ประวัติศาสตร์ฌ้อปาอ๋อง (2): เซี่ยงอวี่สูญเสียผู้ใหญ่ที่เคารพ

ฌ้อปาอ๋อง (2): เซี่ยงอวี่สูญเสียผู้ใหญ่ที่เคารพ

ในตอนที่แล้ว ผมได้เล่าถึงประวัติของเซี่ยงอวี่จนกระทั่งถึงการกบฏของเฉินเสิ้งและอู๋ก่วง สำหรับสองอาหลานแล้ว ความวุ่นวายในแผ่นดินเป็นโอกาสที่หาได้ยากในการกอบกู้แคว้นฉู่ พวกเขารอโอกาสนี้มานานนับสิบปี

ดังนั้นพวกเขาย่อมไม่ลังเลที่จะร่วมลุกฮือต่อต้านราชวงศ์ฉินกับกบฏกลุ่มอื่นๆ

เริ่มต้นการกบฏ

ในเวลานั้น สองอาหลานอาศัยอยู่ที่จังหวัดไคว้จีที่มีเมืองหลวงอยู่ที่เมืองอู๋ ปัจจุบันเมืองดังกล่าวคือเมืองซูโจว เมืองที่คนไทยนิยมไปเที่ยวเมืองหนึ่ง

ยินทง ผู้ว่าราชการจังหวัดดังกล่าวเป็นข้าราชการของราชวงศ์ฉินก็จริง แต่เขามีความมักใหญ่ใฝ่สูง เมื่อเขาเห็นกบฏชาวนาเกิดขึ้นไปทั่วแผ่นดิน เขาก็คิดจะเป็นกบฏบ้าง เพื่อความยิ่งใหญ่ของตัวเอง

เมืองซูโจวในปัจจุบัน By ChinaTravelSavvy.Com – China Travel Guide, CC BY-SA 3.0,

ด้วยเหตุนี้ยินทงจึงไปเชิญเซี่ยงเหลียง บุคคลที่ผู้คนแถบนั้นรักและนับถือมากมาปรึกษา ทั้งนี้ดินแดนไคว้จีเคยเป็นดินแดนของแคว้นฉู่มาก่อน พลเมืองแทบทุกคนต่างเคยเป็นชาวฉู่ ตระกูลเซี่ยงเป็นตระกูลที่ปกป้องแคว้นฉู่จนตัวตาย ดังนั้นจึงไม่แปลกอะไรที่เหล่าพลเมืองจะรักเซี่ยงเหลียงมาก

ยินทงถามเซี่ยงเหลียงว่าจะคิดการอย่างไรดี และชวนให้เซี่ยงเหลียงให้มาร่วมมือกับตน เซี่ยงเหลียงยังไม่ตอบรับคำ เขาจึงกลับมาบ้าน และปรึกษาเซี่ยงอวี่ หลานชายว่าจะทำอย่างไรกันดี

เซี่ยงอวี่จึงบอกอาว่า

ข้าพเจ้าเห็นว่ายินทงคนนี้มักใหญ่ใฝ่สูงคงจะไม่สำเร็จ พวกเราเป็นชายไม่ควรอยู่ในโอวาทให้เขาบังคับบัญชา

เซี่ยงเหลียงบอกเซี่ยงอวี่ว่า ทั้งสองคิดตรงกัน เพราะฉะนั้นในวันรุ่งขึ้นขอให้เซี่ยงอวี่แอบนำกระบี่ติดตัวไปด้วย เมื่อได้โอกาสก็ฆ่ายินทงเสียเลย หลังจากนั้นจะได้นำทหารของยินทงมาเป็นกำลังของตน

ในรุ่งขึ้น เหตุการณ์ก็เป็นอย่างที่เตรียมไว้ เซี่ยงอวี่ตวาดยินทงว่าคิดกบฏต่อราชสำนักฉิน ทั้งๆ ที่ฮ่องเต้ราชวงศ์ฉินให้กินเงินเดือนและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งใหญ่โต

หลังจากนั้นเขาก็ตัดศีรษะยินทงทันที และบอกกับเหล่าทหารทั้งปวงว่า ยินทงคิดกบฏ เซี่ยงอวี่จึงฆ่าทิ้งเสีย ทหารคนใดที่ไม่ยอมจำนน เซี่ยงอวี่ก็เข้าต่อสู้และสังหารทหารเหล่านั้นไปร้อยกว่าคน

เมื่อเห็นพวกทหารไม่แข็งข้อแล้ว เซี่ยงอวี่จึงประกาศให้เซี่ยงเหลียง อาของตัวเองเป็นเจ้าเมือง เพราะว่าดินแดนไคว้จีแห่งนี้เป็นดินแดนของแคว้นฉู่มาแต่ก่อน ดังนั้นจึงไม่ควรอยู่ในการปกครองของราชวงศ์ฉินต่อไป เหล่าราษฎรในเมืองต่างสนับสนุนสองอาหลาน เพราะว่าโกรธแค้นกับการปกครองของราชวงศ์ฉินมานานแล้ว

ช่วงเวลานี้เองเซี่ยงอวี่ได้อดีตนายทหารของราชวงศ์ฉินสองนายมาสวามิภักดิ์ ทั้งสองชื่อว่า จี้ปู้ และ จงหลีโม่ ทั้งสองจะเป็นนายทหารคู่ใจของเซี่ยงอวี่ต่อไปในภายภาคหน้า

ดังนั้นการกบฏของสองอาหลานแห่งตระกูลเซี่ยงจึงเริ่มต้นตั้งแต่บัดนี้นั่นเอง

เซี่ยงอวี่โชว์ออฟ

เซี่ยงอวี่ถูกส่งไปยังกลุ่มกบฏกลุ่มต่างๆ เพื่อให้มาร่วมมือกับกลุ่มตน มีอยู่ครั้งหนึ่งเซี่ยงอวี่ถูกท้าให้ผลักกระถางธูปที่หน้าศาลเจ้าหนักประมาณห้าพันชั่งให้ล้มลง แล้วอุ้มกระถางธูปให้ตั้งขึ้นใหม่ให้ได้จำนวนสามครั้ง ถ้าทำได้พวกเขาจะเข้าร่วมด้วย

ก่อนที่ตัวเองจะลองทำดู เซี่ยงอวี่ให้ทหารของเขาไปลองทำดูก่อน แต่ไม่ว่าทหารเหล่านั้นจะทำอย่างไรก็ตาม กระถางธูปก็ไม่ไหวติงเลย

เซี่ยงอวี่เดินเข้ามาถึงหน้ากระถางธูป เขาใช้ผลักหน่อยเดียว กระถางธูปก็ล้มลง เซี่ยงอวี่จึงใช้มืออุ้มมันให้ตั้งขึ้นใหม่ เซี่ยงอวี่ทำแบบนี้สามครั้งได้อย่างง่ายดาย ทำให้ผู้คนที่อยู่ที่นั่นตกตะลึงไปทั่ว

แต่เท่านั้นเซี่ยงอวี่รู้สึกว่ายังไม่เท่าไร เขาจึงยกกระถางธูปด้วยมือซ้ายแล้วเดินรอบศาลเจ้าถึงสามรอบ หลังจากนั้นจึงวางกระถางธูปลง ผู้คนที่เห็นเซี่ยงอวี่ต่างยอมรับว่าเขาแข็งแกร่งเป็นยอดมนุษย์ พวกเขาจึงยอมมาเข้ากับเซี่ยงอวี่จำนวนมาก

เชิญฉู่ไหวหวาง

หลังจากนั้นกลุ่มกบฏของเซี่ยงเหลียงก็เติบโตขึ้นทุกวัน จนมีกำลังทหารหลายหมื่นคน และเป็นกลุ่มกบฏที่แข็งแกร่งที่สุดกลุ่มหนึ่ง เซี่ยงเหลียงเองก็ได้เชิญผู้เฒ่าฟ่านเจิงมาเป็นที่ปรึกษาให้ตนด้วย

ฟ่านเจิง
ฟ่านเจิง By 西汉画家 – 洛阳古墓博物馆, CC BY-SA 4.0,

ขณะนั้นกองทัพราชวงศ์ฉินโดยจางหานได้เข้าตีกลุ่มกบฏของเฉินเสิ้งจนแตกกระจัดกระจาย เฉินเสิ้งและอู๋ก่วงล้วนแต่สิ้นชีวิต เซี่ยงเหลียงรู้สึกท้อใจไม่น้อยเกรงว่าการกบฏจะล้มเหลว

ฟ่านเจิงกลับบอกเซี่ยงเหลียงว่า เฉินเสิ้งมักใหญ่ใฝ่สูง เมื่อมีอำนาจแล้วกลับตั้งตนเป็นกษัตริย์ (หวาง) แห่งจางฉู่โดยที่ตนเองไม่ได้มีเชื้อสายของเชื้อพระวงศ์แคว้นฉู่เลยสักเสี้ยวเดียว ชาวฉู่จะสนับสนุนเขาได้อย่างไร

ดังนั้นไม่แปลกใจเลยที่ต้องพ่ายแพ้ ฟ่านเจิงจึงขอให้เซี่ยงเหลียงทำตรงกันข้ามกับเฉินเสิ้งนั่นก็คือ หาเชื้อพระวงศ์แคว้นฉู่มาเป็นกษัตริย์ และใช้ข้ออ้างว่ารื้อฟื้นแคว้นฉู่ เพียงเท่านี้ชาวฉู่ย่อมสนับสนุนเซี่ยงเหลียงอย่างเต็มที่แน่นอน

เซี่ยงเหลียงจึงให้คนสืบเสาะเชื้อพระวงศ์แคว้นฉู่ ปรากฏว่าเจอเด็กเลี้ยงแพะคนหนึ่งชื่อ มี่ซิน หรือ สวงซิน เป็นหลานชายของฉู่ไหวหวาง ผู้ที่เคยถูกแคว้นฉินจับเป็นตัวประกันจนสวรรคต เซี่ยงเหลียงจึงเชิญให้มี่ซินมาขึ้นครองราชย์ในนาม ฉู่ไหวหวาง เช่นเดียวกับปู่ของเขา ฉู่ไหวหวางแต่งตั้งให้เซี่ยงเหลียงควบคุมกำลังทหารทั้งหมด

หลังจากอัญเชิญฉู่ไหวหวางแล้ว กลุ่มกบฏของเซี่ยงเหลียงก็มีผู้มาสวามิภักดิ์จำนวนมาก หนึ่งในนั้นก็คือ ซ่งอี้ ขุนนางเก่าแก่ของแคว้นฉู่ ฉู่ไหวหวางจึงแต่งตั้งให้ซ่งอี้เป็นขุนนางในราชสำนักที่ตั้งขึ้นใหม่

หนึ่งในผู้สวามิภักดิ์ที่สำคัญที่สุดคือ หลิวปัง หัวหน้าชาวนาผู้หนึ่งที่ร่วมมือในการกบฏด้วยเช่นกัน เมื่อหลิวปังมาสวามิภักดิ์นั้น ฟ่านเจิงได้เห็นหน้าหลิวปังก็ถึงกับกล่าวว่า ชายผู้นี้มีลักษณะดีมาก นานไปจะได้ขึ้นเป็นใหญ่

คำกล่าวของฟ่านเจิงจะเป็นจริงหรือไม่ก็ต้องดูกันต่อไป

เซี่ยงเหลียงเสียชีวิต

เมื่อเซี่ยงเหลียงทวีอำนาจมากขึ้น จางหานที่เพิ่งปราบเฉินเสิ้งยับเยินมาหมาดๆ จึงเห็นว่าเซี่ยงเหลียงเป็นอุปสรรคสำคัญที่เขาต้องกำจัด กองทัพฉินที่มีฝีมือจึงยกลงมาหาเซี่ยงเหลียงทันที

เซี่ยงเหลียงนำกองทัพยกไปเผชิญศึกพร้อมกับเซี่ยงอวี่และหลิวปัง เซี่ยงอวี่เป็นคนกล้าหาญ เขาบุกหน้าเข้าปะทะกับกองทัพศัตรู เซี่ยงอวี่นั้นต้องการจะปะทะกับกองทัพฉินมานานแล้ว เมื่อเจอทหารศัตรูก็ใช้ทวนแทงล้มตายลงมากมาย

กองทัพฉู่เห็นเซี่ยงอวี่อาจหาญ กำลังใจในการต่อสู้จึงเพิ่มขึ้นหลายเท่า กองทัพหน้าของจางหานจึงถูกเซี่ยงอวี่ตีแตกยับเยิน จางหานเห็นท่าไม่ดีเลยถอยทัพไป

เซี่ยงเหลียงเห็นได้ทีจึงให้เซี่ยงอวี่ หลิวปัง และยิงปู้ แยกย้ายกันติดตามจางหานไป

หมายเหตุ: ยิงปู้ผู้นี้เคยเป็นนักโทษที่เขาหลีซาน แต่เป็นนักรบที่เก่งกล้าคนหนึ่ง

กองทัพฉู่ระดมตีกองทัพฉินอย่างหนักจนค่ายฝ่ายฉินแตก เซี่ยงเหลียงจึงให้ทหารทุกกรมกองไล่ติดตามกองทัพฉินที่แตกพ่ายไป จางหานถอยไปตั้งหลักที่เมืองติ้งเถา กองทัพฉู่ต่างเข้าล้อมเมืองอย่างหนักหน่วง

ในวันรุ่งขึ้น เซี่ยงเหลียงเกิดประมาทขึ้นมาเพราะชัยชนะที่ได้รับมาหมาดๆ เขาสั่งให้กองทัพทั้งหมดเข้าตีเมือง ยิงปู้ทัดทานว่ากองทัพศัตรูยังแข็งแกร่งอยู่ไม่ควรรีบร้อนเข้าตีเมือง แต่เซี่ยงเหลียงก็ไม่ฟัง

ทุกอย่างเป็นไปตามที่ยิงปู้คาดไว้ กองทัพฉินต้านทานอย่างหนัก ทำให้กองทัพฉู่เข้าเมืองไม่ได้ พร้อมกับเสียทหารไปเป็นจำนวนมาก

กองทัพฉู่ตีเมืองติ้งเถาตลอดทั้งวันก็ยังเข้าเมืองไม่ได้ พอถึงเวลาค่ำ เซี่ยงเหลียงจึงให้ยกเลิกการโจมตี และให้ทหารที่เหน็ดเหนื่อยพักผ่อนได้อย่างสบายใจ โดยไม่ต้องสนใจกับการรักษาค่ายมากนัก

หานสิ้น ทหารเลวคนหนึ่งที่อยู่ในค่ายรู้สึกเอะใจ เขาจึงเข้าไปตักเตือนเซี่ยงเหลียงว่าระเบียบวินัยย่อนหยานเช่นนี้ ไม่กลัวโดนปล้นค่ายหรือ แต่เซี่ยงเหลียงกลับโกรธ เขาหาว่าหานสิ้นเป็นเพียงทหารเลว และจางหานก็ถูกกองทัพฉู่ตีแตกยับ จะกล้ามาปล้นค่ายได้อย่างไร

หลังจากนั้นเซี่ยงเหลียงจึงไล่หานสิ้นออกไปจากกระโจม และชวนนายทหารต่างๆ ดื่มเหล้าด้วยความประมาท

ฝ่ายจางหานที่อยู่ในเมืองเห็นทหารของเซี่ยงเหลียงไม่ได้ระวังรักษาค่ายเลย เขาจึงให้ทหารยกออกไปปล้นค่าย ทหารฉู่ที่ไม่ได้เตรียมตัวจึงถูกสังหารล้มตายจำนวนมากมาย ตัวเซี่ยงเหลียงที่แทบจะไร้สติก็ถูกทหารฉินแทงจนสิ้นชีวิต กองทัพฉู่แตกยับเยิน มีแต่ยิงปู้และทหารจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่หลบหนีมาได้

ที่เซี่ยงเหลียงพลาดไม่ต้องสงสัยเลยว่าเกิดจากความประมาทของเขาเอง

เมื่อเซี่ยงอวี่ทราบว่า อาของเขาเสียชีวิต เขาจะรู้สึกอย่างไรกันแน่? ติดตามได้ในตอนหน้าครับ

ตอนยาวล่าสุด

แนะนำ:จ้านกว๋อ

บทความอื่นๆ

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!