ลิสบอน (Lisbon, Lisboa) เป็นเมืองหลวงของประเทศโปรตุเกสที่มีประวัติย้อนไปได้ถึงสมัยโรมัน ภายในเมืองจึงมีสถานที่ท่องเที่ยวอันหลากหลาย เช่นเดียวกับวัฒนธรรมอันน่าสนใจที่ให้คุณได้สัมผัส
ในโพสนี้ ผมจะขอเล่าประวัติของเมืองลิสบอนคร่าวๆ ก่อนว่ามีความเป็นมาอย่างไร (ถ้าไม่สนใจสามารถข้ามได้เลยครับ) หลังจากนั้นมาดูกันครับว่าเมืองลิสบอนมีอะไรให้เที่ยวบ้าง
ประวัติย่อของลิสบอน
นักประวัติศาสตร์พบว่ามีผู้คนอาศัยอยู่ที่ลุ่มแม่น้ำ Tagus ใกล้กับเมืองลิสบอนในปัจจุบันมาหลายพันปีแล้ว แต่กว่าลิสบอนจะเป็นเมืองก็เข้าสู่สมัยโรมัน ชาวโรมันได้สร้างลิสบอนขึ้นเป็นเมืองที่มีกำแพงล้อมรอบเพื่อป้องกันภัยจากพวกชนเผ่าต่างๆ ที่มักจะเข้ามาปล้นสะดม เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งก่อสร้างภายในเมืองก็เพิ่มจำนวนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวิหารทางศาสนาหรือว่าโรงอาบน้ำ ทุกวันนี้สิ่งก่อสร้างที่ชาวโรมันสร้างไว้ก็ยังปรากฏให้เห็นในเมืองอยู่ครับ
ต่อมาหลังจากศาสนาคริสต์เฟื่องฟู ลิสบอนกลายเป็นศูนย์กลางการเผยแพร่ศาสนาคริสต์ ชาวเมืองจำนวนมากจึงถูกกวาดล้างเมื่อจักรพรรดิไดอาคลีเชียนมีคำสั่งให้ปราบปรามชาวคริสต์ แต่สุดท้ายเหตุการณ์ดังกล่าวก็ผ่านไป
ความอ่อนแอของจักรวรรดิโรมันได้ทำให้อนารยชนต่างๆ เข้ามาปกครองลิสบอนเป็นเวลานานถึงสองร้อยปี จนกระทั่งปี ค.ศ.711 กองทัพมุสลิมจากทางใต้ตีลิสบอนแตก เหตุการณ์นั้นเป็นจุดเริ่มต้นของการตกเป็นดินแดนในปกครองของชาวมุสลิมที่ยาวนานถึง 400 ปีเศษ
อย่างไรก็ดีผู้ปกครองชาวมุสลิมได้พัฒนาเมืองลิสบอนอย่างก้าวกระโดด สิ่งก่อสร้างมากมายอย่างเช่นมัสยิดและบ้านเรือนถูกสร้างขึ้นในเมือง ทำให้ลิสบอนเจริญยิ่งขึ้นตามลำดับ
การปกครองของชาวมุสลิมสิ้นสุดในปี ค.ศ.1147 เมื่อกองทัพชาวคริสต์ตีเมืองลิสบอนกลับคืนได้สำเร็จ ลิสบอนจึงหวนกลับเป็นเมืองคริสต์อีกครั้งหนึ่ง และเริ่มเจริญรุ่งเรืองในฐานะเมืองท่าอีกด้วย อาณาจักรโปรตุเกสที่ตั้งขึ้นใหม่ได้สถาปนาลิสบอนเป็นเมืองหลวงของอาณาจักร
ช่วงเวลาที่ลิสบอนเจริญรุ่งเรืองที่สุดคือช่วงศตวรรษที่ 16 เพราะชาวโปรตุเกสมีอาณานิคมอยู่ทั่วโลก ลิสบอนกลายเป็นเมืองท่าขนาดยักษ์ที่มีการซื้อขายสินค้ามากมายจากโลกใหม่ อย่างไรก็ดีความรุ่งโรจน์ของลิสบอนกลับถูกขัดขวางอย่างภัยธรรมชาติอย่างแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง
แผ่นดินไหวครั้งที่รุนแรงที่สุดคือ แผ่นดินไหวแห่งปี ค.ศ.1755 (Great Lisbon Earthquake) ที่สร้างความเสียหายอย่างมากต่อชีวิต ทรัพย์สินของชาวเมือง ตลอดจนสิ่งก่อสร้างอันทรงคุณค่าของลิสบอนชนิดที่เรียกว่ายับเยิน
สุดท้ายแล้วลิสบอนสามารถก้าวผ่านช่วงเวลาแห่งความเศร้านั้นมาได้ ปัจจุบันลิสบอนเป็นเมืองสวยที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป และมีเสน่ห์น่าหลงใหลเช่นเดิมครับ
ถัดไปเรามาดูกันดีกว่าครับว่าลิสบอนมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าไปที่ไหนบ้าง
1. Castelo de São Jorge
Castelo de São Jorge หรือ St. George’s Castle เป็นปราสาทที่ตั้งอยู่บนภูเขาเหนือเมืองลิสบอน และอาจจะเรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองก็ว่าได้
ในอดีตที่นี่เคยเป็นปราสาทของชาววิสิกอธและมุสลิมที่สร้างขึ้นเพื่อป้องกันผู้รุกราน แต่หลังจากชาวคริสต์ตีเมืองนี้กลับคืนได้ กษัตริย์โปรตุเกสได้สร้างพระราชวังขึ้นบนภูเขาแห่งนี้ด้วย ตัวพระราชวังยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์มาจนถึงปัจจุบัน คุณสามารถเข้าชมกำแพงและหอคอยอันเก่าแก่และสวยงามได้ครับ
อย่างไรก็ดีนักท่องเที่ยวมักใช้ที่นี่เป็นจุดชมวิวเสียมากกว่า เพราะคุณสามารถเห็นทั้งตัวเมืองลิสบอน แม่น้ำ Tagus และมหาสมุทรแอตแลนติกแบบ 360 องศาจากที่นี่ครับ
ค่าเข้าชม 10 ยูโร
วิธีไปที่ง่ายที่สุด: นั่ง Tram สาย 28 ลงที่ Miradouro Santa Luzia
2. Praça do Rossio
Praça do Rossio หรือ Rossio Square จัตุรัสสุดสวยแห่งเมืองลิสบอนซึ่งเป็นสถานที่นัดพบของชาวเมือง ใกล้กับบริเวณจัตุรัสมีร้านอาหารที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเมือง รวมไปถึงบาร์ และสถานที่ช็อปปิ้งด้วยครับ
ตรงกลางของจัตุรัสมีเสาและอนุสาวรีย์ของเปโดรที่ 4 กษัตริย์นักรบและผู้ริเริ่มให้ทั้งโปรตุเกสและบราซิลเริ่มต้นการปกครองแบบรัฐสภาตั้งอยู่ครับ ชาวโปรตุเกสจะมานั่งเล่นและนัดพบกันที่บริเวณนี้แหละครับ
ห่างจากอนุสาวรีย์ไปไม่ไกลนักคือ National Theatre D.Maria II โรงละครเก่าแก่และสวยงามที่มีอายุนานกว่า 150 ปี โรงละครแห่งนี้สร้างขึ้นบนจุดที่เคยเป็นพระราชวังเก่าชื่อ Estaus Palace ที่ถูกทำลายยับเยินจากแผ่นดินไหวครับ
วิธีไปที่ง่ายที่สุด: นั่ง metro สายสีเขียวลงสถานี Rossio
3. Praça do Comércio
Praça do Comércio หรือ Commerce Square เป็นจัตุรัสที่สำคัญที่สุดแห่งเมืองลิสบอน สิ่งก่อสร้างรอบตัวจัตุรัสจะมีสีเหลืองทั้งหมดเลยครับ
ตัวจัตุรัสตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Tagus ในอดีตเรือต่างๆ จะนำสินค้ามาลงที่นี่โดยตรง ทำให้ที่นี่เปรียบเสมือนประตูของลิสบอนก็ได้ครับ
แต่ในปัจจุบันการค้าแบบดั้งเดิมได้ย้ายไปที่อื่นแล้ว ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแทนครับ จัตุรัสแห่งนี้มีประตูโค้งที่สวยงามอย่าง Rua Augusta Arch ที่คุณควรจะเดินขึ้นไปด้านบนสุดของประตู เพื่อที่ชมตัวจัตุรัสจากมุมสูงครับ
จากภาพด้านบน คุณจะเห็นว่าตรงกลางของจัตุรัสมีอนุสาวรีย์อยู่ อนุสาวรีย์ที่ว่าเป็นของกษัตริย์โจเซฟที่ 1 กษัตริย์ผู้ครองราชย์ในช่วงที่ลิสบอนประสบกับภัยธรรมชาติอันเลวร้ายที่สุด นั่นคือแผ่นดินไหวแห่งปี ค.ศ.1755 ครับ
วิธีไปที่ง่ายที่สุด: นั่ง metro สายน้ำเงินลง Terreiro de Paço หรือ Baixa-Chiado หรือสายเขียวลง Baixa-Chiado ก็ได้เช่นกัน
4. Mosteiro dos Jerónimos
Mosteiro dos Jerónimos หรือ Jerónimos Monastery เป็นอารามในศาสนาคริสต์ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆของลิสบอน ดังนั้นถ้ามาลิสบอน คุณไม่ควรพลาดที่นี่เลยครับ
อารามแบ่งออกเป็นสองส่วนครับได้แก่ Church of Santa Maria และ Cloister
Church of Santa Maria สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงการกลับมาของวาสโก ดา กามา (Vasco da Gama) นักสำรวจระดับตำนานชาวโปรตุเกส ในการสร้างใช้สถาปัตยกรรมโกธิกแบบโปรตุเกส (Manueline style) และใช้เวลาถึง 100 ปีด้วยกันถึงจะเสร็จสมบูรณ์ นอกจากนี้ภายในวิหารยังมีสุสานของนักสำรวจผู้นี้ตั้งอยู่ด้วยเช่นกันครับ
มหาวิหารแห่งนี้ยิ่งใหญ่และอลังการทั้งข้างนอกและข้างใน การประดับประดาต่างๆ ทำได้วิจิตรงดงามอย่างมาก ชาวโปรตุเกสถือว่าที่นี่เป็นสัญลักษณ์ของยุคสมัยแห่งการสำรวจ (Age of Discovery) ของโปรตุเกส ซึ่งก็ไม่แปลกอะไรเพราะเงินส่วนใหญ่ที่นำมาใช้สร้างที่นี่ก็มาจากกำไรจากการค้าขายกับอาณานิคมต่างๆ ในช่วงนั้นครับ
อีกส่วนหนึ่งที่น่าสนใจคือ Cloister หรือส่วนต่อขยายของมหาวิหารที่มีสองชั้น ส่วนนี้มีเสาเรียงกันไปหลายสิบต้น และถ้าคุณสังเกตดีๆ คุณจะเห็นว่ามันได้รับการตบแต่งอย่างพิถีพิถันอย่างมากเลยครับ
วิธีไปที่ง่ายที่สุด: นั่ง Tram สาย 15, รถไฟ นั่งสาย Cascáis Line ลงสถานี Belem
ค่าเข้าชม: Church of Santa Maria ฟรี แต่ Cloister เสียเงิน 10 ยูโรครับ
5. Torre de Belém
Torre de Belém หรือ Belém Tower เป็นหอคอยที่สัญลักษณ์ของลิสบอนและโปรตุเกส ตัวหอคอยตั้งอยู่ที่ปากแม่น้ำ Tagus และอยู่ไม่ไกลจาก Jerónimos Monastery นัก
เดิมที Belém Tower สร้างขึ้นเพื่อป้องกันการรุกรานของข้าศึก แต่เมื่อเวลาผ่านไปมันได้กลายเป็นประภาคารและที่ตั้งของกรมศุลกากรแทน เนื่องจากมันสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 16 ทำให้หอคอยแห่งนี้เป็นอีกสัญลักษณ์ของ Age of Discovery ในโปรตุเกส
ตัวหอคอยสร้างขึ้นตามแบบสถาปัตยกรรม Manueline เช่นเดิม ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าทั้งด้านนอกและด้านในจะสวยงามไม่แพ้กัน ด้านในประกอบด้วยหน้าต่างที่มีปืนใหญ่หลายกระบอก หลุมที่ใช้โยนพวกนักโทษลงไปในสมัยก่อน และระเบียงที่สวยงามครับ
คุณสามารถขึ้นไปชมวิวสวยๆที่ด้านบนสุดของหอคอยได้ ถ้าคุณสามารถผ่านปีนบันไดเวียนที่ชันสุดๆ ขึ้นไปไหว แม้ว่าจะชัน แต่นักท่องเที่ยวกลับชอบเดินขึ้นไปบนนั้น เพราะฉะนั้นคุณอาจจะต้องต่อคิวรอขึ้นครับ
ค่าเข้า 6 ยูโร แต่ถ้าซื้อคู่กับ Jerónimos Monastery จะมีส่วนลดครับ
วิธีไปที่ง่ายที่สุด: นั่ง Tram สาย 15 หรือรถไฟ นั่งสาย Cascáis Line ลงสถานี Belem
6. Sé de Lisboa
Sé de Lisboa หรือ Lisbon Cathedral เป็นมหาวิหารในคริสตจักรที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดแห่งเมืองลิสบอน สถาปัตยกรรมของมหาวิหารแห่งนี้เป็นแบบ Romanesque ผสมกับ Gothic ของยุคกลาง ซึ่งตัวมหาวิหารสร้างขึ้นบนมัสยิดเก่าที่ถูกทำลายหลังจากกองทัพชาวคริสต์ตีลิสบอนกลับคืนได้สำเร็จครับ
ปัจจุบันมหาวิหารแห่งนี้มีอายุเกือบหนึ่งพันปีแล้ว และเป็นสิ่งก่อสร้างไม่กี่แห่งที่รอดพ้นแผ่นดินไหวครั้งใหญ่แห่งปี ค.ศ.1755 แต่ก็ได้รับความเสียหายหนักมาก ตัวมหาวิหารที่เราเห็นล้วนแต่เป็นส่วนที่สร้างขึ้นหลังศตวรรษที่ 18 แทบจะทั้งหมดครับ
โครงสร้างของมหาวิหารเหมือนกับ Jerónimos Monastery นั่นคือประกอบด้วยสองส่วนได้แก่ ตัวมหาวิหารหลักและ Cloister แต่ถ้าพูดถึงความสวยแล้ว ทั้งสองส่วนคงจะสู้ที่ Jerónimos Monastery ไม่ได้
อย่างไรก็ดีที่นี่จัดแสดงของมีค่าต่างๆ ในสมัยโบราณจำนวนมากมาย (ที่ Treasury ชั้น 2) เช่นเดียวกับซากของสิ่งก่อสร้างในสมัยโรมัน และอาหรับด้วย ดังนั้นถ้าคุณชอบประวัติศาสตร์ มหาวิหารแห่งนี้เป็นอีกที่หนึ่งที่คุณควรจะมาเยือนครับ
วิธีไป: นั่ง Tram สาย 12 หรือ 28
ค่าเข้า: มหาวิหารฟรี แต่ Cloister และ Treasury รวมกัน 4 ยูโรครับ
7. Lisbon National Archaeology Museum
Lisbon National Archaeology Museum เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ดีที่สุดในยุโรป พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดแสดงโบราณวัตถุมากมายที่ครอบคลุมประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ใครที่ชอบประวัติศาสตร์และศิลปะ ผมแนะนำให้มาเที่ยวที่นี่เป็นอย่างยิ่งเลยครับ
วิธีไปที่ง่ายที่สุด: นั่ง Tram สาย 15
ค่าเข้า: 5 ยูโร แต่ถ้าซื้อคู่กับ Jerónimos Monastery จะได้ส่วนลด
8. Padrão dos Descobrimentos
Padrão dos Descobrimentos หรือ Monument to the Discoveries เป็นอนุสรณ์ระลึกถึง Henry the Navigator รวมไปถึงยุค Age of Discovery อันรุ่งเรืองในโปรตุเกสครับ
ตัวอนุสรณ์แห่งนี้มีลักษณะเป็นหัวเรือโบราณ บนเรือจะมีรูปปั้นของนักสำรวจโปรตุเกสผู้ยิ่งใหญ่ทุกคนอยู่ด้วย รูปปั้นของผู้ที่อยู่หน้าสุดของเรือคือ Henry the Navigator ผู้ค้นพบดินแดน Azores, Cape Verde และ Madeira นั่นเองครับ
คุณสามารถขึ้นไปชมวิวมุมสูงได้โดยการขึ้นลิฟต์ขึ้นไปครับ เมื่อขึ้นไปแล้วจะเห็นวิวของฝั่งตะวันตกของลิสบอนได้โดยรอบ
ค่าเข้า 6 ยูโร
วิธีไปที่ง่ายที่สุด: นั่ง Tram สาย 15
9. Oceanário de Lisboa
Oceanário de Lisboa หรือ Lisbon Aquarium เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งเมืองลิสบอน ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของยุโรป
พิพิธภัณฑ์มีสัตว์น้ำกว่า 450 สปีชีส์และ 15,000 ตัว การจัดแสดงถือว่าทำได้เป็นระเบียบมากกว่าพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทั่วไป กล่าวคือสัตว์น้ำจะถูกจำแนกตามมหาสมุทรที่มันอาศัยอยู่ และสัตว๋ที่อยู่ชั้นบนจะเป็นสัตว์ที่ใช้ชีวิตใกล้กับผิวน้ำ ส่วนชั้นล่างจะเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ใต้ทะเลลึกเป็นต้น
วิธีไป: นั่ง metro สายสีแดง ลงสถานี Oriente
ค่าเข้า: 19 ยูโร
10. Elevador de Santa Justa
Elevador de Santa Justa หรือ Santa Justa Lift เป็นลิฟต์ที่สร้างขึ้นกลางกรุงลิสบอนตั้งแต่ปี ค.ศ.1902 ทำให้ปัจจุบันมันมีอายุมากกว่า 100 ปีแล้ว นับตั้งแต่สร้างมันถูกใช้เป็นทางเชื่อมระหว่างย่าน Baixa และย่าน Bairro Alto
ตัวลิฟต์ดูอลังการเลยทีเดียว เพราะว่ามีความสูงถึง 45 เมตร แม้ว่าจะเก่าแล้ว แต่มันก็ยังใช้การได้ดีอยู่ คุณสามารถขึ้นไปชั้นบนสุดได้เพื่อชมวิวของลิสบอนครับ
อย่างไรก็ดี ถ้าคุณจะใช้ลิฟต์ตัวนี้ต้องเสียเงินนะครับ ไม่ได้ขึ้นฟรี ค่าขึ้นและลงอยู่ที่ 5.15 ยูโร (ใบเดียวใช้ได้ทั้งขึ้นและลง) และถ้าจะขึ้นไปจุดชมวิวต้องเสียเพิ่มอีก 1.5 ยูโร
วิธีไปที่ง่ายที่สุด: นั่ง metro สายน้ำเงินหรือเขียวลงสถานี Baixa-Chiado
11. Igreja de São Roque
Igreja de São Roque หรือ Church of Saint Roch เป็นโบสถ์ในคริสตจักรโรมันคาทอลิกในลิสบอน ตัวโบสถ์เป็นสิ่งก่อสร้างไม่กี่แห่งที่รอดพ้นจากการทำลายล้างของแผ่นดินไหว
ถ้ามองออกจากด้านนอก คุณอาจจะมองว่าโบสถ์แห่งนี้ไม่มีอะไร จนกระทั่งที่คุณได้เข้าไปข้างในเท่านั้นแหละครับ คุณจะเห็นว่าภายในโบสถ์ตบแต่งอย่างหรูหราด้วยอัญมณีและของมีค่ามากมายตามสไตล์บารอค
นอกจากนี้ยังมีภายในโบสถ์ยังมีภาพเขียนในคริสตศาสนาหลายภาพที่งดงามมากด้วย ทำให้บ่อยครั้งที่โบสถ์นี้ได้รับการยกย่องว่ารวบรวมสุดยอดของศิลปะในประเทศโปรตุเกสครับ
วิธีไปที่ง่ายที่สุด: นั่ง metro สายน้ำเงินหรือเขียวลงสถานี Baixa-Chiado
12. Palácio da Ajuda
Palácio da Ajuda หรือ Ajuda Palace เป็นพระราชวังที่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19 แต่ตัวพระราชวังไม่เคยสร้างเสร็จตามแผนการที่วางไว้ เพราะนโปเลียนได้รุกรานโปรตุเกสเสียก่อน กษัตริย์โปรตุเกสและเชื้อพระวงศ์จึงเสด็จหนีไฟสงครามไปยังบราซิล หลังจากสงครามสงบ รัฐบาลโปรตุเกสก็ไม่ได้สร้างพระราชวังแห่งนี้ต่อเพราะปัญหาด้านการเงินและการเมืองครับ
แม้ว่าจะไม่เสร็จสิ้น แต่ด้านในพระราชวังก็สวยงามมาก เพราะตบแต่งด้วยเพชรนิลจินดามากมายที่โปรตุเกสได้มาจากบราซิลในช่วงเวลานั้นครับ
วิธีไปที่ง่ายที่สุด: นั่ง Tram สาย 18
13. พิพิธภัณฑ์อื่นๆ
ลิสบอนเป็นเมืองที่มีพิพิธภัณฑ์มากมาย และแต่ละแห่งล้วนแต่น่าเข้าชมทั้งสิ้น อาทิเช่น
- Museu Calouste Gulbenkian – พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่รวบรวมงานศิลปะมากมายจากทั้งโลกตะวันตกและตะวันออก
- Museu Nacional de Arte Antiga – พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่รวบรวมภาพเขียนสมัยศตวรรษที่ 15-16 ที่วาดโดยจิตรกรชาวโปรตุเกส
- Museu do Oriente – ชาวโปรตุเกสเป็นชาติแรกที่มาถึงเอเชียตะวันออกและอินเดีย และได้ทำการค้าขายกับอาณาจักรต่างๆ รวมไปถึงกรุงศรีอยุธยาด้วย พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จึงจัดแสดงโบราณวัตถุจากเอเชียตะวันออกที่พ่อค้าโปรตุเกสได้มาจากดินแดนเหล่านี้ อย่าแปลกใจถ้าคุณอาจจะเห็นอะไรที่คุ้นเคย
- Museu Nacional do Azulejo – พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมงานศิลปะแบบ azulejos หรือจิตรกรรมกระเบี้องของโปรตุเกสครับ
- Museu Nacional dos Coches – พิพิธภัณฑ์รถม้าที่รวบรวมรถม้ามากมายจะทั่วทุกมุมโลกครับ
14. สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆในลิสบอน
ลิสบอนยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจได้แก่
- Santuário de Cristo Rei อนุสาวรีย์พระเยซูคริสต์
- Vasco da Gama Bridge สะพานที่ยาวที่สุดในยุโรป โดยมีความยาวถึง 17 กิโลเมตร
- 25 de Abril Bridge สะพานแขวนที่ยาวที่สุดในยุโรป
- Marques de Pombal Square จัตุรัสกลางเมืองใหม่ของลิสบอน
ไปลิสบอนเองหรือทัวร์ดี?
เนื่องจากการคมนาคมที่สะดวกสบาย คุณสามารถไปเที่ยวลิสบอนเองได้อย่างสบายๆ ครับ เวลาที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 2-4 วัน แล้วแต่ความรวดเร็วในการเที่ยวของคุณ คุณอาจจะไปเที่ยวเมืองสวยอื่นๆ ในโปรตุเกสในสเปนภายในทริปเดียวด้วยก็ได้ เพราะระยะทางห่างกันไม่ไกลเลยครับ
[sc name=”travelthai” ][/sc]