เอเชียจีน"ซีอาน" (Xi'an) เมืองหลวงเก่าแก่ของจีนมีสถานที่ไหนให้เที่ยวบ้าง?

“ซีอาน” (Xi’an) เมืองหลวงเก่าแก่ของจีนมีสถานที่ไหนให้เที่ยวบ้าง?

ซีอาน (Xi’an) เป็นเมืองเอกของมณฑลส่านซีในประเทศจีนในปัจจุบัน ผมเชื่อว่าคนไทยหลายคนน่าจะเคยได้ยินชื่อเมืองนี้มาบ้าง เพราะเมืองนี้คือเมือง “เตียงฮัน” ที่อยู่ในนิยายสามก๊กนั่นเองครับ

แต่ถ้าใครจะไม่รู้จักก็ไม่เป็นไร เพราะผมจะอธิบายคร่าวๆ ให้ทราบ และจะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเป็นลำดับต่อไปครับ

แนะนำซีอาน (Xi’an)

ซีอาน (Xi’an) เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานอย่างน้อยสามพันปีขึ้นไป และเคยเป็นเมืองหลวงของจีนมาหลายยุคหลายสมัย โดยเฉพาะในสมัยราชวงศ์ฮั่นและถัง ซึ่งเป็นช่วงที่จีนรุ่งโรจน์ถึงขีดสุด

โบราณวัตถุอายุสามพันปีที่พบในซีอาน By Danielinblue , CC BY-SA 3.0,

ในอดีตเมืองแห่งนี้ไม่ได้มีชื่อว่าซีอาน และไม่ได้เป็นเมืองเดียวๆ โดดๆ อีกต่างหาก ในสมัยราชวงศ์โจวตะวันตกได้ตั้งเมืองหลวงขึ้นที่เมืองเฟิงและเมืองเฮ่าซึ่งเป็นเมืองคู่ ปัจจุบันพื้นที่ของทั้งสองเมืองเป็นส่วนหนึ่งของเมืองซีอานในปัจจุบันครับ

หลังจากราชวงศ์โจวตะวันตกล่มสลาย ดินแดนแห่งนี้ตกอยู่ในการครอบครองของแคว้นฉิน หลังจากที่ซางยางปฏิรูปแคว้นฉินให้เข้มแข็ง เมืองหลวงของแคว้นฉินถูกย้ายมาตั้งอยู่ที่นี่ และมีนามว่า “เสียนหยาง

เมืองเสียนหยางมีชัยภูมิที่ดีมาก เพราะมีหุบเขาเป็นปราการถึงสามด้าน และเข้าออกได้ทางเดียว การรุกรานของข้าศึกจึงทำได้ยากลำบาก นอกจากนี้พื้นที่โดยรอบยังอุดมสมบูรณ์อีกด้วย แคว้นฉินจึงอาศัยความได้เปรียบดังกล่าวพิชิตแคว้นอื่นๆ และรวมแผ่นดินจีนเป็นหนึ่งได้สำเร็จในสมัยของฉินสื่อหวงตี้ (จิ๋นซีฮ่องเต้)

แผนผังเมืองซีอานในแต่ละยุคสมัย By SY – Own work, CC BY-SA 4.0,

อย่างไรก็ดีในช่วงปี 206 BC เซี่ยงอวี่ แม่ทัพฉู่ได้ทำลายเมืองเสียนหยางยับเยินจนกลายเป็นเถ้าถ่าน หลิวปังผู้มีชัยเหนือเซี่ยงอวี่และสถาปนาราชวงศ์ฮั่นในเวลาต่อมาจึงต้องสร้างเมืองหลวงใหม่ขึ้นใกล้กับเมืองเสียนหยางเดิม แต่ตั้งอยู่คนละฝั่งของแม่น้ำเว่ย เมืองหลวงใหม่แห่งนี้มีนามว่า “ฉางอาน”

สมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันตกเป็นช่วงที่ฉางอานรุ่งเรืองมาก เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหม พ่อค้าจำนวนมากหลั่งไหลมายังฉางอานเพื่อซื้อขายสินค้า พระราชวังเว่ยหยาง พระราชวังหลวงที่ตั้งอยู่ในฉางอานนั้นใหญ่เป็น 6.7 เท่าของพระราชวังต้องห้ามในกรุงปักกิ่ง! น่าเสียดายอย่างยิ่งที่ตัวพระราชวังไม่หลงเหลือมาจนถึงปัจจุบัน

ฉางอานตกอยู่ในความวุ่นวายยาวนานถึงเกือบสามร้อยปีหลังจากการล่มสลายของราชวงศ์ฮั่น จนกระทั่งราชวงศ์สุยรวมแผ่นดินได้สำเร็จในปี ค.ศ.582 และได้สร้างเมืองต้าซิ่งขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองฉางอานเก่า ต้าซิ่งได้เป็นเมืองหลวงของราชวงศ์สุยจนสิ้นราชวงศ์

ราชวงศ์ถังได้ครอบครองต้าซิ่งสืบต่อมา และเปลี่ยนชื่อต้าซิ่งเป็นฉางอานตามเมืองเก่าในสมัยราชวงศ์ฮั่น สมัยถังเป็นช่วงที่ฉางอานกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งหนึ่ง เราอาจจะพูดได้เต็มปากว่าฉางอานเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุด มั่งคั่งที่สุด และอลังการที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้

ฉางอานในสมัยราชวงศ์ถัง

แต่แล้วภัยพิบัติก็หวนกลับมาอีกครั้งหนึ่ง กบฏอันลู่ซานและกบฏปลายราชวงศ์ถังได้ทำให้ตัวเมืองและรายรอบพื้นที่ทางการเกษตรรายรอบพังพินาศ นับตั้งแต่บัดนั้นฉางอานจึงเสื่อมถอยและไม่ได้เป็นเมืองหลวงของจีนอีกเลย นอกจากนี้การเปิดเส้นทางค้าขายทางทะเล ทำให้เส้นทางสายไหมไม่จำเป็นอีกต่อไป ฉางอานที่เคยยิ่งใหญ่จึงกลายสภาพมาเป็นเมืองลำดับรองนับตั้งแต่บัดนั้น

ในสมัยราชวงศ์หมิง “ฉางอาน” ได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นซีอาน และชื่อดังกล่าวถูกใช้มาจนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าซีอานจะไม่ได้เป็นเมืองหลวงอีกแล้ว แต่ในปัจจุบันซีอานเป็นเมืองที่สำคัญที่สุดในภาคกลางและภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เพราะมีประชากรถึง 13 ล้านคน และเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม อุตสาหกรรม เศรษฐกิจ และการศึกษาของภูมิภาคดังกล่าวอีกด้วย

ถัดไปเราไปดูกันดีกว่าครับ ซีอานมีสถานที่ท่องเที่ยวใดที่น่าสนใจบ้าง

1. Mausoleum of the First Qin Emperor

Mausoleum of the First Qin Emperor (ฉินสื่อหวงหลิง) คือสุสานของฉินสื่อหวงตี้ (จิ๋นซีฮ่องเต้) นั่นเองครับ ที่นี่มีสิ่งที่หลายคนรู้จักกันดีนั่นคือ กองทัพทหารดินเผา (Terracotta Army) นั่นเอง

กองทัพทหารดินเผา Image by Welcome to all and thank you for your visit ! ツ from Pixabay

กองทัพทหารดินเผาเหล่านี้มีรูปปั้นทหารที่รูปร่างและขนาดที่เหมือนกับคนจริงๆ ถ้าคุณสังเกตดีๆ คุณจะพบว่าหน้าของแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย เช่นเดียวกับหน้าที่ของทหารแต่ละนาย บางคนจะมีม้าหรือรถศึกอยู่เคียงข้างที่แสดงให้เห็นเราว่าเป็นทหารม้าหรือทหารรถศึกครับ

จริงๆ แล้วเครื่องแต่งกายของทหารเหล่านี้มีสีด้วยนะครับ แต่สีจางหายไปหมดเพื่อรูปปั้นเหล่านี้สัมผัสกับอากาศภายนอก

จากภาพนี้จะเห็นชัดเจนว่ารูปปั้นทหารแต่ละตัวมีหน้าตาที่ไม่เหมือนกัน Image by Andy Wallace from Pixabay

ในปัจจุบันยังไม่มีใครทราบว่าภายในสุสานมีอะไรบ้าง เพราะรัฐบาลจีนยังไม่อนุญาตให้นักโบราณคดีขุดค้นครับ

แต่หลักฐานประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่าตัวสุสานยังสร้างไม่เสร็จเพราะเกิดกบฏขึ้นเสียก่อน แต่ยังเล่าต่อไปอีกว่าด้านในมีพระราชวังใต้ดินขนาดใหญ่ และยังมีทะเลปรอทบริสุทธิ์และกับดักที่คอยดักโจรปล้นสุสานอีกด้วย (ทะเลปรอทมีการยืนยันแล้วว่าน่าจะมีจริง เพราะบริเวณโดยรอบมีการสะสมของสารปรอทที่สูงกว่าปกติหลายเท่า)

ใกล้กับบริเวณสุสานมีพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงโบราณวัตถุที่ถูกค้นพบในบริเวณโดยรอบ ไม่ว่าจะเป็นอาวุธ รถม้า ข้าวของต่างๆ ที่มีอายุมากกว่าสองพันปี ซึ่งคุณสามารถเข้าไปชมได้ครับ

วิธีไปที่ง่ายที่สุด: แท็กซี่/นั่งรถบัสหมายเลข 307 จาก Tangchengqiang Jiuqu Bus Hub/ นั่ง metro สาย 1 ลง Fangzhicheng และนั่งรถบัสนักท่องเที่ยวหมายเลข 5

ค่าเข้า: 120 หยวน

จากประสบการณ์ที่ผมได้เคยไปมาแล้ว ถ้าคุณมีไกด์นำเที่ยวที่สามารถเล่าประวัติศาสตร์ได้จะดีกว่ามากๆ ถ้าเป็นไปได้ผมแนะนำให้จองทัวร์ 1 วันผ่าน Klook ครับ

2. City Wall

City Wall หรือกำแพงเมืองซีอานเป็นกำแพงเมืองที่สมบูรณ์ที่สุดในประเทศจีนที่หลงเหลือรอดมาจนถึงปัจจุบัน ตัวกำแพงเป็นกำแพงสมัยหมิง และมีความยาวถึง 13.7 กิโลเมตรล้อมรอบเมืองเก่าของซีอานไว้ทั้งหมดเลยครับ บนกำแพงจะมีป้อมรักษาการณ์ทุก 120 เมตร ทำให้ทั้งหมดแล้วมีป้อมมากถึง 98 ป้อมด้วยกัน

City Wall Image by 子墨 黄 from Pixabay

ทั้งนี้จุดที่สวยงามและเหมาะต่อการเที่ยวชมคือ บริเวณประตูเมืองเก่าซีอานซึ่งยิ่งใหญ่ สมบูรณ์ และอลังการมากๆ ครับ คุณจะไปชมประตูไหนก็ได้ไม่ว่าจะเป็นเหนือ ใต้ ตะวันออก หรือตะวันตก

ด้านบนใหญ่และโล่งพอจะขี่จักรยาน Image by HYUNGNAM PARK from Pixabay

ด้วยความกว้าง 12-14 เมตรบนกำแพง ทำให้มีที่โล่งมากพอสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะวิ่งรอบกำแพง หรือปั่นจักรยานครับ

วิธีไปที่ง่ายที่สุด: นั่ง metro สาย 2 ลง Yongningmen (ประตูทิศใต้) หรือ Anyuanmen (ประตูทิศเหนือ)

ค่าเข้า: 54 หยวน

3. Giant Wild Goose Pagoda

Giant Wild Goose Pagoda หรือเจดีย์ต้าเยี่ยน (แปลว่าห่านป่าใหญ่) เป็นเจดีย์ในศาสนาพุทธที่มีอายุเก่าแก่ถึงเกือบ 1,400 ปี และตั้งอยู่ในวัดต้าซือเอิน ซึ่งเป็นวัดที่ถังไท่จงฮ่องเต้สร้างขึ้นให้กับจ่างซุนหวงโฮ่ว พระมเหสีที่ทรงรักยิ่ง

Giant Wild Goose Pagoda By Alex Kwok , CC BY-SA 3.0,

ตัวเจดีย์ถูกสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ถังเพื่อเก็บรักษาพระคัมภีร์ที่พระสวนจาง (พระถังซำจั๋ง) ได้นำมาจากมหาวิทยาลัยนาลันทาในประเทศอินเดียครับ บริเวณกำแพงด้านในของเจดีย์มีภาพแกะสลักพระพุทธเจ้าผลงานของเหยียนลี่เปิ่น จิตรกรระดับตำนานในสมัยราชวงศ์ถังที่งดงามยิ่ง

ในอดีตเจดีย์ต้าเยี่ยนมีสิบชั้นด้วยกัน แต่แผ่นดินไหวขนาดยักษ์ได้ทำให้สามชั้นบนสุดถล่มลงมา การบูรณะในยุคหลังจึงทำให้มันอยู่ในสภาพดังที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบันครับ

วิธีไปที่ง่ายที่สุด: นั่ง Metro สาย 3 ลง Dayanta Station

ค่าเข้า: 40 หยวนเพื่อเข้าวัดต้าซือเอิน และอีก 25 หยวนเพื่อเข้าชมตัวเจดีย์

4. Bell Tower/Drum Tower

Bell Tower (จงโหลว) และ Drum Tower (กู่โหลว) เป็นหอระฆังและหอกลองซึ่งตั้งอยู่ใกล้กันบริเวณศูนย์กลางของเมืองซีอาน (จุดบรรจบของถนนทั้งสี่ทิศ) หอคอยทั้งสองแห่งถูกสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง แต่ตัวระฆังในหอกลองเก่าแก่กว่าเพราะมีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถังโน่นเลย

ปัจจุบันทั้งสองหอคอยเป็นหนึ่งในหอระฆังและหอกลองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีนครับ และน่าจะอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดด้วย

Bell Tower By Matthew D. Jalovick , CC BY-SA 4.0,

จุดประสงค์ของการสร้างก็เพื่อใช้บอกเวลาในแต่ละวัน แต่เมื่อเทคโนโลยีที่ทันสมัยใหม่เข้ามา ทั้งสองจึงได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และชมวิวรายรอบของเมืองแทนครับ

Drum Tower By Wang Zhongyin , CC BY-SA 4.0,

วิธีไปที่ง่ายที่สุด: นั่ง metro สาย 2 ลง Bell Tower Station

ค่าเข้า: แห่งละ 30 หยวน ถ้าซื้อสองแห่งจะได้ราคาพิเศษที่ 50 หยวน

5. Tang Paradise

Tang Paradise หรือต้าถังฝูหรงหยวน เป็นสวนสาธารณะขนาดยักษ์ซึ่งสิ่งก่อสร้างภายในสร้างขึ้นโดยศิลปะราชวงศ์ถังทั้งหมด สถาปนิกพยายามสร้างทุกอย่างให้เป็นแบบเดิมมากที่สุดครับ

Tang Paradise By Xiquinhosilva, Flickr, CC By 2.0

นอกจากการเดินชมสิ่งก่อสร้างมากมายที่ตั้งอยู่รายรอบทะเลสาบแล้ว ดนตรี บทกวี อาหาร และชีวิตความเป็นอยู่ซึ่งคุณจะได้เห็นภายในก็เป็นแบบสมัยราชวงศ์ถัง ซึ่งเป็นยุคแห่งความรุ่งโรจน์ของจีนโบราณ สิ่งก่อสร้างบางแห่งของที่นี่สร้างขึ้นเพื่อแสดงถึงวัฒนธรรมเหล่านี้โดยเฉพาะเลยทีเดียว

แต่สิ่งที่ผมมองว่าโดดเด่นที่สุดเหมือนจะเป็นกลิ่น เพราะทันทีที่คุณเดินเข้าไป คุณจะได้กลิ่นเครื่องหอมออกมาจากตะเกียงจำนวนมากที่อยู่รายรอบครับ

ถ้าคุณมาถึง Tang Paradise แล้ว อย่าพลาดดูโชว์จำนวนมากที่จัดแสดงที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นระบำแบบจีนโบราณ หรือว่าแสงสีเสียงที่บริเวณทะเลสาบครับ

วิธีไปที่ง่ายที่สุด: นั่ง Metro 4 ลงสถานี Datang Furongyuan

ค่าเข้า: 120 หยวน (ไม่รวมการแสดงบางอย่างที่ต้องจ่ายเพิ่ม)

6. Shaanxi History Museum

หัวใจของซีอานคือประวัติศาสตร์ ดังนั้นการมาเยือนพิพิธภัณฑ์จึงเป็นสิ่งที่พลาดไม่ได้ ซึ่งพิพิธภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเมืองก็คือ Shaanxi History Museum หรือพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งมณฑลส่านซีครับ

Shaanxi History Museum By jesse , CC BY-SA 4.0,

ภายในพิพิธภัณฑ์รวบรวมโบราณวัตถุจำนวนมากมายมหาศาล ซึ่งมาจากยุคก่อนประวัติศาสตร์อันไกลโพ้นมาจนถึงยุคราชวงศ์ชิง ไฮไลท์สำคัญของที่นี่คือ สิงโตใหญ่ที่มาจากสุสานหลวงแห่งราชวงศ์ถัง และภาพเขียนสีสมัยถังที่วิจิตรงดงามอีกมากมายครับ หลายสิ่งเป็นประจักษ์พยานของความยิ่งใหญ่ในสมัยโบราณของซีอานได้เป็นอย่างดี

วิธีไปที่ง่ายที่สุด: นั่ง Metro สาย 2 หรือ 3 ลงสถานี Xiaozhai Station และออก Exit D ครับ

ค่าเข้าชม: พิพิธภัณฑ์จะแจกฟรีตั๋วเข้าชม 6,000 ใบทุกวัน แต่ห้องพิเศษอย่าง Exhibition Hall of Mural Paintings of Tang Dynasty ที่เป็นเหมือนไฮไลท์ของพิพิธภัณฑ์จะถูกเก็บค่าเข้าชมสูงถึง 300 หยวนครับ (เพื่อรักษาคุณภาพของภาพ)

7. Huaqing Pool

Huaqing Pool (หัวชิงฉือ) หรือสระน้ำหัวชิง เป็นสระน้ำร้อนที่เหล่าเชื้อพระวงศ์หรือพระสนมระดับสูงจะเดินทางมาพักผ่อนและอาบน้ำร้อนเป็นเวลานานนับพันปี อย่างไรก็ดีผู้ที่มีชื่อเสียงที่สุดและเป็นสัญลักษณ์คู่กับที่นี่คือ หยางกุ้ยเฟย หนึ่งในสี่สุดยอดสาวงามของจีน และเป็นนงคราญที่มีส่วนทำให้เกิดกบฏอันลู่ซานที่ทำให้ราชวงศ์ถังเกือบจะล่มจมครับ

Huaqing Pool By Sam Haldane, Flickr, CC By SA 2.0

รายรอบสระมีพระราชวังเก่าแก่โอบล้อมอยู่โดยรอบ เมื่อคุณเดินเข้ามาคุณจะเห็นรูปปั้นเปลือยของหยางกุ้ยเฟยสีขาวสะอาดตั้งอยู่ ห่างออกไปไม่ไกลจะมีบ่อน้ำในร่มที่เหล่าเชื้อพระวงศ์ถังเคยมาอาบน้ำเมื่อ 1,400 ปีก่อนครับ

ในช่วงเย็นๆ ที่สระแห่งนี้จะมีการแสดงอลังการที่เล่าเรื่องราวความรักของถังเสวียนจง ฮ่องเต้แห่งราชวงศ์ถัง และหยางกุ้ยเฟย ถ้าสนใจอย่าลืมจองล่วงหน้าครับ

วิธีไปที่ง่ายที่สุด: นั่งรถบัสท่องเที่ยวหมายเลข 5/914/915 จาก Xi’an Railway Station ไปยัง Huaqingchi Station การเดินทางจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เพราะสระน้ำหัวชิงอยู่นอกเมืองซีอานครับ

ค่าเข้า: 120 หยวน

สถานที่อื่นๆ ในหรือนอกเมืองซีอาน (Xi’an)

ในเมืองซีอานยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง อาทิเช่น

  • Beilin Museum/Stele Forest – พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงแท่งหินและรูปปั้นหินโบราณของจีน
  • Great Mosque/Muslim Quarter – หนึ่งในมัสยิดแห่งแรกในประเทศจีน และชุมชนชาวมุสลิมที่อยู่ที่นี่มาตั้งแต่สมัยโบราณ
  • Small Wild Goose Pagoda/Jianfu Temple – เจดีย์ห่านป่าเล็กที่เก่าแก่พอๆ กับเจดีย์ห่านป่าใหญ่
  • Daxingshan Temple – วัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์จิ้น
  • Banpo Museum – พิพิธภัณฑ์ยุคก่อนประวัติศาสตร์
  • Daxing Palace – ร่องรอยพระราชวังหลวงขนาดยักษ์ในสมัยราชวงศ์ถัง
Qianling Mausoleum By 国家公园网(GJGY.com), CC BY-SA 2.5,

นอกเมืองซีอานมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะถ้าคุณชอบประวัติศาสตร์ แต่ทุกแห่งจะใช้เวลาเดินทางออกจากเมือง 1 ชั่วโมงขึ้นไปครับ

  • Qianling Mausoleum – สุสานของถังเกาจงและบูเช็คเทียน จักรพรรดินีหญิงองค์เดียวของจีน ด้านหน้าของสุสานมีแท่งหินอันว่างเปล่าตั้งอยู่ ซึ่งมีความหมายว่าจะดีชั่วขอให้คนรุ่นหลังตัดสินใจเองครับ
  • Yangling/Maoling Mausoleum – สุสานจักรพรรดิราชวงศ์ฮั่นที่มีรูปร่างเหมือนกับพีระมิด
  • Zhaoling Mausoleum – สุสานของถังไท่จงฮ่องเต้ มหาราชแห่งราชวงศ์ถัง
  • Mount Huashan – ยอดเขาที่สวยงามแห่งเทือกเขาฉินหลิ่ง ซึ่งมีเส้นทางปีนเขาที่อันตรายที่สุดในโลก คนชอบท้านรกเลยชอบมาเที่ยวกัน แต่สำหรับใครที่ไม่ชอบเรื่องพวกนี้ คุณสามารถขึ้นสู่ยอดเขาได้โดยไม่ต้องใช้เส้นทางท้านรกแต่อย่างใดครับ

เที่ยวซีอาน (Xi’an) อย่างไรดี

ซีอานเป็นเมืองที่คุณสามารถเที่ยวได้อย่างปลอดภัยไร้กังวล เพราะเป็นเมืองใหญ่ที่ปลอดภัย และการสัญจรไปมาก็สะดวกสบายครับ ทุกวันนี้มีสายการบินที่บินจากกรุงเทพไปซีอานหลายสายการบินด้วยกันอาทิเช่น

  • Thai AirAsia
  • Spring Airlines
  • Thai LionAir

ทั้งสามสายการบินให้บริการเที่ยวบินตรง ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงจากกรุงเทพ คุณก็ถึงซีอานแล้วครับ แต่ผมอยากจะแนะนำเพิ่มเติมอีกหน่อยว่า คุณควรจะไปเที่ยวลั่วหยาง อีกหนึ่งเมืองหลวงเก่าของจีนในทริปเดียวกับที่ไปซีอานครับ เพราะไม่ได้ห่างไกลจากกันเท่าไรนัก และมีสถานที่สวยๆ หลายแห่งครับ

[sc name=”travelthai” ][/sc]

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!