูปอดหลังจากที่เผชิญกับ pm 2.5 มาตลอดทั้งปีครับ
ริมทะเลสาบแห่งนี้มีปราสาทยุคกลางตั้งอยู่ชื่อว่า Oberhofen Castle ซึ่งคุณสามารถเข้าไปชมวิถีชีวิตของเหล่าอัศวินซึ่งเคยประจำอยู่ที่นี่ได้ นอกจากนี้ในปราสาทยังมีสวนสไตล์อังกฤษและจุดชมวิวทะเลสาบชั้นยอดอีกด้วยครับ ซึ่งสวนแห่งนี้เป็นที่นิยมมากๆ ของคู่บ่าวสาวสวิสเซอร์แลนด์ในการถ่ายรูป pre-wedding ครับ
2. Lake Brienz
ตรงกันข้ามกับ Lake Thun คือ Lake Brienz ทะเลสาบที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเมือง Interlaken รูปร่างของทะเลสาบแห่งนี้คล้ายกับ Lake Thun นั่นคือแคบแต่ยาว เพราะตั้งอยู่ระหว่างแนวภูเขาหินสองแห่งครับ น้ำในทะเลสาบเป็นสี Turquoise ที่ใสสะอาดมาก เหมาะต่อการล่องเรือเป็นที่สุด
ดังนั้นนักท่องเที่ยวนิยมล่องเรือในทะเลสาบแห่งนี้เพื่อชมความงดงามของทิวทัศน์โดยรอบ แต่ถ้าคุณชอบลุยๆ คุณน่าจะเช่าเรือคายัคและพายเล่นในทะเลสาบเองจะได้อรรถรสมากกว่าการล่องเรือใหญ่ตามปกติครับ
3. Harder Kulm
Harder Kulm เป็นจุดชมวิวบนภูเขาที่มีความสูงถึง 1,322 เมตร คุณจะได้เห็นวิวสุดลูกหูลูกตาของทิวทัศน์โดยรอบ ไม่ว่าจะเป็นเทือกเขาแอลป์ ทะเลสาบทั้ง Lake Brienz และ Lake Thun รวมไปถึงตัวเมือง Interlaken ด้วยครับ วิวแบบนี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็นวิวที่มีมูลค่าล้านสวิสฟรังก์เลยก็ว่าได้
วิธีการขึ้นไม่ยากแต่อย่างใด นั่นคือเพียงแค่คุณขึ้นเคเบิลคาร์ขึ้นไปจากสถานี Interlaken Harderbahn ในราคา 34 สวิสฟรังก์ ภายในเวลาไม่นานก็จะถึงจุดชมวิวแล้ว ใกล้กับจุดชมวิวมีร้านอาหารตั้งอยู่ด้วย ซึ่งจากจากร้านอาหารคุณสามารถชมวิวได้แบบ 360 องศาเลยครับ
4. Schynige Platte
Schynige Platte เป็นภูเขาใกล้กับเมือง Interlaken ซึ่งถ้าคุณขึ้นไปบนเขา คุณจะเห็นวิวสวยๆ ที่อยู่รายรอบเมืองได้อย่างชัดเจน ซึ่งการขึ้นไปก็ไม่ใช่ยากอะไร เพราะคุณสามารถนั่งรถไฟไต่เขาขึ้นไปได้โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เส้นทางรถไฟที่ว่าจัดว่าเป็นสายประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้ เนื่องจากมีอายุเกือบ 120 ปีครับ ทั้งนี้
ค่ารถไฟจากสถานี Interlaken Ost อยู่ที่ 71 สวิสฟรังก์ ซึ่งรวมทั้งขาขึ้นและขาลงแล้วครับ
สำหรับสายลุยแล้ว คุณสามารถเดินขึ้นไปเองโดยใช้เวลาประมาณ 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมงครับ หรืออาจจะมากกว่านั้นก็ได้ถ้าคุณหยุดชมวิวไปตลอดทาง
นอกจากวิวสวยๆ แล้ว ใกล้กับภูเขาแห่งนี้ยังมีสวนดอกไม้สวยๆ ที่มีดอกไม้นานาชนิดถึง 650 ชนิดด้วย ใครรักดอกไม้อย่าลืมพลาดไปชมครับ และถ้าใครก็ยังไม่อิ่มเอมกับการนั่งรับประทานอาหารในบรรยากาศอันอลังการ ที่นี่มีร้านอาหารที่มีวิวพาโนรามาให้คุณไปใช้บริการเช่นกันครับ
5. Jungfraujoch
Jungfraujoch เป็นภูเขาหิมะที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของสวิสเซอร์แลนด์ และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมา Interlaken เลยก็ว่าได้ เพราะคุณสามารถนั่งรถไฟไต่เขาขึ้นไปด้านบนภูเขาได้จากเมืองแห่งนี้
เส้นทางที่ว่าจัดว่าเป็นเส้นทางรถไฟสายคลาสสิก เพราะวิวสวยมากตลอดทาง และเป็นที่นิยมมานานถึง 100 ปีแล้วครับ
นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปถึงอาคารที่เรียกว่า Top of Europe ซึ่งรายรอบอาคารจะเป็นวิวภูเขาหิมะและธารน้ำแข็งแบบ 360 องศา ถ้าคุณรักในวิวภูเขาหิมะ แทบจะไม่มีที่ไหนที่คุณจะได้ใกล้ชิดกับภูเขาหิมะมากเท่านี้โดยที่ไม่ต้องปีนเองครับ
อย่างไรก็ดีข้อเสียของการขึ้นไป Jungfraujoch คือราคาค่าขึ้นสูงมาก นั่นคือสูงถึง 185 สวิสฟรังก์ (ประมาณ 6,000 บาท) แถมถ้าคุณดวงแตกจริงๆ อย่างที่ผมเคยเป็น คุณจะไม่ได้เห็นอะไรเลยข้างบนนอกจากหมอกขาวๆ ไม่คุ้มอย่างสิ้นเชิงที่จะขึ้นไปครับ
ดังนั้นถ้าคุณไปเที่ยว Interlaken เองโดยที่ไม่ได้ไปกับทัวร์ โปรดพิจารณาสภาพอากาศให้ดีก่อนว่าขึ้นไปข้างบน Jungfraujoch แล้วจะเห็นอะไรหรือไม่ เกิดวันที่คุณอยู่ที่ Interlaken มีหมอกหนา คุณจะได้ไม่เสียเงินฟรีๆ ครับ
อีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจคือซื้อแพคเกจผ่าน Klook ซึ่งราคาจะอยู่ที่ประมาณ 8,500 บาท แต่จะรวมกิจกรรมทั้งหมดบนยอดเขา ไม่ว่าจะเป็น Alpine Sensation Tour, Ice Palace, Sphinx Observation Deck และ Gondola Eiger Express ครับ
ทั้งนี้แพคเกจนี้สามารถยกเลิกได้อย่างช้าที่สุด 24 ชั่วโมงก่อนวันนัด ดังนั้นถ้าคุณตรวจสอบพยากรณ์อากาศแล้วพบว่าอากาศไม่ดีแน่ๆ คุณสามารถยกเลิกแพคเกจได้ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะไม่เห็นอะไรเลยครับ
6. St. Beatus Caves
St. Beatus Caves เป็นถ้ำตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมือง Interlaken นัก ในอดีตเคยมีตำนานว่ามังกรได้หลบหนีนักบุญ St. Beatus มาหลบซ่อนในถ้ำแห่งนี้ครับ ซึ่งนักบุญผู้นี้ก็ได้ปราบมันได้สำเร็จและเข้ามาอยู่อาศัยที่นี่แทน ในปัจจุบันถ้ำแห่งนี้ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมไปแล้ว
ตัวถ้ำมีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งตลอดทางคุณจะได้เห็นหินงอก หินย้อยอันตระการตา ตลอดจนน้ำตกทั้งนอกถ้ำและในถ้ำที่มีน้ำใสๆ ไหลรินออกมา น้ำตกนอกถ้ำนั้นตั้งอยู่ด้านล่างของบ้านเก่าแก่สไตล์สวิส ถ้ามองขึ้นไปจากด้านล่างแล้วจะสวยสุดๆ เลยครับ
7. Unterseen
Unterseen เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ทางตะวันตกของ Interlaken และตั้งอยู่ริม Lake Thun ตัวหมู๋บ้านเป็นหมู่บ้านที่มีความเป็นมาย้อนไปได้ถึงยุคกลาง ภายในหมู่บ้านยังเหลือหอคอยเก่าแก่สมัยศตวรรษที่ 13 ตั้งอยู่ครับ
ที่นี่เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจอันยอดเยี่ยม โดยเฉพาะถ้าคุณชื่นชอบในสถาปัตยกรรมโบราณของยุโรป จะมีอะไรที่ดีกว่าการได้นั่งจิบกาแฟอุ่นๆ ภายในเมืองโบราณริมทะเลสาบอันสวยงามครับ
8. Weissenau Nature Reserve
Weissenau Nature Reserve หรือ naturschutzgebiet weissenau เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่อยู่ไม่ไกลจาก Unterseen นัก โดยพื้นที่ของอุทยานแห่งนี้ครอบคลุมส่วนหนึ่งของ Lake Thun ด้วย จากในอุทยาน คุณสามารถเห็นวิวสวยๆ ของ Eiger และ Jungfrau ได้อย่างสบายๆ และยังมีปราสาทเก่าแก่สมัยยุคกลางให้ดูด้วยครับ
นักท่องเที่ยวที่เข้ามาที่นี่มีไม่มากนัก ทำให้คุณสามารถหาจุดชมวิวส่วนตัวได้อย่างสบายใจ ถ้าใครเบื่อคนเยอะๆ และอยากนั่งปลีกวิเวกในธรรมชาติสวยๆ เป็นการส่วนตัวแล้ว ที่นี่เป็นทางเลือกที่น่าสนใจครับ