ประวัติศาสตร์จีนจ้านกว๋อศึกเมืองเอ้อหยี่ว์ แคว้นจ้าวทำแสบ แคว้นฉินลิ้มรสความพ่ายแพ้เป็นครั้งแรก

ศึกเมืองเอ้อหยี่ว์ แคว้นจ้าวทำแสบ แคว้นฉินลิ้มรสความพ่ายแพ้เป็นครั้งแรก

ฉินจาวเซียงหวาง กษัตริย์แห่งแคว้นฉินปรารถนาจะได้ดินแดนของแคว้นทั้งหกให้ได้มากที่สุด ในครั้งนี้จึงให้หูหยาง เป็นแม่ทัพนำกองทัพสองแสนคนเข้าตีเมืองเอ้อหยี่ว์ของแคว้นหาน

แม่ทัพในครั้งนี้ของกองทัพฉินจึงไม่ใช่ไป๋ฉี ผู้เจนจัดในการสงคราม แต่เป็นหูหยาง ไม่ปรากฏว่าทำไมฉินหวางถึงไม่ให้ไป๋ฉีเป็นแม่ทัพ แต่ที่เป็นไปได้คือการจะใช้ไป๋ฉีในทุกสงครามย่อมเป็นไปไม่ได้ ตัวไป๋ฉีเองก็ไม่ปรารถนาจะรบ ถ้าตนเองไม่แน่ใจว่าจะชนะ

เมื่อไป๋ฉีไม่อยู่ควบคุมกองทัพฉิน โอกาสที่แคว้นทั้งหกจะเอาชนะได้จึงเพิ่มขึ้น ใครกันที่จะมาเอาชนะกองทัพฉินที่ไร้พ่ายนี้ได้

จ้าวเซอ

ไข่กระทบหิน

แต่ทว่าแม้ไป๋ฉีจะไม่อยู่ แต่กองทัพฉินก็ยังแข็งแกร่งมาก กองทัพฉินโจมตีแคว้นหานอย่างหนักจนแทบจะต้านทานไม่อยู่ ทหารฉินยาตราทัพเข้าประชิดเมืองเอ้อหยี่ว์ แคว้นหานจึงส่งทูตมาขอให้แคว้นจ้าวช่วยเหลือ

จ้าวฮุ่ยเหวินหวาง กษัตริย์แคว้นจ้าวสอบถามเหล่าแม่ทัพว่าจะยกไปช่วยแคว้นหานดีหรือไม่ บรรดาแม่ทัพและขุนนางแคว้นจ้าวมีความเห็นที่ต่างกันดังนี้

แม่ทัพใหญ่เหลียนพอทูลว่า

ข้าพระองค์เห็นว่าทางไปเมืองเอ้อหยี่ว์เป็นหุบเขาโตรกแคบ ทำให้ป้องกันได้ยากลำบาก มิหนำซ้ำยังห่างไกลจากหานตาน เมืองหลวงของแคว้นเราอย่างมาก ข้าพระองค์เห็นว่ามิควรไปช่วย

ผิงหยวนจวิน (หนึ่งในองค์ชายแห่งยุคจ้านกว๋อเช่นเดียวกับเมิ่งฉางจวิน) เสนอความเห็นในเชิงยุทธศาสตร์ว่า

แคว้นหานกับแคว้นจ้าวเหมือนกับปากกับฟันคอยปกป้องรักษากันและกัน ถ้าแคว้นหานแตกแล้ว แคว้นจ้าวจะอยู่ได้อย่างไร

ระหว่างนั้นเอง จ้าวเซอ โอรสคนหนึ่งของจ้าวฮุ่ยเหวินหวางทูลว่า

ข้าพระองค์เห็นว่า เส้นทางถนนที่เมืองเอ้อหยี่ว์แคบทำให้กองทัพทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันเยี่ยงหนูสองตัวในที่แคบ ตัวที่แข็งแกร่งกว่าจะได้ชัยชนะ ข้าพระองค์ขอเป็นแม่ทัพยกไปช่วยเมืองเอ้อหยี่ว์เถิด

จ้าวฮุ่ยเหวินหวางจึงทรงอนุมัติตามคำขอของจ้าวเซอ ให้ทหารมีฝีมือเขาไปห้าหมื่นคนเพื่อยกไปช่วยแคว้นหาน

จ้าวเซอผู้ซื่อสัตย์

จ้าวเซอผู้นี้เป็นคนซื่อสัตย์ที่มีความสามารถทั้งบุ๋นและบู๊ ไม่ปรากฏแน่ชัดแบบ 100% ว่าเขาเป็นบุตรของใคร (เพราะบ้างว่าจ้าวเซออาจจะเป็นหนึ่งในโอรสของจ้าวฮุ่ยเหวินหวาง)

จ้าวเซอเคยได้รับคำสั่งให้เป็นเจ้าหน้าที่เก็บภาษีภายในแคว้น ซึ่งเป็นงานทั่วๆไปงานหนึ่ง ปรากฏว่าจ้าวเซอไม่ตะขิดตะขวงใจในการทำงานดังกล่าวเลย เขาทำงานอย่างเต็มที่ด้วยความซื่อสัตย์

มีอยู่วันหนึ่งจ้าวเซอทะเลาะกับจ้าวเชิง ชนชั้นสูงคนหนึ่งที่ปฏิเสธที่จะจ่ายภาษีอย่างรุนแรง ทั้งสองฝ่ายไม่มีใครยอมใคร จ้าวเซอจึงจับกุมเจ้าหน้าที่ทั้งเก้าคนที่ช่วยจ้าวเชิงหนีภาษีเข้าคุก และยังได้ไปต่อว่าจ้าวเชิงอีกรอบด้วย

สุดท้ายจ้าวเชิงจึงยอมแพ้ เพราะว่าตนเองได้กระทำผิดจริงๆ จ้าวเชิงกลับเป็นฝ่ายแนะนำจ้าวเซอต่อจ้าวฮุ่ยเหวินหวางให้เขาดำรงตำแหน่งสำคัญ จ้าวฮุ่ยเหวินหวางจึงให้จ้าวเซอทำหน้าที่เก็บภาษีทั่วทั้งแคว้น

แต่ในครั้งนี้ เขาจะต้องเป็นแม่ทัพยกไปช่วยแคว้นหาน!

ยุทธการแห่งเมืองเอ้อหยี่ว์

จ้าวเซอสั่งให้ทหารใส่เกราะบางเพื่อความคล่องตัวในการเดินทัพ กองทัพจ้าวจึงไปถึงเมืองเอ้อหยี่ว์อย่างรวดเร็ว หูหยางกลัวว่าจะถูกกองทัพจ้าวตีกระหนาบ เขาจึงให้ชะลอการโจมตีเมืองเอ้อหยี่ว์

ทหารจ้าวทั้งหลายถูกจ้าวเซอสั่งให้รอกองทัพฉินอยู่บนเขา และตั้งค่ายอย่างมั่นคง ใครพูดถึงเรื่องการทำสงครามต้องถูกประหารชีวิต กองทัพจ้าวจึงตั้งทัพที่ด้านหลังของกองทัพฉิน

หูหยางเห็นกองทัพจ้าวมาถึงแต่ไม่ยอมโจมตี เขาจึงส่งให้ทูตไปบอกกองทัพจ้าวว่า

ท่านแม่ทัพได้รับบัญชาจ้าวหวางมาทำสงคราม เห็นไฉนจึงไม่บุกโจมตีกองทัพข้าเล่า กลับตั้งค่ายรออยู่เฉยๆเพื่อเหตุอันใด

จ้าวเซอให้ทหารตอบไปว่า

ข้ามิกล้าทำสงครามกับกองทัพฉินที่เข้มแข็งหรอก ฝ่ายเราก็เพียงแต่ไข่กระทบหิน เพียงแต่ทำตามคำสั่งที่ได้รับมาเท่านั้น

เมื่อหูหยางได้อ่านที่จ้าวเซอเขียนตอบมา เขาจึงหัวเราะด้วยความประมาท หลังจากนั้นจึงกล่าวกับทหารว่า

กองทัพจ้าวขี้ขลาดตาขาว เพียงแค่ยกออกจากแคว้นมาเพียงสามสิบลี้เท่านั้นก็เกรงกลัวหัวหดแล้ว มันคงไม่กล้าโจมตีเราเป็นแน่

หลังจากนั้นหูหยางสั่งให้กองทัพฉินเข้าตีกระหน่ำตีเมืองเอ้อหยี่ว์อย่างรุนแรง เพื่อจะเข้าเมืองให้ได้ และไม่สนใจกองทัพจ้าวอีกต่อไป

จ้าวเซอเห็นกองทัพฉินจดจ่อกับการเข้าตีเมืองเอ้อหยี่ว์ เขาจึงให้ทหารม้าหนึ่งหมื่นคนเป็นกองหน้า แล้วเดินทัพเข้ามาห่างกองทัพฉินสิบห้าลี้ หลังจากนั้นให้ตั้งค่ายและสร้างป้อมขึ้นอีก

หูหยางเห็นกองทัพจ้าวยกเข้ามาประชิดเรื่อยๆ แต่ไม่ยอมโจมตีจึงเริ่มกังวลอย่างหนัก หูหยางสั่งให้ทหารฉินเกือบทั้งหมดยกมาต่อสู้กับกองทัพจ้าวทันที และทิ้งทหารส่วนหนึ่งล้อมเมืองเอ้อหยี่ว์เอาไว้

จ้าวเซอมองไปทางทิศเหนือเห็นมีภูเขาอยู่ลูกหนึ่งที่กองทัพฉินทิ้งไว้ยังไม่ได้เข้ายึดครอง เขาจึงให้ทหารเข้ายึดเขาลูกนั้นทันที จากบนภูเขาทำให้กองทัพจ้าวมองเห็นการเคลื่อนไหวของกองทัพฉินในช่องเขาแคบๆทั้งหมดอย่างสะดวกโยธิน

เมื่อหูหยางเห็นกองทัพจ้าวตั้งทัพอยู่บนภูเขาทิศเหนือจึงตกใจเป็นอย่างยิ่ง เขาสั่งให้กองทัพฉินเข้าโจมตีเพื่อแย่งชิงภูเขาลูกนี้กลับคืนมาให้ได้

ถึงแม้กองทัพฉินจะมากกว่าทหารจ้าวที่อยู่บนเขาถึงยี่สิบเท่า แต่ทางในช่องเขานั้นแคบ รวมไปถึงกองทัพจ้าวตั้งอยู่บนที่สูง ทำให้จำนวนทหารที่มากไม่ทำให้กองทัพฉินได้เปรียบ ทหารจ้าวที่มีเพียงหนึ่งหมื่นคนบนยอดเขาระดมยิงเกาทัณฑ์และปาก้อนหินลงมาราวกับห่าฝน ทหารฉินบาดเจ็บล้มตายเป็นอันมาก

เมื่อเวลาผ่านไป กองทัพฉินก็ทุ่มกำลังเข้าตีเนินเขาเหล่านี้มากขึ้นไปทุกที สายตาของทหารฉินพุ่งตรงไปยังเนินเขาดังกล่าว ไม่มีใครตระหนักถึงด้านอื่นเลย

กองทัพจ้าวไม่ได้อยู่ที่เดียวเท่านั้น จ้าวเซอเห็นกำลังทหารฝ่ายฉินไม่ได้ระวังป้องกันด้านข้างและด้านหลัง เขาจึงสั่งให้กองทัพที่ซุ่มอยู่ตีกลองลั่นฆ้องออกมา ทั้งนี้จ้าวเซอได้ส่งกำลังทหารไปซุ่มไว้อยู่ทุกด้านระหว่างที่ทหารฉินมัวแต่ให้ความสนใจกับภูเขาทางทิศเหนือ

กองทัพจ้าวมีกองทหารม้ายิงเกาทัณฑ์และหน้าไม้เป็นกองหน้าด้านละห้าพันคน ทหารจ้าวกระหน่ำยิงเกาทัณฑ์นับหมื่นดอกทุกๆนาที พวกทหารฉินอยู่ในวงล้อม จำนวนที่มหาศาลและพื้นที่คับแคบทำให้กองทัพฉินหลบหนีออกไปไหนไม่ได้ ขนาดทหารจ้าวหลับตายิงก็ยังยิงโดน

ทหารฉินจึงไม่อาจจะต่อสู้ได้เลย ทหารฉินบาดเจ็บล้มตายเหลือคณานับ

ส่วนทหารจ้าวที่อยู่บนเขานั้น เมื่อเห็นกองทัพที่แอบซุ่มกำลังโจมตีกองทัพฉินที่อยู่ด้านล่างอย่างหนักหน่วง ทหารกองนี้จึงลงจากเขาฆ่าฟันทหารฉินที่อยู่ใต้เขาอย่างอลหม่าน ทหารฉินถูกสังหารคนแล้วคนเล่า

ถึงแม้กองทัพฉินจะฝึกปรือมาอย่างดีเยี่ยม แต่ในสถานการณ์ที่ไม่มีทางออก ทำให้พวกเขาไม่สามารถจะรักษาระเบียบวินัยไว้ได้ ทหารฉินแตกหนีเป็นอลหม่าน ต่างคนพยายามหาทางออกจากวงล้อม เปิดโอกาสให้ทหารจ้าวไล่สังหารราวกับเป็นเหยื่ออันโอชะ

หากแต่ว่าด้วยจำนวนที่มหาศาล กองทัพจ้าวไม่อาจจะสังหารได้หมดสิ้น สุดท้ายทหารฉินจำนวนหนึ่งพร้อมกับแม่ทัพใหญ่หูหยางจึงหนีรอดออกจากวงล้อมไปได้ ทหารฉินที่เหลือพากันหนีตายกลับไปทางตะวันตกทั้งหมด

เมื่อทหารฉินแตกพ่ายไปแล้ว กองทัพจ้าวจึงสามารถช่วยเหลือเมืองเอ้อหยี่ว์ได้สำเร็จ หานลี่หวาง กษัตริย์แห่งแคว้นหานเดินทางมาต้อนรับทหารจ้าวด้วยพระองค์เอง และส่งสาส์นไปขอบคุณจ้าวฮุ่ยเหวินหวาง

จ้าวฮุ่ยเหวินหวางโสมนัสยิ่งนักกับชัยชนะ เขาจึงแต่งตั้งให้จ้าวเซอเป็นหม่าฟูจวิน แม่ทัพใหญ่คนหนึ่งของแคว้นจ้าว

สำหรับแคว้นฉินแล้ว ตั้งแต่การปฎิรูปของซางยางเมื่อเกือบสี่สิบปีก่อน การบุกภาคกลางและทำสงครามกับหกแคว้นตะวันออกไม่เคยพ่ายแพ้มาก่อน

ดังนั้นความพ่ายแพ้ยับเยินที่เมืองเอ้อหยี่ว์โดยน้ำมือของทหารจ้าวเป็นความพ่ายแพ้ที่ฉินจาวเซียงหวางจำใส่ใจได้ไม่มีวันลืม ฉินจาวเซียงหวางมั่นใจยิ่งกว่าเดิมว่าแคว้นจ้าวจะต้องถูกจัดการทำลายอย่างเด็ดขาดให้จงได้!

ในครั้งต่อไปฉินจาวเซียงหวางจะให้ไป๋ฉีเป็นแม่ทัพยกไปตีแคว้นจ้าวล้างแค้น เรามาดูกันครับว่าผลจะเป็นอย่างไร

Sources:

  • Sima Qian, Records of The Grand Historian
  • วิวัฒน์ ประชาเรืองวิทย์, เลียดก๊ก เล่ม 3

บทความประวัติศาสตร์

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!