เอเชียจีนเมืองหางโจว (Hangzhou) มีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง + ประวัติย่อของเมือง

เมืองหางโจว (Hangzhou) มีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง + ประวัติย่อของเมือง

หางโจว หรือ หังโจว (Hangzhou) เป็นเมืองหลวงของมณฑลเจ้อเจียง มณฑลทางตะวันออกของประเทศจีน ตัวเมืองตั้งอยู่ที่อ่าวหางโจว และติดกับคลองต้าอวิ๋นเหอ ด้วยความที่ติดกับแหล่งคมนาคมที่สำคัญทำให้หางโจวเป็นเมืองเศรษฐกิจที่รุ่งเรืองมาอย่างน้อยหนึ่งพันปีแล้ว

อย่างไรก็ดีหางโจวยังมีชื่อเสียงในฐานะเมืองท่องเที่ยวที่มีทิวทัศน์อันสวยงามด้วย ซึ่งในโพสนี้ผมจะแนะนำให้ทุกคนทราบครับว่าสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองมีที่ใดบ้าง แต่ก่อนหน้านั้น เราไปดูประวัติของเมืองกันก่อนจะดีกว่าครับ

หางโจว (Hangzhou) By Freebird, Flickr, CC By SA 2.0

ประวัติย่อเมืองหางโจว

หางโจว (Hangzhou) มีประวัติความเป็นมาย้อนไปได้ถึงสมัยราชวงศ์สุย โดยตัวเมืองได้รับการสร้างเพื่อเป็นศูนย์กลางการปกครองของจังหวัด “หาง” ดังนั้นเมืองนี้จึงได้ชื่อว่าหางโจวไปโดยปริยาย

หลังจากสุยหยางตี้สร้างคลองใหญ่ต้าอวิ๋นเหอ หางโจวจึงเริ่มเจริญรุ่งเรืองขึ้นเพราะเป็นเมืองที่อยู่ปลายทางของคลองดังกล่าวพอดี ในสมัยราชวงศ์ถัง ราชสำนักได้ส่งขุนนางมาปรับปรุงการชลประทานของเมือง ทำให้ปัญหาแล้งของชาวเมืองทุเลาลงไปมาก ชาวบ้านต่างเข้ามาอยู่อาศัยในหางโจวมากขึ้นตามลำดับ ในปลายสมัยถัง หางโจวเป็นหนึ่งในเมืองใหญ่ของอาณาจักรจีนไม่แพ้หนานจิง (นานกิง) เลย

ในช่วงศตวรรษที่ 12 ราชวงศ์ซ่งเสียเมืองไคเฟิงอันเป็นเมืองหลวงให้กับอาณาจักรจินในเหตุการณ์ทุกขภัยแห่งจิ้งคัง เชื้อพระวงศ์ซ่งและเหล่าขุนนางจึงหนีศึกลงใต้มาตั้งเมืองหลวงชั่วคราวอยู่ที่หางโจว เดิมทีราชวงศ์ซ่งคิดว่าจะตั้งอยู่ที่หางโจวชั่วคราวเท่านั้น แต่เมื่อไม่สามารถขับไล่กองทัพจินออกจากภาคเหนือได้ ราชสำนักซ่งจึงตั้งอยู่ที่หางโจวจนสิ้นราชวงศ์

การที่เมืองหลวงของอาณาจักรตั้งอยู่ที่หางโจว ทำให้หางโจวรุ่งเรืองถึงขีดสุดทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า ศิลปกรรม และวัฒนธรรม ในยุคมองโกล มาร์โค โปโล และนักท่องเที่ยวอาหรับได้เดินทางมาที่นี่ และขนานนามว่าหางโจวเป็นเมืองใหญ่ที่สุดที่เขาเคยเห็นบนโลกนี้

ในสมัยราชวงศ์หมิง ชิง ตลอดจนถึงปัจจุบัน หางโจวยังคงเป็นเมืองท่าที่สำคัญของจีน ทำให้หางโจวเป็นเมืองที่เจริญที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไปโดยปริยาย และยังเป็นสถานที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัท Alibaba อีกด้วย

ถัดไปเราไปดูกันดีกว่าครับว่า หางโจวมีสถานที่เที่ยวที่ใดบ้าง

1. West Lake

West Lake หรือ ซีหู เป็นทะเลสาบที่เป็นมรดกโลก และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากของเมืองหางโจว ตัวทะเลสาบมีภูเขาล้อมรอบทั้งสามด้านและมีความสวยงามโดดเด่น ในอดีตกวี ศิลปิน และนักประพันธ์จีนในอดีตล้วนแต่เคยได้รับแรงบันดาลใจจากความงดงามของทะเลสาบแห่งนี้มาแล้ว

West Lake หรือทะเลสาบซีหู

ทะเลสาบแห่งนี้มีจุดสวยงามที่คุณควรไปชมอยู่หลายแห่ง ได้แก่

  • Su Causeway: ถนนที่ตัดผ่านทะเลสาบทำให้สองข้างของถนนเป็นทะเลสาบ ตัวถนนประกอบด้วยสะพาน 6 แห่ง ซึ่งเป็นจุดชมวิวทะเลสาบแห่งนี้ที่ดีที่สุดครับ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้จะบานสะพรั่งทำให้บริเวณนี้สวยมากๆ ครับ
  • Lotus Pool: ส่วนของทะเลสาบที่มีดอกบัวมากมาย
  • Flower Pond: ส่วนของทะเลสาบที่มีปลาคาร์ฟอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
  • Leifang Pagoda: เจดีย์เก่าแก่ที่สร้างขึ้นครั้งแรกในสมัยศตวรรษที่ 10 เจดีย์จะสะท้อนลงมาในทะเลสาบด้วยครับ
  • North Peak/South Peak: ภูเขาสองลูกทางตอนเหนือและใต้ของทะเลสาบ ถ้าคุณขึ้นไปแล้วจะสามารถชมวิวมุมสูงของทะเลสาบได้ครับ
  • Broken Bridge: อีกหนึ่งจุดชมวิวในทะเลสาบที่เป็นที่นิยมมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวครับ

ทะเลสาบซีหูจะมีแสดงโชว์ด้วยครับ โชว์จะมีสองรูปแบบด้วยกัน นั่นคือโชว์น้ำพุกับโชว์การแสดงพื้นบ้าน โชว์น้ำพุสามารถดูได้ฟรีที่หน้าโรงแรม Hyatt แต่โชว์การแสดงพื้นบ้านจะต้องเสียเงินค่าตั๋วในราคา 360 หยวนครับ

วิธีการเดินทางมาทะเลสาบซีหู (West Lake) ที่ง่ายที่สุด: นั่ง metro สาย 1 ลง Longxiangqiao และเดินไปอีกไม่ไกลก็จะเห็นทะเลสาบแล้วครับ

2. Tomb of General Yue Fei

Tomb of General Yue Fei หรือสุสานของแม่ทัพเย่ว์เฟย ตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาบซีหู ตัวสุสานสร้างขึ้นเพื่ออุทิศความซื่อสัตย์และจงรักภักดีของแม่ทัพเย่ว์เฟย วีรบุรุษชาวจีนผู้หาญกล้าต่อสู้กับศัตรูต่างชาติ แต่สุดท้ายเขากลับสิ้นชีวิตเพราะถูกพวกขุนนางกังฉินใส่ความ

ภายในศาลเย่ว์เฟย By Siyuwj , CC BY-SA 4.0,

ภายในสุสานมีศาลที่มีรูปปั้นขนาดใหญ่ของแม่ทัพเย่ว์เฟยตั้งอยู่ ตลอดจนตัวอักษรจีน 4 ตัวที่เย่ว์เฟยเป็นผู้เขียนขึ้นด้วยตนเอง (มีความหมายว่าตีชิงดินแดนกลับคืนและรวมแผ่นดินให้เป็นหนึ่ง) นอกจากนี้ยังมีรูปวาดเหตุการณ์สำคัญในชีวิตของเขาด้วย ส่วนหลุมฝังศพของเขาเป็นแบบจีนทั่วไป และตั้งอยู่ตรงกลางของสุสานเลยครับ

อย่างไรก็ดีไฮไลท์ของสุสานแห่งนี้คือ รูปปั้นของฉินหุ้ย ขุนนางกังฉินที่ใส่ความเย่ว์เฟยและภรรยา รูปปั้นเหล่านี้ถูกปั้นในลักษณะคุกเข่าเหมือนกับนักโทษที่ก้มหน้ายอมรับความผิด ซึ่งชาวจีนทุกยุคทุกสมัยต่างมาระบายอารมณ์กับรูปปั้นเหล่านี้ ทำให้รูปปั้นเสียหายไปหลายครั้งแล้วครับ

วิธีเดินทางไป Tomb of Yue Fei: นั่งรถบัสสาย 7,27,51,52,118 และลงที่ Yuemiao ค่าเข้าชมอยู่ที่ 25 เหรียญครับ

รูปปั้นของฉินหุ้ย ขุนนางกังฉินที่ใส่ความเย่วืเฟยและภรรยา By Morio, CC BY-SA 4.0,

3. Lingyin Temple

Lingyin Temple หรือวัดหลิงหยิ่น (灵隐寺) เป็นวัดพุทธที่มีความสำคัญมากที่สุดแห่งหนึ่งในหางโจวและประเทศจีน ตัววัดมีประวัติย้อนไปได้ถึงช่วงราชวงศ์จิ้นตะวันออก ซึ่งในช่วงนั้นหางโจวยังไม่ได้เป็นเมืองด้วยซ้ำไป

Lingyin Temple By Maachi, Flickr, CC By SA 2.0

ตัววัดได้รับการขยายเพิ่มเติมจนเป็นวัดขนาดยักษ์ในสมัยศตวรรษที่ 10 จนมีอาคารหลายสิบหลังที่มีห้องรวมกันถึง 1,300 ห้อง แต่เพราะสงคราม การต่อสู้ และภัยพิบัติต่างๆ ได้ทำให้อาคารส่วนใหญ่ถูกทำลายไปหมดแล้ว เหลือแต่เพียงตัวโบสถ์หลักเท่านั้น

Feilai Fang, Lingyin Temple, by Sumple-commonswiki CC By SA 3.0

ปัจจุบันวัดแห่งนี้จึงเหลือแต่เพียงเศษเสี้ยวของอดีตอันยิ่งใหญ่ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าวัดแห่งนี้จะไม่น่าสนใจ เพราะอาณาบริเวณวัดมีพระพุทธรูปและรูปปั้นองค์พระโพธิสัตว์ที่เก่าแก่และสวยงามที่ถูกแกะสลักเข้าไปในช่องเขาหลายร้อยองค์ รวมไปถึงเจดีย์โบราณอีกหลายหลังด้วยครับ ซึ่งเราปฏิเสธไม่ได้ว่าสวยงามมากเลยทีเดียว

วิธีไป Lingyin Temple:

  • นั่งรถบัสสาย 7,324,807,j1,y2 ลงสถานี Lingyin
  • นั่งรถบัส 103b, 103, 121b, 121, 324 ลงสถานี Lingyin Dong (Lingyin ตะวันออก)

ค่าเข้า: 75 เหรียญ (รวมทั้งวัดและพระพุทธรูปแกะสลักในหิน)

4. Grand Canal

Grand Canal หรือต้าอวิ๋นเหอเป็นคลองใหญ่ยาว 1,764 กิโลเมตรที่สร้างขึ้นโดยมนุษย์ทั้งหมด ตัวคลองเชื่อมต่อพื้นที่ต่างๆของประเทศจีนตั้งแต่หางโจวไปจนถึงปักกิ่งครับ ในอดีตมันถูกใช้ในการขนส่งเสบียงอาหารเสียเป็นส่วนใหญ่ เพราะภาคใต้ของจีนอุดมสมบูรณ์กว่าภาคเหนือนั่นเอง

ที่หางโจว คุณสามารถล่องเรือสไตล์จีนโบราณเพื่อชมคลองแห่งนี้ได้ สองข้างทางจะมีอาคารเก่าๆ สไตล์จีนโบราณตั้งอยู่ครับ

วิธีไปที่ง่ายที่สุด:

  • นั่ง metro สาย 1 ลงสถานี Wulin Square และออกทางออก B
  • นั่ง metro สาย 5 ลงสถานี Grand Canal และเดินไปอีก 700 เมตร

5. Liuhe Pagoda

Liuhe Pagoda หรือลิ่วเหอถ่า (六和塔) เป็นเจดีย์แปดเหลี่ยมโบราณที่สร้างขึ้นตามสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ของจีน ตัวเจดีย์สร้างขึ้นในปี ค.ศ.970 แต่ถูกทำลายในปี ค.ศ.1121 เลยมีการสร้างใหม่ในปี ค.ศ.1165 ซึ่งเจดีย์ที่เราเห็นในปัจจุบันคือ เจดีย์ใหม่นี้เองครับ

Liuhe Pagoda, by Morio, CC By SA 4.0

ทรงเจดีย์เป็นแบบแปดเหลี่ยมซึ่งสวยงามมาก และดูยิ่งใหญ่อลังการ ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะความสูงเกือบ 60 เมตรของตัวเจดีย์ด้วยที่ทำให้เห็นเหมือนกับหอคอยที่คุ้มกันเมือง

คุณสามารถขึ้นไปชั้นบนสุดของเจดีย์เพื่อชมความงามของเมืองหางโจว และแม่น้ำเฉียนถังได้แบบ 360 องศาเลยครับ

วิธีไปที่ง่ายที่สุด: นั่งบัสสาย 4, 287, 318, 334, 354 ลงสถานี Liuhe Pagoda (六和塔) ค่าเข้าอยู่ที่ 20 หยวนครับ

6. Qinghefang Ancient Street

Qinghefang Ancient Street เป็นถนนโบราณในหางโจว และเป็นส่วนสำคัญของเมืองเก่าหางโจว ทำให้ที่นี่อุดมไปด้วยวัฒนธรรมดั้งเดิมของตัวเมืองที่ยาวนานกว่าหนึ่งพันปีครับ

Qinghefang Ancient Street by Ana Paula Hirama, Flickr, CC By SA 2.0

ถนนแห่งนี้เป็นถนนคนเดินมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ในปัจจุบันร้านค้ามากมายที่หลงเหลืออยู่ก็มีอายุอย่างน้อย 100 ปีแล้ว และยังประกอบกิจการแบบเดิมไม่มีผิดเพี้ยน นอกจากนี้ถนนแห่งนี้ยังมีร้านอาหารที่มีชื่อเสียงอีกหลายร้านด้วยกัน

ดังนั้นคุณไม่ควรพลาดที่จะมาลองชิมอาหาร หรือซื้อของที่ระลึกแบบจีนโบราณกลับไปครับ

วิธีไปที่ง่ายที่สุด: นั่ง metro สาย 1 ลงสถานี Ding’an Road และออกทางออก C

7. National Silk Museum

National Silk Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ผ้าไหมแห่งชาติของจีน ทั้งนี้อารยธรรมจีนเป็นอารยธรรมแห่งแรกที่ทำเสื้อแต่งกายจากผ้าไหม ซึ่งผ้าไหมของจีนงดงามและสวมใส่สบายมากมาตั้งแต่โบราณแล้ว และเป็นสินค้าออกอันดับ 1 ที่แม้แต่ชาวโรมันยังชื่นชอบผ้าไหมเหล่านี้เลยครับ

เครื่องทอผ้าไหมแบบโบราณของจีน By Sam, Flickr, CC By SA 2.0

ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ คุณสามารถเข้าไปดูกรรมวิธีการทำผ้าไหม และโบราณวัตถุเกี่ยวกับผ้าไหมตลอดทุกยุคทุกสมัยของจีนได้ครับ หนึ่งในสิ่งของจัดแสดงที่น่าสนใจมากๆ คือเสื้อแต่งกายของฮ่องเต้และเชื้อพระวงศ์จีนที่ทำมาจากผ้าไหมครับ

ถ้าคุณรู้สึกประทับใจ คุณสามารถซื้อผลิตภัณฑ์จากผ้าไหมกลับไปได้ด้วย ผมเองก็เคยซื้อผ้าห่มผ้าไหมกลับไปจากที่นี่ ผมพบว่ามันดีมากๆ ครับ คุณภาพผ้านี่นุ่มและดีกว่าผ้าห่มทั่วไปอย่างชัดเจน พอห่มแล้วรู้สึกสบายจริงๆ ครับ ถ้ามีโอกาส ผมยังอยากกลับไปซื้ออีกสักชิ้นเลยครับ

แต่! ถ้าซื้อร้านที่ไม่ใช่ร้านของรัฐบาล ระวังเจอผ้าไหมปลอมนะครับ!

วิธีไปที่ง่ายที่สุด: นั่งรถบัสสาย 12, 31, 42, 87, 133 ลงสถานี Silk Museum

ส่งท้าย

  • หางโจวเป็นเมืองที่เที่ยวไม่ยากและปลอดภัย ซึ่งจริงๆแล้วคุณไม่จำเป็นต้องไปกับทัวร์ก็ได้ครับ
  • สำหรับใครที่จะไปเที่ยวหางโจวเอง ผมแนะนำว่าให้ไปคู่กับเซี่ยงไฮ้ ซูโจว หนานจิง รวมไปถึงเกาะผู่โถวซานด้วย คุณสามารถใช้รถไฟความเร็วสูงเดินทางไปมาระหว่างเมืองเหล่านี้ได้อย่างสบายๆ ครับ ยกเว้นผู่โถวซานที่จะยากหน่อย เพราะต้องนั่งเรือข้ามฟากนั่นเอง
[sc name=”travelthai” ][/sc]

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!