ท่องเที่ยวTamil Nadu (ทมิฬนาฑู) รัฐใต้สุดของอินเดียที่ไหนน่าไปเที่ยวบ้าง?

Tamil Nadu (ทมิฬนาฑู) รัฐใต้สุดของอินเดียที่ไหนน่าไปเที่ยวบ้าง?

Tamil Nadu หรือ ทมิฬนาฑู เป็นรัฐที่ตั้งอยู่ใต้สุดของประเทศอินเดีย และยังไม่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวไทยเทียบเท่ากับเมืองอื่นๆ ทางตอนเหนือของอินเดียอย่างเช่น เดลี ชัยปุระ หรือแม้กระทั่งแคชเมียร์

สำหรับผมแล้ว ผมมองว่าทมิฬนาฑูเป็นรัฐที่เหมาะกับคำว่า “Unseen India” มากที่สุด เพราะว่ารัฐแห่งนี้มีโบราณสถาน ปูชนียสถาน ตลอดจนสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงามมากมาย ถ้าคุณไปเที่ยวที่นี่ คุณจะพบกับความหลากหลายที่ทำให้คุณไม่เบื่อหน่ายเลยครับ

ในโพสนี้ ผมจะอธิบายข้อมูลที่ควรทราบของรัฐทมิฬนาฑูโดยคร่าวๆก่อน หลังจากนั้นจะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเป็นลำดับต่อไปครับ

Brihadishvara Temple, Tamil Nadu Image by lapping from Pixabay

รู้จักทมิฬนาฑู (Tamil Nadu)

ทมิฬนาฑู (Tamil Nadu) เป็นหนึ่งใน 28 รัฐของอินเดีย และเป็นรัฐที่ตั้งอยู่ใต้สุดของประเทศคู่กับรัฐเครละ (Kerala) เมืองหลวงในปัจจุบันของรัฐทมิฬนาฑูตั้งอยู่ที่เมืองเชนไน (Chennai) หรือชื่อเดิมในสมัยก่อนคือ มัทราส (Madras) นั่นเอง

กลุ่มเชื้อชาติที่อาศัยอยู่ในรัฐแห่งนี้มากที่สุดแน่นอนว่าคือชาวทมิฬ พวกเขาเป็นหนึ่งในกลุ่มชาติพันธุ์ดราวิเดียน ภาษาที่พวกเขาใช้สื่อสารคือ ภาษาทมิฬ หนึ่งในภาษาเก่าแก่ที่สุดในโลกที่หลงเหลือมาถึงปัจจุบัน

ในอดีตดินแดนบริเวณนี้เคยเป็นอู่อารยธรรมที่สำคัญมาตั้งแต่ครั้งโบราณ อาณาจักรที่เริ่มเรืองอำนาจเป็นแห่งแรกคือ อาณาจักรปาลวะ (Pallava) ที่ปกครองตอนใต้ของอินเดียในช่วงศตวรรษที่ 2-9

Thirumalai Nayakkar Mahal, Madurai By Suresh

ปาลวะร่ำรวยมากจากการค้าขายกับดินแดนต่างๆ ตั้งแต่อาณาจักรศรีวิชัยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือแม้กระทั่งจักรวรรดิโรมัน ทำให้กษัตริย์ปาลวะใช้ความมั่งคั่งดังกล่าวสร้างวัดวาอารามขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ในช่วงนี้จึงอาจจะเรียกได้ว่าเป็นยุคทองของสถาปัตยกรรมทมิฬเลยก็ได้

ในช่วงศตวรรษที่ 9 อาณาจักรที่เรืองอำนาจต่อมาคือ จักรวรรดิโจฬะ (Chola Empire) โจฬะได้ค้าขายกับประเทศต่างๆ ยิ่งไปกว่าสมัยปาลวะเสียอีก การค้าขายเหล่านี้มีส่วนสำคัญยิ่งที่ทำให้ศาสนาฮินดูและพุทธเผยแพร่เข้าสู่ดินแดนสุวรรณภูมิ (ประเทศไทยในปัจจุบัน)

กษัตริย์โจฬะเองก็ให้ความสำคัญกับการสร้างศาสนสถาน และบูรณะวัดเก่าๆ ในสมัยปาลวะ ทำให้อินเดียตอนใต้เต็มไปด้วยศาสนสถานที่สวยงามเป็นจำนวนมากอย่างยากที่จะหาดินแดนใดมาเปรียบได้

ทมิฬนาฑูเผชิญหน้ากับการรุกรานอย่างหนักหน่วงของกองทัพมุสลิมจากทางตอนเหนือในช่วงศตวรรษที่ 14-17 แม้ชาวฮินดูจะต่อต้านอย่างแข็งขัน แต่สุดท้ายดินแดนส่วนใหญ่ของทมิฬนาฑูก็ตกอยู่ในการปกครองของจักรวรรดิโมกุลที่มีผู้ปกครองเป็นชาวมุสลิม และตามมาด้วยอังกฤษในเวลาต่อมา

เมื่ออินเดียได้รับเอกราชในปี ค.ศ.1947 มัทราส (Madras) ได้กลายเป็นเมืองหลวงของรัฐมัทราส ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็นทมิฬนาฑูในปี ค.ศ.1969 และต่อมาในปี ค.ศ.1996 รัฐบาลอินเดียก็ได้ยกเลิกชื่อมัทราส และเปลี่ยนชื่อเป็น “เชนไน” (Chennai) จนกระทั่งถึงทุกวันนี้

นอกจากประวัติศาสตร์ที่โดดเด่นแล้ว ทมิฬนาฑูยังเป็นดินแดนที่มีวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม ศิลปกรรมที่เป็นของตนเอง ถ้าคุณมาเที่ยวทมิฬนาฑู คุณจะได้สัมผัสที่บรรยากาศที่ต่างออกไปจากอินเดียเหนืออย่างเดลีและชัยปุระอย่างชัดเจนเลยครับ

เราไปดูกันเลยดีกว่าทมิฬนาฑูมีที่ไหนน่าไปเที่ยวบ้าง

1. Chennai

Chennai (เชนไน) เป็นประตูสู่ทุกสถานที่ทุกแห่งในทมิฬนาฑู เพราะที่นี่เป็นเมืองหลวงของรัฐ และที่ตั้งของสนามบินนานาชาติ ถ้าคุณจะมาเที่ยวทมิฬนาฑู คุณจะต้องมาเยือนเชนไนอย่างแน่นอนครับ

Marina Beach, Chennai, By KARTY JazZ, CC BY-SA 4.0,

อย่างไรก็ดี เชนไนไม่ได้มีสถานที่ท่องเที่ยวเหมือนกับเมืองอื่นๆในรัฐ แต่ก็มีสถานที่ที่น่าสนใจหลายแห่งด้วยกัน อาทิเช่น

  • Marina Beach – หาดติดเมืองใหญ่ที่ยาวเป็นอันดับสองของโลก
  • Fort St.George – ที่ตั้งของศูนย์กลางการปกครองตั้งแต่สมัยอาณานิคม
  • Kapaleeswarar Temple – วัดเก่าแก่อายุ 1,300 ปีที่ยังคงรูปลักษณ์เหมือนเดิมในอดีต
  • Santhome Cathedral Basilica – โบสถ์เก่าแก่ 500 ปีที่สร้างขึ้นโดยชาวโปรตุเกส
  • Madras Crocodile Bank Trust – แหล่งอนุรักษ์จระเข้ขนาดยักษ์กว่า 2,400 ตัว

นอกจากนี้เชนไนยังมีตลาด ย่านการค้า และร้านสตรีทฟู้ดที่ขายอาหารอินเดียอร่อยๆ อีกเป็นจำนวนมากให้คุณได้ซื้อหามารับประทานด้วยครับ

2. Mahabalipuram

Mahabalipuram หรือ Mamallapuram เป็นเมืองที่อยู่ห่างจากเชนไนไม่ไกลนัก เมืองแห่งนี้เป็นเมืองชายทะเลครับ แต่ความน่าสนใจหลักของเมืองไม่ได้อยู่ที่ชายทะเล แต่อยู่ที่ศาสนสถานฮินดูที่เป็นมรดกโลกหลายแห่งด้วยกัน

สถานที่แห่งแรกที่น่าสนใจคือ Shore Temple วัดแห่งนี้มีอายุมากกว่า 1,300 ปี และเป็นหนึ่งในวัดที่ทำมาจากหินที่เก่าแก่ที่สุดในอินเดียตอนใต้ครับ ภายในวัดเองก็มีรูปปั้นและรูปแกะสลักเทพเจ้าที่เก่าแก่และวิจิตรเป็นจำนวนมาก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความประณีตตามศิลปะปาลวะได้เป็นอย่างดี

Shore Temple, Mahabalipuram , Tamil Nadu By Balasubramanian S , CC BY-SA 3.0,

สำหรับใครที่แฟนพันธุ์แท้มหาภารตะ เมืองแห่งนี้ยังมีอนุสรณ์หินขนาดใหญ่ 5 แห่งที่เรียกรวมกันว่า “Pancha Rathas” ซึ่งอุทิศให้กับพี่น้องปาณฑพทั้งห้าด้วยครับ เหล่าอนุสรณ์แห่งนี้เก่าแก่มากถึง 1,400 ปี และยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มากๆ ครับ

Pancha Rathas By Arupparia CC BY-SA 4.0,

นอกจากสถานที่เหล่านี้แล้ว ภายในเมือง Mahabalipuram ยังมีสถานที่อื่นๆ ที่น่าไปเยือนอีกหลายแห่งเช่น

  • วัดถ้ำเก่าแก่สามแห่ง (Varaha Cave Temple, Mahishasuramardini Mandapa, Panchapandava Cave Temple) โดยวัดถ้ำแห่งสุดท้ายเก่าแก่ที่สุด และเป็นวัดที่อุทิศให้กับพี่น้องปาณฑพทั้งห้าครับ
  • ประติมากรรมจากหินที่สวยงามและวิจิตรมากๆที่เรียกว่า Descent of the Ganges และ Krishna Mandapam
Descent of the Ganges By Ssriram mt , CC BY-SA 3.0,

3. Kanchipuram

Kanchipuram หรือคัญจีปุรัม เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในฐานะ “เมืองแห่งวัดหนึ่งพันวัด” ที่นี่เคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรปาลวะที่ยิ่งใหญ่และร่ำรวยมาก่อน แม้ว่าวัดในอดีตจะถูกทำลายไปเยอะมาก แต่ภายใน Kanchipuram ยังเหลือวัดมากกว่า 100 วัด แต่ละแห่งมีความสวยงามที่แตกต่างกันไป เพราะสร้างในคนละสมัยกันนั่นเองครับ

เมือง Kanchipuram เป็นเมืองที่ชาวอินเดียหลายล้านคนนิยมเดินทางมาแสวงบุญทุกปี ช่วงเทศกาลสำคัญๆ ของเมืองจะคลาคล่ำไปด้วยผู้คนทั้งเมืองเลยครับ

หนึ่งในวัดที่สำคัญและน่าสนใจที่สุดคือ Kailasanathar Temple วัดแห่งนี้เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองที่หลงเหลือมาถึงปัจจุบัน มันถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 7 และอุทิศกับพระศิวะครับ

Kailasanathar Temple By Ssriram mt, CC BY-SA 4.0,

อีกวัดที่ยิ่งใหญ่และอลังการไม่แพ้กันคือ Kanchi Kamakshi Temple หรือ Kamakshi Amman Temple หนึ่งในวัดฮินดูที่ยิ่งใหญ่และมีผู้เคารพนับถือมากที่สุดในอินเดีย ตัววัดอุทิศให้กับพระนาง Kamakshi ปางสูงสุดของพระนาง Parvati ครับ วัดแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นยอดแห่งสถาปัตยกรรมดราวิเดียน ซึ่งมีความงามล้ำเลิศครับ

Kamakshi Amman Temple By SINHA, CC BY-SA 3.0,

นอกเหนือจากสองวัดนี้แล้ว ที่นี่ยังมีวัดอีกที่โดดเด่นและสวยงามอีกหลายสิบแห่ง ซึ่งมากเกินกว่าจะระบุลงไปได้หมดในที่นี้ ผมจึงขอยกตัวอย่างมาเพียงบางส่วนเท่านั้น วัดอื่นๆ ที่น่าสนใจได้แก่

  • Varadharaja Perumal Temple
  • Devarajaswami Temple
  • Vaikunda Perumal Temple
  • Ekambaranatha Temple
Vaikunda Perumal Temple By Sridhar.selvaraj, CC BY-SA 3.0,

4. Madurai

Madurai เป็นเมืองในรัฐทมิฬนาฑูที่เก่าแก่มาก เมืองแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมทมิฬและดราวิเดียนมาตั้งแต่บรรพกาล ในปัจจุบันที่นี่เป็นที่ตั้งของวัด Meenakshi Temple วัดที่อาจจะกล่าวได้ว่ายิ่งใหญ่ อลังการ และสวยงามที่สุดในอินเดียตอนใต้เลยก็ว่าได้ ตวามประณีตของสถาปัตยกรรม ศิลปกรรม จิตรกรรมภายในวัดถือว่าอยู่ในระดับสูงสุดทั้งหมดเลยครับ

Meenakshi Temple By Accesscrawl , CC BY-SA 4.0,

นอกจากวัดแห่งนี้แล้ว Madurai ยังมีสถานที่เที่ยวอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น

  • Thirupparankundram Murugan Temple
  • Koodal Azhagar Temple
  • Samanar Hills (ถ้ำในภูเขาขนาดใหญ่ที่มีรูปแกะสลักอันสวยงามของศาสนาเชนมากมาย)

5. Ooty

หลังจากเที่ยววัดกันมาได้พักใหญ่ ผมเชื่อว่าคงจะมีเบื่อกันบ้าง Ooty เป็นสถานที่ที่จะช่วยให้คุณพักผ่อนร่างกายอันเหนื่อยล้า ในสมัยอาณานิคม ที่นี่เป็นสถานที่พักผ่อนของข้าหลวงและข้าราชการอังกฤษผู้ปกครองเมืองมัทราส

Ooty Image by Abiyuth Samuel from Pixabay

ที่นี่มีสวนหย่อมที่ร่มรื่น ทะเลสาบที่สวยงามอย่าง Ooty Lake และภูเขา Dodabetta Peak ที่คุณสามารถชมความสวยงามของบ้านเรือนของชาวบ้านที่ตั้งอยู่บนสันเขาเป็นทอดๆ ครับ

6. Thanjavur

Thanjavur เป็นเมืองในรัฐทมิฬนาฑูที่มีวัดและโบราณสถานที่สร้างขึ้นในสมัยโจฬะเป็นจำนวนมาก เรียกได้ว่าตั้งอยู่รายรอบเมืองก็ว่าได้ครับ ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรเพราะในอดีตเมืองแห่งนี้เป็นศูนย์กลางโลกศิลปะในภาคใต้ของอินเดียครับ

วัดที่ได้รับการเคารพนับถือมากที่สุดคือ Brihadisvara Temple วัดพระศิวะขนาดยักษ์ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1010 หรือสมัยโจฬะนั่นเอง ด้วยความใหญ่โตทำให้วัดได้ชื่อเล่นว่า “Big Temple” ไปด้วย

วัดแห่งนี้เต็มไปด้วยรูปแกะสลัก ภาพเขียนสี รูปปั้นที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์มากๆ สาเหตุที่อยู่คงทนเช่นนี้ เพราะตัววัดแห่งนี้ทำมาจากหินแกรนิตครับ

Brihadisvara Temple By Jean-Pierre Dalbéra , CC BY 2.0,

สำหรับที่ใครอยากดูวัดโจฬะอีก ลองไปที่วัด Gangaikonda Cholapuram Temple และ Airavatesvara Temple ที่อยู่ไม่ไกลจากเมือง Thanjavur ดูครับ รับรองว่ายิ่งใหญ่สวยงามไม่แพ้กัน

แต่ใครที่เบื่อวัดแล้ว ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปที่ Thanjavur Maratha Palace วังเก่าแก่ที่เคยเป็นที่ประทับของเชื้อพระวงศ์ Bhosale ของ Shivaji วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่แห่งอินเดียครับ ถ้ามองจากด้านนอก วังค่อนข้างทรุดโทรมไปตามกาลเวลา แต่ด้านในยังหลงเหลือความวิจิตรอยู่ครับ

Thanjavur Maratha Palace By Melanie-m , CC BY 2.0,

7. Tiruchirappalli

Tiruchirappalli หรือ Trichy (แปลว่าเมืองแห่งสวรรค์) เป็นหนึ่งในเมืองสำคัญในรัฐทมิฬนาฑู ดังนั้นไม่ต้องสงสัยว่าที่นี่จะมีวัดอันงามตาอีกหลายแห่ง (อีกแล้ว) แต่อย่าเพิ่งเบื่อเพราะวัดของ Trichy มีเสน่ห์เฉพาะตัวไม่เหมือนกับวัดอื่นๆ เลยครับ

จุดแรกที่น่าไปคือ Rock Fort Temple Complex ที่นี่มีวัด 3 แห่ง ที่ตั้งอยู่บนหินขนาดยักษ์ที่มีอายุ 3.8 พันล้านปี ทำให้คุณต้องปีนป่ายบันไดขึ้นไป 400 ขึ้นเพื่อที่จะเข้าถึงตัววัดโดยไม่ใส่รองเท้า แต่เชื่อหรือไม่ครับ ปีนขึ้นไปแล้วคุ้ม เพราะวิวของเมือง Trichy จากด้านบนนั้นสวยจริงๆ

Rock Fort Temple Complex By Pravinyeapuri , CC BY-SA 4.0,

วัดแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศกับพระพิฆเนศครับ และเป็นวัดพระพิฆเนศที่ได้รับการนับถือมากที่สุดแห่งหนึ่งด้วย ถ้าใครนับถือพระพิฆเนศควรจะมาเยือนสักครั้งครับ

อีกวัดหนึ่งที่พลาดไม่ได้คือ Ranganathaswamy Temple วัดพระวิษณุที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกและยังใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอยู่ (ถ้านับวัดร้างด้วย นครวัดน่าจะเป็นอันดับ 1) ที่นี่เป็นวัดที่ครบเครื่องทั้งเรื่องความยิ่งใหญ่ วิจิตร อลังการงานสร้าง ถ้าคุณมาถึง Trichy แล้วคุณไม่ควรพลาดจริงๆ ครับ

นอกเหนือจากวัดแล้ว Trichy ยังมีโบสถ์คริสต์ที่สวยงามด้วยเช่นกัน โบสถ์ดังกล่าวคือโบสถ์ Our Lady of Lourdes โบสถ์ที่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19 โดยได้แรงบันดาลใจมาจากโบสถ์ทรง Neo-Gothic ในฝรั่งเศสครับ

Our Lady of Lourdes By IM3847, CC BY-SA 4.0,

8. Pondicherry

Pondicherry เป็นอดีตอาณานิคมของฝรั่งเศส ทำให้บางส่วนของเมืองยังมีกลิ่นอายของฝรั่งเศสหลงเหลืออยู่ สถาปัตยกรรม โครงสร้าง ตลอดจนถนนเส้นต่างๆ ของเมืองยังเป็นแบบยุโรปเหมือน 200 ปีก่อน

Pondicherry By Karthik Easvur, CC BY-SA 3.0,

นอกจากนี้ Pondicherry ยังเป็นจุดดำน้ำยอดนิยมของอินเดียอีกด้วย เพราะปะการังและสัตว์ทะเลบริเวณนี้อุดมสมบูรณ์มากครับ

9. Hogenakkal Falls

Hogenakkal Falls เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ในรัฐทมิฬนาฑู น้ำตกนี้ถือว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของอินเดีย เพราะความงดงามและปริมาณน้ำที่มาก ทำให้บ่อยครั้งมันถูกขนานนามว่าเป็นน้ำตกไนแอการาแห่งอินเดียครับ

Hogenakkal Falls By Mithun Kundu , CC BY-SA 3.0,

สิ่งที่ต่างจากน้ำตกไนแอการาคือ น้ำตกแห่งนี้มีจุดให้ลงเล่นน้ำและพายเรือได้โดยไม่อันตรายครับ

10. Rameshwaram

Rameshwaram เป็นเกาะกลางทะเลที่ทุกปีจะมีผู้แสวงบุญเดินทางมาที่นี่นับล้านคน แต่ละคนปรารถนาที่จะอาบน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลที่ทะเลใกล้กับวัด Ramanathaswamy Temple หนึ่งในวัดพระศิวะที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่เคารพนับถือมากที่สุดในอินเดีย

ความสวยงามของวัดแห่งนี้บอกได้เลยว่าไม่ธรรมดา โดยเฉพาะบริเวณทางเดินภายในวัดที่มีเสามากมายนับพันเสา จุดนี้เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปเป็นอย่างยิ่งเลยครับ

Rameshwaram ยังเป็นจุดดำน้ำที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของอินเดีย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมทางน้ำอีกมากมายให้คุณได้เล่นเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศด้วยครับ

11. Kodaikanal

Kodaikanal เป็นสถานที่พักตากอากาศยอดนิยมของรัฐทมิฬนาฑู เพราะว่าตั้งอยู่บนภูเขา ทำให้อากาศเย็นกว่าที่พื้นราบ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีทะเลหมอกปกคลุมบ่อยครั้ง ทำให้บรรยากาศเอี้อต่อการพักผ่อนสุดๆ ไปเลยครับ

Kodaikanal By KARTY JazZ , CC BY-SA 4.0,

คุณสามารถเดินเทรคกิ้ง พายเรือ ขี่ม้า ฯลฯ เพื่อชมความสวยงามของขุนเขาแห่งนี้ได้ครับ

12. Kanyakumari

Kanyakumari เป็นติ่งที่อยู่ใต้สุดของอินเดีย และเป็นจุดที่ทะเลสองฝั่งของอนุทวีปอินเดียเข้ามาบรรจบกัน ที่นี่มีวัด Bhagavathy Amman Temple วัดอายุ 3,000 ปีที่เป็นสถานที่แสวงบุญของผู้นับถือพระแม่ Parvati ดังนั้นเหล่าผู้ศรัทธานับล้านจึงแห่กันมาที่นี่ครับ

Kanyakumari By Ravivg5, CC BY-SA 3.0,

ออกจากชายฝั่งไปคือ Vivekananda Rock Memorial หรืออนุสรณ์ระลึกถึงนักบวชฮินดูชื่อ Swami Vivekananda ซึ่งชาวฮินดูเชื่อว่าได้บรรลุโมกษะบนเกาะเล็กๆ นอกชายฝั่ง เกาะนี้นักท่องเที่ยวและศาสนิกสามารถไปเยือนได้ครับ

เกาะข้างๆ กับอนุสรณ์มีอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ของกวีชาวทมิฬนามว่า Thiruvalluvar ตัวอนุสาวรีย์เป็นสัญลักษณ์แสดงถึง “ความมั่งคั่ง” และ “ความสุข” อย่างไรก็ดีคุณสามารถถ่ายรูปได้จากระยะไกลได้เท่านั้น ไม่สามารถเข้าไปที่ตัวเกาะได้ครับ

13. Chidambaram

Chidambaram เป็นอดีตเมืองหลวงของจักรวรรดิโจฬะ เมืองแห่งนี้มีประวัติเก่าแก่มากถึงสองพันปี ในปัจจุบันเมืองแห่งนี้ได้กลายเป็นเมืองที่มีความสำคัญอย่างยิ่งทางศาสนา เพราะมี Nataraja Temple วัดพระศิวะที่มีอายุพันกว่าปีตั้งอยู่ครับ

สิ่งที่ต่างไปจากวัดอื่นคือ วัดพระศิวะแห่งนี้จะบูชาสักการะพระศิวะปางเต้นรำ ซึ่งแสดงถึงความเกี่ยวเนื่องระหว่างศิลปะกับจิตวิญญาณตามความเชื่อฮินดูครับ

นอกจากนี้บริเวณกำแพงของวัดมีรูปจารึกกระบวนท่าทั้ง 108 แบบที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์ Natya Shastra อยู่อย่างครบถ้วน ทำให้เราไม่อาจปฏิเสธเลยว่าวัดแห่งนี้เป็นมรดกอันล้ำค่าทางศิลปะของอินเดียครับ

14. สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ

  • Tiruvannamalai และ Mount Arunachala – เมืองและขุนเขาที่เชื่อกันว่าเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ เพราะสามารถทำให้จิตใจของคุณสงบนิ่งได้
  • Mudumalai National Park – อุทยานแห่งชาติที่มีสัตว์มากมายไม่ว่าจะเป็นช้าง เสือ กวาง ลิง ฯลฯ
  • Adiyogi Shiva Statue – อนุสาวรีย์ใบหน้าและช่วงอกขนาดยักษ์ของพระศิวะ

ข้อควรทราบ

  • รัฐทมิฬนาฑูมีสถานที่ท่องเที่ยวจำนวนมาก และแต่ละสถานที่อยู่ห่างไกลกันมาก (Chennai และ Kanyakumari อยู่ห่างกันถึง 707 กิโลเมตร) ทำให้คุณไม่น่าไปสถานที่ในรายชื่อครบทั้งหมดในทริปเดียวได้แน่ๆ นอกจากคุณจะไป 14-15 วันขึ้นไปครับ
  • ผมมองว่าไฮไลท์ของรัฐทมิฬนาฑูคือวัดและโบราณสถานที่สุดจะอลังการ ถ้าคุณไม่ชอบเที่ยววัด การไปเที่ยวที่อื่นน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าครับ
  • ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวทมิฬนาฑูคือช่วงเดือนตุลาคมถึงมีนาคมครับ อากาศจะไม่ร้อนเกินไป แต่ก็ต้องแลกด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่มากมายเหมือนกัน

ไปเที่ยวรัฐทมิฬนาฑู (Tamil Nadu) อย่างไร

คุณสามารถเดินทางไปเที่ยวทมิฬนาฑูเองได้ด้วยการบินไปลงเมืองเชนไน (Chennai) สายการบินที่ให้บริการมีหลากหลายอาทิเช่น

  • IndiGo, Thai AirAsia (Low Cost)
  • Thai Airways (Full Service)

อย่างไรก็ดี ถ้าคุณเบื่อหน่ายที่จะหาข้อมูล และวางแผนการท่องเที่ยว การเลือกใช้ทัวร์อินเดียที่มีคุณภาพก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ แต่ก่อนที่คุณจะจองทัวร์สัญชาติอินเดียใดๆ ก็ทำเหมือนกับจองทัวร์ไทย นั่นคือตรวจสอบรีวิวจาก Tripadvisor ก่อนที่จะจองครับ

[sc name=”travelthai” ][/sc]

Pun Anansakunwat
Pun Anansakunwathttps://victorytale.com/about-victorytale/
ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Victory Tale ผมชื่นชอบในหลากหลายสาขาตั้งแต่ประวัติศาสตร์ การท่องเที่ยว เทคโนโลยี ไปจนถึงการลงทุน หลังจากที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย (Columbia University) ผมก็ได้เป็นนักลงทุนในหุ้น, ติวเตอร์, นักเขียน (ตีพิมพ์ไปแล้ว 3 เล่ม) และในปัจจุบันก็เป็นเจ้าของเว็บไซต์ครับ

สถานที่ท่องเที่ยว

โรงแรมที่พัก

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!