เจาะลึก 11 โรงแรมที่พัก Zermatt วิวสวย คุ้มค่า น่าไปพัก | พร้อมข้อดีข้อเสีย

Zermatt หรือเซอร์แมท (แซร์มัทในภาษาเยอรมัน) เป็นหนึ่งในเมืองที่ผมชื่นชอบที่สุดในทริปสวิสเซอร์แลนด์ และอาจจะได้ว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งที่ผมเคยไปเลยก็ว่าได้

จุดเด่นของเมืองเซอร์แมทคือตัวเมืองตั้งอยู่ติดกับยอดเขา Matterhorn ที่สวยเด่นสะดุดตาและสวยเป็นอันดับต้นๆ ของสวิสเซอร์แลนด์ ดังนั้นถ้าคุณนอนพักที่เมืองแห่งนี้ คุณสามารถเห็นดวงอาทิตย์ทอแสงพาดผ่านกับวิว Matterhorn ในยามเช้า ซึ่งจากที่ผมได้ชมมาแล้ว ผมต้องบอกว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมจริงๆ ครับ เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของทริปเลยก็ว่าได้

ดังนั้นการเลือกโรงแรมในเมืองเซอร์แมทจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะจะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีครับ

เกณฑ์การเลือกโรงแรมในบทความ

การเลือกโรงแรมในเซอร์แมทของผมจะประเมินจากปัจจัยหลักเหล่านี้ครับ

• ประสบการณ์ตรงจากผู้เข้าพัก และคะแนนรีวิวต่างๆ
• Location ของตัวโรงแรม
• คุณภาพของห้องพักและการบริการ
• ความคุ้มค่า
• สิ่งอำนวยความสะดวก
• ในกรณีที่ผมเคยเข้าพัก ผมต้องเคยได้รับประสบการณ์ในแง่บวกเท่านั้น

ตัวบทความจะครอบคลุมโรงแรมที่พักทุกระดับตั้งแต่ 3-5 ดาว โดยจะเริ่มที่ 5 ดาวก่อนและไล่เรียงถัดลงไป คุณสามารถใช้สารบัญด้านล่างเพื่อข้ามไปหาโรงแรมระดับที่คุณต้องการได้ทันทีครับ

ทั้งนี้ในทุกโรงแรม ผมจะระบุถึงข้อดีข้อเสียไว้ด้วย ซึ่งจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น โดยข้อดีข้อเสียเหล่านี้จะมาจากการอ่านรีวิวโรงแรมนับร้อยของตัวผมเอง และสรุปเป็นข้อๆ ซึ่งจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาครับ

ข้อควรทราบ: Agoda และ Hotels.com มี Best Price Guarantee นั่นหมายความว่าถ้าคุณเจอโรงแรมแห่งเดียวกัน ห้องพักระดับเดียวกัน และเงื่อนไขต่างๆ เดียวกันบนเว็บไซต์ที่อื่นในราคาที่ถูกกว่า คุณสามารถรับส่วนต่างกลับคืนไปได้ ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลเลยว่าจะจองห้องพักในราคาแพงครับ

Peak Season vs. Low Season

คำถามที่พบบ่อยคือจะไปเที่ยว Zermatt ช่วงไหนดี

โดยส่วนตัวผมมองว่า Zermatt เที่ยวได้ทุกฤดู แต่ช่วงฤดูที่เป็น High/Peak Season ของเมืองจะอยู่ในช่วงฤดูร้อนหรือในช่วงเดือนมิถุนายนถึงต้นกันยายน ช่วงนี้อากาศของเมืองจะเย็นสบาย ไม่หนาวจนเกินไป และที่สำคัญที่สุดคือสภาพอากาศจะเป็นใจมาก เพราะฟ้าจะเปิดตลอดเวลา ทำให้คุณไม่มีปัญหาไปแล้วไม่เห็นอะไรเลย และยังทำกิจกรรมต่างๆ ได้ครบถ้วน 100% (รวมถึงสกีและร้านอาหารบนยอดเขาครับ)

แต่สิ่งที่ต้องแลกไปก็คือค่าห้องพักต่างๆ จะสูงถึงสูงมาก และนักท่องเที่ยวจะจองห้องพักที่ดีที่สุดในเมืองเต็มไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นถ้าคุณอยากจะเดินทางไป Zermatt ในช่วงนี้ คุณควรจะรีบจองล่วงหน้าให้เร็วที่สุดครับ

ขณะที่ Low Season จะอยู่ในช่วงฤดูหนาวหรือประมาณปลายเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ของทุกปี ช่วงนี้อากาศจะหนาวจัดและมีโอกาสสูงที่ยอดเขา Matterhorn จะถูกปกคลุมไปด้วยหมอก ทำให้ทัศนวิสัยแย่แล้วคุณมองไม่เห็นวิวอะไรเลย ซึ่งถือว่าเป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่งครับ

อย่างไรก็ดีช่วงนี้เป็นช่วงที่ดีที่สุดในการเล่นสกี (เพราะลานสกีจะอัดแน่นไปด้วยหิมะ) และยังมีเทศกาลอย่างคริสต์มาส ทำให้ Low Season ของที่นี่ก็ไม่ถึงกับ Low แบบแทบไม่มีนักท่องเที่ยวเลยเหมือนเมืองอื่นๆ ครับ

ข้อดีของช่วงนี้คือห้องพักใน Zermatt ราคาจะต่ำลงมากว่าช่วง Peak Season เปิดโอกาสให้คุณได้ห้องที่เห็นวิวดีๆ ในราคาที่ย่อมเยาลงมาครับ ถึงกระนั้นโรงแรมบางแห่งจะปิดบริการในช่วงนี้ครับ ทำให้ตัวเลือกของคุณเหลือน้อยลง

อีกทางเลือกที่น่าสนใจคือไปเที่ยว Zermatt ในช่วง Shoulder Season อย่างในช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งห้องพักจะถูกลงมาพอสมควร สภาพอากาศค่อนข้างดี และยังตรงกับช่วงวันหยุดยาวของประเทศไทย (สงกรานต์เป็นต้น) ดังนั้นเป็นอีกตัวเลือกที่หลายคนชื่นชอบครับ ผมเองก็ได้ไปเที่ยว Zermatt ในช่วงนี้เช่นเดียวกันครับ

เห็นวิว vs. ไม่เห็นวิว Matterhorn

หนึ่งในประสบการณ์ที่ผมประทับใจที่สุดในเซอร์แมท นอกเหนือจากการขึ้นกระเช้าไป Klein Matterhorn ก็คือการชมดวงอาทิตย์ขึ้นและตกเหนือยอดเขาจากห้องนอนนี่แหละครับ

ดังนั้นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่คุณจะต้องพิจารณาก็คือ คุณต้องการห้องพักแบบนี้หรือไม่ เพราะห้องพักแบบนี้จะราคาสูงกว่า

โดยส่วนตัวแล้วผมมองว่าถ้าคุณมีงบเที่ยวเหลือเฟือ การเลือกห้องพักแบบนี้จะให้ประสบการณ์ที่คุณจะจำได้ไปตลอดชีวิต ดังนั้นผมแนะนำอย่างยิ่งเลยครับ

อย่างไรก็ดีถ้าคุณมีงบจำกัด คุณสามารถเลือกห้องธรรมดา แล้วออกจากโรงแรมมาชมวิวยอดเขาได้จากส่วนอื่นของเมืองได้เช่นกันครับ

โรงแรม 5 ดาว

1. The Omnia

ที่ตั้ง: Auf dem Fels, Matterstreet Area, Zermatt, Switzerland, 3920

The Omnia เป็นโรงแรมที่พักระดับ 5 ดาวในสไตล์ Mountain Lodge ที่เรียกได้ว่าหรูหราที่สุดของเมืองเซอร์แมทเลยก็ว่าได้

นอกจากความหรูหราแล้ว จุดแข็งของที่นี่ผมมองว่าอยู่ที่เรื่อง Location เพราะว่าตัวโรงแรมจะตั้งอยู่บนเนินเขาที่สูงขึ้นมาประมาณ 45 เมตรจากตัวเมืองเซอร์แมท ดังนั้นคุณสามารถเห็นวิว Matterhorn ไปพร้อมๆ กับตัวเมืองทั้งเมือง ซึ่งจะเป็นจุดที่ถ่ายรูปได้สวยมากเลยครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากร้านอาหาร คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศระดับสุดยอดทั้งในช่วงดวงอาทิตย์ขึ้นและตกดินครับ

แม้ว่าจะตั้งอยู่บนเนินเขา แต่การเดินทางมาโรงแรมไม่ได้ยากอะไร เพราะโรงแรมห่างจากสถานีรถไฟ Zermatt Railway Station เพียงแค่ 470 เมตร แล้วก็ไม่ต้องปีนใดๆ ครับ คุณจะเดินมาที่อุโมงค์แล้วก็ขึ้นลิฟต์ของโรงแรมขึ้นมา เพียงเท่านี้ก็มาถึง Lobby แล้วครับ

รูปแบบห้องพัก

สำหรับตัวห้องพักจะตบแต่งในสไตล์โมเดิร์น และมีให้เลือกหลายแบบมาก แต่รูปแบบหลักๆ จะเป็นในแบบด้านล่างครับ

• Queen Size Room – 24 ตารางเมตร
• Double Room – 37 ตารางเมตร
• Corner Suite – 68 ตารางเมตร
• Matterhorn Suite – 70 ตารางเมตร
• Tower Suite with Matterhorn View – 90 ตารางเมตร

ข้อดีหลักๆ เลยคือทุกห้องจะมีระเบียงให้ออกไปชมวิวได้ อย่างไรก็ดีไม่ใช่ว่าทุกห้องจะเห็นวิว Matterhorn นะครับ ถ้าอยากเห็นวิวยอดเขาจากห้องนอนจะต้องพักห้อง Matterhorn Suite ขึ้นไปครับ ซึ่งในห้องระดับนี้จะมีอ่างจากุชชี่แบบ outdoor ให้คุณได้แช่น้ำผ่อนคลายและชมวิวไปพร้อมๆ กันครับ

สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการอื่นๆ

สิ่งอำนวยความสะดวกของที่นี่ก็ครบครันเช่นเดียวกับโรงแรม 5 ดาวทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น

• ร้านอาหารที่เป็นจุดชมวิว Matterhorn ไปในตัว ขนาด 40 ที่นั่ง + บาร์
• ห้องชมวิวขนาด 10 ที่นั่ง (สามารถจองและปิดเป็นห้องแบบ private เพื่อจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ได้ แต่น่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)
• ห้องสมุดและ Free Wi-Fi
• สปา ซาวน่า และบริการนวด
• ห้องฟิตเนสและสระว่ายน้ำ
• เช่าจักรยาน
• รับส่งสนามบิน
• และอื่นๆ อีกมากมาย

ดังนั้นคุณสามารถพักผ่อนหย่อนใจและชมวิวได้อย่างสบายๆ ถ้าคุณพักที่โรงแรมแห่งนี้ครับ

คะแนนรีวิว: Agoda – 9.6/10 (ยอดเยี่ยม), Hotels.com – 9.8/10 (ดีเลิศ)

Note: จากที่ผมตรวจสอบมา ห้องพักของที่นี่จะเต็มเร็วมาก โดยเฉพาะในช่วง Peak Season (และ Queen Size Room) ถ้าคุณสนใจ ผมแนะนำให้รีบจองตั้งแต่เนิ่นๆ ครับ

ข้อดีข้อเสีย

ข้อดี

• ตั้งอยู่บนเนินเขาทำให้เป็นตัวโรงแรมเป็นจุดชมวิวและถ่ายรูปที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในเซอร์แมท
• ได้คะแนน Room Comfort สูงมากถึง 9.9/10 และ 9.0/10 ในเรื่องความคุ้มค่า (value for money)
• หนึ่งในจุดเด่นที่ผู้เข้าพักชื่นชอบคือ ตัวห้องพักสะอาดมาก
• ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 24 ตารางเมตร ซึ่งถือว่าใหญ่พอสมควร
• ห้องพักทุกห้องมีระเบียงชมวิว
• การดีไซน์ห้องพักทำให้คุณรู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบาย
• ห่างจากสถานีรถไฟ Zermatt เพียง 470 เมตร
• การบริการโดยทั่วไปดีเยี่ยม
• มีห้องชมวิว Matterhorn อย่างเต็มอิ่ม

ข้อเสีย

• ห้องพักทุกห้องไม่มีแอร์ ผู้เข้าพักบางคนให้ข้อมูลว่าตัวห้องค่อนข้างร้อนในช่วงฤดูร้อน
• ห้องน้ำมีขนาดเล็ก
• คุณภาพอาหารเช้าอยู่ในระดับกลางๆ (ควรจะดีกว่านี้เพราะเป็นโรงแรม 5 ดาว)

2. Riffelalp Resort 2222m

ที่ตั้ง: Riffelalp, Moosweg Area, Zermatt, Switzerland, 3920

อีกหนึ่งรีสอร์ทระดับไฮเอนด์ของเมืองเซอร์แมท ตัวรีสอร์ทจะห่างออกมาจากเมืองเซอร์แมทพอสมควร (อยู่ที่ Riffelalp ดังนั้นคุณต้องนั่งรถไฟ Gornergrat Bahn ขึ้นมาครับ) ทำให้เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่รักในความสงบ และอยากดื่มด่ำกับธรรมชาติอย่างจริงจังครับ

ตัวโรงแรมจะตั้งอยู่ 2222 เมตรจากระดับน้ำทะเล คุณจะได้มองยอดเขา Matterhorn จากมุมที่แตกต่างออกไปจากที่มองจากตัวเมืองครับ

นอกจากนี้สิ่งที่ต่างจาก The Omnia คือที่นี่จะมี facilities ที่สนับสนุนในเรื่องของ Workcation กล่าวคือนอกจากจะมี Free Wi-Fi แล้ว ตัวรีสอร์ทจะมี Workspace ให้คุณนั่งทำงานได้อีกด้วย

ดังนั้นถ้าใครอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศไปทำงานท่ามกลางธรรมชาติแล้ว ผมมองว่ารีสอร์ทแห่งนี้เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับคุณเลยครับ

รูปแบบห้องพัก

ตัวห้องพักจะตบแต่งในรูปแบบคลาสสิก เหมือนกับ Chalat ทั่วไป โดยจะใช้ไม้เป็นองค์ประกอบสำคัญครับ ทั้งนี้ห้องพักของรีสอร์ทมีเลือกทั้งหมดถึง 10 รูปแบบด้วยกัน แต่หลักๆ จะประกอบด้วยดังต่อไปนี้

• Grandlit – 25 ตารางเมตร (สำหรับพักคนเดียว)
• Classic Room – 30 ตารางเมตร
• Superior Room – 40 ตารางเมตร
• Junior Suite – 45-65 ตารางเมตร
• Suites – 75-103 ตารางเมตร

ตัวห้องพักถือว่ามีขนาดใหญ่ และมีระเบียงให้ชมวิวได้ทุกอย่าง อย่างไรก็ดีถ้าคุณสนใจห้องแบบ Classic และ Superior แล้วอยากจะเห็นยอดเขา Matterhorn จากที่ห้องพัก คุณจะต้องเลือกแบบ Matterhorn View ก่อนที่จะจองครับ

ในทุกห้อง ทางโรงแรมจะมอบ welcome products จาก L’Occitane ครับ

สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการอื่นๆ

สิ่งอำนวยความสะดวกนั้นเป็นจุดแข็งของรีสอร์ทแห่งนี้เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น

• ร้านอาหารและบาร์ทั้งหมด 5 แห่ง
• สระว่ายน้ำทั้งแบบ Indoor และ Outdoor (พร้อมวิว Matterhorn)
• ฟิตเนส + โบว์ลิ่งและบิลเลียด
• บริการสปาครบวงจร อาทิเช่น Steam Bath, Finnish Sauna, Organic Sauna, Solarium รวมไปถึงบริการนวด
• ปีนเขาและเช่าจักรยาน (พร้อมไกด์) และกิจกรรมอื่นๆ สำหรับสายลุย เช่นสกี
• Workspace สำหรับการทำงานแบบ Remote
• และอื่นๆ อีกมากมาย

จากสิ่งเหล่านี้ คุณแทบจะมีพร้อมทุกอย่างโดยที่ไม่ต้องเข้าเมืองเลยก็ได้ แต่ถ้าคุณอยากเข้าตัวเมืองก็สามารถนั่งรถไฟเข้าไปได้ครับ ข้อจำกัดมีอยู่อย่างเดียวคือ คุณต้องกลับมาโรงแรมก่อนรถไฟขบวนสุดท้าย (Gornergrat Bahn) ครับ

แต่สิ่งที่แลกมาก็คือความเงียบสงบ ถ้าคุณอยากจะใช้เวลาพักผ่อนโดยที่ไม่มีอะไรมากวนใจ ผมมองว่าที่นี่เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของเซอร์แมท หรือแม้กระทั่งในสวิตเซอร์แลนด์ด้วยซ้ำไปครับ

คะแนนรีวิว: Agoda – 9.6/10 (ยอดเยี่ยม), Hotels.com – 9.8/10 (ไร้ที่ติ)

ข้อดีข้อเสีย

ข้อดี

• เงียบสงบ และปราศจากความพลุกพล่านภายในเมือง
• Support ในส่วนของ Workcation
• ผู้เข้าพักให้คะแนนความสะอาด 10/10 และ Room Comfort 9.7/10
• ห้องพักทุกห้องมีระเบียงชมวิว
• กิจกรรมสปามีให้เลือกถึง 7 แบบด้วยกัน และมีคุณภาพยอดเยี่ยม
• อาหารที่ให้บริการในรีสอร์ทมีคุณภาพดี
• Free Breakfast และ Cancel ฟรีสำหรับทุกการจอง
• การบริการโดยองค์รวมดีเยี่ยม

ข้อเสีย

• ตัวโรงแรมไม่ได้อยู่ในใจกลางเมืองเซอร์แมท ดังนั้นในช่วงเย็น คุณจะต้องนั่งรถไฟกลับโรงแรมก่อนขบวนสุดท้าย (9.50/11.30 pm) ทำให้คุณไม่ได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศช่วงดึกของเมือง (โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล)
• โรงแรมได้กำหนดบริเวณบางแห่งให้ผู้เข้าพักสูบบุหรี่ได้ ดังนั้นจะไม่ใช่ smoke-free 100% แบบโรงแรมบางแห่งครับ

3. Grand Hotel Zermatterhof

ที่ตั้ง: Bahnhofstrasse 55, Matterstreet Area, Zermatt, Switzerland, 3920

โรงแรมแห่งนี้เป็นตัวเลือกที่ควรค่าต่อการพิจารณาถ้าคุณอยากเดินเที่ยวไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อย่างสะดวกสบาย เพราะโรงแรมตั้งอยู่ในใจกลางเมืองเลยครับ โดยห่างจากสถานีรถไฟ Zermatt Railway Station เพียง 460 เมตรเท่านั้นเอง

นอกจากนี้ตัวโรงแรมยังอยู่ติดกับย่านร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึก ทำให้ผู้เข้าพักเดินไปชมเมืองรวมไปถึงงานต่างๆ ในช่วงเทศกาลแบบสบายๆ ด้วยครับ

ประวัติความเป็นมาของที่นี่สามารถย้อนไปได้ไกลถึง ปี ค.ศ.1879 หรือว่าในสมัยรัชกาลที่ 5 โน่นเลย ดังนั้นถ้าคุณอยากได้บรรยากาศแบบยุโรปแท้ๆ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าที่นี่น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดใน Zermatt ครับ

รูปแบบห้องพัก

แม้ว่าจะตั้งอยู่ในอาคารที่เก่าแก่ แต่ห้องพักมีการตบแต่งที่หลากหลาย ห้องทั่วไปของที่นี่จะอยู่ในสไตล์โมเดิร์นที่ดูเรียบง่าย และดูสว่างสบายตา ขณะที่ห้อง suite จะมีให้เลือกทั้งแบบโมเดิร์นลายไม้ หรือแบบ Swiss Chalet ก็ได้ครับ

หลักๆ แล้วตัวโรงแรมประกอบด้วยห้องพักรูปแบบดังต่อไปนี้

• Single/Classic Room – 20-25 ตารางเมตร
• Deluxe Double Room – 30 ตารางเมตร
• Superior Double Room – 39 ตารางเมตร
• Suites – 45-76 ตารางเมตร

ขนาดห้องพักอาจจะเทียบกับโรงแรม 5 ดาวสองแห่งก่อนหน้านี้ไม่ได้ แต่ก็ใหญ่พอที่คุณจะพักผ่อนได้อย่างสบายครับ

สำหรับระเบียงชมวิวจะมีเฉพาะ Deluxe Double Room ขึ้นไปเท่านั้น อย่างไรก็ดีถ้าคุณจอง Classic Room แล้วอยากได้ระเบียงด้วย คุณจะต้องเลือก Matterhorn view ครับ

สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการ

สิ่งอำนวยความสะดวกของที่โรงแรม Zermatterhof มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น

• ร้านอาหารและบาร์กว่า 5 แห่ง รวมไปถึงร้าน Prato Borni ที่ได้ 1 ดาวมิชลินสตาร์ และ GaultMillau points มากถึง 16/20 คะแนน
• สปาแบบครบวงจร ตั้งแต่ Alpine Spa, Ice Grotto, Steam Bath ฯลฯ
• สระว่ายน้ำในร่มและห้องฟิตเนส
• ห้องนั่งเล่น + บริการนวดและทรีทเมนต์
• ห้องประชุมและห้องจัดเลี้ยงขนาดเล็ก/กลาง/ใหญ่ ตั้งแต่ 12-180 คน
• รับส่งสถานีรถไฟด้วยรถไฟฟ้าหรือรถม้า
• บริการรับจัดงานแต่งงาน
• กิจกรรมอื่นๆ อย่างเช่นปีนเขา สกี และเช่าจักรยาน

บริการหนึ่งที่ผู้เข้าพักหลายคนประทับใจมากคือ รถม้ารับส่งครับ กล่าวคือคุณสามารถขอให้ทางโรงแรมนำรถม้ามารับที่สถานีรถไฟไปยังโรงแรมได้ ดังนั้นคุณจะได้ประสบการณ์ที่เปรียบดั่งว่าคุณเป็นชนชั้นสูงยุโรปในอดีตครับ ถ้าสนใจ ผมแนะนำให้คุณจองล่วงหน้าครับ เพราะ demand สูงพอสมควร

คะแนนรีวิว: Agoda – 9.6/10 (ยอดเยี่ยม), Hotels.com – 9.6/10 (ไร้ที่ติ)

ข้อดีข้อเสีย

ข้อดี

• Location ดีเยี่ยม (ใกล้กับทุกอย่าง + วิวสวยมาก)
• คะแนน Room Comfort ได้สูงถึง 9.6/10
• สนับสนุนในส่วนของ Workcation
• ห้องอาหารของโรงแรมให้บริการได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะร้านที่ได้ Michelin Star 1 ดวง
• มีห้องจัดงานเลี้ยงหรืองานสัมมนาขนาดใหญ่ (12-180 คน)
• ให้บริการรถม้ารับส่งจากสถานีรถไฟ
• การบริหารโดยทั่วไปดี

ข้อเสีย

• ขนาดห้องพักมีขนาดเล็กกว่าโรงแรมในระดับเดียวกัน + ไม่มีห้อง Suite ขนาดใหญ่
• ห้องพักทุกห้องไม่มีแอร์ ดังนั้นตัวห้องจะค่อนข้างร้อนในฤดูร้อน
• เฟอร์นิเจอร์ค่อนข้างเก่า

4. Mont Cervin Palace

ที่ตั้ง: Bahnhofstrasse 31, Matterstreet Area, Zermatt, Switzerland, 3920

Mont Cervin Palace เป็นที่พักระดับ 5 ดาวที่น่าสนใจมากในเมืองเซอร์แมท ตัวที่พักมีประวัติความเป็นมาย้อนไปได้ถึงปี ค.ศ.1851 ดังนั้นคุณจะได้พักในอาคารประวัติศาสตร์ที่มีความเป็นมาย้อนไปถึงยุคที่สวิสเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่เหล่าชนชั้นสูงของยุโรปนิยมมาพักผ่อนครับ

ตัวโรงแรมตั้งอยู่ใจกลางเมืองเซอร์แมทพอดิบพอดี ดังนั้นจะอยู่ใกล้สถานที่น่าสนใจแทบทุกแห่งในเมือง ซึ่งคุณสามารถเดินถึงได้หมด การเดินทางมาจากสถานีรถไฟก็ใช้เวลาไม่นาน เพราะห่างไปแค่ 360 เมตรเท่านั้นเองครับ

รูปแบบห้องพัก

จำนวนห้องพักของโรงแรมนี้มีมากถึง 150 ห้อง ซึ่งถือว่าเป็นโรงแรมใหญ่กว่าที่อื่น ดังนั้นคุณจะมีตัวเลือกห้องพักจำนวนมากครับ

รูปแบบห้องพักของที่นี่จะแยกออกเป็นสามแบบใหญ่ๆ นั่นคือ Alpine Style, Chalet Style และ Family Style ซึ่งจะแตกต่างกันเฉพาะในเรื่องของการตบแต่งและแพลนห้อง แต่ Facilities ต่างๆ ไม่ได้ต่างกันครับ อย่างด้านล่างเป็นห้องพักแบบ Chalet Style ครับ

ในแต่ละสไตล์จะมีห้องตั้งแต่ Single Room (18 ตารางเมตร) ไปจนถึงห้อง Suite ขนาดใหญ่ (100-180 ตารางเมตร) ซึ่งจุดแข็งของที่นี่คือตัวห้องระดับ High-end นั้นใหญ่กว่าที่อื่นถึงเกือบสองเท่า ดังนั้นถ้าคุณชอบพักในห้องใหญ่ๆ ที่ทำให้ไม่รู้สึกแออัดแล้ว ผมมองว่าที่นี่เป็นตัวเลือกที่คุณควรพิจารณาอย่างจริงจังครับ

อีกหนึ่งข้อดีของที่นี่คือห้องส่วนใหญ่จะมีระเบียงชมวิว และหันหน้าไปทางด้านยอดเขา ทำให้คุณชมวิวสวยๆ ได้แม้ว่าจะไม่ได้จองห้องระดับท็อป อย่างไรก็ดีถ้าอยากเห็นยอดเขา Matterhorn จากห้อง คุณก็ยังต้องเลือกห้องแบบ Matterhorn View อยู่ดีครับ

สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการ

เช่นเดียวกับโรงแรม 5 ดาวอื่นๆ ทาง Mount Cervin Palace มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้าพักอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น

• ร้านอาหารและบาร์ชั้นเลิศ 3 แห่ง โดยเฉพาะร้าน Grill Le Cervin ที่ได้ Gault-Millau Points ถึง 14 คะแนน
• สระว่ายน้ำแบบในร่มและที่แจ้ง + สระน้ำวน
• สปาและซาวน่า – Steam Baths, Footbaths, Biosauna ฯลฯ
• ห้องนั่งเล่นและห้องฟิตเนส
• นวดและทรีตเมนต์
• กิจกรรมกลางแจ้งเช่นปีนเขาและสกี
• รับส่งที่สถานีรถไฟ
• และอื่นๆ อีกมากมาย

คะแนนรีวิว: Agoda – 9/10 (ยอดเยี่ยม), Hotels.com – 9.6/10 (ไร้ที่ติ)

ข้อดีข้อเสีย

ข้อดี

• Location ดีเยี่ยมเพราะตั้งอยู่ในใจกลางเมือง Zermatt พอดิบพอดี
• คะแนนความสะอาดและ Room Comfort ได้สูงถึง 9.3/10
• ห้อง Suite ของที่นี่มีขนาดใหญ่กว่าโรงแรม 5 ดาวอื่นๆ
• Support ในส่วนของ Workcation
• การบริการโดยทั่วไปดี
• อาหารที่ร้านอาหารทั้งสามแห่งรสชาติดี

ข้อเสีย

• Single Room และห้องระดับ Double/Superior มีขนาดเล็กกว่าโรงแรมอื่นในระดับเดียวกันเล็กน้อย
• เนื่องจากโรงแรมตั้งอยู่ใจกลางเมือง ทำให้เสียงจากด้านนอกโรงแรมค่อนข้างดังในช่วงเช้า

5. Cervo Mountain Resort

ที่ตั้ง: Riedweg 156, Zermatt, VS, 3920

รีสอร์ทระดับห้าดาวที่ตั้งอยู่ใกล้กับลานสกี Sunnegga ดังนั้นที่นี่เป็นตัวเลือกอันยอดเยี่ยม ถ้าคุณอยากจะใกล้ชิดกับธรรมชาติให้มากที่สุด หรือใช้เวลาทั้งหมดของคุณไปกับการเล่นสกี

ในการเดินทางมายังโรงแรม คุณแค่ไปที่ Valley Station ซึ่งเป็นสถานีรถไฟ (Funicular) เชื่อมระหว่าง Zermatt และ Sunnegga หลังจากนั้นก็ขึ้นลิฟต์มา เพียงเท่านี้ก็จะถึงโรงแรมแล้วครับ

ส่วนระยะทางจากสถานีรถไฟ Zermatt หลัก (Railway Station) จะอยู่ที่ประมาณ 700 เมตรครับ ถ้าสัมภาระมาก ผมแนะนำให้โรงแรมมารับเช่นเดิมครับ

รูปแบบห้องพัก

ที่นี่จะมีรูปแบบห้องพักให้เลือกสี่แบบใหญ่ๆ ได้แก่ Nomad, Alpinist, Huntsman และ Overlook Lodge โดยสามแบบแรกจะมีห้องพักแยกไปอีกหลายระดับเป็นของตนเอง ตั้งแต่ Double Room (22 ตารางเมตร) ไปจนถึงห้อง Suite (240 ตารางเมตร) ครับ

ส่วน Overlook Lodge นี่คืออพาร์ทเมนท์ที่มีห้องครัวและอุปกรณ์ต่างๆ อย่างครบถ้วน แต่คุณยังสามารถใช้ Facilities ต่างๆ ได้เหมือนกับฝั่งโรงแรมครับ

นอกจากตัวเลือกเหล่านี้แล้ว ทางโรงแรมยังมีตัวเลือกแบบ Extreme สุดๆ ให้คุณเลือก นั่นคือแบบ Huntsmen Lodge ซึ่งคุณจะเหมาพักบ้านทั้งหลัง (มีห้องนอน 4-6 ห้องด้วยกัน) ดังนั้นเหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ หรือมากับเพื่อนกลุ่มใหญ่มาก และอยากจะทำกิจกรรมสันทนาการร่วมกันครับ

อย่างไรก็ดีแม้ว่าจะมีห้องพักหลายแบบให้เลือก แต่ห้องที่ใหญ่จริงๆ จะเป็นห้อง Suite ขณะที่ห้องพักระดับเริ่มต้น (ระดับ Double หรือ Superior) มีขนาดที่เล็กกว่าโรงแรมในระดับเดียวกันครับ

สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการ

ทางโรงแรมนำเสนอสิ่งอำนวยความสะดวกและกิจกรรมต่างๆ ให้กับผู้เข้าพักมากมาย ไม่ว่าจะเป็น

• ร้านอาหารและบาร์รวมแล้วกว่า 5 แห่ง
• สปาครบวงจร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Holistic Spa (ได้อันดับที่ 1 ในสวิสเซอร์แลนด์)
• บริการนวดและทรีตเมนต์ (มีหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นแบบญี่ปุ่น สวิส อินเดีย ทิเบต ฯลฯ)
• โยคะและการทำสมาธิ
• ฟิตเนสและสระว่ายน้ำ
• กิจกรรมกลางแจ้งอย่างเช่นการปีนเขาและสกี
• บริการจัดเลี้ยงและงานแต่งงาน
• และอื่นๆ อีกมากมาย

คะแนนรีวิว: Hotels.com – 9.8/10 (ไร้ที่ติ)

ด้วยกิจกรรมให้คุณทำได้หลากหลาย ที่นี่จึงเป็นอีกที่พักที่ดีที่สุดสำหรับการพักผ่อนที่เมือง Zermatt อย่างไม่ต้องสงสัยเลยครับ

ข้อดีข้อเสีย

ข้อดี

• มีห้องพักให้เลือกหลากหลายแบบ + คุณสามารถจองบ้านพักทั้งหลังเลยได้
• ตัวอาคารและห้องพักถูกตบแต่งอย่างสวยงามและมีสไตล์
• คะแนน Room Comfort และความสะอาดสูงถึง 9.7/10
• มีกิจกรรมสปาและทรีตเมนต์ที่หลากหลาย และมีคุณภาพเยี่ยมสมกับที่ได้รางวัลมา
• อาหารจากร้านอาหารรสชาติดีเยี่ยม
• อาหารเช้าฟรีสำหรับ 2 ท่านต่อห้อง
• การบริการโดยรวมดีเยี่ยม

ข้อเสีย

• ผู้เข้าพักหลายคนประสบปัญหาในการเดินทางมาโรงแรม เพราะทั้งในเว็บไซต์และ Agoda/Hotels.com ก็ให้ข้อมูลที่ไม่ชัดเจน ดังนั้นการขอให้โรงแรมมารับเมื่อมาถึงเซอร์แมทน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
• ห้องพักทั่วไป (ที่ไม่ใช่ Suite) มีขนาดเล็กกว่าโรงแรมอื่นในระดับเดียวกัน
• ห้องพักบางห้องไม่มีระเบียงชมวิว

โรงแรม 4 ดาว

6. Firefly Luxury Suites/Hotel Firefly

ที่ตั้ง: Schluhmattstrasse 55, Uferweg Area, Zermatt, Switzerland, 3920

Firefly Luxury Suites เป็นโรงแรมแบบ boutique กึ่งอพาร์ตเมนต์ โดยตัวอาคารสร้างด้วยไม้แทบทั้งหลัง ทำให้สวยงามเหมือนกับบ้านพักตามเทือกเขาแอลป์ (Mountain Lodges) ที่มีชื่อเสียงโด่งดังครับ

ตัวโรงแรมห่างจากสถานีรถไฟ Zermatt Railway Station ประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าไกลพอสมควร ดังนั้นถ้าคุณมีกระเป๋าสัมภาระมาก คุณควรจะให้โรงแรมมารับที่สถานีจะดีที่สุด อย่างไรก็ดีตัวโรงแรมใกล้กับกระเช้าสกี Zermatt-Furi ดังนั้นถ้าคุณจะมาเล่นสกี ที่นี่เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากครับ

สำหรับร้านรวงก็ห่างออกไปพอสมควร แต่ก็เดินถึง (ประมาณ 500 เมตร) ดังนั้นคุณสามารถเดินชมเมือง จับจ่ายซื้อของ และเดินทางไปยังจุดชมวิวต่างๆ จากโรงแรมได้อย่างสะดวกโยธินครับ

รูปแบบห้องพัก

ห้องพักของที่นี่จะเป็นแบบ Suite ทั้งหมด และมีห้องครัวและระเบียงชมวิวทุกห้องครับ ด้านล่างคือห้องหลักๆ ที่มีให้เลือกสรรครับ

• Junior Suite – 30 ตารางเมตร
• Deluxe Suite – 60 ตารางเมตร
• Garden Suite – 120 ตารางเมตร (มีห้องนั่งเล่นพร้อมเตาผิง) + มีสวนส่วนตัวให้ปิ้ง BBQ ได้ แต่จะแลกไปด้วยวิวมุมสูงครับ
• Maxi Suite – 130-139 ตารางเมตร (มีห้องนั่งเล่นพร้อมเตาผิง)
• Chalet Suite – 154 ตารางเมตร (มีห้องนั่งเล่นพร้อมเตาผิง)
• Skylight Loft – 250 ตารางเมตร (มีห้องนั่งเล่นพร้อมเตาผิง)

แม้ว่าการตบแต่งในห้องจะแตกต่างกันไปบ้าง (แบบโมเดิร์นหรือ Chalet) ในแต่ละห้องจะใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เป็นไม้แทบทั้งหมดครับ ขนาดห้องพักเองก็ถือว่าใหญ่กว่าโรงแรมระดับ 4-5 ดาวทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Skylight Loft ที่สามารถพักได้มากถึง 12 คนเลยทีเดียว

เนื่องจากในห้องพักมีห้องครัวทุกห้อง ผมมองว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะถ้าคุณวางแผนว่าจะอยู่ที่เซอร์แมทนานหน่อย และอาจจะทำอาหารกินเอง เพราะว่าเบื่ออาหารตะวันตกแล้วเป็นต้น

สิ่งอำนวยความสะดวก

แม้ว่าจะเป็นโรงแรมแบบอพาร์ทเมนท์ แต่ที่นี่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ไม่ได้แตกต่างกับโรงแรมทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น

• สปาและบริการนวด
• สระว่ายน้ำแบบในที่ร่ม
• ห้องฟิตเนส
• บาร์
• Bose Speaker และ PS4 ในทุกๆห้องพร้อมคลังเกมในทุกห้อง
• บริการรับส่งสถานีรถไฟ

ข้อควรทราบ: จากที่ผมตรวจสอบ โรงแรมแห่งนี้ถูกจองเต็มเร็วมาก เพราะฉะนั้นถ้าคุณสนใจ คุณควรจะรีบจองตั้งแต่เนิ่นๆ ครับ

คะแนนรีวิว: Agoda – 9.6/10 (ยอดเยี่ยม), Hotels.com – 9.8/10 (ดีเลิศ)

ข้อดีข้อเสีย

ข้อดี

• Location ใกล้กับกระเช้าสกี + วิวสวยงาม
• คะแนน Room Comfort และคะแนนความสะอาดสูงมากถึง 9.8 และ 10
• ห้องพักทุกแห่งมีห้องครัวและระเบียงชมวิว ดังนั้นขนาดห้องจะใหญ่กว่าที่อื่นๆ
• ตัวอาคารทั้งด้านนอกด้านใน และห้องพักมีการตบแต่งที่สวยงาม
• ผู้เข้าพักจำนวนมากชมว่า Amenities ภายในห้องรวมไปถึงสปาว่าดีเยี่ยม
• อาหารเช้าเสิร์ฟฟรีถึงห้องในทุกๆ ห้อง (สำหรับ 2 ท่านเท่านั้น)
• การบริการโดยรวมดีมาก

ข้อเสีย

• อยู่ห่างจาก Zermatt Railway Station ประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งค่อนข้างไกลถ้าเทียบกับตัวเลือกอื่นๆ
• ไม่มีร้านอาหารให้บริการ คุณต้องทำอาหารเอง หรือว่าออกไปรับประทานด้านนอกโรงแรมครับ
• จองห้องพักค่อนข้างยาก เพราะเป็นหนึ่งในที่พักยอดนิยม

7. Hotel Schweizerhof Zermatt

ที่ตั้ง: Bahnhofstrasse 5, Matterstreet Area, Zermatt, Switzerland, 3920

ถ้าคุณตั้งใจจะมาทุ่มเทให้กับการเล่นสกีที่ Zermatt และไม่อยากจะเบื่อหน่ายหรือเหนื่อยกับการเดินกลับที่พักไกลๆ ผมบอกเลยว่าที่นี่เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ครับ เพราะตัวโรงแรมตั้งอยู่ห่างจากโรงเรียนสอนเล่นสกีทั้งสองแห่งในเมืองแค่ 40-90 เมตรเท่านั้น และยังใกล้สถานีรถไฟ (130 เมตร) และร้านรวงต่างๆ ด้วยครับ

รูปแบบห้องพัก

ห้องพักในโรงแรมจะตบแต่งในสไตล์โมเดิร์นทุกห้อง โดยประกอบด้วยตัวเลือกหลักๆ ดังต่อไปนี้

• Cozy Room (ห้องเดี่ยว) – 17 ตารางเมตร
• Double Room – 26-28 ตารางเมตร
• Junior Suite – 30-37 ตารางเมตร แต่ถ้าเลือกเป็น Matterhorn View จะอยู่ที่ 40-48 ตารางเมตร
• Suite – 40-50 ตารางเมตร

ขนาดห้องจัดว่ากะทัดรัด และอยู่ได้สบายถ้าคุณมากับเพื่อนร่วมทางคนเดียว แต่โดยเฉลี่ยถือว่าเล็กกว่าโรงแรมระดับเดียวกันอยู่พอสมควร แถมไม่มีห้อง Suite ขนาดใหญ่ให้เลือกพักด้วย

เพราะฉะนั้นผมมองว่า ถ้าคุณมาเป็นครอบครัว (มีเด็ก) และไม่อยากอยู่แบบแออัด ตัวเลือกอื่นน่าจะดีกว่าครับ

อย่างไรก็ดีข้อดีของที่นี่คือ ไม่ว่าห้องไหนก็ตาม (รวมถึงห้องเดี่ยวด้วย) จะมีระเบียงให้ออกไปนั่งเล่นชมบรรยากาศของเมืองได้ทั้งหมดครับ

สิ่งอำนวยความสะดวก

ภายในโรงแรมมีสิ่งอำนวยความสะดวกเทียบเท่ากับโรงแรมชั้นนำทั่วไป ได้แก่

• ร้านอาหาร 4 แห่งด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือ Cheese Factory ที่มีชื่อเสียงในเรื่องชีสฟองดู
• สระว่ายน้ำในร่มและห้องฟิตเนส
• สปาและซาวน่าแบบครบวงจร
• บริการนวดและ anti-aging treatments
• ห้องประชุมขนาด 38-90 ที่นั่ง
• กิจกรรมกลางแจ้งอื่นๆ อย่างเช่นสกี

คะแนนรีวิว: Agoda – 9.2/10 (ยอดเยี่ยม), Hotels.com – 9.1/10 (ยอดเยี่ยม)

ข้อดีข้อเสีย

ข้อดี

• Location ดีมาก ใกล้กับโรงเรียนสอนเล่นสกี สถานีรถไฟ และร้านรวงต่างๆ
• คะแนน Room Comfort และความสะอาดได้สูงถึง 9.5/10
• ผู้เข้าพักส่วนใหญ่ให้ข้อมูลว่า Facilities ทั่วไปดีมาก
• คุณภาพอาหารดีเยี่ยม
• การบริการโดยทั่วไปดี

ข้อเสีย

• ขนาดห้องในทุกระดับเล็กกว่าโรงแรม 4-5 ดาวทั่วไป โดยเฉพาะห้อง Suite เพราะไม่มีห้องใดใหญ่กว่า 50 ตารางเมตร
• เสียงดังตรงชั้นล็อบบี้ของโรงแรม เพราะตัวโรงแรมตั้งอยู่ใจกลางเมือง และโรงแรมยังเปิดดนตรีที่ดังเกินไปในห้องอาหาร (แต่บางคนกลับชอบก็มีครับ)
• ผู้เข้าพักในช่วงฤดูร้อนหลายคนแจ้งว่า ตัวห้องพักค่อนข้างร้อนและอึดอัด

8. Christiania Mountain & Spa

ที่ตั้ง: Wiestistrasse 7, Suburbs, Zermatt, Switzerland, 3920

อีกตัวเลือกที่น่าสนใจถ้าคุณชอบเล่นสกี กล่าวคือตัวโรงแรมตั้งอยู่แทบจะติดกับสถานีรถไฟที่พาคุณขึ้นไปสู่ลานสกีอย่าง Sunnegga ครับ ในส่วนของสถานีรถไฟ Zermatt Railway Station (ที่นำคุณมายังตัวเมือง) จะห่างออกไปประมาณ 600 เมตร ซึ่งไม่ไกลจนเกินไปครับ

จุดแข็งอีกอย่างหนึ่งของที่นี่คือ Facilities ของโรงแรมที่เยี่ยมยอด ยกตัวอย่างเช่นสระว่ายน้ำแบบ indoor ยาวกว่า 25 เมตรที่อยู่ในอาคารที่มีกระจกเปิดกว้าง ดังนั้นคุณสามารถชมวิวอันสวยงามไปพร้อมๆ กับการออกกำลังกายครับ

รูปแบบห้องพัก

รูปแบบห้องพักของโรงแรมแห่งนี้แทบทั้งหมดจะเป็น Double Room ครับ โดยจะมี Single Room สอดแทรกเข้ามาเพียง 13 ห้องจากห้องพักทั้งหมด 73 ห้อง ส่วนห้อง Suite หรือระดับที่สูงกว่านั้นไม่มีเลยครับ

ห้องพักส่วนใหญ่จะมีระเบียงและเห็นวิว Matterhorn ยกเว้นแค่ Classic Double Room และ Single ซึ่งจะไม่มีครับ แต่ก็มีหน้าต่างชมวิวยอดเขาส่วนอื่นรอบเมือง Zermatt ครับ

อย่างไรก็ดีข้อเสียของห้องพักที่นี่คือเล็กมาก ห้องเดี่ยวมีขนาดเล็กแค่ 12 ตารางเมตรเท่านั้น (เล็กกว่าโรงแรม 3 ดาวเสียอีก) ส่วนห้อง Double ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 21 ตารางเมตร ดังนั้นถ้าคุณมีกระเป๋าไซส์ใหญ่ ผมมองว่าเลือกโรงแรมอื่นน่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่าครับ

สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการ

สิ่งอำนวยความสะดวกเป็นจุดแข็งของโรงแรมแห่งนี้เลยก็ว่าได้ โดยด้านล่างคือ Facilities หลักๆ ของโรงแรมครับ

• สระว่ายน้ำในร่มความยาว 25 เมตร และอ่างจากุชชี่
• สปาแบบครบวงจร ตั้งแต่ Finnish Sauna, Steam Bath, Ice Cave, Bio Sauna ฯลฯ ซึ่งสปาของที่นี่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเมือง Zermatt ครับ
• บริการนวดและทรีตเมนต์หลากหลายรูปแบบ
• ร้านอาหารและบาร์
• ห้องนั่งเล่นชมวิวพร้อมเตาผิง
• บริการรับส่งสถานีรถไฟ
• บริการเช่าจักรยานและกิจกรรมกลางแจ้งอื่นๆ

คะแนนรีวิว: Agoda – 9.3/10 (ยอดเยี่ยม), Hotels.com – 9.4/10 (ดีเลิศ)

ข้อดีข้อเสีย

ข้อดี

• Location พอใช้: ใกล้กับลานสกีและไม่ไกลเกินไปจากสถานีรถไฟ
• สปาของที่นี่มีชื่อเสียงและมีขนาดใหญ่ที่สุดใน Zermatt + ผู้เข้าพักบอกว่าคุณภาพดีเยี่ยม
• คะแนน Room Comfort และความสะอาดอยู่ที่ 9.6/10
• อาหารเช้าฟรีสำหรับทุกห้อง
• Support ในส่วนของ Workcation
• การบริการจากพนักงานของโรงแรมดีเยี่ยม (จากที่อ่านมามากกว่าร้อยรีวิว ไม่มีรีวิวไหนติเลยครับ)

ข้อเสีย

• ไม่มีห้องพักระดับสูงกว่า Double Room
• ห้องพักโดยรวมมีขนาดเล็กมาก โดยเฉพาะห้องเดี่ยว
• รสชาติและคุณภาพของอาหารอยู่ในระดับกลางๆ

โรงแรม 3 ดาว

9. Hotel Parnass

ที่ตั้ง: Vispastrasse 4, Uferweg Area, Zermatt, Switzerland, 3920

โรงแรมขนาดย่อมแห่งนี้เป็นโรงแรม 3 ดาวที่ให้ความสะดวกสบายแก่ลูกค้าได้เป็นอย่างดี เพราะตัวโรงแรมตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟเซอร์แมทประมาณ 600 เมตร ขณะที่อยู่ห่างจากร้านค้าต่างๆ อย่างเช่นร้านช็อคโกแลตประมาณ 300 เมตรเท่านั้น ดังนั้นคุณสามารถหาของอร่อยๆ กินได้โดยที่ไม่ต้องเดินไกลเกินไปนักครับ

รูปแบบห้องพัก

ห้องพักในโรงแรมแห่งนี้จะมีแค่ Single (13 ตารางเมตร), Twin/Double (19-21 ตารางเมตร) และ Triple (28 ตารางเมตร) ครับ ทั้งนี้คุณจะต้องเลือกห้องแบบ Twin/Double เท่านั้นถ้าคุณต้องการวิว Matterhorn และระเบียงครับ ส่วนตัวเลือกอื่นจะมีแค่หน้าต่างมองตัวเมืองเท่านั้นครับ

สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการ

ภายในโรงแรมมีสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการต่อไปนี้ครับ

• ร้านอาหารขนาดเล็ก 1 แห่ง
• ห้องฟิตเนสและสนามเทนนิส
• เช่าจักรยาน
• บริการรับส่งสถานีรถไฟ

โดยรวมแล้วผมมองว่าที่นี่เป็นอีกโรงแรมที่น่าสนใจสำหรับใครที่อยากจะมาเที่ยว Zermatt ช่วงสั้น (1-2 วัน) และอยากได้โรงแรมสะอาดๆ ที่เห็นวิวสวยๆ และอยู่ใกล้กับบริเวณใจกลางเมืองครับ

คะแนนรีวิว: Agoda – 9.4/10 (ยอดเยี่ยม), Hotels.com – 9.2/10 (เยี่ยมยอด)

ข้อดีข้อเสีย

ข้อดี

• Location ดี เพราะทุกสถานที่สำคัญแทบจะอยู่ในระยะเดินได้ทั้งสิ้น
• คะแนน Room Comfort ได้ 9.0/10 และความสะอาดได้สูงถึง 9.3/10
• ผู้เข้าพักหลายคนชมว่าการตบแต่งห้องถือว่ามีสไตล์ + การจัดการกับเสียงภายนอกถือว่าทำได้ค่อนข้างดี
• อาหารเช้าฟรีสำหรับทุกห้อง
• Support ในส่วนของ Workcation
• มีรถรับส่งสถานีรถไฟ (โรงแรม 3 ดาวอื่นๆ มักไม่ค่อยจะมี)
• การบริการโดยทั่วไปดี

ข้อเสีย

• อาหารเช้ามีรสชาติกลางๆ และปริมาณน้อย

10. Hotel Excelsior

ที่ตั้ง: Hofmattstrasse 38, Matterstreet Area, Zermatt, Switzerland, 3920

โรงแรมไซส์กะทัดรัดขนาด 25 ห้องที่ตั้งห่างจากใจกลางเมืองและสถานีรถไฟออกมาประมาณ 400-500 เมตร ดังนั้นความพลุกพล่านจะน้อยกว่า และคุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่เงียบสงบมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้ออกห่างไกลจนคุณไม่สามารถไปไหนมาไหนได้ครับ

รูปแบบห้องพัก

ด้วยความที่โรงแรมมีห้องพักแค่ 25 ห้อง ทำให้ตัวเลือกจะไม่เท่ากับโรงแรมใหญ่ๆ ครับ หลักๆ แล้วจะประกอบด้วย

• Single/Budget – 13-15 ตารางเมตร (บางห้องจะมีระเบียงให้พอออกไปนั่งเล่นได้ แต่จะไม่เห็น วิว Matterhorn ครับ)
• Double – 22 ตารางเมตร (เลือกห้องที่เห็นวิว Matterhorn ได้ ซึ่งถ้าเลือกห้องแบบนี้จะมีระเบียงครับ)
• Junior Suite – 31 ตารางเมตร (มีระเบียง แต่ไม่มีวิว)
• Suite – 41 ตารางเมตร (มีระเบียงและวิว Matterhorn)

ถ้าเปรียบเทียบแล้ว ตัวห้องจะค่อนข้างเล็ก แต่ก็อยู่ในระดับทั่วไปของโรงแรม 3 ดาวครับ นอกจากนี้สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการของที่นี่อย่างเช่นสปาจะไม่มี แต่ผมมองว่าถ้าคุณไม่ได้อยู่ในห้องหรือใช้ Facilities มากนักอยู่แล้ว การเลือกที่นี่จะประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากเลยครับ

คะแนนรีวิว: Agoda – 9.3/10 (ยอดเยี่ยม), Hotels.com – 9.4/10 (ไร้ที่ติ)

ข้อดีข้อเสีย

ข้อดี

• หนึ่งในตัวเลือกที่ประหยัดและคุ้มค่าที่สุด ถ้าคุณอยากจะชมวิว Matterhorn จากห้องนอน
• คะแนน Room Comfort ได้สูงถึง 8.9/10 และความสะอาดได้ไป 9/10
• Support ในส่วนของ Workcation
• อาหารเช้าฟรีสำหรับทุกห้อง
• มีเครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญให้ใช้บริการ
• เป็น Smoke-Free Property (ไม่มีจุดให้สูบบุหรี่)
• การบริการโดยทั่วไปดี

ข้อเสีย

• ไม่มี Facilities เหมือนกับโรงแรมหรูอื่นๆ

11. Hotel Carina

ที่ตั้ง: Untere Wiestistrasse 12, Suburbs, Zermatt, Switzerland, 3920

Hotel Carina เป็นหนึ่งในที่พักราคาประหยัดยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังเซอร์แมท เพราะมีห้องพักราคาถูกให้เลือกหลายรูปแบบ สะอาดและไว้ใจได้ แถมบางห้องยังเห็นวิว Matterhorn ได้อีกด้วย

ไม่เพียงเท่านั้นตัวโรงแรมยังไม่ห่างจากใจกลางเมืองมากนัก กล่าวคือห่างจากสถานีรถไฟ Zermatt ประมาณ 550 เมตรเท่านั้นเองครับ ดังนั้นเรียกได้ว่าเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ในเรื่องความคุ้มค่าเลยทีเดียว

รูปแบบห้องพัก

รูปแบบห้องพักของที่นี่จะมีตั้งแต่แบบย่อมเยาสุดๆ ไปจนถึง Highend เลยครับได้แก่

• Basecamps – ในส่วนนี้ตัวโรงแรมจะจัดแบบ Modular Hotel หรือ Hostel หมายความว่าคุณจะได้พื้นที่ส่วนตัวเฉพาะเตียงของคุณ ส่วนที่เหลือคุณจะแชร์กับเพื่อนร่วมห้องครับ ดังนั้นจะเหมาะกับสาย Backpacker ครับ
• Double/Queen – 13 ตารางเมตร (บางห้องจะมีระเบียงและเห็นวิว Matterhorn บางส่วน)
• Twin – 18 ตารางเมตร
• Deluxe – 23 ตารางเมตร (มีระเบียงและเห็นวิว Matterhorn)
• Penthouse – 73 ตารางเมตร (มีระเบียงและเห็นวิว Matterhorn)

สำหรับขนาดของห้องพักก็ไม่ห่างจากโรงแรม 3 ดาวทั่วไปนัก ดังนั้นผมมองว่าจะรู้สึกแออัดในระดับหนึ่ง แต่ก็อยู่ได้สบายครับ แต่ถ้าจะพักนานๆ ที่อื่นน่าจะดีกว่า

อีกหนึ่งสิ่งที่ควรจะพิจารณาคือ ตัวโรงแรมไม่มี TV ดังนั้นถ้าคุณอยากจะชมภาพยนตร์หรือติดตามข่าวสาร คุณจะต้องใช้ Free-WiFi และอุปกรณ์ของคุณเองครับ

สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการ

แม้ว่าจะเป็นโรงแรม 3 ดาว แต่ที่นี่ก็มี Facilities ที่ให้บริการผู้เข้าพักอยู่บ้างไม่ว่าจะเป็น

• ร้านอาหารและบาร์
• ห้องนั่งเล่นรวมขนาดใหญ่และห้องสมุด (ผู้เข้าพักมักมาสังสรรค์และหาเพื่อนใหม่)
• โยคะและสปา (ขนาดเล็ก)
• เช่าจักรยาน

คะแนนรีวิว: Agoda – 9.2/10 (ยอดเยี่ยม)

ข้อดีข้อเสีย

ข้อดี

• มีตัวเลือกห้องพักมากมาย ตั้งแต่ระดับย่อมเยาไปจนถึงไฮเอนท์
• คะแนน Room Comfort และความสะอาดได้ไปสูงถึง 9.3/10
• มี Common Room ขนาดใหญ่ให้สังสรรค์และจบเจอเพื่อนใหม่
• อาหารเช้าฟรี
• การบริการโดยรวมดี + พนักงานทั้งหมดเป็นมิตร

ข้อเสีย

• ในห้องพักไม่มี TV
• ไม่มีบริการรับส่งสถานีรถไฟ แถมการเดินไปโรงแรมต้องขึ้นเขา ผู้เข้าพักบางคนจึงแนะนำว่าใช้แท็กซี่ไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

บทความที่พักอื่นๆ

บนเว็บไซต์ Victory Tale มีบทความอื่นๆ ที่ช่วยให้คุณเลือกโรงแรมดีๆ ในสวิสเซอร์แลนด์ด้วยเช่นกัน สามารถตามลิงค์ไปได้เลยครับ

• ลูเซิร์น (Luzern)
• ซูริก – Coming Soon
• อินเตอร์ลาเก้น – Coming Soon