Tamil Nadu หรือ ทมิฬนาฑู เป็นรัฐที่ตั้งอยู่ใต้สุดของประเทศอินเดีย และยังไม่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวไทยเทียบเท่ากับเมืองอื่นๆ ทางตอนเหนือของอินเดียอย่างเช่น เดลี ชัยปุระ หรือแม้กระทั่งแคชเมียร์
สำหรับผมแล้ว ผมมองว่าทมิฬนาฑูเป็นรัฐที่เหมาะกับคำว่า “Unseen India” มากที่สุด เพราะว่ารัฐแห่งนี้มีโบราณสถาน ปูชนียสถาน ตลอดจนสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงามมากมาย ถ้าคุณไปเที่ยวที่นี่ คุณจะพบกับความหลากหลายที่ทำให้คุณไม่เบื่อหน่ายเลยครับ
ในโพสนี้ ผมจะอธิบายข้อมูลที่ควรทราบของรัฐทมิฬนาฑูโดยคร่าวๆก่อน หลังจากนั้นจะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเป็นลำดับต่อไปครับ
รู้จักทมิฬนาฑู (Tamil Nadu)
ทมิฬนาฑู (Tamil Nadu) เป็นหนึ่งใน 28 รัฐของอินเดีย และเป็นรัฐที่ตั้งอยู่ใต้สุดของประเทศคู่กับรัฐเครละ (Kerala) เมืองหลวงในปัจจุบันของรัฐทมิฬนาฑูตั้งอยู่ที่เมืองเชนไน (Chennai) หรือชื่อเดิมในสมัยก่อนคือ มัทราส (Madras) นั่นเอง
กลุ่มเชื้อชาติที่อาศัยอยู่ในรัฐแห่งนี้มากที่สุดแน่นอนว่าคือชาวทมิฬ พวกเขาเป็นหนึ่งในกลุ่มชาติพันธุ์ดราวิเดียน ภาษาที่พวกเขาใช้สื่อสารคือ ภาษาทมิฬ หนึ่งในภาษาเก่าแก่ที่สุดในโลกที่หลงเหลือมาถึงปัจจุบัน
ในอดีตดินแดนบริเวณนี้เคยเป็นอู่อารยธรรมที่สำคัญมาตั้งแต่ครั้งโบราณ อาณาจักรที่เริ่มเรืองอำนาจเป็นแห่งแรกคือ อาณาจักรปาลวะ (Pallava) ที่ปกครองตอนใต้ของอินเดียในช่วงศตวรรษที่ 2-9
ปาลวะร่ำรวยมากจากการค้าขายกับดินแดนต่างๆ ตั้งแต่อาณาจักรศรีวิชัยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือแม้กระทั่งจักรวรรดิโรมัน ทำให้กษัตริย์ปาลวะใช้ความมั่งคั่งดังกล่าวสร้างวัดวาอารามขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ในช่วงนี้จึงอาจจะเรียกได้ว่าเป็นยุคทองของสถาปัตยกรรมทมิฬเลยก็ได้
ในช่วงศตวรรษที่ 9 อาณาจักรที่เรืองอำนาจต่อมาคือ จักรวรรดิโจฬะ (Chola Empire) โจฬะได้ค้าขายกับประเทศต่างๆ ยิ่งไปกว่าสมัยปาลวะเสียอีก การค้าขายเหล่านี้มีส่วนสำคัญยิ่งที่ทำให้ศาสนาฮินดูและพุทธเผยแพร่เข้าสู่ดินแดนสุวรรณภูมิ (ประเทศไทยในปัจจุบัน)
กษัตริย์โจฬะเองก็ให้ความสำคัญกับการสร้างศาสนสถาน และบูรณะวัดเก่าๆ ในสมัยปาลวะ ทำให้อินเดียตอนใต้เต็มไปด้วยศาสนสถานที่สวยงามเป็นจำนวนมากอย่างยากที่จะหาดินแดนใดมาเปรียบได้
ทมิฬนาฑูเผชิญหน้ากับการรุกรานอย่างหนักหน่วงของกองทัพมุสลิมจากทางตอนเหนือในช่วงศตวรรษที่ 14-17 แม้ชาวฮินดูจะต่อต้านอย่างแข็งขัน แต่สุดท้ายดินแดนส่วนใหญ่ของทมิฬนาฑูก็ตกอยู่ในการปกครองของจักรวรรดิโมกุลที่มีผู้ปกครองเป็นชาวมุสลิม และตามมาด้วยอังกฤษในเวลาต่อมา
เมื่ออินเดียได้รับเอกราชในปี ค.ศ.1947 มัทราส (Madras) ได้กลายเป็นเมืองหลวงของรัฐมัทราส ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็นทมิฬนาฑูในปี ค.ศ.1969 และต่อมาในปี ค.ศ.1996 รัฐบาลอินเดียก็ได้ยกเลิกชื่อมัทราส และเปลี่ยนชื่อเป็น “เชนไน” (Chennai) จนกระทั่งถึงทุกวันนี้
นอกจากประวัติศาสตร์ที่โดดเด่นแล้ว ทมิฬนาฑูยังเป็นดินแดนที่มีวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม ศิลปกรรมที่เป็นของตนเอง ถ้าคุณมาเที่ยวทมิฬนาฑู คุณจะได้สัมผัสที่บรรยากาศที่ต่างออกไปจากอินเดียเหนืออย่างเดลีและชัยปุระอย่างชัดเจนเลยครับ
เราไปดูกันเลยดีกว่าทมิฬนาฑูมีที่ไหนน่าไปเที่ยวบ้าง
1. Chennai
Chennai (เชนไน) เป็นประตูสู่ทุกสถานที่ทุกแห่งในทมิฬนาฑู เพราะที่นี่เป็นเมืองหลวงของรัฐ และที่ตั้งของสนามบินนานาชาติ ถ้าคุณจะมาเที่ยวทมิฬนาฑู คุณจะต้องมาเยือนเชนไนอย่างแน่นอนครับ
อย่างไรก็ดี เชนไนไม่ได้มีสถานที่ท่องเที่ยวเหมือนกับเมืองอื่นๆในรัฐ แต่ก็มีสถานที่ที่น่าสนใจหลายแห่งด้วยกัน อาทิเช่น
- Marina Beach – หาดติดเมืองใหญ่ที่ยาวเป็นอันดับสองของโลก
- Fort St.George – ที่ตั้งของศูนย์กลางการปกครองตั้งแต่สมัยอาณานิคม
- Kapaleeswarar Temple – วัดเก่าแก่อายุ 1,300 ปีที่ยังคงรูปลักษณ์เหมือนเดิมในอดีต
- Santhome Cathedral Basilica – โบสถ์เก่าแก่ 500 ปีที่สร้างขึ้นโดยชาวโปรตุเกส
- Madras Crocodile Bank Trust – แหล่งอนุรักษ์จระเข้ขนาดยักษ์กว่า 2,400 ตัว
นอกจากนี้เชนไนยังมีตลาด ย่านการค้า และร้านสตรีทฟู้ดที่ขายอาหารอินเดียอร่อยๆ อีกเป็นจำนวนมากให้คุณได้ซื้อหามารับประทานด้วยครับ
2. Mahabalipuram
Mahabalipuram หรือ Mamallapuram เป็นเมืองที่อยู่ห่างจากเชนไนไม่ไกลนัก เมืองแห่งนี้เป็นเมืองชายทะเลครับ แต่ความน่าสนใจหลักของเมืองไม่ได้อยู่ที่ชายทะเล แต่อยู่ที่ศาสนสถานฮินดูที่เป็นมรดกโลกหลายแห่งด้วยกัน
สถานที่แห่งแรกที่น่าสนใจคือ Shore Temple วัดแห่งนี้มีอายุมากกว่า 1,300 ปี และเป็นหนึ่งในวัดที่ทำมาจากหินที่เก่าแก่ที่สุดในอินเดียตอนใต้ครับ ภายในวัดเองก็มีรูปปั้นและรูปแกะสลักเทพเจ้าที่เก่าแก่และวิจิตรเป็นจำนวนมาก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความประณีตตามศิลปะปาลวะได้เป็นอย่างดี
สำหรับใครที่แฟนพันธุ์แท้มหาภารตะ เมืองแห่งนี้ยังมีอนุสรณ์หินขนาดใหญ่ 5 แห่งที่เรียกรวมกันว่า “Pancha Rathas” ซึ่งอุทิศให้กับพี่น้องปาณฑพทั้งห้าด้วยครับ เหล่าอนุสรณ์แห่งนี้เก่าแก่มากถึง 1,400 ปี และยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มากๆ ครับ
นอกจากสถานที่เหล่านี้แล้ว ภายในเมือง Mahabalipuram ยังมีสถานที่อื่นๆ ที่น่าไปเยือนอีกหลายแห่งเช่น
- วัดถ้ำเก่าแก่สามแห่ง (Varaha Cave Temple, Mahishasuramardini Mandapa, Panchapandava Cave Temple) โดยวัดถ้ำแห่งสุดท้ายเก่าแก่ที่สุด และเป็นวัดที่อุทิศให้กับพี่น้องปาณฑพทั้งห้าครับ
- ประติมากรรมจากหินที่สวยงามและวิจิตรมากๆที่เรียกว่า Descent of the Ganges และ Krishna Mandapam
3. Kanchipuram
Kanchipuram หรือคัญจีปุรัม เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในฐานะ “เมืองแห่งวัดหนึ่งพันวัด” ที่นี่เคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรปาลวะที่ยิ่งใหญ่และร่ำรวยมาก่อน แม้ว่าวัดในอดีตจะถูกทำลายไปเยอะมาก แต่ภายใน Kanchipuram ยังเหลือวัดมากกว่า 100 วัด แต่ละแห่งมีความสวยงามที่แตกต่างกันไป เพราะสร้างในคนละสมัยกันนั่นเองครับ
เมือง Kanchipuram เป็นเมืองที่ชาวอินเดียหลายล้านคนนิยมเดินทางมาแสวงบุญทุกปี ช่วงเทศกาลสำคัญๆ ของเมืองจะคลาคล่ำไปด้วยผู้คนทั้งเมืองเลยครับ
หนึ่งในวัดที่สำคัญและน่าสนใจที่สุดคือ Kailasanathar Temple วัดแห่งนี้เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองที่หลงเหลือมาถึงปัจจุบัน มันถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 7 และอุทิศกับพระศิวะครับ
อีกวัดที่ยิ่งใหญ่และอลังการไม่แพ้กันคือ Kanchi Kamakshi Temple หรือ Kamakshi Amman Temple หนึ่งในวัดฮินดูที่ยิ่งใหญ่และมีผู้เคารพนับถือมากที่สุดในอินเดีย ตัววัดอุทิศให้กับพระนาง Kamakshi ปางสูงสุดของพระนาง Parvati ครับ วัดแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นยอดแห่งสถาปัตยกรรมดราวิเดียน ซึ่งมีความงามล้ำเลิศครับ
นอกเหนือจากสองวัดนี้แล้ว ที่นี่ยังมีวัดอีกที่โดดเด่นและสวยงามอีกหลายสิบแห่ง ซึ่งมากเกินกว่าจะระบุลงไปได้หมดในที่นี้ ผมจึงขอยกตัวอย่างมาเพียงบางส่วนเท่านั้น วัดอื่นๆ ที่น่าสนใจได้แก่
- Varadharaja Perumal Temple
- Devarajaswami Temple
- Vaikunda Perumal Temple
- Ekambaranatha Temple
4. Madurai
Madurai เป็นเมืองในรัฐทมิฬนาฑูที่เก่าแก่มาก เมืองแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมทมิฬและดราวิเดียนมาตั้งแต่บรรพกาล ในปัจจุบันที่นี่เป็นที่ตั้งของวัด Meenakshi Temple วัดที่อาจจะกล่าวได้ว่ายิ่งใหญ่ อลังการ และสวยงามที่สุดในอินเดียตอนใต้เลยก็ว่าได้ ตวามประณีตของสถาปัตยกรรม ศิลปกรรม จิตรกรรมภายในวัดถือว่าอยู่ในระดับสูงสุดทั้งหมดเลยครับ
นอกจากวัดแห่งนี้แล้ว Madurai ยังมีสถานที่เที่ยวอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น
- Thirupparankundram Murugan Temple
- Koodal Azhagar Temple
- Samanar Hills (ถ้ำในภูเขาขนาดใหญ่ที่มีรูปแกะสลักอันสวยงามของศาสนาเชนมากมาย)
5. Ooty
หลังจากเที่ยววัดกันมาได้พักใหญ่ ผมเชื่อว่าคงจะมีเบื่อกันบ้าง Ooty เป็นสถานที่ที่จะช่วยให้คุณพักผ่อนร่างกายอันเหนื่อยล้า ในสมัยอาณานิคม ที่นี่เป็นสถานที่พักผ่อนของข้าหลวงและข้าราชการอังกฤษผู้ปกครองเมืองมัทราส
ที่นี่มีสวนหย่อมที่ร่มรื่น ทะเลสาบที่สวยงามอย่าง Ooty Lake และภูเขา Dodabetta Peak ที่คุณสามารถชมความสวยงามของบ้านเรือนของชาวบ้านที่ตั้งอยู่บนสันเขาเป็นทอดๆ ครับ
6. Thanjavur
Thanjavur เป็นเมืองในรัฐทมิฬนาฑูที่มีวัดและโบราณสถานที่สร้างขึ้นในสมัยโจฬะเป็นจำนวนมาก เรียกได้ว่าตั้งอยู่รายรอบเมืองก็ว่าได้ครับ ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรเพราะในอดีตเมืองแห่งนี้เป็นศูนย์กลางโลกศิลปะในภาคใต้ของอินเดียครับ
วัดที่ได้รับการเคารพนับถือมากที่สุดคือ Brihadisvara Temple วัดพระศิวะขนาดยักษ์ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1010 หรือสมัยโจฬะนั่นเอง ด้วยความใหญ่โตทำให้วัดได้ชื่อเล่นว่า “Big Temple” ไปด้วย
วัดแห่งนี้เต็มไปด้วยรูปแกะสลัก ภาพเขียนสี รูปปั้นที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์มากๆ สาเหตุที่อยู่คงทนเช่นนี้ เพราะตัววัดแห่งนี้ทำมาจากหินแกรนิตครับ
สำหรับที่ใครอยากดูวัดโจฬะอีก ลองไปที่วัด Gangaikonda Cholapuram Temple และ Airavatesvara Temple ที่อยู่ไม่ไกลจากเมือง Thanjavur ดูครับ รับรองว่ายิ่งใหญ่สวยงามไม่แพ้กัน
แต่ใครที่เบื่อวัดแล้ว ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปที่ Thanjavur Maratha Palace วังเก่าแก่ที่เคยเป็นที่ประทับของเชื้อพระวงศ์ Bhosale ของ Shivaji วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่แห่งอินเดียครับ ถ้ามองจากด้านนอก วังค่อนข้างทรุดโทรมไปตามกาลเวลา แต่ด้านในยังหลงเหลือความวิจิตรอยู่ครับ
7. Tiruchirappalli
Tiruchirappalli หรือ Trichy (แปลว่าเมืองแห่งสวรรค์) เป็นหนึ่งในเมืองสำคัญในรัฐทมิฬนาฑู ดังนั้นไม่ต้องสงสัยว่าที่นี่จะมีวัดอันงามตาอีกหลายแห่ง (อีกแล้ว) แต่อย่าเพิ่งเบื่อเพราะวัดของ Trichy มีเสน่ห์เฉพาะตัวไม่เหมือนกับวัดอื่นๆ เลยครับ
จุดแรกที่น่าไปคือ Rock Fort Temple Complex ที่นี่มีวัด 3 แห่ง ที่ตั้งอยู่บนหินขนาดยักษ์ที่มีอายุ 3.8 พันล้านปี ทำให้คุณต้องปีนป่ายบันไดขึ้นไป 400 ขึ้นเพื่อที่จะเข้าถึงตัววัดโดยไม่ใส่รองเท้า แต่เชื่อหรือไม่ครับ ปีนขึ้นไปแล้วคุ้ม เพราะวิวของเมือง Trichy จากด้านบนนั้นสวยจริงๆ
วัดแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศกับพระพิฆเนศครับ และเป็นวัดพระพิฆเนศที่ได้รับการนับถือมากที่สุดแห่งหนึ่งด้วย ถ้าใครนับถือพระพิฆเนศควรจะมาเยือนสักครั้งครับ
อีกวัดหนึ่งที่พลาดไม่ได้คือ Ranganathaswamy Temple วัดพระวิษณุที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกและยังใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอยู่ (ถ้านับวัดร้างด้วย นครวัดน่าจะเป็นอันดับ 1) ที่นี่เป็นวัดที่ครบเครื่องทั้งเรื่องความยิ่งใหญ่ วิจิตร อลังการงานสร้าง ถ้าคุณมาถึง Trichy แล้วคุณไม่ควรพลาดจริงๆ ครับ
นอกเหนือจากวัดแล้ว Trichy ยังมีโบสถ์คริสต์ที่สวยงามด้วยเช่นกัน โบสถ์ดังกล่าวคือโบสถ์ Our Lady of Lourdes โบสถ์ที่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19 โดยได้แรงบันดาลใจมาจากโบสถ์ทรง Neo-Gothic ในฝรั่งเศสครับ
8. Pondicherry
Pondicherry เป็นอดีตอาณานิคมของฝรั่งเศส ทำให้บางส่วนของเมืองยังมีกลิ่นอายของฝรั่งเศสหลงเหลืออยู่ สถาปัตยกรรม โครงสร้าง ตลอดจนถนนเส้นต่างๆ ของเมืองยังเป็นแบบยุโรปเหมือน 200 ปีก่อน
นอกจากนี้ Pondicherry ยังเป็นจุดดำน้ำยอดนิยมของอินเดียอีกด้วย เพราะปะการังและสัตว์ทะเลบริเวณนี้อุดมสมบูรณ์มากครับ
9. Hogenakkal Falls
Hogenakkal Falls เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ในรัฐทมิฬนาฑู น้ำตกนี้ถือว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของอินเดีย เพราะความงดงามและปริมาณน้ำที่มาก ทำให้บ่อยครั้งมันถูกขนานนามว่าเป็นน้ำตกไนแอการาแห่งอินเดียครับ
สิ่งที่ต่างจากน้ำตกไนแอการาคือ น้ำตกแห่งนี้มีจุดให้ลงเล่นน้ำและพายเรือได้โดยไม่อันตรายครับ
10. Rameshwaram
Rameshwaram เป็นเกาะกลางทะเลที่ทุกปีจะมีผู้แสวงบุญเดินทางมาที่นี่นับล้านคน แต่ละคนปรารถนาที่จะอาบน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลที่ทะเลใกล้กับวัด Ramanathaswamy Temple หนึ่งในวัดพระศิวะที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่เคารพนับถือมากที่สุดในอินเดีย
ความสวยงามของวัดแห่งนี้บอกได้เลยว่าไม่ธรรมดา โดยเฉพาะบริเวณทางเดินภายในวัดที่มีเสามากมายนับพันเสา จุดนี้เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปเป็นอย่างยิ่งเลยครับ
Rameshwaram ยังเป็นจุดดำน้ำที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของอินเดีย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมทางน้ำอีกมากมายให้คุณได้เล่นเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศด้วยครับ
11. Kodaikanal
Kodaikanal เป็นสถานที่พักตากอากาศยอดนิยมของรัฐทมิฬนาฑู เพราะว่าตั้งอยู่บนภูเขา ทำให้อากาศเย็นกว่าที่พื้นราบ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีทะเลหมอกปกคลุมบ่อยครั้ง ทำให้บรรยากาศเอี้อต่อการพักผ่อนสุดๆ ไปเลยครับ
คุณสามารถเดินเทรคกิ้ง พายเรือ ขี่ม้า ฯลฯ เพื่อชมความสวยงามของขุนเขาแห่งนี้ได้ครับ
12. Kanyakumari
Kanyakumari เป็นติ่งที่อยู่ใต้สุดของอินเดีย และเป็นจุดที่ทะเลสองฝั่งของอนุทวีปอินเดียเข้ามาบรรจบกัน ที่นี่มีวัด Bhagavathy Amman Temple วัดอายุ 3,000 ปีที่เป็นสถานที่แสวงบุญของผู้นับถือพระแม่ Parvati ดังนั้นเหล่าผู้ศรัทธานับล้านจึงแห่กันมาที่นี่ครับ
ออกจากชายฝั่งไปคือ Vivekananda Rock Memorial หรืออนุสรณ์ระลึกถึงนักบวชฮินดูชื่อ Swami Vivekananda ซึ่งชาวฮินดูเชื่อว่าได้บรรลุโมกษะบนเกาะเล็กๆ นอกชายฝั่ง เกาะนี้นักท่องเที่ยวและศาสนิกสามารถไปเยือนได้ครับ
เกาะข้างๆ กับอนุสรณ์มีอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ของกวีชาวทมิฬนามว่า Thiruvalluvar ตัวอนุสาวรีย์เป็นสัญลักษณ์แสดงถึง “ความมั่งคั่ง” และ “ความสุข” อย่างไรก็ดีคุณสามารถถ่ายรูปได้จากระยะไกลได้เท่านั้น ไม่สามารถเข้าไปที่ตัวเกาะได้ครับ
13. Chidambaram
Chidambaram เป็นอดีตเมืองหลวงของจักรวรรดิโจฬะ เมืองแห่งนี้มีประวัติเก่าแก่มากถึงสองพันปี ในปัจจุบันเมืองแห่งนี้ได้กลายเป็นเมืองที่มีความสำคัญอย่างยิ่งทางศาสนา เพราะมี Nataraja Temple วัดพระศิวะที่มีอายุพันกว่าปีตั้งอยู่ครับ
สิ่งที่ต่างไปจากวัดอื่นคือ วัดพระศิวะแห่งนี้จะบูชาสักการะพระศิวะปางเต้นรำ ซึ่งแสดงถึงความเกี่ยวเนื่องระหว่างศิลปะกับจิตวิญญาณตามความเชื่อฮินดูครับ
นอกจากนี้บริเวณกำแพงของวัดมีรูปจารึกกระบวนท่าทั้ง 108 แบบที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์ Natya Shastra อยู่อย่างครบถ้วน ทำให้เราไม่อาจปฏิเสธเลยว่าวัดแห่งนี้เป็นมรดกอันล้ำค่าทางศิลปะของอินเดียครับ
14. สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ
- Tiruvannamalai และ Mount Arunachala – เมืองและขุนเขาที่เชื่อกันว่าเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ เพราะสามารถทำให้จิตใจของคุณสงบนิ่งได้
- Mudumalai National Park – อุทยานแห่งชาติที่มีสัตว์มากมายไม่ว่าจะเป็นช้าง เสือ กวาง ลิง ฯลฯ
- Adiyogi Shiva Statue – อนุสาวรีย์ใบหน้าและช่วงอกขนาดยักษ์ของพระศิวะ
ข้อควรทราบ
- รัฐทมิฬนาฑูมีสถานที่ท่องเที่ยวจำนวนมาก และแต่ละสถานที่อยู่ห่างไกลกันมาก (Chennai และ Kanyakumari อยู่ห่างกันถึง 707 กิโลเมตร) ทำให้คุณไม่น่าไปสถานที่ในรายชื่อครบทั้งหมดในทริปเดียวได้แน่ๆ นอกจากคุณจะไป 14-15 วันขึ้นไปครับ
- ผมมองว่าไฮไลท์ของรัฐทมิฬนาฑูคือวัดและโบราณสถานที่สุดจะอลังการ ถ้าคุณไม่ชอบเที่ยววัด การไปเที่ยวที่อื่นน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าครับ
- ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวทมิฬนาฑูคือช่วงเดือนตุลาคมถึงมีนาคมครับ อากาศจะไม่ร้อนเกินไป แต่ก็ต้องแลกด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่มากมายเหมือนกัน
ไปเที่ยวรัฐทมิฬนาฑู (Tamil Nadu) อย่างไร
คุณสามารถเดินทางไปเที่ยวทมิฬนาฑูเองได้ด้วยการบินไปลงเมืองเชนไน (Chennai) สายการบินที่ให้บริการมีหลากหลายอาทิเช่น
- IndiGo, Thai AirAsia (Low Cost)
- Thai Airways (Full Service)
อย่างไรก็ดี ถ้าคุณเบื่อหน่ายที่จะหาข้อมูล และวางแผนการท่องเที่ยว การเลือกใช้ทัวร์อินเดียที่มีคุณภาพก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ แต่ก่อนที่คุณจะจองทัวร์สัญชาติอินเดียใดๆ ก็ทำเหมือนกับจองทัวร์ไทย นั่นคือตรวจสอบรีวิวจาก Tripadvisor ก่อนที่จะจองครับ
[sc name=”travelthai” ][/sc]